ตอนที่ 2671 จ้างแม่อุ้มบุญ
เหมยเหมยแอบยกนิ้วโป้งให้อิงจวี้กัง นี่ต่างหากวิธีการของผู้ชายที่ดี!
แต่–
“แล้วทำไมพ่อแม่สามีเธอรู้เรื่องที่เธอมีลูกไม่ได้ล่ะ?” เหมยเหมยแอบสงสัย
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนยิ้มค้างแล้วพูดด้วยเสียงเคียดแค้นใจ “นั่นก็เพราะป้าจอมยุ่งเรื่องชาวบ้านคนหนึ่งในชุมชนเราไง ลูกสะใภ้ของป้าคนนี้มีปัญหาด้านสุขภาพเหมือนฉัน ปกติก็ต้องเจอกันอยู่บ้าง เวลาไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลก็เจอกันหลายครั้ง ป้าคนนั้นเลยรู้เรื่องที่ฉันมีลูกไม่ได้”
“ปีที่แล้วแม่สามีฉันมาอยู่กับเราด้วยหนึ่งเดือน ยัยป้านี่เลยบอกแม่สามีฉัน พอแม่สามีฉันได้ยินเช่นนั้นก็มาซักไซ้ฉันด้วยความโมโห ฉันเลยยอมรับไป…”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนยิ่งเล่าเสียงก็ยิ่งเบาลงเรื่อย ๆ ศีรษะก็แทบฝังตรงระหว่างขาแล้ว
ความจริงป้าจอมยุ่งเรื่องชาวบ้านคนนั้นก็ไม่ได้เอ่ยออกไปโต้ง ๆแค่เอ่ยถึงแบบคลุมเครือ หากเธอไม่ยอมรับแล้วบอกว่าเป็นปัญหาของอิงจวี้กังน่าจะหลอกผู้หญิงจอมซื่ออย่างแม่สามีเธอได้
แต่เธอไม่อยากโกหกอีกต่อไปแล้ว!
เธอไม่อยากให้อิงจวี้กังเป็นแพะรับบาปอีกทั้งที่สุขภาพตัวเองดีมาก แล้วทำไมต้องบอกว่าตัวเองเป็นโรคมีบุตรยากด้วย อีกอย่างการโกหกพ่อแม่สามีที่ใสซื่อขนาดนี้เธอก็รู้สึกกระดากใจอยู่ดี มักรู้สึกเหมือนมีหินก้อนใหญ่ทับอยู่บนอกจนหนักอึ้ง!
ฉะนั้นเลยอดไม่ได้สารภาพหมดเปลือกไปเสียทีเดียว!
ใครจะคิดว่า…เหมือนไปตำใส่รังต่อ!
พ่อแม่สามีที่ปกติสงบเสงี่ยมมาตลอดกลับมีปฏิกิริยาที่รุนแรงกับเรื่องลูกมากจนถึงขั้นคิดจะบีบบังคับให้อิงจวี้กังหย่ากับเธอ?
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเสียใจเหลือเกิน ถ้ารู้แต่แรกว่าพ่อแม่สามีเธอจะมีปฏิกิริยาเช่นนี้เธอจะขอโทษไปทำไม…ปล่อยให้ลูกชายพวกเขาเป็นโรคมีบุตรยากไปตลอดชีวิตเลยดีกว่า…
ไม่ สุดท้ายจะต้องพัฒนาเป็นโรคอสุจิตายไปเลย!
“เธอโง่หรือเปล่า? คนเขาถามเธอก็ยอมรับไปตรง ๆ ปกติก็ไม่เห็นเธอซื่อสัตย์ขนาดนี้นี่…อิงจวี้กังยังบอกแล้วว่าเขามีภาวะมีบุตรยาก เธออย่าไปยอมรับมันก็พอ…ฉันว่าสมองเธอมีปัญหาจริง ๆ…”
เหมยเหมยนึกโกรธจนคันปากยุบยิบ คุณแม่ของอิงจวี้กังแค่มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นคนซื่อที่ไม่เจ้าแผนการอะไร คนประเภทนี้หลอกง่ายที่สุดแล้ว ปกติเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนปากดีชนิดที่กลับผิดเป็นถูกได้ พอถึงช่วงเวลาคับขันดันตกม้าตายเสียอย่างนั้น!
