ด้านหลังของหลัวซิว ลู่เมิ่งเหยากำลังเขม็งมองเงาหลังของเขา นาง ณ ปัจจุบันและเขาอยู่ใกล้กันแค่เอื้อม ทว่ากลับอยู่ห่างไกลกันสุดขอบฟ้า นางกัดริมฝีปากที่แดงเถือกอย่างอดไม่ได้ พลางรู้สึกทอดถอนใจ

ภายใต้การจัดแจงของสำนักหนานเหมิน พวกหลัวซิวมาถึงตรงหน้าหลุมดำเอกภพ มกุฎเทพทั้งสามคนนั้นที่กำลังปลุกเสกหลุมดำลืมตาขึ้นมา แค่มองมาทางนี้อย่างเรียบนิ่งรอบหนึ่ง จากนั้นก็ไม่ได้สนใจอีกเลย

การส่งกำลังพลเข้ามาในหลุมดำเพื่อไปปราบปรามพิภพต่ำเทพฟ้านั้นถือเป็นเรื่องที่ปกติมาก ๆ แม้คนเหล่านี้จะถูกส่งมาโดยหัวหน้าแก๊ง ทว่ามันก็ไม่น่าสงสัยมากนัก สำหรับเรื่องที่หัวหน้าแก๊งถูกผู้อื่นควบคุมให้กลายเป็นหุ่นเชิดนั้น ยิ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนล้วนคาดการณ์ไม่ถึง

“ไปกันเถอะ”

ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก หลัวซิวก็เป็นคนแรกที่ย่างเท้าเดินเข้าไปก่อน เสี้ยววินาทีที่เงาร่างหายเข้าไปในหลุมดำ ตัวเขาก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว

ถัดจากนั้น ฉียู่หรง หนิงหานยู่ จีเสี่ยวจื่อและลู่เมิ่งเหยาก็เดินตามเข้าไปเช่นกัน

ภายในเวลาชั่วพริบตาเดียว ห้วงเวลาที่อยู่ตรงหน้าก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ราวกับเคลื่อนที่ไป ๆ มา ๆ อยู่ในสายน้ำแห่งห้วงเวลา ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมาก ๆ แต่ก็เหมือนผ่านพ้นกาลเวลาที่ยาวนานอย่างไม่รู้จบเช่นกัน

หลังจากทุกอย่างฟื้นฟูกลับคืนสู่สภาพเดิมแล้ว หลัวซิวพบว่าร่างตัวเองอยู่ในห้วงดาราอีกที่หนึ่งแล้ว พลังจิตดาราของที่นี่เบาบางอย่างยิ่ง สามารถมองเห็นดาวเคราะห์มีชีวิตอยู่ในตำแหน่งที่ห่างออกไปไม่ไกล

ภายในเวลาชั่วขณะ สตรีทั้งสี่ก็ถูกส่งมาเช่นกัน นอกจากจีเสี่ยวจื่อที่ไม่เป็นอะไรมากแล้ว สีหน้าของสตรีอีกสามนางต่างดูไม่ค่อยดี เนื่องจากขณะที่ทะลุผ่านห้วงเวลาในเมื่อครู่นี้ ปริภูมิเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมาก ๆ หากไม่ใช่ผู้ที่ฝึกและยึดกุมกฎปริภูมิ ก็จะรู้สึกวิงเวียนศีรษะคล้ายไม่สบาย

โดยเฉพาะลู่เมิ่งเหยาที่ผลการฝึกตนค่อนข้างต่ำ ปฏิกิริยาของนางใหญ่โตมากที่สุด รู้สึกคลื่นไส้ทันที

ด้านหลังของทั้งห้าก็มีหลุมดำเอกภพหนึ่งหลุมเช่นกัน ซึ่งเชื่อมต่อกับหลุมดำฝั่งโลกะอิมเอี๊ยง ส่วนบริเวณรอบ ๆ ของหลุมดำดังกล่าว มีป้อมปราการหลายป้อมลอยอยู่บนนภา และมีนักยุทธ์จำนวนมากคอยตั้งมั่นรักษาอยู่ในป้อม

ยิ่งกว่านั้นคือหลัวซิวสัมผัสออร่ามกุฎเทพได้จากที่นี่ด้วย!

