ตอนที่ 2599 คนบ้าและออกไปเลยนะ
ลูกน้องสองคนและพวกนอร์แมนหลบดูเรื่องสนุก ๆอยู่ห่าง ๆพร้อมแก้วกาแฟในมือด้วยท่าทีสบาย ๆ
“ผู้ชายคนนี้ก็คือลูกพี่ของพวกนายเหรอ? ก็หน้าตาธรรมดานี่นา!” เอ็ดดี้เบะปาก บอกตามตรงเขาชอบแบบเฮ่อเหลียนเช่อมากกว่า
แต่ผู้ชายคนนี้กลับชอบผู้หญิง…เฮ้อ!
“นายตาบอดหรือไง? ลูกพี่ของพวกเราหล่อกว่าเฮ่อเหลียนเช่อเป็นร้อยเท่า!” ลูกน้องไม่เห็นด้วยพร้อมมองเอ็ดดี้ด้วยสายตาดูถูก
เอ็ดดี้เบะปากอีกครั้ง เขาไม่ได้ตาบอด แต่ผู้ชายที่ชอบผู้หญิง ต่อให้หล่อมากกว่านี้แค่ไหนก็ไม่ใช่สเปกเขา!
“ลูกพี่ของพวกนายจะพาตัวคุณนายกลับไปได้ไหม? ดูทรงแล้วคุณนายก็เป็นแมวป่าตัวน้อยเหมือนกันนะ!” นอร์แมนกังวลเล็กน้อย หากเหยียนหมิงซุ่นเกลี้ยกล่อมภรรยาไม่ได้ก็จะส่งผลต่อเวลาเกษียณของเขา!
“วางใจได้ ลูกพี่ของเราสบายมาก!” ลูกน้องมั่นใจมาก
ยังไม่ทันขาดคำเหยียนหมิงซุ่นก็เริ่มเป็นฝ่ายรุกประกบจูบอันเร่าร้อนที่เอาแต่ใจใส่ก่อน เหมยเหมยยังไม่ทันตั้งตัวเลยถูกเหยียนหมิงซุ่นดึงมาไว้ในอ้อมกอดราวกับเหล็กที่คล้องกันไว้ ริมฝีปากถูกประกบปิดแน่นจนไม่เหลือพื้นที่ใด ๆ…
“ไอ้บ้า…ปล่อยฉันนะ…อืม…”
เหมยเหมยพูดไม่ออก สมองพร่าเบลอไปหมด แล้วยอมรับการปล้นชิงที่บ้าคลั่งของเหยียนหมิงซุ่นแบบไม่ทันตั้งตัว…ร่างกายค่อย ๆอ่อนระทวย จากที่ต่อต้านก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นยินยอม…
ลูกน้องเชิดคางมองนอร์แมนอย่างได้ใจ “เห็นหรือยัง…”
นอร์แมนยกนิ้วโป้งให้ ลูกพี่เขากล่อมเมียให้ว่าง่ายได้จริง ๆด้วย!
ไม่ต้องพูดอะไรมากแต่จัดการเลย…
“ไม่ใช่ว่าลูกพี่ของพวกนายจะจัดฉากรักตรงนี้หรอกนะ…แบบนั้นคงเป็นบุญตาของเราแน่!” นอร์แมนมองอย่างเพลิดเพลินโดยไม่แม้แต่จะกะพริบตาสักครั้ง
“ฝันไปสิ!” ลูกน้องสบถด่าไปที
“พลั่ก”
อยู่ดี ๆทรายกำมือหนึ่งก็พุ่งมาหาจับตัวเป็นก้อนกลมเหมือนหินก้อนหนึ่ง แต่พอลอยมาอยู่ตรงหน้ากลับกระจายกลบหน้าพวกเขาสี่คนจนมิด ทั้งตา จมูก ปากล้วนมีแต่ทรายเต็มไปหมด
“แค่ก ๆ…”
ทั้งสี่คนขยี้ตาไม่หยุดและพยายามเอาทรายออกจากปาก ไม่ง่ายเลยกว่าจะปัดเอาทรายที่อยู่บนหน้าออกหมด พอเริ่มลืมตาขึ้นได้ ฉากจูบอันเร่าร้อนของพวกเขาสองคนที่อยู่ไกลออกไป…ก็ไร้เงาคนแล้ว
“ลูกพี่ของพวกนายไปไหนแล้ววะ?” นอร์แมนรู้สึกเสียดายมาก เขายังอยากดูหนังสดอยู่นะ!
