บทที่ 2615 ตื่นจากฝันร้าย + ตอนที่ 2616 เงื่อนไขอันน่าขยะแขยง

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 2615 ตื่นจากฝันร้าย

เดิมทีฉางชิงซานยังนึกเสียใจภายหลังอยู่บ้างแต่พอเขาฉุกคิดถึงถ้อยคำที่ยายแก่ปีศาจพูดไว้ ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่พอใจ จากความลังเลก็เริ่มแน่วแน่

ลูกสาวกับเงินจะเสียไม่ได้แม้แต่อย่างเดียว

“ฉีฉีเก๋อ ฉันไม่อยากทะเลาะกับเธอ เป่ารื่อน่าเป็นลูกสาวของฉัน เธอเป็นคนตระกูลฉาง แน่นอนว่าต้องอยู่กับฉัน อีกอย่างเธอไม่มีงานไม่มีรายได้ เธอจะเอาอะไรมาเลี้ยงดูลูกสาว?”

ฉางชิงซานพยายามข่มความไม่สบอารมณ์ไว้แล้วพูดโน้มน้าวฉีฉีเก๋อ

“เป่ารื่อน่าก็เป็นลูกของฉันเหมือนกัน กฎหมายไมได้กำหนดไว้ว่าเป่ารื่อน่าเป็นคนตระกูลฉางนะ ผู้ปกครองที่ดูแลเธอคือฉันกับนาย สถานะของเราเท่าเทียมกันตามกฎหมาย” ฉีฉีเก๋อตอบกลับด้วยเสียงเย็นชา

เหมยเหมยที่เฝ้ามองอยู่ข้าง ๆมาตั้งแต่ต้นคิดจะออกหน้าให้ความช่วยเหลือในทีแรก แต่พอเห็นฉีฉีเก๋อเริ่มกลับมาได้สติและระบบความคิดชัดเจนขึ้นจึงตัดสินใจไม่พูดอะไร ปล่อยให้ฉีฉีเก๋อจัดการคนเดียว

รอต้องการความช่วยเหลือก่อนเธอค่อยให้ความช่วยเหลือแล้วกัน

ฉางชิงซานสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย กำลังจะอ้าปากพูดแต่ฉีฉีเก๋อชิงพูดตัดหน้าเขาอย่างรวดเร็ว “ส่วนฉันจะเลี้ยงเป่ารื่อน่าได้ไหม นายไม่ต้องกังวล ฉางชิงซานนายอย่าลืมละว่าฉันกับนายเรียนจบมหาลัยเมืองหลวงเหมือนกัน

ขอแค่ฉันยอมออกไปหางานทำ ฉันเลี้ยงลูกสาวได้แน่!”

ฉางชิงซานสีหน้าดูย่ำแย่อย่างมาก จนถึงตอนนี้เขาเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าที่แท้ฉีฉีเก๋อกับเขาต่างเรียนจบจากมหาวิทยาลัยเมืองหลวงทั้งคู่

เห็นฉีฉีเก๋อเลี้ยงลูกทำกับข้าวอยู่บ้านทุกวัน แต่งตัวเหมือนคุณป้าตามท้องตลาดเขาเลยลืมเรื่องนี้ไป

“เธอคิดว่าตอนนี้หางานง่ายมากเหรอ? ต่อให้เธอเรียนจบมหาลัยเมืองหลวงแล้วยังไง? นักศึกษาจบใหม่ยังหางานไม่ได้เลย ยิ่งกว่านั้นเธอที่เรียนจบไม่มีงานทำมาหลายปีอีกล่ะ!” ฉางชิงซานพูดอย่างไร้ความปรานี

แน่นอนว่านี่ก็เป็นความจริงเช่นกัน ในเมืองหลวงคนเก่ง ๆมีมากมาย นักศึกษาจบจากมหาวิทยาลัยเมืองหลวงเยอะเท่าขนโค นักศึกษาจบใหม่ยังหางานได้ยาก สถานการณ์อย่างฉีฉีเก๋อเองก็หางานได้ยากเช่นกัน

แต่–

เหมยเหมยแทรกขึ้นมา “เรื่องเล็กอย่างหางานไม่ต้องกังวล ฉันมีบริษัทตั้งเยอะ ขอแค่ฉีฉีเก๋ออยากทำ ฉันให้ตำแหน่งผู้จัดการหรือผู้ดูแลอะไรสักอย่างให้เธอก็ได้แล้ว เรื่องพวกนี้ไม่ใช่ปัญหา!”

ฉางชิงซานอัดอั้นใจพลางขมวดคิ้วแน่น แต่เขาไม่กล้าเถียงเหมยเหมยเลยพูดอย่างใจเย็น “ฉีฉีเก๋อเธอไม่มีประสบการณ์การทำงานจะรับหน้าที่ผู้จัดการกับผู้ดูแลไหวได้อย่างไร?”

เหมยเหมยยักไหล่พูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “ไม่เห็นเป็นไรนี่ ยังไงก็บริษัทตัวเอง ฉันอยากให้ใครเป็นผู้จัดการก็ให้คนนั้นเป็น ใครกล้าคัดค้านล่ะ?”

