บทที่ 1613 ไม่อยากฆ่าคุณ
ฟังคำพูดของหวงจิ้นแล้ว ชั่วขณะหนึ่งสีหน้าหยางเฉินอึมครึมลงไป อยู่ต่อหน้าของเจ้าเมืองเหมียว เขาไม่อยากจะถือสาหาความกับหวงจิ้นแล้ว แต่หวงจิ้น กลับไม่อยากปล่อยเขาไป
เจ้าเมืองเหมียวมองทางหวงจิ้นก่อนจะบอกว่า “ความแค้นระหว่างศิษย์พี่นายกับหยางเฉินเกิดขึ้นเพราะอะไร ฉันว่านายน่าจะรู้ชัดมาก ถ้าไม่ใช่ศิษย์พี่นายไปหาเรื่องหยางเฉิน หยางเฉินจะฆ่าศิษย์พี่นายได้อย่างไร?”
หวงจิ้นไม่ได้พูด แต่ว่ามองทางหยางเฉินแบบสีหน้าอึมครึม หยางเฉินกำลังจ้องหวงจิ้นเช่นกัน ทั้งสองไม่ได้พูดคุยกันแต่อย่างใด กลับมองเห็นจิตอาฆาตแค้น จากในสายตาของอีกฝ่ายหนึ่งแล้ว
ผ่านไปสักพักหนึ่ง หวงจิ้นถึงเอ่ยปากพูดว่า “ผมจะไม่ทำให้เจ้าเมืองลำบากใจ แดนของเขาบรรลุถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดแล้ว ส่วนปัจจุบันผมก็แดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดเหมือนกัน ให้พวกเรามาสู้ตัดสินชะตาสักตั้ง ถ้าผมตายแล้ว ต่อไปแดนที่เก้าแห่งเมืองเหมียว ก็มอบให้เขามารับผิดชอบ”
หยางเฉินขมวดคิ้ว พูดด้วยเสียงเย็นชา “ระหว่างผมกับคุณ เดิมไม่มีความแค้นกัน เป็นแค่หลิวเหล่าก้วยศิษย์พี่ของคุณเป็นฝ่ายหาเรื่องผมเอง โดนผมฆ่าตาย และเป็นโทษที่เขาควรได้รับ คุณจำเป็นต้องมาสู้ให้ตายกันไปข้างหนึ่งกับผมจริงๆ เหรอ?”
หวงจิ้นพูดแบบหน้าตาไร้อารมณ์ “ฉันรู้ว่าที่ผิดคือศิษย์พี่ฉัน แต่โดยเฉพาะเขาเป็นศิษย์พี่ของฉัน ในฐานะศิษย์น้อง ฉันไม่อาจไม่ทำอะไรเพื่อเขาเลยสักนิด ต่อให้โดนนายฆ่าตาย ก็เป็นฉันสมควรโดน”
“เจ้าเมืองครับ ขอให้ท่านรับปากด้วย!”
เจ้าเมืองเหมียวเอ่ยปากบอกว่า “หวงจิ้น ความสามารถของนายกับหยางเฉินเป็นอย่างไรบ้าง ฉันรู้ดีหมด ฉันบอกนายได้แบบชัดเจนว่า นายไม่ใช่คู่แข่งของหยางเฉิน ถ้าอยากสู้จนตายไปข้างหนึ่ง นายมีแค่ผลลัพธ์เดียว นั่นคือตาย”
หวงจิ้นหัวเราะนิ่งๆ “ตายแล้วจะอย่างไรครับ? ผมไม่กลัว! ขอเพียงสู้สักครั้ง!”
เจ้าเมืองเหมียวถอนหายใจ รู้ว่าไม่มีทางโน้มน้าวหวงจิ้นได้ เขามองทางหยางเฉินแล้ว เอ่ยปากบอกว่า “นายคิดว่าอย่างไร?”
หยางเฉินเอ่ยปากตอบว่า “ในเมื่อเจ้าแดนหวงอยากสู้เอาเป็นเอาตายกับผม ผมย่อมไม่กลัวอยู่แล้ว!”
เจ้าเมืองเหมียวพูดว่า “ได้! ในเมื่อพวกนายยินยอมสู้ให้ตายกันไปข้างหนึ่ง งั้นฉันจะช่วยทำให้พวกนายสมหวัง!”
ไม่นาน ทั้งสามคน มาถึงที่ริมลำธารมังกร
เจ้าเมืองเหมียวยังคงใส่งอบไว้ และแต่งตัวด้วยชุดสามัญชนโบราณ ในมือหิ้วข้องใส่ปลาอันหนึ่ง อีกมือหนึ่งถือคันเบ็ด นั่งอยู่ด้านข้างลำธารมังกรเริ่มตกปลา
สำหรับการต่อสู้ตัดสินชะตาระหว่างหยางเฉินและหวงจิ้น เขาเหมือนไม่ได้สนใจสักนิด
หยางเฉินและหวงจิ้นยืนอยู่สองฝั่ง ทั้งสองมองทางอีกฝ่ายหนึ่ง
“ลงมือเถอะ!”