ลูกน้องถลึงตาใส่ด้วยความไม่พอใจ เพราะเจ้าสองตัวนี้พูดจาซี้ซั้วเลยทำให้ลูกพี่พลอยสั่งสอนพวกเขาไปด้วย
“บ้าเอ๊ย…ลมที่นี่จะแรงเกินไปแล้ว!” เอ็ดดี้สบถด่าด้วยความโมโห เขายังนึกว่าทรายพัดมาตามลม
ลูกน้องคนหนึ่งยิ้มเยาะแล้วพูดเย้ยว่า “ไต้ฝุ่นระดับ12 ยังพัดทรายลูกใหญ่แบบนี้มาไม่ได้เลยมั้ง? นั่นมันลูกพี่เราโยนมาต่างหาก!”
“เป็นไปไม่ได้…แรงคนทั่วไปทำเรื่องแบบนี้ไม่ได้!”
นอร์แมนและเอ็ดดี้ไม่เชื่อเด็ดขาด ทรายเป็นของร่วน พอโยนออกก็จะฟุ้งกระจายเป็นเม็ดและไม่มีทางที่จะโยนมาได้ไกลขนาดนี้ พวกเขายืนห่างจากเหยียนหมิงซุ่นอย่างน้อยก็พันเมตรได้…
มนุษย์จะโยนได้ไกลขนาดนี้ได้อย่างไร?
แล้วยังทำให้เม็ดทรายกระจุกตัวเป็นก้อนได้ด้วยเหรอ?
“ลูกพี่เราทำได้ไง พวกกบในกะลา!” ลูกน้องทั้งสองคนมองพวกเขาสองคนด้วยสายตาดูแคลน เนื่องด้วยพละกำลังที่แท้จริงของเหยียนหมิงซุ่นเลยทำให้พวกเขาจงรักภักดีและยอมเชื่อฟังทุกอย่างมาตลอด
นอร์แมนและเอ็ดดี้ต่างตกตะลึง…ถ้าเป็นเรื่องจริง กังฟูของคนฮวาเซี่ยก็โคตรสุดยอดไปเลย!
พวกเขาเรียนติดตัวไว้หน่อยดีไหมนะ?
หลังจากเหยียนหมิงซุ่นลงโทษสี่คนที่ลักดูนั้นเสร็จก็อุ้มเหมยเหมยขึ้นด้วยไฟรักอันร้อนรุ่ม แล้วหาห้องสักห้องเพื่อดับไฟปรารถนา…
“คนบ้า…ออกไปเลยนะ…อืม…”
“ไม่ไป…ร่างกายของเธอมันซื่อสัตย์กว่าปากของเธอ…เหมยเหมย…พี่คิดถึงเธอนะ!” …
จากนั้นฤดูใบไม้ผลิก็เบ่งบานเต็มห้อง…
ฉิวฉิวที่กำลังนอนอยู่บนคานห้องก็สะบัดหางใส่อย่างดูแคลน มันแอบฟังข้างห้องมาสามวันแล้ว ประโยคที่ได้ยินบ่อยที่สุดก็คือ
“คนบ้า…ออกไปเลยนะ…”
เพศเมียต่างก็เป็นแบบนี้กันหมดเลยหรือไง ปากบอกว่าเกลียดแต่ร่างกายกลับไม่!
ฉิวฉิวล้วงหยิบช็อกโกแลตมาหนึ่งแท่งแล้วนั่งชมอยู่ข้าง ๆ เหอะ ๆ…นายผู้ชายแรงเยอะขนาดนี้…สงสัยจะอดยากมากสินะ!
……………………………………….
