ขณะที่กู้เย้นเจิ้งและกู้เย้นกางกำลังวางแผนสำหรับอนาคตที่สดใส กู้เหว่ยเลี่ยงและกู้เหว่ยกวงต่างก็มีความคิดของตัวเองเช่นกัน
พี่น้องสามคนของตระกูลกู้ มีลูกทั้งหมดแปดคน
กู้เย้นจงมีลูกสาวเพียงคนเดียว นั่นคือกู้ชิวอี๋
กู้เย้นเจิ้งมีลูกสามคน ลูกสาวสองคน และลูกชายหนึ่งคน นั่นคือกู้เหว่ยเลี่ยง
กู้เย้นกางมีลูกสี่คน ลูกสาวสามคน และลูกชายหนึ่งคน นั่นคือกู้เหว่ยกวง
เนื่องจากทางฝ่ายชายไม่ค่อยเจริญรุ่งเรืองมากนัก ดังนั้นกู้เหว่ยเลี่ยงและกู้เหว่ยกวงจะเป็นผู้รับมรดกจากบิดาของตนเพียงคนเดียวอย่างไม่ต้องสงสัย
กู้เหว่ยกวงเห็นความสนิทสนมระหว่างพ่อกับลุงรอง ก็อดมองดูตัวเองและญาติผู้พี่ของตนเองที่อยู่ข้างๆ อย่างกู้เหว่ยเลี่ยงไม่ได้ เขาแอบคิดในใจว่า “หลังจากที่ได้มรดกและหุ้นของบิดาในอนาคตแล้ว จะต้องประจบประแจงญาติผู้พี่เหมือนพ่อกับลุงรองหรือไม่? ถ้าต้องพึ่งพาอาศัยเขาในอนาคต ควรรีบประจบเขาตั้งแต่ตอนนี้เลยหรือเปล่า?”
ส่วนกู้เหว่ยเลี่ยง ญาติผู้พี่ของเขาก็คิดว่า กู้เหว่ยกวง ญาติผู้น้องที่อยู่ข้างกายคนนี้ความจริงไม่ได้ฉลาดนัก แล้วก็ไม่ใช่น้องชายแท้ๆ ของเขาด้วย พูดตามตรง ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ถือว่าลึกซึ้งนัก
พ่อของเขากับอาสาม และแม้แต่ลุงใหญ่ซึ่งเป็นพี่ชายแท้ๆ ก็ยังทำร้ายกันได้ ถ้าเช่นนั้นต่อไปตัวเองต้องไปตีสนิท ใส่ร้ายกู้เหว่ยกวงเหมือนกันหรือเปล่า?
เมื่อคิดถึงได้ดังนี้ เขารู้สึกว่าประเด็นของเรื่องนี้น่าสนใจมากทีเดียว
ประการแรก ทรัพย์สินของครอบครัวถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน ครอบครัวน้องรองและครอบครัวน้องสามร่วมมือกัน ยึดของครอบครัวพี่ใหญ่มาเป็นของตัวเอง
จากนั้นครอบครัวน้องรองค่อยหาโอกาสที่จะยึดของครอบครัวน้องสามมาเป็นของตัวเอง เช่นนั้น ตระกูลกู้ทั้งหมดก็จะตกอยู่ในมือของตัวเอง?
เมื่อคิดได้เช่นนั้น กู้เหว่ยเลี่ยงก็อดตื่นเต้นไม่ได้!
อย่าคิดว่าตระกูลกู้อยู่ในลำดับที่สามในเย่นจิงเพียงเท่านั้น
แต่หากเขาคนเดียวสามารถโอบอุ้มตระกูลกู้ได้ทั้งหมด เขาก็จะกลายเป็นหนึ่งในคนที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองเย่นจิง
แม้แต่ตระกูลเย่และตระกูซูสองตระกูลระดับสูงนี้ ก็ไม่มีใครร่ำรวยไปกว่าตระกูลกู้ได้
พอถึงตอนนั้น เขาอาจจะกลายเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศจีนก็ได้!
กู้เหว่ยกวงไม่รู้ว่าญาติผู้พี่ที่เขาพยายามประจบสอพลอ ความจริงแล้วในตอนนี้กำลังวางแผนว่าจะใส่ร้ายเขาอย่างไร
เขาพยายามหาเรื่องพูด ปั้นยิ้มพูดกับกู้เหว่ยเลี่ยงว่า “เฮ้ พี่เลี่ยง พี่คิดว่าไอ้สารเลวบ้านลุงใหญ่นั่น จะใช่แฟนของหนานหนานหรือเปล่า?”
กู้เหว่ยเลี่ยงส่ายหัวแล้วพูดว่า “ฉันเองก็ไม่รู้ หนานหนานเป็นบุคคลสาธารณะ ถ้าเธอรักกับใคร พวกปาปารัสซี่ก็ต้องขุดออกมาได้แน่ๆ หรือเปล่า? แต่ฉันไม่ได้ยินข่าวเลย”
กู้เหว่ยกวงหัวเราะคิกคักแล้วพูดว่า “พี่จำได้ไหม เจ้านี่ชอบพูดจาเหลวไหล บอกว่าต่อไปเราจะมีลูกไม่ได้ ให้ตายสิ! ถ้ามีโอกาส ต้องตัดของของเขาทิ้ง ให้เขารู้ว่าการเป็นหมันที่แท้จริงคืออะไร!”
กู้เหว่ยเลี่ยงสบถใส่ “บัดซบ! ฉันเชี่ยวชาญเรื่องอย่างว่ามาก มีชื่อเสียงโด่งดังในแวดวงชนชั้นสูงของเย่นจิง กล้าดียังไงมาว่าฉันจะมีลูกไม่ได้? ให้ตายสิ! ฉันเที่ยวผู้หญิงมามากกว่าที่เขาเคยเห็นเสียอีก!”
“ก็ใช่น่ะสิ!” กู้เหว่ยกวงพูดเยินยอ “พี่เลี่ยง ดาราสาวในมือเมื่อสองวันก่อน คิดว่าเป็นไงบ้าง?”
“ก็ไม่เลว” กู้เหว่ยเลี่ยงพูดอย่างไม่คิดมาก “หน้าตาไม่เลว แต่ดูน่าเบื่อไปหน่อย ผอมเกินไปด้วย”
กู้เหว่ยกวงรีบพูดประจบประแจง “พี่เลี่ยง ผมมีเพื่อนคนหนึ่งเปิดบริษัทเอเจนซี่ บ่มเพาะนางแบบระดับไฮเอนด์โดยเฉพาะ มีสาวๆ ยุโรปที่เลอเลิศหลายคน พี่สนใจจะเอามาเปลี่ยนบรรยากาศบ้างไหม?”
กู้เหว่ยเลี่ยงขมวดคิ้ว ดวงตาเป็นประกายชั่วร้าย ถามว่า “เมื่อไหร่?”
กู้เหว่ยกวงรีบพูด “ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ เอาวันนี้เลยแล้วกัน! เดี๋ยวพี่นั่งรถผม ผมจะพาพี่ไป ว่าไง?”