ฉางชิงซานจุกอยู่ในอก เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังต่อกรกับเขาอยู่ อยากบีบคอเหมยเหมยที่ทำท่าเหมือนฉันรวยฉันเอาแต่ใจแบบนี้ให้ตาย ๆไปเสียเหลือเกิน!

แต่เขาไม่กล้า!

ฉีฉีเก๋อมองเหมยเหมยเป็นเชิงขอบคุณ หัวใจที่ถูกแทงจนเลือดอาบรู้สึกอุ่นวาบขึ้นมาก ไม่ว่าเมื่อไรเพื่อนก็มักยืนอยู่ด้านหลังเธออย่างมั่นคงเสมอ!

“ฉางชิงซาน นายคงไม่ได้ลืมหรอกนะว่าพ่อแม่ฉันทำงานอะไร? นายคิดว่าบ้านฉันยากจนข้นแค้นเหมือนบ้านนายเหรอ?

ต่อให้ฉันไม่ทำงาน ลำพังแค่เงินที่พ่อให้ฉันกับเป่ารื่อน่า ฉันก็มีชีวิตที่ดีได้เหมือนกัน!”

ฉีฉีเก๋อเอ่ยเสียงประชดอย่างเย็นชาไม่เหลือไออุ่นอีกต่อไป

ฉางชิงซานหน้าถมึงทึงพูดเสียงแค้นใจ “หน็อย ในที่สุดเธอก็พูดความในใจออกมาสักที ที่แท้เธอก็รังเกียจที่บ้านเราจนมาตลอด!”

แม่ของเขาพูดไม่ผิด ฉีฉีเก๋อรังเกียจครอบครัวพวกเขามาจากก้นบึ้งของหัวใจ ไม่อยากใช้ชีวิตคู่กับเขาอย่างสงบสุข

ฉีฉีเก๋อเจ็บแปลบที่หัวใจ เจ็บเหมือนถูกแทงเป็นระยะ ๆ เธอตาบอดจริง ๆที่คิดจะฆ่าตัวตายเพื่อผู้ชายแบบนี้?

แล้วยังสูญเสียเวลาอันมีค่ามาหลายปีเพื่อผู้ชายแบบนี้ด้วย!

ยิ่งกว่านั้นยังทำร้ายจิตใจพ่อแม่พี่ชายพี่สะใภ้เพื่อผู้ชายแบบนี้อีก!

ชีวิตหม่นหมองมาตลอดหลายปีเป็นดั่งฝันร้าย ในที่สุดวันนี้ก็ตื่นสักที!

…………………….

ตอนที่ 2616 เงื่อนไขอันน่าขยะแขยง

ไม่เพียงแค่ฉีฉีเก๋อที่ฟังแล้วเสียใจ แม้แต่เหมยเหมยยังทนฟังต่อไม่ได้ ชายโฉดนี่มันสันดานเหมือนกันหมดเลยสินะ?

เวลารักกันดีพูดจาหวานหยดย้อยเอาใจผู้หญิงให้ยอมตายเพื่อเขาได้ แต่พอแตกคอกันถ้อยคำที่พ่นออกมาคมยิ่งกว่าใบมีดเสียอีก!

“ฉางชิงซานนายพูดอะไรต้องมีจิตสำนึกด้วยนะ ตอนนั้นฉีฉีเก๋อทำยังไงถึงรั้นจะแต่งงานกับนาย? ถ้าเธอรังเกียจบ้านนายจนจริง ทำไมเธอยังแต่งงานกับนายให้ลำบากด้วยล่ะ?” เหมยเหมยพูดเป็นเดือดเป็นร้อนแทนฉีฉีเก๋อ

เมื่อนั้นฉีฉีเก๋อขู่จะฆ่าตัวตายถึงทำให้ลุงปาเกินต้องอนุญาตให้เธอแต่งงาน อีกอย่างฉางชิงซานก็เพิ่งได้ดิบได้ดีช่วงสองปีมานี้ เมื่อก่อนใช้ชีวิตอย่างไรกันมาบ้างล่ะ?

ยามชีวิตลำบากฉางชิงซานไม่มีทางพูดจาแบบนี้แน่ แต่พอมีเงินหน่อยก็ลืมกันไปแล้ว!

ให้ตาย พอผู้ชายมีเงินก็เลวขึ้นมาทันที!

ฉางชิงซานทำหน้าไม่เป็นธรรมชาติเล็กน้อย ถ้อยคำเมื่อกี้พอเขาพูดจบก็เสียใจภายหลัง

ถ้าฉีฉีเก๋อเป็นคนรังเกียจความจนชื่นชอบความรวย เมื่อนั้นคงไม่มีวันยอมแต่งงานกับยาจกอย่างเขาหรอก!

