บทที่ 2685 จำใจ + ตอนที่ 2686 คิดสั้น

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 2685 จำใจ

อิงจวี้กังกับพ่อแม่ของทั้งคู่ต่างก็วิ่งตามมาพลางถามว่าเกิดอะไรขึ้น

“เหมยเหมยบอกว่าแม่ของเด็กอาจจะกระโดดน้ำฆ่าตัวตายเลยให้เรามาตามหาที่สวนสาธารณะ…” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนอุ้มเด็กจึงไม่กล้าวิ่งเร็วเกินไปเลยอยู่รั้งท้ายสุด

“ฆ่าตัวตาย? พวกเธอรู้จักแม่ของเด็กคนนี้เหรอ?” คุณแม่อิงรู้สึกฉงนใจ

“จะรู้จักได้ยังไง เหมยเหมยคาดคะเนเอาต่างหาก…โอ๊ย…อิงจวี้กังนายช่วยอุ้มแทนฉันหน่อย ฉันเมื่อยแขนไปหมดแล้ว!” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนตะโกนใส่อิงจวี้กัง

อิงจวี้กังถลาเข้าไปรับเด็กมาอุ้มแต่แขนเกร็งไม่รู้ควรวางไว้ตรงไหนดี ท่วงท่าดูพิลึกแปลก ๆจนคุณแม่ทนมองต่อไม่ไหวเลยรับเด็กไปอุ้มเสียเอง ครั้นเห็นใบหน้ายามนอนหลับของเด็กก็ยิ้มร่า

“เด็กคนนี้เลี้ยงง่ายจริง ๆ เสียงดังขนาดนี้ยังไม่ตื่นเลย ดูสิว่าหลับสนิทแค่ไหน!”

“นั่นสิ…ไว้พาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลอีกที ถ้าไม่มีโรคอะไรเราก็รับเลี้ยงคนนี้แหละ บุญวาสนาไม่ได้หากันง่าย ๆ!” คุณแม่เหริ่นยิ่งมองเด็กคนนี้ก็ยิ่งชอบใจ แม้ตัวเล็กไปหน่อยแต่ถ้าดูแลให้ดีต้องตัวอ้วนและขาวขึ้นแน่ ๆ!

พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายต่างรู้สึกดีและชอบใจต่อเด็กที่เก็บมาจากริมทางคนนี้อย่างมาก เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกระซิบพูดกับอิงจวี้กังว่า “พวกเรารับเลี้ยงลูกแทนพวกเขาอยู่นะ…จะไม่ถามความคิดเห็นเราสองคนบ้างเลย!”

อิงจวี้กังเอ่ยปลอบใจ “พวกท่านพอใจก็พอ อีกอย่างเธอก็ชอบเด็กคนนั้นเหมือนกันไม่ใช่เหรอ…เป็นเรื่องน่ายินดีไม่ใช่หรือไง?”

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนแค่นเสียงใส่ทีหนึ่งโดยไม่พูดอะไรอีก เธอก็ชอบเจ้าหนูคนนั้นอยู่หรอก ตัวเล็ก ๆอุ้มอยู่ในอ้อมแขนยังใจแทบละลายเลย แต่ปัญหาคือเด็กคนนี้มีที่มาที่ไปไม่ชัดเจนนี่นา!

ถ้าเกิดเธอเลี้ยงจนเกิดความผูกพันขึ้นมา พ่อแม่เด็กมาตามขอคืนถึงบ้านเธอก็ขาดทุนแย่สิ!

ไม่ได้การล่ะ คุณหนูใหญ่เหริ่นอย่างเธอไม่เคยทำการค้าขายที่ขาดทุน ต่อให้ต้องรับเลี้ยงจริง ๆก็ต้องสืบประวัติของเด็กให้แน่ชัด ไม่อย่างนั้นยอมไม่รับมาเลี้ยงยังจะดีกว่า!

เหมยเหมยกับฉีฉีเก๋อวิ่งนำอยู่ข้างหน้าสุด วันนี้ลมค่อนข้างแรงเลยไม่เห็นใครในสวนสาธารณะแม้แต่คนเดียว บรรยากาศเงียบเหงาจึงขับให้สวนสาธารณะขนาดใหญ่ดูอ้างว้างเป็นพิเศษ พวกเธอสองคนไม่คุ้นเส้นทางเลยวิ่งวนอยู่หนึ่งรอบก็ไม่เจอทะเลสาบสักที แถมไม่มีคนให้ถามทางสักคนเดียว

“หรือว่าสวนสาธารณะที่นี่ไม่มีทะเลสาบ…ใช่แล้ว…เหมยเหมยเธอรู้ได้ไงว่าแม่ของเด็กเฝ้าดูอยู่ตลอด?” ฉีฉีเก๋อหยุดวิ่งประคองเหมยเหมยที่วิ่งจนเหนื่อยหอบก่อนจะเอ่ยถามคำถามในใจไป