กลิ่นอายบนตัวของหวงจิ้นเพิ่มขึ้นฉับพลันในชั่วพริบตา ในสายตามีความเยือกเย็นอันดุเดือดแวบผ่าน
“ตึง!”
หลังจากใช้งานตำราเทพสงคราม ลักษณะพลังวิถีบู๊มหาศาลส่วนหนึ่ง
ระเบิดออกจากบนตัวของหยางเฉิน พื้นดินใต้ฝ่าเท้า
แตกเป็นเสี่ยงๆ โดยตรง
หยางเฉินมองทางหวงจิ้น “เริ่มกันดีกว่า!”
ชั่วขณะที่เขาพูดจบลง ร่างกายกลายเป็นภาพวืด หายไปจากที่เดิมแล้ว
ส่วนหวงจิ้นก็ขยับเช่นกัน พื้นดินใต้ฝ่าเท้าพังทลายโดยตรง
“ปึง!”
วินาทีต่อมา การโจมตีของสองคนปะทะเข้าด้วยกัน
โดยมีทั้งสองเป็นศูนย์กลาง แผ่กระจายไปยังทั่วสารทิศ
กลิ่นอายอันบ้าคลั่ง
บนใบหน้าของหวงจิ้น เต็มไปด้วยแววที่ตื่นตกใจ เหมือนกับนึกไม่ถึงว่าการโจมตีสุดกำลังของตนเอง ถูกหยางเฉินรับไว้ได้อย่างง่ายดาย
หยางเฉินกลับจิตใจไม่ไหวติงดุจน้ำนิ่ง เพียงแค่ตอนที่มองหวงจิ้นอีกที ในสายตามีความซับซ้อนระดับหนึ่ง
ตอนแรกที่หวงจิ้นช่วยชีวิตหลิวเหล่าก้วยเอาไว้ หยางเฉินมีเพียงแค่ความสามารถกึ่งแดนเหนือมนุษย์ กลับปะทะฝีมือกับหวงจิ้น
ยังคิดว่าหวงจิ้นมีเพียงความสามารถของแดนเหนือมนุษย์ขั้นหนึ่ง ตอนนี้ดูแล้ว ตอนนั้นหวงจิ้นไม่ได้ลงมือโหดเหี้ยมต่อเขา ส่วนความสามารถของหวงจิ้นไกลเกินกว่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นหนึ่ง
ถ้าตอนนั้นหวงจิ้นอยากฆ่าเขาจริง คงง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก
หวงจิ้นเพียงแค่ควบคุมความสามารถไว้ที่ระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นหนึ่ง เพื่อสู้กับหยางเฉินสองสามที
พูดขึ้นมา หวงจิ้นถือว่าไว้ชีวิตหยางเฉินครั้งหนึ่งแล้ว
หยางเฉินพูดจาด้วยเสียงเย็นยะเยือก “เจ้าแดนหวง
ผมแนะนำว่าคุณยอมแพ้แล้วถอยไปจะดีกว่านะ”
คุณมีเพียงความสามารถเท่านี้เองเหรอ? ถ้ามีความสามารถแค่นี้
หวงจิ้นเยาะเย้ย “นี่เพิ่งอุ่นเครื่องเอง รีบร้อนอะไร?”
พอพูดจบ ลักษณะพลังวิถีบู๊บนตัวของเขาแกร่งขึ้นกว่าเดิม
ช่วงเวลาสั้นๆ
เหมือนว่าอยู่ห่างจากแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปด เพียงแค่ก้าวหนึ่งเท่านั้น
ลักษณะพลังวิถีบีบนตัวหวงจิ้น พุ่งไปที่แดนเหนือมนุษย์ชั้นยอดขั้นเจ็ด
ส่วนหยางเฉินเป็นแค่ผู้แข็งแกร่งที่เริ่มก้าวสู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ด เพิ่มความสามารถของตำราเทพสงครามและสายเลือดคลั่งเข้าไปด้วย ก็สามารถระเบิดถึงขั้นที่เทียบเท่าแดนเหนือมนุษย์ชั้นยอดขั้นเจ็ด แม้กระทั่งเป็นกึ่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดเลย
ไม่ว่าอย่างไร หวงจิ้นเหมือนจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหยางเฉิน
“หยางเฉิน เจอหมัดฉันหน่อยเป็นไง!”
หวงจิ้นตะโกนเสียงดัง พุ่งมาทางหยางเฉินอีกครั้ง
หยางเฉินไม่ได้กระตุ้นสายเลือดคลั่ง แต่ว่าใช้ความสามารถของตนเองที่มี มาปะทะฝีมือกับหวงจิ้น
“ตึงๆๆ!”
ทั้งสองปะทะเข้าด้วยกันอีกครั้ง ลักษณะพลังอันคลุ้มคลั่ง ราวกับลมแรงฝนกระหน่ำ โหมพัดซัดสาดไปทั่วทุกทิศทาง
เจ้าเมืองเหมียวที่นั่งอยู่ริมลำธารมังกรเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น นั่งอย่างนิ่งเฉย ตกปลาของตนเองไป
ลักษณะพลังบ้าคลั่งที่หยางเฉินและหวงจิ้นสู้กันระเบิดออกมา อยู่ที่ด้านข้างลำธารมังกรนั้น ทำให้เกิดคลื่นซัดโหมกระหน่ำขึ้นเป็นระลอกไม่ขาดสาย ยังคงไม่กระทบต่ออารมณ์อันสุนทรีย์ในการตกปลาของเจ้าเมืองเหมียว
“ไม่เสียงแรงที่เป็นเจ้าแดนแห่งแดนที่เก้า ความสามารถเก่งกาจ!”
