บทที่ 2687 ขาดสารอาหาร + ตอนที่ 2688 ฆาตกร

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 2687 ขาดสารอาหาร

หญิงสาวได้ยินเสียงร้องไห้ของลูกสาวก็ลืมตาขึ้นอย่างห้ามไม่ได้ นึกอยากดูอาการของลูกสาวแต่ร่างกายของเธอกลับทิ้งตัวลงน้ำไปตามแรงโน้มถ่วงแล้ว เธอจึงควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้

“นันนันอย่าร้อง…”

หญิงสาวนึกอยากปลอบลูกสาวตามสัญชาตญาณแต่เธอกลับไม่มีเรี่ยวแรงใด ๆเหลืออีกแล้ว ร่างกายใกล้สัมผัสโดนผิวน้ำมากขึ้นเรื่อย ๆ

ความจริงเป็นแค่เรื่องเพียงเสี้ยววินาทีที่ทุกคนไม่ทันตั้งตัว และได้แต่ยืนมองหญิงสาวกระโดดลงน้ำต่อหน้าต่อตาอ้าปากตาค้าง เหมยเหมยอยู่ใกล้หญิงสาวมากที่สุดและมีปฏิภาณไหวพริบเร็วที่สุดรีบสะบัดแส้ออกไปพันรอบตัวหญิงสาวไว้ก่อนจะออกแรงดึงให้หญิงสาวพ้นจากผิวน้ำ

คนอื่น ๆช่วยกันดึงจนในที่สุดก็ช่วยหญิงสาวขึ้นมาบนบกได้ ทุกคนต่างตกใจจนเหงื่อชุ่มตัว พอลมหนาวพัดโกรกใส่ก็สั่นสะท้านด้วยความหนาว

“รีบขึ้นรถเถอะ ข้างนอกลมแรงเกินไป เด็กจะเป็นหวัดง่าย” คุณแม่เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเสนอ ทุกคนช่วยกันหามหญิงสาวที่ตัวสั่นเทาขึ้นรถ ในรถมีฮีทเตอร์ครู่เดียวก็ทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นแล้ว

ทันทีที่หญิงสาวขึ้นรถมาก็กอดลูกไว้แน่น ทำให้คนมองรู้สึกปวดใจกันเป็นแถบ

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกลับทนมองไม่ได้ก็เอ่ยอย่างไม่พอใจว่า “เธอก็ดูไม่เหมือนเป็นแม่ใจดำนี่นา แต่ทำไมถึงทำเรื่องใจดำขนาดนี้ล่ะ? ถ้าเกิดเราเป็นคนร้ายจะทำยังไง ชีวิตของเด็กคนนี้ก็พังหมดสิ”

“ฉันรู้ว่าพวกคุณมารับเลี้ยงเด็ก อีกอย่างพวกคุณมีปัญญาขับรถ ฐานะที่บ้านคงดี นันนันอยู่กับพวกคุณถึงจะมีชีวิตที่ดีได้…” หญิงสาวพูดทั้งน้ำตา

“เหอะ…คำนี้ฉันไม่ค่อยชอบฟังเท่าไหร่ อะไรคือมีเงินก็จะมีชีวิตที่ดีได้ เด็กอยู่กับพ่อแม่แท้ ๆไม่ดีกว่าเหรอ? ไม่รู้ว่าในหัวเธอคิดอย่างไรกันแน่!”

เหมยเหมยกระทุ้งศอกใส่เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนที่กำลังคิดบทสั่งสอนหญิงสาวยาวเหยียดให้เธอพูดน้อย ๆหน่อย หญิงสาวคนนี้มองปราดเดียวก็รู้ว่าสุขภาพย่ำแย่ ไม่แน่อาจจะมีเรื่องลำบากใจจริง ๆก็ได้ อย่ารีบร้อนใส่ความคนอื่นเลย!

“พ่อของเด็กล่ะ?” เหมยเหมยถาม

หญิงสาวตัวสะท้าน สายตาทอแววแค้นใจกัดฟันพูด “เขาตายไปแล้ว…เขาไม่ใช่คน…”

เหมยเหมยสบสายตากับเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนทีหนึ่ง ดูท่าทางจะมีอะไรจริง ๆด้วย!

“ตายอย่างไร?”

หญิงสาวปิดปากแน่นสนิทไม่ปริเสียงใด ๆอีก เด็กในอ้อมแขนเธอกลับร้องไห้งอแงขึ้นมาอีกระลอก หญิงสาวได้แต่ปลอบประโลมไม่หยุดทว่ากลับไร้ผล เด็กยังคงร้องไห้ไม่ยอมหยุด

“คงจะหิวแล้วสิ เธอป้อนนมให้เด็กหน่อยสิ!” เหมยเหมยบอก

หญิงสาวยิ้มขมขื่นพลางส่ายศีรษะ “ฉันไม่มีน้ำนม เด็กทานข้าวบดตั้งแต่เด็ก ทนหิวไปสักพักก็ไม่ร้องแล้ว!”