“ถึงอย่างไรซะก็เป็นแบบนี้ไปแล้ว…อยากทำอะไรก็ทำเถอะ อย่างมากก็แค่หย่ากลับไปอยู่กลุ่มชาวโสดผู้สูงส่งอย่างมีความสุขเหมือนเดิม!” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนแสร้งทำทีไม่ยี่หระใด ๆ
“หย่าอะไร หย่าไปแล้วเธอจะไปหาผู้ชายรักเดียวใจเดียวแบบนี้ได้ที่ไหนอีก?” เหมยเหมยคว้ากระเป๋าทุ่มใส่แล้วก็ฟาดไปหลายทีจนเจ็บมือไปหมด!
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนตาแดง “ฉันก็ไม่อยากหย่านี่แต่ฉันมีลูกไม่ได้ อิงจวี้กังเป็นคนกลางก็ทำตัวลำบาก กลับบ้านเกิดไปก็มีแต่คนจ้องจะดูถูก ฉันอย่าอยู่เสียเวลาเขาอีกเลยจะดีกว่า!”
คิดว่าเธออยากหย่าร้างนักหรือไง…ไม่ง่ายเลยกว่าจะอบรมผู้ชายแสนดีแห่งยุคอย่างอิงจวี้กังได้ เธอไม่อยากเสียเปรียบให้กับผู้หญิงคนอื่นเลยสักนิด!
แต่มีลูกไม่ได้…เธอจะทำอะไรได้อีกล่ะ?
ตลอดหลายปีนี้เธอกลัวช่วงวันปีใหม่ที่สุด พอถึงวันปีใหม่ก็ต้องออกตระเวนสวัสดีปีใหม่บรรดาญาติมิตร ประโยคแรกจากบ้านแม่สามีก็เร่งให้รีบมีลูก ให้พวกเขารีบเตรียมตัวมีลูกได้แล้ว แถมเร่งเร้าตั้งแต่วันแรกของปีใหม่ยันวันที่สิบห้าของปีใหม่โดยไม่หยุดปากอีกด้วย
ทำเอาตอนนี้เธอแค่ได้ยินว่ามีลูกก็รู้สึกสะอิดสะเอียนใจไปโดยปริยาย นึกอยากหนีไปทานข้าวที่เงียบ ๆไม่มีคนรู้จักเธอสักมื้อ!
เธอทนมามากพอแล้ว!
เปิดเผยความจริงไปก็ดี อนาคตถ้ามีใครเอ่ยถึงเรื่องมีลูกอีกเธอจะโต้กลับไปด้วยประโยคเดียวว่า “ฉันมีลูกไม่ได้ ใครอยากมีก็ไปคลอดเอง!”
“อิงจวี้กังไม่ยอมหย่าแน่ ๆ เธออย่าคิดเลย…ถ้าไม่ได้จริง ๆก็อุ้มบุญ ตระกูลอิงก็แค่อยากมีคนไว้สืบตระกูลไม่ใช่เหรอ!” ฉีฉีเก๋อเสนอความคิดดี ๆขึ้นได้
………………………………
ตอนที่ 2672 อย่าเพิ่งรีบร้อนจะรับเลี้ยงเด็กกำพร้า
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนส่ายศีรษะ “ฉันเสนอไปแต่แรกแล้ว สามีฉันไม่ยอม เขาบอกว่าแค่คิดว่าลูกตัวเองต้องเติบโตในท้องคนอื่นมันรู้สึกแปลก ๆ แล้วยังใช้มดลูกผู้หญิงคนอื่นด้วย เขายอมไปรับเด็กกำพร้าคนหนึ่งมาเลี้ยงยังจะดีกว่า”
ความจริงเธอไม่ถือสาหรอกเพราะตั้งแต่ปีแรกที่ตรวจเจออาการนี้เธอก็เสนอให้หาแม่อุ้มบุญ อาศัยมดลูกคนอื่นในการมีลูกแทน แต่อิงจวี้กังคัดค้านอย่างหนัก ทั้งคู่ยังทำสงครามเย็นเพราะเรื่องนี้ไปตั้งหลายวันแหนะ!