สถานที่ดังกล่าวตั้งอยู่ในห้วงดารา ซึ่งยังไม่เข้าสู่เขตแดนของพิภพต่ำ ด้วยเหตุนี้จึงไม่ถูกกฎจักรวาลฟ้าดินผูกมัด ขอแค่มีมกุฎเทพคนหนึ่งคอยปกปักรักษาอยู่ที่นี่ เกราะป้องกันของสถานที่ดังกล่าวก็จะแข็งแกร่งมากจนยากที่จะทลาย นักยุทธ์ในพิภพต่ำอย่างโลกาเทพฟ้าไม่มีวิธีที่จะมาทำลายเกราะป้องกันของที่นี่ได้เลยด้วยซ้ำ

“ผู้มาเยือนคือผู้ใด?”นักยุทธ์กลุ่มหนึ่งเดินตรงมา ซึ่งนักยุทธ์เหล่านี้ล้วนเป็นบริวารของสมาคมเฟยหยาง ผลการฝึกตนของผู้ที่เป็นผู้นำคือราชาเทพ

หลัวซิวไม่ได้พูดอะไร ยกมือขึ้นแล้วพลิกมือทีหนึ่ง หยิบป้ายบัญชาการออกมาหนึ่งชิ้น

“กราบคารวะนายท่าน!”

เมื่อนักยุทธ์เหล่านี้เห็นป้ายบัญชาดังกล่าว สีหน้าของแต่ละคนจึงเปลี่ยนแปลงไปในทันที ต่างพากันคุกเข่าลงบนพื้นแล้วคารวะอย่างเคารพนอบน้อม

เนื่องจากป้ายบัญชาการชิ้นนี้คือบัญชาประมุข เมื่อเห็นป้ายดังกล่าว ก็เหมือนดั่งหัวหน้าแก๊งมาเยือนด้วยตนเอง

มีคนปรากฏพร้อมกับบัญชาประมุขในมือ ทำให้เหล่ามกุฎเทพที่คอยปกปักรักษาอยู่ที่นี่ก็ตื่นตะลึงเช่นกัน

“ท่านหัวหน้าแก๊งมีคำสั่งอะไรหรือไม่?”

หลังจากมองดูบัญชาประมุขที่อยู่ในมือหลัวซิวแล้ว ผู้อาวุโสที่อยู่ในชุดคลุมยาวเทาคนหนึ่งจึงเอ่ยปากถาม

“หัวหน้าแก๊งมีคำสั่ง ให้เจ้าพาคนในสมาคมรีบถอยกลับเดี๋ยวนี้”หลัวซิวตอบกลับอย่างเรียบนิ่ง

“ถอยกลับ?”ผู้อาวุโสมกุฎเทพผงะเล็กน้อย “หลุมดำเอกภพนี้อย่างน้อยก็สามารถประคองต่อไปได้ร้อยปี ระยะเวลาร้อยปี จากศักยภาพของสมาคมเรา เพียงพอที่จะกวาดล้างโลกาเทพฟ้านับร้อย ทว่าจะถอยกลับบัดนี้หรือ?”

ในระหว่างที่พูดคุยกัน ภายในแววตาที่ผู้อาวุโสมกุฎเทพคนนี้เขม็งมองหลัวซิวมีความสงสัยปนอยู่เล็กน้อย

“ระยะเวลาร้อยปี เพียงพอที่จะค้นและรีดไถทรัพย์สินได้มากดุจมหานที ข้าเชื่อมั่นในความฉลาดและวิสัยทัศน์ของหัวหน้าแก๊ง ท่านไม่มีทางตัดสินใจกระทำเช่นนี้แน่นอน”ผู้อาวุโสมกุฎเทพพูดกระแทกเสียงต่ำ