เหมยเหมยมุ่นคิ้วแน่น ตอนนี้มียี่ห้อน้ำผงมากเสียยิ่งกว่าขนวัว ราคาก็ไม่นับว่าแพงมาก ทำไมถึงไม่มีเงินแม้กระทั่งซื้อนมผงล่ะ?

ทั้งยังปล่อยให้เด็กหิวได้อย่างไร เด็กตัวเล็กขนาดนี้อิ่มมื้อหนึ่งหิวมื้อหนึ่ง มิน่าอายุแปดเดือนถึงตัวเล็กกว่าเด็กวัยหกเดือนอีกแหนะ!

“เธอเป็นแม่ประสาอะไรกันแน่? ลูกหิวก็ต้องกิน จะปล่อยให้หิวได้อย่างไร? ข้าวบดมีสารอาหารที่ไหนกัน ทำไมพวกเธอไม่ซื้อนมผงหน่อยล่ะ จริง ๆเลย…”

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนโมโหแทบตาย นี่มันยุคสมัยไหนแล้วกลับยังป้อนลูกทานข้าวบดอีก?

ไม่มีเงินซื้อกระทั่งนมผงแล้วจะมีลูกไปทำไม?

“ข้างหน้ามีซุปเปอร์มาร์เก็ต ฉันไปซื้อนมผงสักหน่อย ฉีฉีเก๋อเธอจอดรถที”

กลับเข้ามาในเขตตัวเมืองแล้ว ข้างทางมีซุปเปอร์มาร์เก็ตร้านหนึ่งอยู่ เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนลงจากรถไปสิบนาทีก็กลับมาพร้อมกับกระป๋องนมผงในมือรวมถึงขวดนมที่เพิ่งชงเสร็จสด ๆร้อน ๆ

“เจ้าของร้านใจดี ได้ยินว่าเด็กหิวเลยชงนมให้ฉันขวดหนึ่ง ใช้น้ำอุ่นชงด้วย ดื่มตอนนี้ได้เลย”

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนยัดจุกนมใส่ปากเด็กในอ้อมแขน เจ้าหนูประคองขวดนมตามสัญชาตญาณโดยไม่ต้องให้ใครสอนแล้วดูดนมดังอึก ๆ ไม่เคยได้ทานอาหารอร่อยขนาดนี้มาก่อน เจ้าหนูกอดขวดนมไว้แน่น แถมรีบดูดนมเกินไปจนดวงหน้าเล็กแดงก่ำ

…………………………

ตอนที่ 2688 ฆาตกร

หญิงสาวมองแล้วก็รู้สึกปวดใจพลางยกมือเช็ดตา เอ่ยเสียงพึมพำว่า “นันนันไม่เคยดื่มนมมาก่อนเลย ขอบคุณนะ…”

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนโต้กลับอย่างไม่พอใจ “พ่อแม่อย่างพวกเธอไม่มีสิทธิ์มีลูก คลอดแล้วกลับไม่มีปัญญาเลี้ยงดู แล้วจะมีทำไม?”

หญิงสาวก้มหน้างุดอย่างละอายใจ เธอไม่มีสิทธิ์นั้นจริง ๆ ลูกสาวถึงได้ลำบากเมื่ออยู่กับเธอ!

“ตอนนี้ไปไหน? ไปโรงพยาบาลหรือบ้านฉัน?” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนถาม

“ไปโรงพยาบาลก่อนเถอะ!” เหมยเหมยมองไปทางหญิงสาวที่ผอมซูบเหลือเพียงโครงกระดูกแวบหนึ่ง แม้เธอไม่รู้วิชาแพทย์แต่เห็นได้อย่างชัดเจนว่าหญิงสาวคนนี้ป่วยแถมยังป่วยหนักน่าดู เธอจึงตัดสินใจเป็นคนดีให้ถึงที่สุดโดยพาหญิงสาวคนนี้ไปตรวจสุขภาพหน่อยแล้วกัน!

ขณะนี้เด็กน้อยดื่มนมหมดไปค่อนขวดใหญ่ก็สะอึกทีหนึ่งอย่างพึงพอใจ ไร้เสียงร้องไห้ใด ๆอีก ดวงตากลมโตดำขลับกลอกมองสภาพแวดล้อมรอบตัวด้วยความแปลกใจอย่างน่ารักน่าชัง

“ดูสิเด็กคนนี้น่ารักแค่ไหน ทำไมเธอถึงใจเหี้ยมทิ้งลงนะ!” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนยังติดอยู่กับเรื่องที่หญิงสาวทิ้งลูกเลยเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่ดีเท่าไร

หญิงสาวยิ้มขมขื่น พูดตอบอย่างไม่คิดจะปิดบังพวกเธออีก “ฉันคือฆาตกร…มีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว เลี้ยงนันนันอีกไม่ได้แล้ว…”

พวกเหมยเหมยสามคนลูกตาแทบถลนออกมา ฆาตกรงั้นหรือ?

นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?

เหมยเหมยสมองไว นึกถึงความเป็นไปได้อย่างหนึ่งเลยถามไปว่า “เธอฆ่าสามีเธอเหรอ?”

หญิงสาวพยักหน้าศีรษะ “ใช่…ฉันทนไม่ไหวแล้ว…ลำพังแค่เขาทุบตีฉันทุกวันก็ช่างแต่เขายังคิดจะขายนันนันของฉันทิ้ง…ตอนเช้าเขาคิดจะอุ้มนันนันออกไปอีก ฉันทนไม่ไหวเลย…”

ภายในรถเกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะ ไม่มีใครปริเสียงเพราะไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี

“หรือไม่พวกคุณส่งฉันไปที่สถานีตำรวจเถอะ อย่างไรซะฉันก็ต้องตายอยู่ดี…” หญิงสาวหัวเราะเย้ยตัวเอง สุขภาพอันทรุดโทรมของตนจะทนอยู่ได้อีกกี่วันเชียว?

ฉีฉีเก๋อผ่อนความเร็วรถให้ช้าลงเพราะไม่รู้จะขับต่อไปทางใด เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกลับใช้สายตาประเมินหญิงสาวตลอดเวลา ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกเหมือนเคยพบคนนี้ที่ไหนมาก่อนแต่กลับนึกไม่ออกในชั่วขณะ

“ฉันจำได้แล้ว…เธอรู้จักพี่หนิวใช่ไหม?” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนโพล่งถามกะทันหัน

หญิงสาวชะงักแล้วพยักหน้า “พี่หนิวเป็นคนดี ช่วยฉันไว้มาก…”

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนตบเข่าดังฉาด นี่แหละ เธอเคยเห็นรูปถ่ายของหญิงสาวคนนี้จากพี่หนิวมาก่อนคล้ายว่าสามีของหญิงสาวไม่เพียงแค่คบชู้แต่ยังใช้ความรุนแรงกับภรรยาตัวเองอีกต่างหาก ลงมือลงไม้ทำร้ายภรรยาจนนอนโรงพยาบาลไปหลายที

“ฉันจะโทรหาพี่หนิว…” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกดโทรหาพี่หนิว พอเอ่ยถึงผู้หญิงคนนี้พี่หนิวก็ดีใจเสียงดังลั่น

“พระเจ้า…เมื่อกี้ตำรวจเพิ่งมาหาฉันถามข่าวคราวของเยวี่ยเซียงแหนะ ทำไมหล่อนถึงไปอยู่กับเธอได้ล่ะ?”

“เธอคิดจะฆ่าตัวตายแต่เราช่วยไว้ได้ หรือว่าพี่หนิวมาที่นี่หน่อยเถอะ!”

พี่หนิวเป็นคนมีน้ำใจคนหนึ่ง เธอไม่พูดพร่ำทำเพลงก็รีบเดินทางมาทันที ทุกคนเลือกไปบ้านเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนไม่ใช่โรงพยาบาล เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนหาเสื้อตัวหนาให้หญิงสาวสวมใส่ ลำพังแค่เสื้อกันหนาวขาดวิ่นบนตัวหญิงสาวคงบังลมฤดูใบไม้ผลิไม่ได้ด้วยซ้ำ ยิ่งอย่าเอ่ยถึงลมฤดูหนาวเลย!

“โอ้ย…เยวี่ยเซียงทำไมเธอถึงเลอะเลือนขนาดนี้ จะฆ่าไอ้คนชั่วนั่นทำไม? ฆ่าคนต้องรับผิดชอบนะ ถ้าเธอเป็นอะไรไปด้วยอีกคนนันนันจะทำอย่างไร…เธอคิดเผื่อนันนันบ้างไม่ได้เหรอ?”

พี่หนิวมองเยวี่ยเซียงอย่างปวดใจ ทุ่มชีวิตเพื่อสารเลวนั่นมันไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย!

พอเยวี่ยเซียงเห็นคนคุ้นเคยน้ำตาเลยกลั้นไว้ไม่อยู่จึงปล่อยให้มันไหลพรากแล้วพูดเสียงติดสะอื้นเบา ๆว่า “พี่…ฉันป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้ายแล้ว ถ้าฉันตายไปเขาต้องขายนันนันทิ้งแน่ ๆ ฉันจะปล่อยให้เขามีชีวิตต่อไปไม่ได้…”

ทุกคนตกใจกันอีกรอบพลันก็เข้าใจได้แล้วว่าทำไมเยวี่ยเซียงถึงฆ่าสามีแล้วทอดทิ้งลูกสาว

นี่มันอับจนหนทางแล้วจริง ๆ!

…………………