“ปัง!”

ทั้งสองคนต่างต่อสู้กันด้วยร่างเนื้อ เสียงดังโครมครามสั่นสะเทือนโลก มีเสียงกระดูกแตก ร่างของหลัวซิวก็ลอยกระเด็นออกไป กระดูกกำปั้นที่มือขวาแตกออก

“ตูม! ตูม! ตูม!……”

ร่างของหลัวซิวถอยไปในอากาศ ทุกก้าวที่ถอยหลังไป อนัตตาใต้ฝ่าเท้าของเขาก็เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว

ร่างเนื้อปะทะกัน เขาด้อยกว่าพระโอรสจ้านเทียนเล็กน้อย เพราะว่าพระโอรสจ้านเทียนฝึกตนพลังจักรพรรดิชั้นฟ้า สองการผึก บำเพ็ญละเมียดและกลั่นร่าง ผลการฝึกตนของเขาถึงแม้จะอยู่แค่แดนมกุฎเทพขั้นปฐมภูมิ แต่ความแข็งแกร่งของร่างยุทธ์ร่างเนื้อ รวมกับพลังของเกราะเทพระดับเจ้ายุทธจักรบนร่างของเขา มันก็เพียงพอที่จะเทียบเท่าระดับศัตราวุธราชาชั้นยอดแล้ว

“เฮอะ หากไม่ได้พึ่งสิ่งล้ำค่า หากข้าหมายจะสังหารเจ้า มันช่างง่ายเสียยิ่งกว่าง่าย!” พระโอรสจ้านเทียนคึกคะนองขึ้นมา ตลอดมาไม่เคยได้รับสิ่งล้ำค่า มันทำให้เขาเจ็บปวดในใจมาโดยตลอด

“เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าโชคลาภแห่งโอรสสวรรค์ตายได้อย่างไร?” หลัวซิวรี่ตามอง มีรอยยิ้มเย้ยหยันที่เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าที่มุมปากของเขา

โชคลาภแห่งโอรสสวรรค์ตายไปอย่างไร?

สำหรับในเรื่องนี้ แน่นอนว่าพระโอรสจ้านเทียนรู้ดี คนผู้นี้ดูเหมือนจะมีร่างอมตะในตำนาน ร่างกายของเขาถูกฟันออกเป็นสองส่วนโดยกระบี่ตรีภพ แต่กลับไม่ตาย ใช้บาดแผลแลกบาดแผล นี่จึงเป็นวิธีสังหารโชคลาภแห่งโอรสสวรรค์

แต่พระโอรสจ้านเทียนกลับจำได้ไม่มีวันลืม คนผู้นี้เคยใช้พลังพิเศษ โจมตีจนสามารถเอาชนะโชคลาภแห่งโอรสสวรรค์และแย่งกระบี่ตรีภพมาได้!

กระบี่ตรีภพเป็นถึงสิ่งล้ำค่า สามารถต้านทานมันไว้ได้ แน่นอนว่าต้องเป็นสิ่งล้ำค่าที่อยู่ในระดับเดียวกัน ดังนั้นในเวลานั้นพระโอรสจ้านเทียนจึงสงสัยว่าหลัวซิวครอบครองหินนิรันดร์เอาไว้

เพราะมีเพียงแค่เขาครอบครองหินนิรันดร์เท่านั้น ที่สามารถอธิบายได้ว่าเหตุใดเขาถึงสามารถต่อกรกับกระบี่ตรีภพได้

“เวิง!”

พระโอรสจ้านเทียนวางมือบนจุดตันเถียนของตน จากนั้นอาวุธชิ้นหนึ่ง ถูกเขาดึงมาจากจุดตันเถียนของตนเอง

นี่คือมีดทองสัมฤทธิ์โบราณเล่มหนึ่ง มีจุดสนิมกระดำกระด่างอยู่บนนั้น เก่าแก่แต่ก็แสดงให้เห็นถึงการดำรงค์อยู่มาอย่างเนิ่นนาน

“ดาบเทวสับ!” ที่ด้านนอกของอาณาเวลา มีคนเห็นว่าในมือของพระโอรสจ้านเทียนมีมีดทองสัมฤทธิ์โบราณปรากฏขึ้น ก็อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา

“ดาบเทวสับมันคือสิ่งใด?” ทำให้หลายคนทำหน้าสงสัยเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ทุกคนที่รู้ที่มาของอาวุธนี้

“นี่เป็นถึงอาวุธสังหารชิ้นหนึ่งที่มีชื่อเสียงโด่งดังของสำนักจักรพรรดิจ้านเทียน กล่าวกันว่าหลอมขึ้นจากวัสดุอันล้ำค่ายิ่ง ใช้เพื่อตัดช่องจิตของนักยุทธ์โดยเฉพาะ จึงเป็นเหตุผลที่เรียกว่าดาบเทวสับ”

“อย่าคิดว่าดาบเทวสับเป็นเพียงแค่ศัสตราวุธระดับเจ้ายุทธจักรชิ้นหนึ่งเท่านั้น เพราะหากเทียบกับอาวุธของขลังระดับจ้าวมหาเทพหลายชิ้น มันน่าสะพรึงกลัวกว่าอย่างแน่นอน!”

“ตายเสียเถอะ!”

พระโอรสจ้านเทียนคำรามเสียงดังก้อง ดาบเทวสับในมือฟันออกไปด้วยความเร็วที่เหนือคำบรรยาย

เวิง!

หลัวซิวยกมือขึ้น อัญเชิญดาราโบราณมกุฎเทพ มันปะทะเข้ากับดาบเทวสับท่ามกลางเสียงปังดังสนั่น

เพียงพริบตา สะเก็ดไฟก็กระพุ่งกระจายไปทั่วทั้งสี่ทิศ ร่างเนื้อของพระโอรสจ้านเทียนแข็งแกร่งมาก ทำให้ดาราโบราณมกุฎเทพแตกหักและกระเด็นกระดอนออกไป

ในขณะเดียวกัน โจมตีวิญญาณที่เฉียบคมและทรงพลังทะลุผ่านดาราโบราณมกุฎเทพมา ก็ตรงเข้าไปยังตัวหยั่งรู้ของหลัวซิว

ตัวหยั่งรู้ของหลัวซิวได้กลายเป็นห้วงดารามานานแล้ว ฝึกตนกลั่นวิญญาณที่บันทึกเอาไว้ภายในคัมภีร์โอสถกลายเป็นวรยุทธ์เทวะด้วย วิญญาณตัวหยั่งรู้แข็งแกร่งอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ กระทั่งเรียกได้ว่าไม่มีวันแตกสลาย

ดาบเทวสับที่เต็มไปด้วยโจมตีวิญญาณ สำหรับคนธรรมดาทั่วไปมันน่าสะพรึงกลัวจนไม่อาจป้องกันได้ แต่สำหรับหลัวซิวแล้วนั้น กลับไม่ใช่ภัยคุกคามแต่อย่างใด แม้แต่การคุ้มกันของตัวหยั่งรู้ห้วงดารายังไม่มีรอยร้าวให้เห็น สามารถคลายการโจมตีมันได้อย่างง่ายดาย

ปัง!

วิชา บรรพเทพโลหิตโคจร สายเลือดมังกรแท้ทะลักออกมาจากรูขุมขนนับพัน พลังแห่งเลือดปราณอันทรงพลังถึงขีดสุดหลอมรวม กลายเป็นฝ่ามือขนาดใหญ่ ตรงเข้าไปครอบร่างของพระโอรสจ้านเทียนเอาไว้