เพราะไม่กล้าที่จะชะลอแผนการยึดอำนาจในการประชุมคณะกรรมการในวันพรุ่งนี้ ดังนั้นกู้เย้นเจิ้งจึงตัดสินใจว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ต้องอดทนไว้ก่อนในคืนนี้

ในเวลาเดียวกัน เขาขอให้คณบดีของโรงพยาบาล รับปากว่าจะใช้เงินจำนวนมหาศาลเพื่อค้นหาผู้เชี่ยวชาญชั้นนำในสาขาที่เกี่ยวข้องจากสหรัฐอเมริกาหลายคน ให้พวกเขามาดูว่าจะรักษาด้วยวิธีการทางการแพทย์ได้หรือไม่

มันจะดีมากถ้าเขาทำได้ พอถึงตอนนั้นก็ไม่จำเป็นต้องไปขอร้องเจ้าเด็กนั่นแล้ว สามารถฆ่าเขาได้เลย!

แต่ถ้าไม่…

เรื่องนี้ก็จะยุ่งยาก เพื่อให้มีทายาทสืบทอด อาจจะต้องคุกเข่าลงอ้อนวอนขอความเมตตาจากเจ้าเด็กนั่นจริงๆ!

เมื่อนึกถึงสีหน้าเย่อหยิ่งของเย่เฉิน กู้เย้นเจิ้งก็โมโหจนรู้สึกไม่สบายตัว

กู้เย้นกางที่อยู่ข้างกายกระซิบถาม “พี่รอง พรุ่งนี้เจ้าเด็กนั่นจะเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการไหม?”

“บัดซบ…” หัวใจของกู้เย้นกางสั่นระรัว สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที

ถ้าพรุ่งนี้เจ้าเด็กนั่นเข้าการประชุมคณะกรรมการด้วย เขาคงจะอึดอัดมาก! ถ้าเขากับกู้เย้นจงช่วยกันกดขี่ข่มเหงตนล่ะ? พอถึงตอนนั้นเขาควรจะทำเช่นไร?

หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน เขาก็ไม่สามารถคิดหาวิธีแก้ไขใดๆ ได้เลย ทำได้เพียงถอนหายใจและพูดว่า “ตอนนี้คิดไปก็ไม่มีความหมาย แล้วก็คิดไม่ออกด้วย พอถึงตอนนั้นค่อยจัดการกับมันตามสถานการณ์จริง!”

กู้เย้นกางคิดอะไรบางอย่าง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “พี่รอง จำได้ไหมว่า เจ้าเด็กนั่นในบ้านพี่ใหญ่เคยพูดถึงเซียวอี้เชียนจากเชียนเฉิงกรุ๊ป? ผู้ชายคนนั้นหลังจากกลับมาจากต่างประเทศ ได้พยายามหาโอกาสประจบสอพลอผม อยากมาร่วมงานกับเรา ให้ผมไปพูดคุยกับเขาดูไหม?”

“ดี!” กู้เย้นเจิ้งรีบบอก “นายโทรหาเขาตอนนี้ ให้เขามาพบฉันที่โรงพยาบาล!”

นับตั้งแต่เขาจากเมืองจินหลิงมาด้วยความเศร้า เซียวอี้เชียนได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการค้นหาแพทย์และยาทั่วโลกเพื่อรักษาตัวเองให้หาย

เขาไปญี่ปุ่นก่อนแล้วค่อยไปอเมริกา หลังจากตระเวนไปทั่ว เขาก็ได้พบแพทย์จำนวนมาก และใช้เงินไปเป็นจำนวนไม่น้อย แต่ไม่มีใครสามารถแก้ปัญหานี้ได้เลย

เมื่อเวลาผ่านไป ใจของเซียวอี้เชียนก็ยอมแพ้

โชคดีที่เขาอายุมากและมีลูกแล้ว หลังจากล้มเลิกการรักษา เขาก็เอาใจจดจ่ออยู่กับอาชีพการงานของเขาทั้งหมด

เมื่อคนเราสูญเสียความปรารถนา และจดจ่อกับอาชีพการงาน สมาธิก็จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า

ดังนั้นสิ่งที่เซียวอี้เชียนอยากทำในตอนนี้คือทำให้เชียนเฉิงกรุ๊ปเจริญรุ่งเรืองขึ้น หาเงินให้มากขึ้น จากนั้นใช้เงินและวัตถุมาชดเชยความเสียใจทางร่างกายและทางเพศของเขา

อย่างไรก็ตาม ตระกูลเซียวนั้นเป็นตระกูลระดับสองในเย่นจิง ยังคงมีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างพวกเขาและตระกูลชั้นสูง เซียวอี้เชียนต้องการเกาะขาคนใหญ่คนโต จึงต้องวิ่งไปวิ่งมา จนในที่สุดก็มีความสัมพันธ์เล็กๆ น้อยๆ กับกู้เย้นกางแห่งตระกูลกู้

แม้ว่าเขาจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อเลียแข้งเลียขากู้เย้นกาง แต่กู้เย้นกางก็ดูถูกเขา ไม่ต้องการแม้แต่จะรับเขาเป็นสุนัขรับใช้ด้วยซ้ำ

ในขณะที่เขากำลังกังวลว่าจะเอาชนะกู้เย้นกางได้อย่างไร ก็ได้รับโทรศัพท์จากกู้เย้นกาง

ดังนั้นเขาจึงรีบรับโทรศัพท์แล้วพูดเหน็บว่า “อ้าว ประธานกู้ มีเวลาว่างโทรหาผมด้วยเหรอครับ?”

กู้เย้นกางถามเขา “เหล่าเซียว คุณอยู่ในเย่นจิงใช่หรือเปล่า?”

“อยู่ครับ!” เซียวอี้เชียนรีบบอก “ผมไม่ได้ออกจากเย่นจิงเลยตั้งแต่กลับมาจากอเมริกา ประธานกู้มีอะไรให้รับใช้ครับ?”

กู้เย้นกางกล่าวว่า “ผมอยากจะถามอะไรคุณบางอย่าง แต่เรื่องนี้สำคัญมาก ตอนนี้คุณมาที่โรงพยาบาลของกู้ซื่อกรุ๊ปได้ไหม? เรามาคุยกันต่อหน้าเถอะ”

“ได้ครับ!” “เซียวอี้เชียนหัวเราะแล้วบอกว่า “ประธานกู้กรุณารอสักครู่ ผมจะไปเดี๋ยวนี้!”