เหมยเหมยทั้งรู้สึกแสบและเจ็บคอไปหมด พักอยู่ครู่หนึ่งถึงสบายขึ้นก็อธิบายไปว่า “เธอก็เป็นแม่คนแล้ว เธอลองจินตนาการว่าเป็นตัวเองดู ถ้าเธอเจอเรื่องลำบากไม่สามารถเลี้ยงลูกต่อไปได้ อย่างน้อยก็ต้องช่วยหาบ้านที่จะรับเลี้ยงลูกสาวให้ได้ก่อนใช่ไหมล่ะ? อีกอย่างคงไม่ทิ้งลูกไว้เรี่ยราดแล้วหนีไปหรอก…”

ฉีฉีเก๋อตบกบาลตัวเองทีหนึ่งแล้วก็เข้าใจอย่างถ่องแท้ “นั่นสิ…ถ้าเปลี่ยนเป็นฉัน ต่อให้มีชีวิตอยู่ต่อไม่นานจริง ๆก็ต้องหาบ้านที่พึ่งพาได้ให้เป่ารื่อน่าก่อน ไม่งั้นจะตายยังไงก็ไม่สบายใจ…โอ้ย…เหมยเหมยเธอนี่ฉลาดจริง ๆ!”

เหมยเหมยกวาดตามองสภาพแวดล้อมรอบตัว สวนสาธารณะแห่งนี้ช่างกว้างขวางนัก มองไกลออกไปไม่เห็นปลายทางด้วยซ้ำ

“เรารีบไปหากันเถอะ หวังว่ายังทัน ไม่รู้ว่าแม่ของเด็กเจอเรื่องลำบากอะไรกันแน่” เหมยเหมยรู้สึกหนักอึ้งที่หัวใจ ต้องพบเจออุปสรรคแบบไหนกันนะ…ถึงทำให้คุณแม่คนหนึ่งทอดทิ้งลูกตัวเองได้?

อีกอย่างดูจากกองเลือดใต้ต้นไม้เมื่อครู่ก็ทำให้เหมยเหมยรู้สึกไม่ดียิ่งกว่าเดิม ถ้าไม่รีบตามหาให้พบเธอจะโทรหาเหยียนหมิงซุ่นให้ลูกน้องของเขาไปตามหาแทน!

ในเมื่อเจอแล้วก็ยื่นมือช่วยเหลือสักครั้งแล้วกัน!

ถือว่าเป็นการสะสมบุญให้แก่เล่อเล่อ!

“ตรงนั้นเหมือนจะมีทะเลสาบ…ฉันไปดูก่อน…” ฉีฉีเก๋อตัวสูงมองได้ไกล ไม่นานเลยมองเห็นจึงชิงวิ่งนำหน้าไปก่อน

…………………………..

ตอนที่ 2686 คิดสั้น

พวกอิงจวี้กับเหมยเหมยแทบจะเดินทางมาถึงริมทะเลสาบในเวลาเดียวกัน ฉีฉีเก๋อเหมือนกำลังคุยกับใครบางคนอยู่ทั้งยังโบกมือไปมาไม่หยุด ดูท่าทางร้อนรนใจอย่างมาก

ริมทะเลสาบมีหญิงสาวผอมซูบคนหนึ่งนั่งหันหลังให้พวกเขาอยู่ แต่งตัวด้วยชุดตัวบาง ริมทะเลสาบลมแรงมาก มากเสียจนนึกกังวลกลัวลมจะพัดเอาหญิงสาวผู้นี้ไปด้วย

“เธอ…มีเรื่องลำบากใจอะไรเธอก็พูดออกมา อย่าคิดสั้นสิ…” ฉีฉีเก๋อพยายามเกลี้ยกล่อมแต่กลับไร้ปฏิกิริยาจากหญิงสาวเหมือนไม่ได้ยินเสียงที่เธอพูดด้วยซ้ำ ไม่แม้แต่จะขยับตัวสักนิดเอาแต่เหม่อมองผิวน้ำทะเลสาบแน่นิ่ง

ผิวน้ำทะเลสาบมีน้ำแข็งลอยอยู่ไม่น้อย แค่มองเฉย ๆยังรู้สึกหนาวเข้ากระดูก เลือกกระโดดลงทะเลสาบในวันอากาศหนาวเหน็บเช่นนี้ต่อให้ไม่จมน้ำตายก็ต้องหนาวตายอยู่ดี

เหมยเหมยเองก็ไม่มั่นใจว่าผู้หญิงคนนี้ใช่คุณแม่ของเด็กหรือไม่ แต่เธอคิดว่าแปดเก้าสิบเปอร์เซ็นต์คงใช่แน่นอน ไม่อย่างนั้นคงไม่บังเอิญถึงขนาดที่พวกเขาตามมาแล้วเจอฆ่าตัวตายพอดี

“เมื่อกี้เธอทิ้งเด็กคนนี้ไว้ริมถนนใช่ไหม? เธอดูสิ…นี่ใช่ลูกสาวเธอหรือเปล่า?”

