ตอนที่ 2673 หมอสูตินรีเวชฝีมือขั้นเทพ
อิงจวี้กังเป็นห่วงเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนจะทุกข์ทรมานอีกเลยถามตำแหน่งของโรงน้ำชาก่อนจะขับรถมาด้วยความรีบเร่งไม่ทันเปลี่ยนรองเท้าฟองน้ำเสียด้วยซ้ำ เสื้อผ้าก็เป็นชุดลำลองสำหรับอยู่บ้านอยู่เลย
“พ่อแม่ฉันอนุญาตให้รับเลี้ยงเด็กแล้ว เธอจะลำบากตัวเองทำไมอีกล่ะ?” อิงจวี้กังพยายามเกลี้ยกล่อม
หลายปีมานี้ยาที่เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนทานไปทั้งหมด ลำพังแค่เศษยาสมุนไพรก็กองเป็นภูเขาลูกเล็ก ๆได้แล้ว แค่นี้ก็ช่างปะไรแต่สิ่งที่เขาปวดใจมากที่สุดคือการฝังเข็ม เขาแทบนับจำนวนครั้งที่เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเคยโดนฝังเข็มไม่ได้แล้วว่าโดนไปเท่าไร…อีกอย่างเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนยังกลัวเข็มมากด้วย ปกติแค่ตรวจเลือดยังตื่นกลัวอยู่ตั้งนาน ไม่รู้ว่าอดทนผ่านการฝังเข็มมาได้อย่างไร!
ภรรยาแต่งเข้าบ้านไว้เพื่อรักใคร่ ไม่ใช่เป็นหุ่นยนต์สำหรับคลอดลูกไว้สืบทอดตระกูลสักหน่อย!
อีกอย่างเขาไม่ได้เห็นความสำคัญเรื่องสืบทอดตระกูลนั่นมากเท่าไร เรื่องมีลูกก็ต้องขึ้นอยู่กับโชคชะตา หากมีก็เลี้ยงดูให้ดี ถ้าไม่มีก็ไม่จำเป็นต้องเสียใจ ในชีวิตนี้แค่ได้จับมือกับหญิงผู้เป็นที่รักจนแก่เฒ่าไปด้วยกันเขาก็พอใจมากแล้ว!
อีกอย่างรับเลี้ยงเด็กคนหนึ่งไม่ดียิ่งกว่าหรือ!
ทั้งช่วยลดภาระแก่รัฐบาลแล้วยังสนองความต้องการที่พ่อแม่เขาอยากอุ้มหลานได้ด้วย ไหนจะช่วยให้เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนไม่ต้องทนลำบากเรื่องทานยาฝังเข็มอีก…ยิงธนูนัดเดียวได้นกตั้งสามตัว!
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนฉุกนึกถึงยาที่รสชาติขมนั่นรวมถึงเข็มที่ทำเอาตกใจแทบตายขึ้นได้…ก็ตัวสะท้านเฮือกหลายทีอย่างอดไม่ได้ แต่ก็ยืนกรานพูดว่า “ไม่กลัว…ฉันทนมาตั้งหลายปี แค่ปีเดียวจะเท่าไหร่เชียว!”
หมอฝีมือขั้นเทพที่เหมยเหมยรู้จักต้องไม่ใช่คนทั่วไปและต่างไปจากหมอที่เธอเคยหามาทั้งหมดแน่ ๆ เธอยอมลองอีกสักตั้ง ไม่แน่อาจจะสำเร็จก็ได้!
มีแต่พระเจ้าที่รู้ว่าเธออยากมีลูกน่ารักอย่างเล่อเล่อกับเป่ารื่อน่าสักคน!
ต่อให้ลำบากอีกเท่าไรก็ไม่กลัว!
เห็นภรรยาตัดสินใจแน่วแน่อิงจวี้กังก็ถอนหายใจอย่างระอา พลางเอ่ยอย่างไม่พอใจว่า “ถึงคราวโดนฝังเข็มอีกฉันไม่ให้เธอกัดแขนฉันแล้วนะ!”