แม้สุดท้ายอิงจวี้กังจะอ่อนลงแต่เขาไม่ยอมอนุญาตง่าย ๆ เธอจึงไม่เอ่ยถึงมันอีก!
จะว่าไปความจริงเธอก็รู้สึกแปลก ๆในใจเช่นกัน!
ฉีฉีเก๋อมองเพื่อนด้วยความอิจฉาแล้วพูดชมว่า “เชี่ยนเชี่ยนเธอนี่เลือกผู้ชายเก่งจริง ๆ ใครจะไปรู้ว่าอิงจวี้กังที่หน้าตาเฉย ๆจะมีความเป็นลูกผู้ชายขนาดนี้!”
ครั้งแรกที่เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนคบหากับอิงจวี้กับเธอยังแอบเสียดายแทนเพื่อน ในเมื่อเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็เหนือกว่าอิงจวี้กังที่มาจากหมู่บ้านชาวเขาเล็ก ๆหน้าตาแสนจะธรรมดาไม่มีความโดดเด่นคนนี้ไม่ใช่น้อย ๆ…
ส่วนฉางชิงซานแม้จะมาจากหมู่บ้านเล็ก ๆเช่นกันแต่ฉางชิงซานตัวสูงโปร่งหน้าตาดีมีคนรู้จักมาก ไม่ว่าจะในตอนอยู่มหาวิทยาลัยหรือเข้าสังคมก็มีชีวิตที่ดีไม่แพ้กัน
สองคนนี้คนหนึ่งเป็นบุคคลมีชื่อเสียงในมหาวิทยาลัย อีกคนกลับไร้ชื่อเสียงไม่มีแสงออร่าใด ๆเลย
แต่มาดูเอาตอนนี้เธอแววตาสู้เพื่อนไม่ได้จริง ๆ อิงจวี้กังต่างหากที่เป็นหยกบริสุทธิ์ชิ้นนั้น!
ตอนนี้บริษัทของเขากำลังไปได้ดีขยายกิจการใหญ่โตขึ้นเรื่อย ๆซึ่งถือว่าเป็นคนที่ประสบความสำเร็จที่สุดในบรรดาเพื่อนผู้ชายในห้องแล้ว พอย้อนกลับไปมองฉางชิงซาน…ดันกลายเป็นนักโทษที่ชีวิตกำลังตกต่ำ
ชีวิตช่างไม่แน่นอนเอาเสียเลย!
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนได้ใจขึ้นมาในทันที “แหงอยู่แล้ว เลือกผู้ชายก็เหมือนซื้อของ ฉันไม่เคยขาดทุนมาก่อนนะ…”
เหมยเหมยเอ่ยแทรกเธอที่กำลังโม้ด้วยเสียงเย็นชา “ยาลดความอ้วนหล่นลงมาจากฟ้าสินะ?”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนยู่หน้าทันที ห่อไหล่ไม่กล้าปริเสียงอีกแม้แต่นิดเดียว!
ชีวิตนี้เคยขาดทุนแค่ครั้งเดียว เกรงว่าจะกลายเป็นความละอายติดตัวไปทั้งชีวิตแล้วล่ะ…
โทรศัพท์ของเหมยเหมยแผดเสียงดังขึ้นซึ่งอิงจวี้กังเป็นคนโทรมาฟังดูกำลังร้อนใจอย่างมาก “เชี่ยนเชี่ยนเป็นอย่างไรบ้าง? เธอบอกหล่อนว่าอย่าคิดอะไรเหลวไหลนะ ฉันไม่มีวันหย่าแน่นอน เรื่องลูกฉันจัดการเสร็จแล้ว ไว้ผ่านปีใหม่ก็ไปรับเด็กที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าได้เลย!”