ตอนที่ 2600 กระบองเหล็กจะถูกลับจนกลายเป็นเข็มไหมนะ
เวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว สามวันนี้ไม่ว่าจะเป็นหานเหมยหรือเหมยเหมยล้วนไม่ได้ลุกออกจากเตียงเลย ทว่าเหยียนหมิงซุ่นและเฮ่อเหลียนเช่อกลับออกมาอยู่หลายรอบ ห้องของพวกเขาอยู่ตรงข้ามกัน แค่เปิดประตูก็เจอกันแล้ว
ตลอดสามวันนี้พวกเขาออกกำลังกายกันไม่มีหยุดหย่อน แน่นอนว่าจะบำเพ็ญเป็นเซียนไม่ได้เพราะยังคงต้องทานข้าวอยู่ ผู้ชายทั้งสองจะออกมาหาของกิน จำนวนครั้งที่เจอกันก็นับว่าถี่พอควร แต่ทุกคนก็แค่ก้มหน้าก้มตาหาของกินของตนไปโดยไม่มีเวลาว่างทักทายกันสักประโยคอย่างเข้าใจกันดี
ส่วนเจ้าตัวน้อยสองคนเสี่ยวเป่าและเล่อเล่อถูกลูกน้องทั้งสองคนของเหยียนหมิงซุ่น รวมถึงนอร์แมนและเอ็ดดี้ หนุ่มอกสามศอกทั้งสี่กลายเป็นพ่อนมไปเสียแล้ว ประหม่าเสียยิ่งกว่าเผชิญหน้ากับเหล่าผู้ก่อการร้ายติดอาวุธที่โหดเหี้ยมเสียอีก ตั้งแต่เช้าจรดเย็นสติแทบกระเจิงและไม่กล้าหละหลวมเลยแม้แต่นาทีเดียว
กลัวว่าถ้าเจ้าหนูทั้งสองหายตัวไปเหยียนหมิงซุ่นคงไม่ปล่อยพวกเขาไปแน่ อีกอย่างเงินที่เฮ่อเหลียนเช่อรับปากว่าจะให้ยังไม่ถึงมือเลยนะ!
“นี่มันสามวันแล้วนะ…พวกเขาไม่กลัวว่ากระบองเหล็กจะถูกลับจนกลายเป็นเข็มบ้างเหรอ?” นอร์แมนเพิ่งเอาใจพาเล่อเล่อไปเล่นโคลนแล้วหันไปมองห้องพักอย่างนึกปวดศีรษะ วัน ๆเอาแต่คลุกตัวอยู่บนที่นอน เกรงว่าแม้แต่มนุษย์เหล็กก็ทนไม่ไหวมั้ง!
คำว่ากระบองเหล็กถูกลับจนกลายเป็นเข็มเป็นคำฮวาเซี่ยที่เขาเพิ่งได้เรียนรู้ไป ส่วนความหมายที่แฝงอยู่ในนั้นลูกน้องทั้งสองคนได้อธิบายให้พวกเขาฟังแล้ว
พวกเขารู้สึกว่าประโยคนี้ใช้ในเวลานี้และสถานที่แบบนี้เหมาะสมที่สุดแล้วจริง ๆ
“คงไม่ใช่ว่าจะต่ออีกสามวันหรอกนะ? ต่อให้ไม่กลายเป็นเข็ม ผู้หญิงก็ทนไม่ไหวหรอก” เอ็ดดี้เคยประสบมาอย่างลึกซึ้ง ถึงแม้เขาจะใช้ประตูหลังที่แห้งเกรอะกรัง แต่ความรู้สึกน่าจะไม่ต่างจากผู้หญิงที่มีน้ำหรอก
ใช้งานหนักตลอดสามวันสามคืน…จุ๊ ๆ…คงพังแล้วมั้ง!
“นายคิดว่าเป็นประตูหลังที่แห้งเกรอะกรังของตัวเองหรือไง? มีเพียงวัวที่เหนื่อยตาย แต่ไม่มีที่นาไหนเหนื่อยตายได้หรอกนะ!”
ลูกน้องส่งสายตาดูแคลนเอ็ดดี้ทีหนึ่ง เขาคิดไม่ตกจริง ๆว่าหนุ่มอกสามศอกดี ๆคนหนึ่งดันชอบถูกสอดใส่แทนซะได้…ช่างเปลืองทรัพยากรดี ๆที่ได้มาตอนเกิดจริง ๆ!