หยางเฉินไม่ขี้เหนียวคำชมเชยของตนเองแม้แต่น้อย แดนวิถีบู๊ของหวงจิ้น น่าจะเป็นแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดชั้นต้น แต่เวลานี้ความสามารถที่แสดงออกมาทั้งหมด น่าจะบรรลุถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดชั้นปลายแล้ว
หยางเฉินไม่ได้อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่กระตุ้นสายเลือดคลั่ง และฝืนกลั้นสู้จนเสมอกันกับหวงจิ้น ถ้าคงสภาพแบบนี้ต่อไปอีก กลัวว่าจะตัดสินแพ้ชนะไม่ได้ตลอดกาล
หวงจิ้นมองทางหยางเฉินด้วยท่าทางเคร่งขรึมแล้วพูดว่า “นายก็ไม่ใช่ย่อย! จำได้ว่าครั้งแรกที่ฉันเจอนาย แม้แต่แดนเหนือมนุษย์นายยังเข้าไม่ถึง นี่เพิ่งผ่านไปปีเดียว แดนวิถีบู๊ของนาย บรรลุถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดแล้ว ยังเป็นพรสวรรค์ด้านบูโดที่ทำให้คนอิจฉาเสียจริงนะ!”
หยางเฉินหัวเราะนิ่งๆ “สู้กันมานานขนาดนี้แล้ว คุณน่าจะรู้ดีว่า ความสามารถของพวกเราพอๆ กัน ผมทำอะไรคุณไม่ได้ คุณก็ทำอะไรผมไม่ได้เหมือนกัน ไม่สู้เลิกราเท่านี้พอ ถือว่าเสมอกัน เป็นอย่างไรครับ?”
หวงจิ้นเยาะเย้ย “ฉันรู้ว่านายยังไม่ได้เข้าสู่สภาพคลุ้มคลั่ง ถ้านายเข้าสู่สภาพคลุ้มคลั่ง อยากจะฆ่าฉัน น่าจะไม่ยาก ฉันไม่ต้องการให้นายออมมือให้ ถ้าวันนี้นายไม่ฆ่าฉัน ต่อไปฉันก็จะฆ่านายอยู่ดี”
พูดจบ หวงจิ้นกระโจนเข้าไปหาหยางเฉินโดยตรง
หยางเฉิขมวดคิ้ว เขาพูดมาถึงขนาดนี้แล้ว คาดไม่ถึงหวงจิ้นยังอยากสู้จนตายกันไปข้างกับตนเองอยู่อีก
“ตึงๆๆ!”
ทั้งสองสู้รบด้วยกันอย่างดุเดือดอีกครั้ง พละกำลังวิถีบู๊อันน่าสยองขวัญ พังทลายพื้นดินใต้เท้าของทั้งสองคนตั้งนานแล้ว
เพียงแต่ หวงจิ้นเข้าสู่สภาพแกร่งที่สุดแล้ว เดิมทีไม่มีทางทำอะไรหยางเฉินได้ หยางเฉินกลับลงมือไม่เต็มกำลังทุกที
ทันใดนั้นหยางเฉินโกรธเคืองพอสมควร “คุณอยากตายขนาดนี้เลย?”
เขาอยากจะปล่อยหวงจิ้นไป แต่ว่าหวงจิ้นกลับยังคงอยากสู้จนตายกับตนเองให้ถึงที่สุด
หยางเฉินไม่ยอมฆ่าหวงจิ้น มีสองสาเหตุ อย่างแรกคือตอนแรกนั้นทั้งที่หวงจิ้นมีความสามารถฆ่าตนเองได้ กลับไม่ได้ฆ่า สำหรับสาเหตุที่สอง คือเห็นแก่หน้าของเจ้าเมืองเหมียว
ถึงแม้เขากับเจ้าเมืองเหมียวจะรู้จักกันไม่กี่วัน แต่ว่าเจ้าเมืองเหมียวกลับให้เขามามากมาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหวงจิ้นเป็นเจ้าแดนแห่งแดนที่เก้าลูกน้องของเจ้าเมืองเหมียว ถ้าโดนหยางเฉินฆ่าแล้ว สำหรับเมืองเหมียวนั้น ก็คือการสูญเสียอันใหญ่โต
“ฉันบอกแล้ว ถ้านายไม่ฆ่าฉัน จะมีสักคนหนึ่ง ฉันจะฆ่านายด้วยตัวเอง เพื่อแก้แค้นให้ศิษย์พี่ฉัน!”
หวงจิ้นพูดจบ ระเบิดการโจมตีแกร่งสุดออกมาอีกครั้ง ต่อยลงไปทางหยางเฉิน