“ฉันกัดของตัวเองก็ได้…” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกลอกตาใส่ทีหนึ่ง
หึ ปากแข็งเอาตอนนี้ หากถึงเวลาจริงอิงจวี้กังก็ต้องยื่นแขนมาให้อยู่ดี ผู้ชายคนนี้ตกอยู่ในเงื้อมมือเธอแล้ว!
เหมยเหมยไม่ชินกับการพลอดรักหวานแหววของสองคนนี้เลยกระแอมไอหนัก ๆ “ใครบอกจะฝังเข็มกัน หมอฝีมือขั้นเทพของฉันคนนี้แค่ทานยาก็พอ เอาเถอะ พวกเธอกลับไปฉลองปีใหม่ก่อน วันที่แปดค่อยมาตรวจชีพจรที่บ้านฉัน!”
“ฉันมีเวลา พรุ่งนี้เลยก็ได้!” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนนึกคร่ำครวญว่าวันที่แปดนานเกินไป นึกอยากไปตรวจชีพจรเสียเดี๋ยวนี้เลย!
เหมยเหมยกลอกตาใส่เธอทีหนึ่งแล้วพูดประชด “เธอคิดว่าหมอฝีมือขั้นเทพนั่งอยู่บ้านว่างงานไปวัน ๆเหรอ เขาเดินทางไปทั่วโลกยังตามหาตัวไม่เจอ ฉันต้องไปหาเขาก่อน!”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนตาลุกวาว นี่ฟังแล้วเหมือนคนที่มีวรยุทธสูงในนิยายกำลังภายในเลย…เมื่อไรที่เหมยเหมยออกตัวต้องไม่ธรรมดาตามคาดจริง ๆด้วย ครั้งนี้ไม่แน่เธออาจจะมีหวังก็ได้!
“ได้…วันที่แปดฉันจะไปบ้านเธอนะ…เธอให้ป้าฟางทำกัวเปาโร่วเยอะ ๆล่ะ ฉันไม่ได้ทานกับข้าวฝีมือป้าตั้งนานแล้ว!” ความเครียดหายไปจากใบหน้าเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนทันทีแล้วกลับมาร่าเริงสดใสเฉกเช่นปกติอีกครั้ง
เหมยเหมยตอบรับอย่างลวก ๆพลางแอบคิดในใจว่าจะไปตามหาคุณลุงกู้จากที่ไหน หลังจากเขาตามหาศิษย์พี่ของคุณแม่เจอ สองตระกูลโจวกู้ก็มีผู้สืบทอดกันทั้งสองตระกูล เขาเลยใช้ชีวิตอิสระจนปีหนึ่งก็ยังไม่เจอแม้แต่เงาหัว ระยะเวลาสั้น ๆจะให้เธอไปตามหาจากไหนกันนะ?
แม้เธอตัดสินใจจะให้เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนทานยาวิเศษแต่จะไม่ทำการรักษาให้แล้วเอายาวิเศษให้กินเลยก็ไม่ได้ สองสามีภรรยาเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนไม่ได้หลอกง่ายขนาดนี้!
อีกอย่างให้คุณลุงกู้ตรวจชีพจรให้เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนก็ดี ดูว่าสาเหตุอาการป่วยของเธอคืออะไร
เพียงแต่คุณลุงกู้ไปผจญภัยอยู่ที่ไหนกันแน่?
“ให้คุณลุงกู้มารักษาอาการป่วยของเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเหรอ? เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนมีชีวิตชีวากระโดดโลดเต้นได้ขนาดนี้จะป่วยเป็นอะไรได้?”
ตกดึกเหมยเหมยถามหาคุณลุงกู้จากเหยียนหมิงซุ่นแล้วบอกสาเหตุที่ต้องการตามหาคุณลุงกู้ไปเลยสร้างความตกใจให้แก่เหยียนหมิงซุ่นอย่างมาก
………………………..
