ตอนที่ 1887: วัตถุเซียนระดับสูงสุด

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1887: วัตถุเซียนระดับสูงสุด

ราชาเทพทั้งหมดในอาณาจักรใกล้ ๆ ได้มารวมตัวกันที่นี่ พวกเขาจ้องไปที่ศพทั้งแปดของราชาเทพใต้ซากภูเขาและพวกเขาต่างก็นิ่งเงียบ

ไม่มีใครสามารถระงับอารมณ์ได้ จิตใจของพวกเขากำลังสับสน

ไม่นานราชาเทพก็แยกย้ายกันไป พวกเขาสัมผัสอะไรไม่ได้เลย แม้กระทั่งศพของราชาเทพที่พวกเขามองเห็นจากระยะไกล พวกเขาไม่กล้าเข้าไปใกล้เพราะอาจจะนำไปสู่ปัญหาที่ไม่จำเป็น

ในเวลาเดียวกันราชาศักดิ์สิทธิ์ได้ยืนอยู่ในจุดสูงสุดของพระราชวังของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ปิงเทียน ดวงตาที่ลึกล้ำของเขาได้จ้องมองไปทางเทือกเขาหยินเจ็ดทลาย

เขาได้กระจายสัมผัสวิญญาณของเขา มันแผ่ไปยังอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ปิงเทียนทั้งหมดและอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ฉิงหยาง ก่อนจะเข้าไปในส่วนลึกของภูเขา

“ต้องเป็นผู้ที่ทรงพลังมาก ! ”

หลังจากนั้นไม่นานราชาศักดิ์สิทธิ์ก็พูดอย่างจริงจัง ใบหน้าของเขาเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก

“เจี้ยนเฉินได้หายไปจากเทือกเขาหยินเจ็ดทลายอย่างสมบูรณ์ ขอบเขตตั้งต้นได้เอาเขาไปด้วย หากไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าข้ารู้ว่าเจี้ยนเฉินเข้าไปในภูเขา ข้าคงไม่รู้ว่ามีคนอื่นเข้ามาในภูเขา โดยเฉพาะผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้น….”

“ปกติแล้วข้าสามารถบอกได้ว่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นที่ทำลายภูเขานี้คือวิญญาณที่ปรากฏในสุสานของราชาเทพต้วนมู่ก่อนหน้านี้”

“อย่างไรก็ตาม ข้าสงสัยว่านางจะกลับไปยังจุดสูงสุดของนางแล้วหรือไม่ มันมีพลังจากกฏที่แทรกซึมนั้นเกินกว่าพลังของขอบเขตตั้งต้นส่วนใหญ่ไปแล้ว หากนางยังฟื้นฟูไม่เสร็จ นั่นก็หมายความว่านางทรงพลังอย่างมาก…”

ราชาศักดิ์สิทธิ์พึมพำกับตัวเองเบา ๆ ประกายสายตาของเขาสั่นไหวอย่างไม่สบายใจ

ในเทือกเขาโบราณของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ปิงเทียน เจี้ยนเฉินและนางฟ้าเฮายู่ได้พักอยู่ที่ถ้ำที่พวกเขาสร้างขึ้น มีไข่มุกราตรีเม็ดใหญ่ให้ความสว่างภายในถ้ำถูกติดไว้ที่บนผนังถ้ำขณะที่มันแผ่แสงอ่อน ๆ ลงมา

เจี้ยนเฉินนั่งลงกับพื้น เขาจ้องมองนางฟ้าเฮายู่ผู้ที่นั่งอยู่ด้านหน้าของเขาหรือจะพูดให้ชัดคือเขาจ้องมองดอกไม้เมฆม่วงในมือของนางฟ้าเฮายู่

ดอกไม้เมฆม่วงนั้นคล้ายกับดอกไม้แห่งวิถีเป็นอย่างมาก มันถูกปลูกลงบนแผ่นหยกและค่อย ๆ ดูดซับผ่านทางค่ายกลที่อยู่บนหยกเพื่อเติบโต ค่ายกลที่ป้องกันดอกไม้และหยกนั้นอยู่ในระดับราชาเทพ

นางฟ้าเฮายู่กำจัดค่ายกล

อย่างไรก็ตามด้วยความแข็งแกร่งของนางในขอบเขตตั้งต้น การกำจัดค่ายกลระดับราชาเทพจึงง่ายราวกับปอกกล้วย ค่ายกลหายไปหลังจากใช้เวลากว่า 1 ชั่วยาม