เหมยเหมยถามไปตรง ๆจนเรียกให้หญิงสาวร่างสะท้านเฮือกแต่ยังไม่หันกลับมา ใบหน้าของเธอน้ำตาไหลอาบแก้มก่อนจะค่อย ๆลุกขึ้นยืนหันมาโค้งให้พวกเหมยเหมยทีหนึ่งพลางเอ่ยเสียงแหบพร่า “พวกเธอคือคนใจบุญ…ขอร้องละช่วยรับนันนันของฉันไปเลี้ยงด้วยเถอะ…เธอเป็นเด็กดีมาก ไม่เคยโวยวาย ทานไม่เยอะ…ไม่เสียเงินเท่าไหร่หรอก ขอร้องละ…ไว้ชาติหน้าต่อให้เกิดเป็นวัวเป็นม้าก็จะตอบแทนพวกเธอนะ…”

หญิงสาวโค้งไม่หยุดพร้อมร้องไห้เสียงสะอื้นแทบพูดไม่เป็นประโยค ตัวโงนเงนไปมาคล้ายทรงตัวไม่อยู่

ทุกคนเห็นโฉมหน้าของหญิงสาวได้อย่างชัดเจน คาดว่าอายุไม่มากไม่มีทางถึงสามสิบปีแน่นอน แต่ผู้หญิงคนนี้ตัวผอมเกินไปจริง ๆ แก้มตอบเนื้อตัวเหลือแค่หนังหุ้มกระดูก หน้าขาวซีดจนน่าตกใจ ปากแห้งแตก มุมปากยังมีรอยเลือดแห้งกรังอยู่เลย

เหมยเหมยนึกถึงกองเลือดใต้ต้นไม้นั่นก็ใจหล่นวูบ หลุดปากถามไปว่า “เลือดใต้ต้นไม้นั่นเป็นของเธอเหรอ?”

หญิงสาวยิ้มขมขื่นก่อนพยักหน้ารับ “ฉันมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว…พวกคุณคือคนใจบุญ ฉันกราบล่ะ…ขอบคุณพวกคุณมาก…”

เธอคุกเข่าตรงพื้นแล้วก้มลงคำนับสามทีถึงลุกยืนเดินโซซัดโซเซไปยืนริมทะเลสาบ พอเห็นสีหน้าอาลัยตายอยากของเธอ ดูท่าอยากจะตายจริง ๆ!

“ลูกสาวของเธอไม่เลี้ยงเองกลับให้คนอื่นเลี้ยง ทำไมเธอถึงใจเหี้ยมขนาดนี้? มีเรื่องลำบากใจอะไรก็บอก เราช่วยเธอคิดหาหนทางให้ ไม่แน่อาจจะก้าวข้ามผ่านมันไปได้ก็ได้!”

คุณแม่เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนตะโกนพูดหว่านล้อม พอเห็นผู้หญิงคนนี้เธอก็หวนนึกถึงตัวเองในอดีตเพราะบางทีเธอก็เคยคิดจะจบชีวิตตัวเองเช่นกัน ถ้าไม่ใช่เพราะทำใจทิ้งลูกสาวไม่ได้เธอคงตายไปนานแล้ว!

“ใครก็ช่วยฉันไม่ได้…ขอบคุณพวกคุณที่อุตส่าห์มาตามหาฉัน พวกคุณคือคนใจบุญ นันนันอยู่กับพวกคุณต้องดีกว่าอยู่กับฉันแน่ ๆ…ขอบคุณมาก…แล้วฉันจะกลับมาตอบแทนบุญคุณในชาติหน้า…”

หญิงสาวพูดเสียงเบาลงเรื่อย ๆและเดินใกล้น้ำมากขึ้นเรื่อย ๆจนรองเท้าของเธอเปียกชุ่มไปหมด แค่เห็นยังรู้สึกหนาวแต่หญิงสาวคนนี้เหมือนไม่มีความรู้สึกและยังคงเลือกจะเดินลงน้ำต่อไป

“ต้องรีบฉุดเธอขึ้นมา ไม่งั้นตายแน่…” คนแก่แต่ละคนดูจะร้อนใจยิ่งกว่าใคร คุณพ่ออิงพุ่งตัวไปหมายจะกระชากแขนอีกฝ่ายแต่ถูกอิงจวี้กังห้ามไว้แล้วตัวเองเป็นคนพุ่งไปเอง โดยคิดจะช่วยชีวิตหญิงสาวคนนี้ไว้

“อย่ามาเลย…ลาก่อน…”

หญิงสาวทิ้งตัวไปด้านหลังพลางหลับตาลง ครั้นเห็นว่าใกล้จะจมน้ำแล้วทุกคนก็กรีดร้องอย่างอดไม่ได้ มองหญิงสาวด้วยท่าทางตกใจจนนิ่งค้างไป

คล้ายรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของคุณแม่หรือบางทีเป็นกระแสจิตระหว่างแม่ลูก เด็กน้อยที่หลับสนิทในทีแรกจู่ ๆก็อ้าปากร้องไห้เสียงดัง มือน้อยกำแน่นโบกไปมาไม่หยุด ร้องไห้ไม่หยุดอย่างน่าสงสาร

………………