ตอนที่ 1886: สมบัติสวรรค์ระดับเทพ

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1886: สมบัติสวรรค์ระดับเทพ

“นางฟ้าเฮายู่ พลังของเจ้าฟื้นฟูขึ้นมาดังเดิมแล้วหรือ ? ” เจี้ยนเฉินจ้องมองไปยังด้านหลังของนางฟ้าเฮายู่ เขาค่อนข้างจะหดหู่ ตรงหน้าเขามีผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่ยืนอยู่ แต่เจี้ยนเฉินกลับไม่ได้เฉลียวใจ

นี่เป็นเพราะเขาพยายามเชื่อมโยงว่านางฟ้าเฮายู่ซึ่งไม่อาจเอาชนะได้ตรงหน้านี้กับนางฟ้าเฮายู่ที่เขาได้พบในทวีปเทียนหยวนเป็นคนเดียวกัน

นางฟ้าเฮายู่หันหลังกลับมามองเจี้ยนเฉินด้วยดวงตาที่งดงามของนาง นางส่ายหน้า “ระดับบ่มเพาะของข้าตอนนี้อยู่ที่ราชาเทพช่วงต้นเท่านั้น แต่ข้าได้ฟื้นฟูวิญญาณไปถึงแปดในสิบส่วน ข้าสามารถใช้พลังของกฏจากขอบเขตตั้งต้นได้ ทำให้ข้าสามารถฆ่าราชาเทพทั้งเก้าได้อย่างง่ายดาย”

จากนั้นนางฟ้าเฮายู่ก็จ้องมองออกไปไกล ดวงตาของนางสามารถมองผ่านมิติและลึกซึ้ง นางสามารถมองเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นจากระยะไกลได้ง่าย ๆ

“ความวุ่นวายที่เราทำค่อนข้างใหญ่โต มีคนไม่น้อยที่รีบมาที่นี่ตอนนี้ ไปเถอะ ไปเอาดอกไม้แห่งวิถีและดอกเมฆม่วง” นางฟ้าเฮายู่กล่าว เพียงสะบัดแขนเสื้อของนาง พลังงานสีทองที่น่ากลัวเกินกว่าจะเป็นของราชาเทพก็ระเบิดออกมาพร้อมพลังของกฏจากขอบเขตตั้งต้น มันได้โอบล้อมเจี้ยนเฉินและพาเขาไป

เจี้ยนเฉินไม่ต่อต้านเลย แม้ว่านางฟ้าเฮายู่จะยังไม่ฟื้นพลัง แต่พลังของนางก็เห็นได้ชัดเจน นางสามารถเรียกได้ว่าเป็นสุดยอดในบรรดาราชาเทพ ด้วยความเข้าใจในขอบเขตตั้งต้น แม้ว่านางจะเป็นแค่ราชาเทพช่วงต้นในตอนนี้

“บางทีแม้แต่ผู้พิทักษ์ซุย ที่ทุกคนรู้ว่าเป็นคนลำดับที่ 9 ในบัลลังก์ราชาเทพก็ยังไม่อาจสู้นางฟ้าเฮายู่ได้” เจี้ยนเฉินคิด เขาอดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนเทียบกับผู้พิทักษ์ซุยกับนางฟ้าเฮายู่

ในอดีตผู้พิทักษ์ซุยได้ทำให้ราชาเทพที่แข็งแกร่งจากเผ่าเทพอย่างเอเดรียนน่าบาดเจ็บสาหัสและนางก็เหลือเพียงแค่วิญญาณเท่านั้น นั่นทำให้เจี้ยนเฉินตกใจอย่างมาก

หัวใจของเจี้ยนเฉินในเวลานั้น ซุยหยุนหลานเป็นคนที่มีพลังอย่างมาก นางมีพลังระดับที่เขาทำได้แค่พยายามจินตนาการถึง

ภูเขาหลายลูกที่ถล่มลง ดังนั้นดอกเมฆม่วงและดอกไม้แห่งวิถีที่ราชาเทพทั้งเก้าปลูกไว้นั้นต้องอยู่ใต้ซากภูเขา