หากไม่ใช่ว่าความจริงที่ว่านางฟ้าเฮายู่เป็นกังวลว่าจะทำลายดอกไม้ไปพร้อมกับค่ายกลด้วย มันก็ไม่จำเป็นที่จะให้นางต้องใช้เวลาถึง 1 ชั่วยามด้วยความแข็งแกร่งของนาง กฏของเขตตั้งต้นที่นางมีก็เพียงพอที่จะทำลายค่ายกลนี้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว

เจี้ยนเฉินถือดอกไม้เมฆม่วงและสูดดมกลิ่นของมัน นี่เป็นสมบัติสวรรค์ระดับเทพ โดยปกติแล้วเขามีความมั่นใจอย่างมากว่าเขาจะสามารถปลุกไคหยาด้วยดอกไม้นี้ได้

“ดอกไม้เมฆม่วงนั้นมีค่า แต่มันถูกใช้เพื่อบำรุงดอกไม้แห่งวิถีเท่านั้น ดอกไม้แห่งวิถีนี้ล้ำค่าอย่างแท้จริง” นางฟ้าเฮายู่กล่าว นางจ้องมองไปที่เขาและพูดอย่างจริงจัง “ส่วนที่มีค่าที่สุดของดอกไม้แห่งวิถีไม่ใช่แก่นแท้ที่อยู่ในตัวดอกไม้ที่ซ่อนอยู่ภายในที่จะเอามาเพิ่มการบ่มเพาะของคนเรา แต่เป็นการเข้าใจกฏของโลกภายในดอกไม้แทน โดยพื้นฐานแล้วมันสามารถเพิ่มโอกาสให้ราชาเทพทะลวงเข้าไปยังขอบเขตตั้งต้นได้ถึงห้าในสิบส่วน”

“ยิ่งไปกว่านั้น ไม่เพียงแต่ดอกไม้แห่งวิถีจะมีประสิทธิภาพสำหรับราชาเทพเท่านั้น แต่มันยังช่วยให้เข้าใจถึงขอบเขตอสงไขยด้วยเช่นกัน มันสามารถเพิ่มโอกาสในการทะลวงระดับได้ถึงสองในสิบส่วน”

“ด้วยเหตุนี้ข้าสามารถบอกได้เลยว่าดอกไม้แห่งวิถีเป็นสมบัติขององค์ชายเก้าที่จะทะลวงไปยังขอบเขตอสงไขย มันสำคัญกับเขาอย่างมาก ตั้งแต่นี้ต่อไปเจ้าต้องระวังองค์ชายเก้า เมื่อเขาพบร่องรอยใด ๆ ที่สืบมาหาเจ้า มันจะไม่ดีต่อตัวเจ้าเลย นอกจากนี้ข้าก็ไม่อาจอยู่ข้าง ๆ เจ้าได้ตลอดไป”

นางฟ้าเฮายู่เตือนเจี้ยนเฉินอย่างจริงจังและขึงขัง เจี้ยนเฉินในตอนนี้ยังอ่อนแออยู่ เขาไม่มีพลังมากพอที่จะต่อสู้กับองค์ชายเก้าที่ครอบครองจักรวรรดินิรันดน์ตะวันโลหิตแห่งภูมิภาคทางใต้

นี่เป็นเพราะจักรวรรดินิรันดน์ตะวันโลหิตเป็นผู้ปกครองภูมิภาคทางใต้

เจี้ยนเฉินพยักหน้าอย่างจริงจัง เขายังเข้าใจความสำคัญของเรื่องนี้อีกด้วย

หลังจากนั้นเจี้ยนเฉินก็จำอะไรบางอย่างได้ เขาหยิบแกนต้นไม้เหนือเทพและแกนอสูรทั้งหมดที่เขารวบรวมได้จากเทือกเขาหยินเจ็ดทลายและขอให้นางฟ้าเฮายู่กำจัดพิษให้เขา

แกนอสูรระดับเหนือเทพเต็มไปด้วยพิษ ด้วยร่างกายบรรพกาลในตอนนี้ของเขา เขาไม่อาจดูดซับมันได้โดยตรง เขาต้องให้ราชาเทพเป็นคนปรับแต่งพิษที่อยู่ภายในเพื่อที่จะเพิ่มพลังการบ่มเพาะของเขา

