และก็เป็นเพราะความกังวลใจต่อกัน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทั้งสองไม่ได้ต่อสู้กันทันทีที่พบหน้า ไม่เช่นนั้น หลัวซิวก็คงลงมือไปนานแล้ว เพื่อขจัดปัญหาในอนาคต

เขารู้ดีว่า คนอย่างพระโอรสจ้านเทียน บนตัวเขาต้องมีไพ่ตายที่แข็งแกร่งเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ คิดจะสังหารคนประเภทนี้ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้โดยง่าย

“ในเมื่อเจ้าไม่ต้องการพูด เช่นนั้นข้าก็จะไม่ถาม แต่สำหรับเรื่องดอกถานฮวาเทียนเต้า ข้าต้องกานร่วมมือกับเจ้า เจ้าจะว่าอย่างไร?” พระโอรสจ้านเทียนพูดเสียงเรียบ

“ร่วมมือ? เหตุใดข้าจึงต้องร่วมมือกับเจ้า?” หลัวซิวเผยรอยยิ้มบาง ๆ ออกมา “หรือว่าเจ้ามีวิธีใดที่จะไม่ถูกผลกระทบของอาณาเวลา?”

“ถึงแม้ว่าข้าจะไม่มีวิธี แต่หากใช้กระบี่ตรีภพที่เข้าได้รับมาเปิดทาง ก็สามารถเก็บเอาดอกถานฮวาเทียนเต้ามาได้เป็นแน่”

แม้ว่าคำพูดของหลัวซิวจะไร้ซึ่งความเกรงใจ อีกทั้งยังมีความเย้ยหยันแฝงอยู่อีกด้วย แต่พระโอรสจ้านเทียนก็ทำได้เพียงฝืนอดทนอดกลั้นเอาไว้ และพูดไปด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“ในเมื่อข้าใช้กระบี่ตรีภพก็สามารถเปิดทางเข้าไปได้โดยตรง แล้วเหตุใดจึงต้องร่วมมือกับเจ้าอีก?” หลัวซิวมองไปยังพระโอรสจ้านเทียน แฝงด้วยรอยยิ้มเชิงหยอกล้อเล็กน้อย

สีหน้าของพระโอรสจ้านเทียนยิ่งคร่ำเครียดยิ่งกว่าเดิม ด้วยตัวตนของเขา ภายในจักรวาลมหาโลกาพันสาม ใครบ้างที่เคยกล้าดูถูกตนเช่นนี้?

หลัวซิวคร้านจะสนใจพระโอรสจ้านเทียนต่อไป จึงหันไปพูดกับเสิ่นปิงหยูแทน “ปิงหยู เปิดทาง! ”

“ได้”

เสิ่นปิงหยูเดินไปด้านหน้า ฝักกระบี่ในอ้อมแขนของนางก็ส่งเสียงดังกึกก้อง ออร่าตรีภพแพร่ขยายออกมาจากรอบกายของนาง แล้วใช้กระบี่ตรีภพฟาดออกไปด้านหน้า

เมื่อเห็นฉากนี้ สายตาของทุกคนก็พลันรี่ลงทันที

“เป็นไปได้อย่างไร? เสิ่นปิงหยูก็สามารถควบคุมกระบี่ตรีภพได้?” พระโอรสจ้านเทียนเบิกตาโพล่ง ในวันนี้เขาสามารถคาดเดาได้ว่า หากต้องการควบคุมกระบี่ตรีภพ ก็จำเป็นต้องมีฐานร่างตรีภพ

แต่วังเซียนมหาวาลแต่เดิมไม่ได้มีการฝึกตนวรยุทธ์ร่างตรีภพ จักรวาลมหาโลกาพันสาม มีแค่เพียงเคล็ดตรีภพโกลาหลของตระกูลหงจึงจะมีวรยุทธเช่นนี้ เสิ่นปิงหยูผู้นี้ทำได้อย่างไรกัน?

ที่สำคัญกว่าก็คือ สิ่งล้ำค่าอย่างกระบี่ตรีภพ ผู้ชายคนนี้ได้ส่งมอบให้เสิ่นปิงหยูควบคุมดูแล พวกเขามีความสัมพันธ์อย่างไรต่อกันแน่?

กระบี่ตรีภพฟาดไปด้านหน้าอย่างไม่ลดละ ภายในปราณกระบี่ที่แกว่งออกไป เต็มไปด้วยออร่ากฎตรีภพยย

แสงสีขาวอาณาเวลาถูกแยกออกเป็นทางผ่านเส้นหนึ่ง แต่ทว่าทางผ่านเส้นนี้มันแคบมาก สามารถรองรับได้สูงสุดสองคนเท่านั้น

หลัวซิวยกมือขึ้นสะบัด เก็บเอาจีเสี่ยวจื่อและเชี่ยนหยุนทั้งสองคนเข้าไปภายในโลการ่างในจุดลมปราณ แล้วก้าวกระโดดด้านหน้า เข้าสู้เส้นทางผ่านที่ใช้กระบี่ตรีภพเปิดออก

ไม่ต้องให้หลัวซิวเอ่ยปากเตือน เสิ่นปิงหยูก็รีบเดินตามติดเข้ามาด้วย กระบี่ตรีภพในมือยังคงฟาดฟันออกไปอย่างต่อเนื่อง รักษาสภาพให้ทางผ่านเส้นนี้ยังคงอยู่ ด้วยเหตุนี้จึงไม่ถูกผลกระทบของพลังแห่งเวลาโดยรอบ

“เจ้าอย่าได้คิดเชียว!”

และในเวลานี้เอง พระโอรสจ้านเทียนก็กระโจนเข้ามาในทางผ่านที่อาศัยกระบี่ตรีภพเปิดขึ้น แสงสีทองเปล่งประกายทั่วร่าง พลังอำนาจรอบตัวโหมขึ้นมาในทันที

“ของที่ข้าไม่สามารถเอามาได้ เจ้าก็อย่าได้คิดจำได้ครอบครอง! ”

ครั้งนี้พระโอรสจ้านเทียนทุ่มสุดตัวจริง ๆ แล้ว ต่อให้ตนเองจะไม่สามารถครอบครองดอกถานฮวาเทียนเต้า เขาก็จะไม่มีทางให้หลัวซิวได้ไปครอง ยินยอมให้ผู้สืบทอดแห่งเขาดึกดำบรรพ์ผู้นั้นได้ไปยังดีเสียกว่า

และหากเขาเคลื่อนไหวเพื่อหยุดหลัวซิวเอาไว้ ผู้สืบทอดแห่งเขาดึกดำบรรพ์ผู้นั้นก็ยังต้องติดค้างบุญคุณเขาอีกด้วย

“ไสหัวออกไป! ”

หลัวซิวตระโกนคำราม ให้เสิ่นปิงหยูใช้กระบี่ตรีภพเปิดทางต่อ แต่เขากลับหันมาอย่างกะทันหัน เผชิญหน้ากับพระโอรสจ้านเทียน

ครั้งนี้ในมือของเขาไม่ได้ควบคุมกระบี่ตรีภพ แต่อาศัยพลังรบของตนเอง ด้วยแดนเทพฟ้าขั้นเก้า ต้านทานพระโอรสจ้านเทียนที่อยู่แดนมกุฎเทพอ!