เวลานี้ เย่เฉินกับต่งรั่งหลิงเข้าไปในคฤหาสน์แล้ว

บ้านพักของตระกูลใหญ่ๆในเย่นจิง นั้นหรูหรามาก เมื่อเข้าประตู แค่ห้องนั่งเล่นจะมีขนาดเกือบเท่ากับห้องจัดงานเลี้ยงขนาดเล็ก

ในเวลานี้ มีคนจำนวนมากอยู่ข้างใน และบุคคลที่มีหน้ามีตาในเย่นจิงหลายคน ตอนนี้ได้มารวมตัวกันที่นี่ พูดคุยกันเป็นกลุ่มอย่างกระตือรือร้น

นายหญิงใหญ่ต่งและสามีของแก กำลังพูดคุยและหัวเราะกับเพื่อนเก่าสองสามคนในวัยเดียวกัน

ต่งรั่งหลินรีบพูดกับเย่เฉินว่า:”คุณย่าของฉันอยู่ตรงนั้น ฉันจะพานายไปหาเธอ”

เย่เฉินพยักหน้า และยิ้มพูดว่า:”ฉันจะได้ให้ของขวัญที่ฉันเตรียมไส้กับคุณย่าของเธอพอดี”

เมื่อทั้งสองมาตรงหน้าทั้งคู่ ต่งรั่งหลินยิ้ม และพูดกับพวกเขาว่า:”คุณปู่คุณย่าคะ หนูจะแนะนำให้รู้จักค่ะ นี่คือเพื่อนร่วมชั้นเรียนของหนู เขาชื่อเย่เฉิน!”

หญิงชรายิ้มแล้วรีบพูดว่า:”โอ้ เพื่อนร่วมชั้นของรั่วหลินนี่เอง! ยินดีต้อนรับนะจ้ะ!”

หลังจากนั้น หญิงชราถามอีกครั้ง:”จริงสิรั่งหลิน ย่าจำได้ว่าในหมู่เพื่อนร่วมชั้นเรียนของหนูในตอนนั้น มีเด็กสาวคนหนึ่งที่สนิทกับหนู ชื่อเซียวชูหรันใช่ไหม?”

ทันใดนั้นเย่เฉินก็พูดว่า:”สวัสดีครับท่านย่าต่ง ผมคือสามีของเซียวชูหรันเองครับ อันที่จริงชูหรันอยากจะมาอวยพรวันเกิดคุณด้วยตนเอง แต่มีหลายๆเรื่องหลายที่ต้องทำในครอบครัว เลยไม่สามารถมาได้ เลยให้ผมมาแทนเธอ ได้โปรดยกโทษให้ด้วยครับ!”

หญิงชรายิ้มพูดว่า:”โอ้ ที่แท้เซียวชูหรัน เด็กคนนั้นก็แต่งงานแล้ว!”

พูดจบ แกก็มองไปที่ต่งรั่งหลินอีกครั้ง และพูดอย่างจริงจังว่า:”รั่งหลิน ดูสิ เพื่อนร่วมชั้นในมหาวิทยาลัยของหนูค่อยๆแต่งงานกันแล้ว แต่จนถึงตอนนี้หนูก็ยังไม่มีแฟน หนูแค่ฟังที่ย่าพูด ไม่ต้องไปจินหลิงอีกแล้ว หาแฟนในเย่นจิง และแต่งงานเร็วๆ ย่าจะได้สบายใจ!”

ตอนนี้ในใจต่งรั่งหลินรู้สึกสับสนมาก

เธอชอบเย่เฉิน และชอบแบบที่ลึกเข้ากระดูก ดังนั้นในใจของเธอ เธอจึงตัดสินใจที่จะแต่งงานแค่กับเย่เฉิน

แต่น่าเสียดาย ที่เย่เฉินกลับเป็นสามีของเพื่อนสนิทที่ดีที่สุด และตอนนี้ แม้แต่ครอบครัวของเธอก็รู้หมดแล้ว งั้นต่อไปเธอกับเย่เฉิน คงจะเป็นไปไม่ได้มากกว่าเดิมแล้วสิ?

แม้ว่าตระกูลต่งจะไม่ใช่ตระกูลชั้นยอดในเย่นจิง แต่อย่างน้อยก็มีหน้ามีตา จะให้หลานสาวของตัวเองอยู่กับผู้ชายที่แต่งงานแล้วได้อย่างไร?

แม้ว่าเขาจะหย่าร้าง แต่ก็เป็นการแต่งงานครั้งที่สอง และแพร่ออกไปมันน่าอายมาก

เมื่อคิดเช่นนี้ เธอก็รู้สึกผิดหวังอย่างยิ่ง

ในขณะนั้น ก็มีเสียงที่ไม่ลงรอยกันดังขึ้น:”คุณย่า! คุณปู่!”

ต่งรั่งหลินหันไปมอง ลูกพี่ลูกน้องของตนขงเต๋อหลง เดินเข้ามาด้วยท่าทางเหลิง

เธอถามโดยไม่รู้ตัว:”พี่ ฉันได้ยินมาไม่นานมานี้ พี่ได้รับการผ่าตัดมา? ตอนนี้พี่หายดีแล้วยัง?”

เมื่อขงเต๋อหลงได้ยินเธอถามเกี่ยวกับการผ่าตัด เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโมโหเล็กน้อย และพูดอย่างโกรธเคือง:”อย่าพูดถึงเรื่องผ่าตัดกับฉัน แค่คิดฉันก็โกรธมากแล้ว!”

นายหญิงใหญ่ต่งพูดอย่างเป็นห่วง:”รั่งหลิน หนูไม่รู้ ช่วงก่อนพี่ของหนู ต้องทุกข์ทรมานมากเลย!”

ตอนนี้เย่เฉินไม่ได้หันหลัง แต่ก็ฟังออกว่า เสียงนี้มันคุ้นหูมากจริงๆ

หลังจากคิดอย่างรอบคอบแล้ว ก็ถึงตัวตนของเจ้าของเสียงนี้ในสมอง

นี่มัน ก็คือจงเต๋อหลง คุณชายตระกูลขงที่ที่ถูกเขาบังคับให้กลืนสร้อยคอพลอย ในบ้านของซ่งหวั่นถิงตอนนั้นไม่ใช่เหรอ?

ทำไม? เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของต่งรั่งหลินเหรอ?

นอกจากนี้ ขงเต๋อหลงยังเรียกคุณย่าของต่งรั่งหลินว่าคุณย่าคือ งั้นก็หมายความว่า เขาเป็นลูกของน้าต่งรั่งหลิน

มันน่าสนุกแล้วจริงๆ