นางฟ้าเฮายู่นำเจี้ยนเฉินไปยังจุดต่ำสุด นางระเบิดพลังขั้นราชาเทพของนางและเริ่มกำจัดสิ่งรอบ ๆ ตัวของนางออกไป โดยไม่แตะต้องดอกไม้แห่งวิถีและดอกเมฆม่วง

ดอกไม้ทั้งสองมีสีขาวราวกับหิมะ ในหนึ่งดอกไม้เก้ากลีบและถูกล้อมรอบด้วยหมอกสีขาวที่บดบังกลีบทั้งเก้า

ส่วนอีกดอกมีเพียงสามกลีบ รูปแบบซับซ้อนและคลุมเครือในแต่ละกลีบ พวกมันพร่ามัวเป็นครั้งคราว ยิ่งไปกว่านั้นตัวดอกไม้เองก็ดูเหมือนกับมีหรือไม่มี พวกมันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาราวกับเป็นดั่งลมหายใจของโลกและมีพลังของกฏที่ลึกลับ

ทั้งสองดอกไม่ได้เติบโตบนดิน มันเติบโตบนแผ่นหยกขนาดใหญ่ มีค่ายกลที่ทรงพลังประดับไว้และปกป้องดอกไม้ทั้งสอง

“ดอกไม้แห่งวิถียังไม่โตเต็มที่ ดังนั้นผลของมันจึงลดลงมากมาย แต่ตอนนี้ข้าไม่อาจรอมันได้ขนาดนั้น แม้ว่ามันจะสิ้นเปลือง แต่ข้าก็ไม่เสียใจหากว่าข้าสามารถฟื้นพลังของข้าได้” นางฟ้าเฮายู่พูดกับตัวเองเบา ๆ นางจ้องมองดอกไม้กลีบสีขาวมั้งสามและเพียงโบกมือ ดอกไม้ก็ลอยมาหานางทันที นางเก็บมันไว้ในแหวนมิติอย่างสบาย ๆ

หลังจากนั้นดอกไม้อีกดอกหนึ่งที่มีเก้ากลีบนั้นยังคงอยู่ในมือของนางฟ้าเฮายู่เช่นกัน นางส่งให้เจี้ยนเฉินพลางพูดว่า”นี่เป็นดอกเมฆม่วง มันเป็นสมบัติสวรรค์ระดับเทพขั้น 1 มันรักษาได้ทั้งวิญญาณและฟื้นฟูจิตวิญญาณ แน่นอนว่าดอกไม้นี้จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นหากว่าถูกปรุงเป็นยา น่าเสียดายมีนักปรุงโอสถเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถปรุงสมบัติสวรรค์ระดับเทพให้เป็นยาได้น้อยเกินไป พวกเขาหาตัวยากเป็นอย่างมาก”

เจี้ยนเฉินยังไม่รับดอกเมฆเปล่าในทันที เขาขมวดคิ้วอย่างรวดเร็ว เขาส่งดอกไม้กลับไปที่นางฟ้าเฮายู่และพูดว่า “นางฟ้าเฮายู่ ค่ายกลนี้อยู่ในระดับราชาเทพ ข้าไม่อาจลบมันได้”

นางฟ้าเฮายู่พยักหน้า “ผู้คนจะมาถึงแล้ว ออกไปจากที่นี่ก่อนและหาสถานที่ที่ปลอดภัยที่ข้าจะได้ลบค่ายกลให้กับเจ้า หากพวกเขาเห็นเราที่นี่และองค์ชายเก้าทราบข่าว มันจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีกับตัวเจ้า มันอาจจะทำให้เจ้าประสบภัยพิบัติ”

“เดี๋ยวก่อน เอาศพอสรพิษทองริ้วเงินมาด้วย มันเป็นประโยชน์สำหรับข้าอย่างยิ่ง” เจี้ยนเฉินกล่าว เขาเดินไปหาศพของอสรพิษทองริ้วเงินก่อนที่จะเก็บศพไป

เจี้ยนเฉินเก็บศพของราชาเทพคนอื่น ๆ เช่นกัน มีมนุษย์เพียงคนเดียวเท่านั้น ส่วนที่เหลือเป็นสัตว์อสูรและต้นไม้