สมองคงเป็นแอ่งทะเล[1]ไปแล้วมั้ง!
ทั้งสี่คนบ่นกันไปมาแต่ก็ไม่มีใครกล้าไปรบกวนชายทั้งสองที่สารอะดรีนาลีนกำลังพรั่งพรูนั่นหรอก พวกเขากล้าเพียงทำตัวเป็นพ่อนมอย่างว่าง่ายและรอคอยเทพใหญ่ผู้น่าเกรงขามทั้งสองในห้องนั้น…รีบเสร็จกิจสักที!
แต่ยังไม่ถึงสามวันต่อมา เพียงผ่านไปวันเดียวเท่านั้นชายทั้งสองที่กำลังวังชาล้นหลามก็ถูกผู้หญิงของตนถีบตกเตียงไป
“พอแล้ว…ไสหัวไป”
ถ้าทำต่อไปอีกคงถึงชีวิตแน่ อีกอย่างพวกเธอนอนอยู่บนเตียงมาตั้งหลายวันเอวแทบหักอยู่แล้ว ฉะนั้นจะทำให้ผู้ชายเสียนิสัยตลอดไม่ได้!
ถึงแม้เหยียนหมิงซุ่นยังไม่หนำใจพอแต่ก็กินมาสี่วันแล้ว อีกทั้งตอนนี้ก็ไม่ได้หิวกระหายขนาดนั้นแล้ว วันข้างหน้ายังอีกยาวไกล เขาพาภรรยากับลูกกลับบ้านก่อนดีกว่า
“ไม่กลับ…ฉันรับปากเล่อเล่อว่าจะพาไปเล่นสกีที่สวิตเซอร์แลนด์ต่อ ฉันจะเป็นแม่ที่ไม่รักษาสัจจะไม่ได้…”
เหมยเหมยไม่มีทางตอบตกลงกลับบ้านแน่นอน เธอเพิ่งได้ลิ้มรสความสนุกของการเป็นโสด ทำไมต้องกลับไปตกนรกเร็วขนาดนั้นด้วยล่ะ?
“วันหลังพี่ค่อยพาเธอกับเล่อเล่อไปสวิตเซอร์แลนด์ ตอนนี้กลับบ้านไปกับพี่ก่อน เธอไม่อยู่บ้าน บ้านเหมือนไม่ใช่บ้านเลย…”
เหยียนหมิงซุ่นเอ่ยเอาใจเสียงอ่อนเสียงหวานและเป็นฝ่ายรับผิดก่อน “เรื่องครั้งก่อนเป็นความผิดของพี่เอง พี่ไม่น่าให้เล่อเล่อกับเสี่ยวเป่าไปเป็นเหยื่อเลย…พี่รับประกันว่าวันหลังจะไม่ทำผิดแบบนี้อีกแล้ว!”
เหยียนหมิงซุ่นเอ่ยเสียงต่ำนอบน้อมด้วยท่าทีจริงใจไร้ซึ่งมาดเย็นชาเงียบขรึมในยามปกติอย่างสิ้นเชิง…เหมยเหมยเห็นเช่นนั้นก็ใจอ่อนพลางลังเลตัดสินใจไม่ได้!
“ถ้าวันหลังพี่ยังทำผิดอีก…เธอก็เอามีดเล่มนี้มาแทงพี่เลย…โอเคไหม?”
เหยียนหมิงซุ่นงัดไม้โหดล้วงหยิบมีดสั้นวิบวับแผ่ไอเย็นยะเยือกออกมาด้ามหนึ่ง นี่เป็นของขวัญที่เหมยเหมยมอบให้เขาในวันเกิดปีนั้น เพียงมีดสั้นออกจากปลอกไอเย็นยะเยือกก็ลอยมาแตะหน้าทันที
เหมยเหมยถลึงตาใส่ “ถ้าฉันฆ่าพี่ ฉันก็กลายเป็นหม้ายอีกงั้นสิ? สมองพี่มีปัญหาใช่ไหม ยังไม่เอามีดเก็บเข้าไปอีก!”
………………………………………………….
[1] สื่อว่าโง่มาก ๆหรือสมองมีปัญหา