ตอนที่ 2674 วิถีเทพเซียน
เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนมากนักแต่พอจะรู้อยู่บ้าง อีกฝ่ายเป็นหญิงสาวชาวเหนือที่มีนิสัยโผงผางตรงไปตรงมาชอบพูดเสียงดังแต่เป็นคนมีน้ำใจ แค่จุดนี้เหยียนหมิงซุ่นถึงไม่ห้ามเหมยเหมยคบเหริ่นเชี่ยนเชี่ยน
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนในความทรงจำเขาทานได้ดื่มได้โวยวายได้เป็นปกติ แถมยังร่างกายอ้วนท้วมสมบูรณ์ดี คนที่แข็งแรงขนาดนี้มีอะไรต้องหาหมอด้วยหรือ?
“เชี่ยนเชี่ยนมีลูกไม่ได้ ฉันอยากใช้ยาวิเศษปรับสภาพร่างกายให้เธอ แต่ต้องหาหมอมาช่วยตรวจชีพจรให้เธอก่อน!” เหมยเหมยมองค้อนใส่เขาแวบหนึ่ง สดใสร่าเริงแล้วต้องแข็งแรงไม่ป่วยหรือไง?
เหยียนหมิงซุ่นตกใจและเห็นใจเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนขึ้นมาเล็กน้อย ในฮวาเซี่ยการที่ผู้หญิงคนหนึ่งมีลูกไม่ได้นับว่าเป็นความผิดมหันต์แล้วต้องได้รับแรงกดดันอย่างมาก นึกไม่ถึงว่าเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนที่สดใสขนาดนี้จะมีเรื่องน่าเศร้าด้วยเช่นกัน!
“คุณลุงกู้ไปเผ่าเหมียวเจียงหนีเข้าป่าลึกไปแล้ว ตอนนี้คงติดต่อเขาไม่ได้ อย่างน้อยต้องหนึ่งเดือน หรืออาจจะนานกว่านั้น!” เหยียนหมิงซุ่นกล่าว
คุณลุงกู้เป็นคนนิสัยประหลาดแถมไม่รู้จักกับเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนด้วย เขากำลังเที่ยวสนุกที่เหมียวเจียงอย่างมีความสุข คงเป็นไปไม่ได้ที่จะกลับมาเมืองหลวงเพื่อเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนโดยเฉพาะ
“แล้วจะทำยังไงล่ะ…ฉันรับปากเชี่ยนเชี่ยนไปแล้ว…ฉันไม่สน พี่ต้องช่วยฉันคิด!” เหมยเหมยเริ่มอ้อนพลางเขย่าแขนเหยียนหมิงซุ่นแรง ๆ
เหยียนหมิงซุ่นดีดจมูกเธอทีหนึ่ง แม้จะรู้สึกเอือมระอาแต่กลับดื่มด่ำกับการอ้อนของเหมยเหมยอย่างมาก เลยชี้ที่แขนจงใจพูดขึ้นว่า “ช่วงนี้อ่านเอกสารเยอะไปหน่อย เมื่อย…”
เหมยเหมยเข้าใจทันทีแล้วพูดอย่างเอาใจว่า “ฉันจะช่วยบีบให้นะ…”
“สบายไหม…ให้แรงกว่านี้ไหม…” เหมยเหมยพยายามเอาใจสุดฤทธิ์
เหยียนหมิงซุ่นแค่ล้อเล่นเฉย ๆ เขาจะทำใจให้อีกฝ่ายเหนื่อยได้อย่างไร ให้เหมยเหมยบีบอยู่ครู่เดียวก็สั่งหยุดแล้วเสนอความคิดของเขาไป เหมยเหมยชะงักไปพักใหญ่ “ได้เหรอ? ถ้าความแตกขึ้นมาจะทำยังไง?”