ท้ายที่สุดแกนต้นไม้ระดับราชาเทพและแกนอสูรก็อยู่ในมือของเจี้ยนเฉินเช่นกัน

อย่างไรก็ตามนางฟ้าเฮายู่ไม่ได้เอาแหวนมิติทั้งหมดของราชาเทพไป นางต้องการเพียงทรัพยากรเพื่อฟื้นฟูพลังของนางโดยเร็วที่สุด

หลังจากนั้นนางฟ้าเฮายู่โบกมือของนาง สภาพอากาศรอบ ๆ เกิดความปั่นป่วน พลังของกฏขอบเขตตั้งต้นลงมาและทำให้พลังแห่งการมีอยู่ของเจี้ยนเฉินหายไปเหลือไว้เพียงด้านหลังที่เป็นภูเขา จากนั้นนางก็ออกเดินทางพร้อมกับเจี้ยนเฉิน

ไม่นานหลังจากที่นางฟ้าเฮายู่และเจี้ยนเฉินได้ออกมา มีคน 5 คนพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง ดูเหมือนว่าเขาจะหลอมตัวเองกับมิติทำให้เคลื่อนที่ผ่านมิติได้อย่างเงียบงันและด้วยความเร็วที่ยอดเยี่ยม ดูเหมือนว่าเขาจะเดินทางมาได้ในระยะไกลเพียงแค่ออกเดินแค่ก้าวเดียว

พริบตาพวกเขาก็มาถึงบริเวณด้านรอบนอกของเทือกเขาหยินเจ็ดทลาย แม้ว่าพวกเขาทั้งห้าจะเป็นราชาเทพแต่พวกเขาก็ลบตัวตนของพวกเขาออกไป พวกเขาจ้องมองไปยังส่วนลึกของภูเขาอย่างจริงจัง

“นี่เป็นการปรากฏตัวของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้น ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นนี่เป็นคนทำให้ภูเขาหยินเจ็ดทลายพังเป็นซากงั้นหรือ ? ” ชายวัยกลางคนถามอย่างหงุดหงิด เขาสวมเสื้อคลุมสีม่วงปักมังกรทอง

ราชาเทพอีก 4 คนที่เหลือนิ่งเงียบ พวกเขาจ้องมองไปยังส่วนลึกของภูเขาขณะที่พวกเขาพยายามสงบสติอารมณ์อยู่ภายใน

ราชาเทพทั้งห้านี้เป็นผู้เชี่ยวชาญจากอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ต้าเทียนและอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ฉิงหยาง

พวกเขาทั้งสองสวมเสื้อคลุมลายมังกรที่สวยงาม พวกเขาเป็นราชาศักดิ์สิทธิ์ของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ต้าเทียนและอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ฉิงหยาง

เกิดความปั่นป่วนในเทือกเขาหยินเจ็ดทลาย ที่ดึงดูดบรรดาราชาเทพทั้งหลายจากอาณาจักรทั้งสอง

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเวลาผ่านไปราชาเทพก็มากันมากขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขามาจากอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์นวดารา, อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์เมฆแดง, อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ไคหยวน, อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์เมฆหอม, อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์บาลาจและอาณาจักรอื่น ๆ

โดยปกติแล้วราชาเทพทั้งหมดจากอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ใกล้เคียงก็รีบเข้ามา แม้แต่ผู้พิทักษ์จักรวรรดิสูงสุดของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ปิงเทียนก็มา พวกเขามาถึงส่วนลึกที่สุดในเทือกเขา

อย่างไรก็ตามความยุ่งเหยิงได้เบาลงแล้ว คลื่นกระแทกจากการต่อสู้ที่ทำให้ภูเขาราบแบนขณะที่ศพทั้ง 8 ของราชาเทพอยู่ภายใต้ซากเหล่านั้น พลังของกฎจากขอบเขตตั้งต้นยังคงอยู่รอบ ๆ ทำให้เกิดแรงกดดันที่ใหญ่หลวงต่อราชาเทพทุกคนที่เข้ามาในสถานที่เหล่านี้ มันทำให้พวกเขาใจสั่น