ทันใดนั้น ต่งรั่งหลินพูดกับขงเต๋อหลงว่า:”พี่ ฉันจะแนะนำให้พี่รู้จักกับเพื่อนร่วมชั้นเรียนของฉัน!”
ทันทีที่พูดจบ เย่เฉินก็หันกลับมาด้วยรอยยิ้ม เมื่อขงเต๋อหลงเห็นเขา ก็ราวกับว่าเขาได้เห็นผีทันที!
เขาตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะได้สติกลับมา และจากนั้นก็เริ่มกัดฟันด้วยความแค้น:”ดีเลย! ไอ้แซ่เย่! กูแม่งกำลังเครียดที่หามึงไม่เจอพอดี มึงแม่งกลับกล้ามาบ้านย่ากู วันนี้มันตายแน่!”
ต่งรั่งหลินตกใจและโพล่งออกมา:”พี่ พี่หมายความว่าไง? เย่เฉินเป็นแขก ทำไมพี่ถึงพูดกับเขาแบบนี้?”
ขงเต๋อหลงกัดฟันพูดว่า:”เธอรู้รึเปล่าว่าทำไมพี่ถึงได้รับการผ่าตัด?”
โพล่งออกมา:”ฉันได้ยินแม่บอกว่า พี่กลืนสร้อยคอ”
“ใช่!”ขงเต๋อหลงพูดอย่างโกรธเคือง:”ทำไมฉันถึงกลืนสร้อยคอ? ก็แม่งเป็นเพราะไอ้สารเลวนี้!”
เย่เฉินหัวเราะเยาะ:”คุณชายขง พูดอย่างมีเหตุผลหน่อย และเป็นคนใจกว้างหน่อย ผมบังคับคุณให้กลืนสร้อยคอนั้นเหรอ? หรือผมงัดปากคุณ แล้วยัดเข้าไปในท้องคุณเหรอ?”
ข่งเต๋อหลงไม่ได้พูด
พูดยังไงล่ะ?
ที่เย่เฉินพูดก็ไม่ผิด เขาไม่ได้บังคับให้ตนกลืนสร้อยคอจริงๆ แต่เขาแพ้พนันกับเขา และรู้สึกอับอาย ดังนั้นจึงกัดฟันและกลืนมันเข้าไป
แต่ว่า คนที่ผิดนั้น ก็คือเขาไม่ใช่เหรอ?
เมื่อคิดเช่นนี้ ขงเต๋อหลงก็ด่าอย่างรุนแรง:”ไอ้แซ่เย่! มึงแม่งอย่ามาพูดไร้สาระกับกู! บัญชีนี้ กูจะต้องคิดกับมึง!”
เย่เฉินเมินเขา แต่กลับมองไปที่นายหญิงใหญ่ต่ง ยื่นกล่องของขวัญที่เขาเอามาให้ และพูดอย่างจริงจังว่า:”นายหญิงใหญ่ต่ง นี่เป็นของขวัญวันเกิดที่ชูหรันและผมเตรียมไว้ให้คุณ หวังว่าคุณจะชอบครับ”
หญิงชราไม่ค่อยเข้าใจว่าเย่เฉินกับหลานชายของเธอมีเรื่องอะไรกันแน่ แต่ไม่ว่ายังไงเธอเป็นผู้อาวุโสของตระกูลใหญ่ และเธอก็สุภาพมาก ดังนั้นเธอจึงเอื้อมมือไปหยิบของขวัญและพูดว่า:”ขอบใจความมีน้ำใจของหนูและชูหรันนะจ้ะ”
ขงเต๋อหลงเห็นว่าเย่เฉินไม่สนใจตัวเอง ก็โกรธจนแทบจะระเบิด
เขาแบ่งกล่องของขวัญจากมือของคุณย่า แล้วทิ้งลงกับพื้น ชี้ไปที่เย่เฉินและด่าว่า:”ไอ้แซ่เย่ ออกไปจากตรงนี้เดี๋ยวนี้ แล้วกลับไปเตรียมรอตายที่หาจินหลิงได้เลย อีกสองวันกูจะไปฆ่ามึงที่จินหลิงกับมือเอง!”
เย่เฉินก็ไม่โกรธเช่นกัน เพียงแค่พูดอย่างเฉยเมย:”ขอเต๋อหลง ฉันไว้หน้านั่งหลิน เลยเรียกนายว่าคุณชายขง แต่นายอย่าไม่ให้เกียรติ มิฉะนั้น อย่าโทษฉันที่ไม่ไว้หน้ารั่งหลิน!”
ต่งรั่งหลินก็โกรธมาก และพูดอย่างโกรธเคือง:”พี่ พี่กำลังทำอะไรอยู่กันแน่? ! เย่เฉินเป็นแขก! พี่มีสิทธิ์อะไรไปไล่เขาออกไป? มีสิทธิ์อะไรไปโยนของขวัญที่เขาให้ย่าทิ้ง?”
พูดจบ ก้มลงหยิบกล่องของขวัญที่ถูกเปิดออก พร้อมกับพัดในกล่องของขวัญ
ขงเต๋อหลงพูดอย่างดูถูก:”คนเลวแบบนี้ จะให้ของดีอะไรกับย่าได้? แค่พัดเห่ยๆเท่านั้นเอง ก็มีแค่ยาจกอย่างเขาที่กล้าเอาออกมาโชว์ได้!”
นายหญิงใหญ่ต่งถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
หญิงชรารู้ดีว่าหลานชายของเธอมีนิสัยอย่างไร
แม้ว่าเธอจะได้ยินมาว่า เย่เฉินอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการผ่าตัดของหลานชายเธอ แต่พอดูแล้ว อาจจะเป็นเพราะหลานชายของตนหาเรื่องใส่ตัว แกว่งเท้าหาเสี้ยน และเย่เฉินคงไม่ใช้คนผิด
ดังนั้น เธอจึงพูดอย่างจริงจังว่า:”เต๋อหลง โตขนาดนี้แล้ว ทำไมถึงพูดจาผิวเผิน ของขวัญเป็นตัวแทนของจิตใจ ไม่ว่าจะสูงหรือต่ำ”
เมื่อขงเต๋อหลง ได้ยินแบบนั้น เขาก็หยิบกล่องของขวัญออกมาจากกระเป๋าทันที เมื่อเปิดออกมา ก็บรรจุพระศรีอริยเมตไตรยที่แกะสลักด้วยหยกสีเขียว
มองแวบแรกก็รู้ว่าคือหยกจักรพรรดิ์เนื้อแก้วที่มีน้ำดีเยี่ยม วัสดุดีเยี่ยม ไม่มีตำหนิ และการแกะสลักก็สมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ยังมีเพชรรูปวงกลมอยู่ข้างๆ ซึ่งค่อนข้างพราว
เขายื่นสร้อยคอหยกให้นายหญิงใหญ่ต่ง พูดอย่างไม่ยอมแพ้ว่า:”คุณย่า พระหยกองค์นี้ คือจักรพรรดิ์เนื้อแก้ว มูลค่าไม่ต่ำกว่า 30 ล้าน พัดเห่ยๆนั้นไม่กี่ร้อย บ้านตระกูลพันมีเต็มไปหมด สองสิ่งนี้วางด้วยกัน สูงต่ำมันได้ตัดสินแล้ว! ขยะก็คือขยะ และต่อให้บรรจุดีแค่ไหน มันก็ไม่มีค่า!”