“เป็นไปไม่ได้ คนที่ฉันหาก็เป็นแพทย์แผนจีนเหมือนกัน ไม่ได้หลอกสักหน่อย ขอแค่ยาวิเศษใช้ได้ผลก็พอ” เหยียนหมิงซุ่นไม่คิดจะไปตามหาคุณลุงกู้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ไม่จำเป็นต้องวุ่นวายขนาดนั้น
ในเมืองหลวงมีหมอชื่อดังตั้งมากมาย ฉะนั้นหาใครสักคนมารักษาเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนก็พอ อย่างไรเสียทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับยาวิเศษของเหมยเหมย!
ไม่นานเหมยเหมยก็คิดได้ ถ้ายาวิเศษของเธอยังใช้ไม่ได้ผล ต่อให้คุณลุงกู้มาก็เปล่าประโยชน์ ไม่จำเป็นต้องไปตามหาคุณลุงตามป่าตามเขาหรอก!
พริบตาเดียวก็มาถึงวันที่แปด เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเริ่มโทรมาตั้งแต่เช้าแปดโมงถามว่าหมอฝีมือขั้นเทพมาถึงหรือยัง เหมยเหมยโดนกวนจนอยากด่าอยู่หลายทีแต่พอนึกถึงความขมขื่นในใจของเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนก็อดกลั้นเอาไว้
“เก้าโมงครึ่งค่อยมา มาเช้าสักนาทีเดียวก็อย่าคิดจะเข้าบ้าน!”
เหมยเหมยกัดฟันพูดจนจบแล้ววางสายกลับไปนอนต่อก็นอนไม่หลับเลยตื่นมาล้างหน้าแปรงฟันแล้วหยิบยาวิเศษที่ตระเตรียมไว้แต่แรกมาติดตัวไว้
หมอฝีมือขั้นเทพที่เหยียนหมิงซุ่นหามาไม่ใช่หมอทั่วไปแต่เป็นหมอทหารในกองทัพคนหนึ่ง อายุไม่มากราว ๆสี่ห้าสิบปีแต่ฝีมือดีไม่หยอก แค่อายุน้อยไปสักหน่อย นอกจากนี้หน้าตายังดูดีพอสมควร
เหมยเหมยมองอย่างไรก็รู้สึกแปลกใจ ชายสุภาพในชุดสูทแสนดูดีคนนี้ดูอย่างไรก็ไม่เหมือนหมอสูตินรีเวชฝีมือขั้นเทพเลยนี่นา!
ไม่มีบุคลิกตามวิถีเทพเซียนอย่างคุณลุงกู้เลยสักนิด!
เหยียนหมิงซุ่นฟังคำบ่นของเหมยเหมยก็ร้องไห้ไม่ได้หัวเราะไม่ออก คุณหมอไม่ใช่ดารานักแสดงสักหน่อยจะให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอกมากมายไปทำไมกัน?
แต่ท่านภรรยาสั่งก็จำต้องให้ป้าฟางแต่งหน้าให้หมอทหารคนนี้สักหน่อย เปลี่ยนชุดสูทเป็นเสื้อหม่ากว้า[1]แล้วติดหนวดยาวพลิ้วไหว ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ พอทำแล้วบุคลิกเปลี่ยนไปทันตาเห็น
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนมาถึงในเวลาเก้าโมงครึ่งเป๊ะ พอเข้าบ้านมาก็เห็น ‘หมอฝีมือขั้นเทพ’ ที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น
สวมเสื้อหม่ากว้ายาวหนวดยาวสยายมีกลิ่นอายเพทเซียนแผ่ออกจากตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า แค่ดูก็รู้ว่าเป็นคนเก่งที่อาศัยอยู่กลางป่ากลางเขา!
………………………
[1] เสื้อคลุมแขนยาวที่เดิมทีสวมตอนขี่ม้า