ตอนนี้มีผู้เชี่ยวชาญแบบนี้อยู่ด้านหน้าของเขา เจี้ยนเฉินก็ไม่พลาดโอกาสนี้

และนางฟ้าเฮายู่ก็ไม่ทำให้เขาผิดหวัง นางใช้พลังบ่มเพาะที่อยู่ในระดับราชาเทพขั้นต้นปรับแต่งแกนอสูร

การปรับแต่งใช้เวลาจนหมดวัน จากนั้นนางฟ้าเฮายู่ก็กำจัดพิษทั้งหมดภายในแกนอสูรทั้งหกแกน มันเหลือเพียงพลังงานบริสุทธิ์และมีความปั่นป่วนอยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

หลังจากส่งแกนอสูรทั้งหกให้กับเจี้ยนเฉิน นางฟ้าเฮายู่ก็พูดว่า “ข้ายังไม่อาจปรับแต่งแกนอสูรระดับราชาเทพได้ ด้วยการบ่มเพาะในตอนนี้ของข้า ดังนั้นข้าจะให้เจ้าเก็บมันไว้ก่อน เมื่อข้าไปยังขอบเขตตั้งต้นข้าจะสามารถปรับแต่งพวกมันได้”

“โอ้..ใช่ ข้าเจอชุดเกราะนี้โดยบังเอิญ มันเป็นวัตถุเซียนขั้นสูงสุดและมีการป้องกันที่พิเศษ แค่ตัวเกราะเพียงอย่างเดียวก็สามารถรับมือกับการโจมตีของราชาเทพได้ มันไร้ประโยชน์สำหรับข้า ดังนั้นเจ้าเอาไปเถอะ” เพียงการโบกมือของนาง เกราะที่สร้างขึ้นอย่างปราณีตก็ปรากฏขึ้น นางโยนให้เจี้ยนเฉินง่าย ๆ ราวกับมันเป็นเพียงขยะ

หลังจากนั้นนางฟ้าเฮายู่ก็บอกลาเจี้ยนเฉิน นางจากไปพร้อมกับวางแผนที่จะใช้ดอกไม้แห่งวิถีเพื่อฟื้นฟูพลังของนาง

เจี้ยนเฉินนั่งอยู่ในถ้ำเพียงคนเดียวหลังจากที่นางจากไป เขาถือวัตถุเซียนขั้นสูงสุดไว้ในมือพร้อมกับอารมณ์ที่ขมุกขมัว

มันเจ็บปวดสำหรับเขาที่จะซื้อวัตถุเซียนขั้นสูงในอดีต แต่ตอนนี้เขาได้รับวัตถุเซียนขั้นสูงสุดและมันก็เป็นสิ่งที่เอาไว้ใช้ป้องกันอีกด้วย

วัตถุเซียนสำหรับป้องกันนั้นมีค่ามากกว่าวัตถุเซียนสำหรับโจมตีในระดับขั้นเดียวกัน ในขณะเดียวกันเกราะที่เขาถือตอนนี้อยู่ในขั้นสูงสุด มันมีค่ามากกว่าที่เจี้ยนเฉินจะเข้าใจถึงคุณค่าของมัน

วัตถุเซียนขั้นสูงสุดเป็นสมบัติที่ใกล้เคียงวัตถุเทพมากที่สุด !

เจี้ยนเฉินสูดลมหายใจเข้าลึกและสงบลง ดอกไม้หัวใจศิลาสมุด, ดอกไม้เมฆม่วง, แกนอสูรระดับเหนือเทพ 6 แกน, แกนอสูรระดับราชาเทพ 8 แกน, ศพอสรพิษทองริ้วเงินและวัตถุเซียนขั้นสูงสุด เขาถอนหายใจยาวเกี่ยวกับการเดินทางของเขาที่เข้ามายังภูเขาหยินเจ็ดทลาย เขาได้รับผลประโยชน์อย่างมาก

“ถึงเวลาที่ข้าจะต้องกลับแล้ว ด้วยแกนอสูร 6 แกนนี้ ข้าควรจะสามารถทะลวงระดับร่างบรรพกาลของข้าได้”

“มันยากมากที่ข้าจะพบกับคู่ต่อสู้ในระดับเหนือเทพ ถ้าข้าทะลวงร่างบรรพกาลอีกขั้น พลังการต่อสู้ของข้าจะเพิ่มขึ้นแค่ไหน ? ”

เจี้ยนเฉินรู้สึกว่าเลือดของเขาเดือดพล่าน เขาเต็มไปด้วยความคาดหวัง