แต่เขาก็ถูกบีบบังคับนี่นา ใครให้เมื่อกี้ฉีฉีเก๋อใช้น้ำเสียงแบบนั้นคุยกับเขาล่ะ ช่วยพูดจาดี ๆเหมือนหวานหว่านไม่ได้หรือไง?

แม้จะรับรู้ว่าตัวเองพูดผิดไปแต่ฉางชิงซานไม่คิดจะขอโทษ เขาไม่มีทางก้มหัวให้ผู้หญิงเด็ดขาด!

ฉีฉีเก๋อโบกมือปัดให้เหมยเหมยไม่ต้องพูดอีกแล้ว เธอเองก็เหนื่อยทั้งกายทั้งใจ ไม่อยากทะเลาะกับชายโฉดสารเลวอย่างฉางชิงซานอีก

“ฉางชิงซานนายไปเถอะ ฉันไม่มีวันปล่อยเป่ารื่อน่าไปแน่ อย่างมากก็แค่ยื้อไปแบบนี้แหละ ยังไงซะคนที่รีบร้อนจะหย่าก็ไม่ใช่ฉัน!”

ฉางชิงซานใจกระตุกแล้วมองฉีฉีเก๋ออย่างสงสัยแวบหนึ่ง คำพูดนี้ฟังดูเหมือนมีนัยยะบางอย่าง หรือว่าฉีฉีเก๋อรู้อะไรมา?

แต่เขาก็ปฏิเสธความเป็นไปได้นี้ไปอย่างรวดเร็ว วัน ๆฉีฉีเก๋อก็อยู่แต่ในบ้านไม่มีสังคมอะไร ไม่มีทางรู้เรื่องของเขากับหวานหว่านได้หรอก

อีกอย่างเขาทำอะไรระมัดระวังตัวมาตลอด ต่อให้เขาพาหวานหว่านไปออกงานสังคมก็แนะนำว่าเป็นเลขาส่วนตัว ไม่ให้คนอื่นจับจุดอ่อนได้ คำพูดเหล่านี้ฉีฉีเก๋อคงพูดออกมาเพราะความโกรธสินะ!

ฉางชิงซานสบายใจขึ้นเล็กน้อยและนึกขุ่นเคืองกับการไม่ยอมอ่อนข้อของฉีฉีเก๋อ แต่พอนึกถึงความคิดที่แม่ของเขาเสนอก็อดคิดตามไม่ได้

“ถ้าเธออยากได้เป่ารื่อน่าจริง ๆ ก็ใช่ว่าจะไม่ได้ แต่เธอต้องรับปากเงื่อนไขฉันอย่างหนึ่ง!” ฉางชิงซานบอก

เหมยเหมยขมวดคิ้วและเผลอคิดทันทีว่าเงื่อนไขฉางชิงซานไม่ใช่เงื่อนไขดี ๆอะไรอย่างแน่นอน ซึ่งฉีฉีเก๋อก็ถามไปแล้ว “เงื่อนไขอะไร?”

ฉางชิงซานลังเลครู่หนึ่งก่อนกล่าว “รับปากว่าหลังหย่าไปจะใช้ชีวิตกับเป่ารื่อน่า ไม่แต่งงานกับผู้ชายคนอื่นอีก…ถ้าเธอรับปากว่าทำได้ ฉันไม่แย่งเป่ารื่อน่ากับเธอแน่นอน!”

ฉีฉีเก๋อชะงักไปครู่ใหญ่ถึงเข้าใจความหมายของเขา ในใจก็รู้สึกสับสน

ความจริงเธอไม่เคยคิดจะแต่งงานรอบสองอีก การผิดหวังจากความรักเพียงครั้งเดียวก็ทำให้เธอหมดทั้งแรงกายแรงใจ ตอนนี้เธอคิดเพียงอย่างเดียวก็คือเลี้ยงดูเป่ารื่อน่าให้ดี ไม่เคยคิดเรื่องแต่งงานใหม่มาก่อน

ฉีฉีเก๋อที่อ่อนล้าทั้งกายทั้งใจ ไม่มีเรี่ยวแรงจทะเลาะกับฉางชิงซานอีก จู่ ๆเธอก็เกิดความคิดชั่ววูบว่าตอบตกลงไปเถอะ…

เช่นนี้เธอก็จะได้อยู่ห่างจากตระกูลฉาง ใช้ชีวิตกับลูกสาวอย่างสงบสุขสักที

ฉางชิงซานเห็นสีหน้าอ่อนใจของฉีฉีเก๋อก็รู้สึกได้ใจนิด ๆ เขารู้อยู่แล้วว่าฉีฉีเก๋อต้องรับปาก นี่คือผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

หากฉีฉีเก๋อแต่งงานกับผู้ชายคนอื่นจริง ๆ เขาต้องรู้สึกแย่แน่ ๆ ถึงหย่ากันไปแต่ก็เคยเป็นผู้หญิงของเขามาก่อน แล้วไปหลับนอนกับผู้ชายคนอื่นก็เท่ากับกำลังสวมเขาให้เขาไม่ใช่หรือ?

มีผู้ชายคนไหนทนได้บ้างล่ะ?

……………