พ่อแม่ของเย่เฉิน ดูจากรูปลักษณ์ของพวกเขาแล้ว ก็คือคนเด่นแน่นอน
พ่อของเย่เฉินหล่อเหลาและเท่ แม่ของเขามีเสน่ห์และใจกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความงามของแม่เย่เฉิน ขนาดหลินหว่านชิวยังไม่สามารถเปรียบเทียบได้ ไม่ว่ายุคไหน ก็มีความโดดเด่น
น่าเสียดายที่ชายหล่อหญิงงามที่เคยโด่งดังในเย่นจิงในตอนนั้น ได้จากไปแล้ว เหลือเพียงภาพรอยด่างพร้อยและความทรงจำที่ยังหลงเหลืออยู่
ในเวลานั้น กู้เย้นจงยังไม่ได้แต่งงาน ดังนั้นในงานแต่งงาน เขายืนอยู่ข้างพ่อของเย่เฉินคนเดียว และถ่ายรูปกับพ่อแม่ของเย่เฉิน
จากนั้น ก็มีภาพถ่ายงานแต่งงานของกู้เย้นจงกับหลินหว่านชิว
พ่อแม่ของเย่เฉินมาร่วมแสดงความยินดีกับงานแต่งงานของเขา
ทั้งสี่คนจึงถ่ายรูปหมู่กัน
จากนั้น เย่เฉินก็เกิด และสี่คนในภาพกลายเป็น5 คน เขาห่อด้วยผ้าอ้อม และอยู่ในอ้อมแขนแม่ของเขา
จากนั้น กู้ชิวอี๋ก็ถือกำเนิดขึ้น
ทำให้ในรูปถ่ายกลายเป็นหกคน
คนทั้งหกคนนี้ จากลูกสองคนในวัยเด็ก กลายเป็นเย่เฉินที่ยืนอยู่ข้างพ่อแม่ของพวกเขา จากนั้นกู้ชิวอี๋ก็ยืนอยู่ข้างพ่อแม่ของพวกเขาด้วย
จากนั้น ก็มีการถ่ายภาพหมู่ของเด็กทั้งสอง
เย่เฉินสูงกว่ากู้ชิวอี๋ครึ่งหัว ดังนั้นเขาจึงดูเหมือนพี่ชายคนโต ในขณะที่กู้ชิวอี๋เป็นเหมือนน้องสาวคนเล็กที่ตามเย่เฉินอย่างใกล้ชิด
สิ่งที่น่าสนใจคือ ในภาพถ่ายกลุ่มของคนสองคน ทุกรูปกู้ชิวอี๋จะแต่จับแขนของเย่เฉินแน่น ด้วยท่าทางที่มีความสุขมาก
เย่เฉินที่อยู่ข้างๆ มักจะทำเสแสร้ง พยายามรักษาระยะห่างจากกู้ชิวอี๋
กู้เย้นจงถอนหายใจขณะดูรูปถ่ายเก่าๆ เหล่านี้ :”ลุงไม่นึกเลยว่าเวลาจะผ่านไปเร็วนัก เพียงชั่วพริบตา นายก็โตมากแล้ว”
เย่เฉินเห็นภาพเก่าๆ ของพ่อแม่ของเขามากมาย ดวงตาของเขาเริ่มแดง และเกือบจะร้องไห้หลายครั้ง แต่เขาก็กลั้นเอาไว้
เมื่อเห็นเช่นนี้ กู้เย้นจงก็ตบไหล่ของเขาเบา ๆ และพูดว่า:”เฉินเอ๋อ พ่อแม่ของนายคงรู้ ถ้ารู้ว่านายปลอดภัย จะต้องความสุขมากอย่างแน่นอน”
เย่เฉินพยักหน้า และพูดเศร้าๆว่า:”ผมรู้สึกประหม่าเล็กน้อยเมื่อต้องเผชิญหน้ากับพวกเขา ผมไม่ได้ไหว้พวกเขามาหลายปีแล้ว และผมรู้สึกละอายใจ นอกจากนี้ หลายปีมานี้ผมไม่ได้ทำความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจอะไรเลย ขอโทษในการเลี้ยงดูสั่งสอนของพ่อแม่”
“อย่าพูดอย่างนั้นสิ” กู้เย้นจงพูดอย่างจริงจัง:”พ่อแม่ของนายเป็นคนใจกว้างมาตลอดชีวิต และพวกเขาไม่เคยหวังว่าลูกจะต้องประสบความสำเร็จในชีวิต พวกเขาเป็นคนโดดเด่นในหมู่คนอยู่แล้ว ดังนั้นความคาดหวังที่มีต่อนาย แค่หวังว่านายจะสามารถเติบโตขึ้นอย่างมีสุขภาพแข็งแรง และมีความสุขตลอดไป ไม่มีความเศร้าโศกและปัญหาใด ๆ ”
เมื่อพูดถึงนี้ กู้เย้นจงยิ้มพูดว่า:”นายรู้รึเปล่า ว่าแม่ของนายชอบชื่อลี้มกโช้ว ในนวนิยายของกิมยังมาก คิดว่ามันเป็นชื่อที่ดีมาก แต่ลี้มกโช้วในหนังสือไม่ใช่คนดี ตอนที่นายยังไม่เกิด แม่นายก็เคยพูดล้อเล่นว่า ถ้านายเป็นผู้หญิง จะต้องชื่อให้นายว่ามกโช้ว”
เย่เฉินยิ้มอย่างรู้เท่าทัน เมื่อนึกถึงแม่ของเขา ก็รู้สึกอุ่นๆในหัวใจของเขา
จริงอย่างที่กู้เย้นจงพูด แม่ไม่เคยหวังเลยว่าเขาจะต้องประสบความสำเร็จในชีวิต บอกกับเขาตั้งแต่อายุยังน้อยว่า คนเราต้องมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุข แค่เป็นคนดีและซื่อตรง ความสำเร็จและ สถานะนั้นไม่สำคัญ
หลังจากคุยกับกู้เย้นจงมาทั้งวัน ตอนที่หลินหว่านชิวเข้ามาให้ผลไม้ เธอพูดกับเย่เฉินว่า:”เฉินเอ๋อ เตรียมห้องรับแขกเตรียมให้แล้วนะ ตรงชั้นสองห้องตรงข้ามหนานหนาน ตอนเที่ยงนายดื่มมากขนาดนั้น เดี๋ยวกลับห้องไปพักผ่อนสักหน่อยเถอะ ถ้ามีอะไร ก็ไปหาหนานหนานได้เลย”
“ครับ”เฉินพยักหน้า:”ขอบคุณครับป้าหลิน”