“พ่อแม่นายอนุญาตแล้วเหรอ?” เหมยเหมยฉงนใจอย่างมาก
แค่เวลาสั้น ๆอิงจวี้กังสามารถหว่านล้อมพ่อแม่ตระกูลอิงที่มีความคิดหัวโบราณอย่างนั้นได้หรือ?
“อนุญาตแล้ว ไว้ผ่านเทศกาลหยวนเซียวพวกท่านจะไปกับเราด้วย…” อิงจวี้กังพูดเสียงแน่วแน่แต่กลับแฝงด้วยความระอาหน่อย ๆ
หลังจากเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนไปกับพวกเหมยเหมย เขาก็ระเบิดอารมณ์ใส่ที่บ้านไประลอกหนึ่ง ทั้งยังบอกให้ฮุ่ยเซียงไปนอนโรงแรมแทนแล้วสั่งสอนพ่อแม่ไปยกหนึ่งโดยทิ้งคำข่มขู่เอาไว้–
ถ้าบีบบังคับให้เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนออกไปจากบ้าน เขาก็จะไปบวชเป็นพระ!
อิงจวี้กังเป็นคนที่ตัดสินใจแล้วไม่มีวันเปลี่ยนใจตั้งแต่เด็กเลยทำเอาพ่อแม่ตระกูลอิงตกใจแทบแย่ ถ้าไม่หย่าแม้ว่าจะไม่มีหลานแท้ ๆ แต่อย่างน้อยลูกชายยังเป็นของพวกเขา ถ้าหย่าไปนอกจากจะไม่มีหลานยังเสียลูกชายไปอีกคน แล้วพวกเขามีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไรอีกล่ะ?
พ่อแม่ตระกูลอิงที่ไร้หนทางเลยจำต้องตกลงไม่พูดถึงเรื่องหลานอีก แถมยังบอกว่าหลังปีใหม่จะพาฮุ่ยเซียงกลับบ้านเกิดแล้วจะไม่เอ่ยถึงเรื่องเก่า ๆพวกนี้อีก!
โทรศัพท์ถูกกดปุ่มลำโพงทำให้เสียงอิงจวี้กังดังออกมาข้างนอกอย่างชัดเจน
เหมยเหมยขยิบตาใส่เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนที่กำลังทำหูตั้งพร้อมเอ่ยกับอิงจวี้กังว่า “พวกนายอย่าเพิ่งรีบจะไปรับเลี้ยงเด็ก ฉันรู้จักหมอสูตินรีเวชฝีมือขั้นเทพคนหนึ่ง เขาน่าจะช่วยปรับสภาพร่างกายของเชี่ยนเชี่ยนให้ดีขึ้นได้ พวกนายรออีกหนึ่งปี ถ้าหนึ่งปีแล้วยังไม่มีผลค่อยไปรับเลี้ยงเด็กก็ยังไม่สาย!”
อิงจวี้กังกลับไม่ตั้งความหวังอะไรมาก หลายปีมานี้คุณหมอที่เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนไปหามีคนไหนบ้างไม่โอ้อวดตัวเองว่าเป็นหมอสูตินรีเวชฝีมือขั้นเทพ?
แต่ผลลัพธ์…กลับยากที่จะเอื้อนเอ่ย!
แล้วยังทำให้เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนทรมานไปตั้งมาก!
แต่นี่ก็เป็นความหวังดีของเหมยเหมยที่อิงจวี้กังไม่อาจปฏิเสธไปตรง ๆได้ เขากำลังลังเลว่าควรใช้คำพูดไหนถึงดูอ้อมค้อมบ้างแต่เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกลับโวยเสียงขึ้นมาว่า “ฉันยอม!”
………………