บทที่ 1646 เจ้าของหุบเขาราชายา

The king of War

บทที่ 1646 เจ้าของหุบเขาราชายา

การปรากฏตัวของเจ้าเมืองหวยเฉิง ทำให้ทุกคนตกตะลึง
โดยปกติแล้ว เจ้าเมืองหวยเฉิง จะไม่เป็นฝ่ายปรากฏตัวต่อหน้าคนอื่น แต่วันนี้ กลับปรากฏตัว เพราะหยางเฉิน
ไม่เพียงแค่นี้ ยังตวาดใส่คนของหุบเขาราชายา ต่อหน้าทุกคนด้วย
นี่จะเป็นปฏิปักษ์กับหุบเขาราชายา อย่างเปิดเผยหรือเปล่า
ตอนเย่าหลีเห็นเจ้าเมืองหวยเฉิง สีหน้าไม่สู้ดีเป็นอย่างมาก ในพื้นที่เมืองหวยเฉิง เจ้าเมืองหวยเฉิง คือเจ้าของ
แม้หุบเขาราชายา ไม่เห็นจวนเมืองหวยเฉิง อยู่ในสายตา แต่เจ้าเมืองหวยเฉิง คือผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้า ถึงเป็นราชายา ก็ไม่กล้าเพิกเฉยต่อเจ้าเมืองหวยเฉิงหรอก
“เจ้าเมืองผู้อาวุโส คุณเข้าใจผิดแล้ว!”
เย่าหลีรีบอธิบายว่า “เรามาจวนเมืองหวยเฉิงครั้งนี้ เพราะมีคนฆ่าผู้แข็งแกร่งหุบเขาราชายาของเรา เราต้องพาเขากลับไปตรวจสอบ เจ้าเมืองได้โปรดอย่าก้าวก่าย เรื่องหุบเขาราชายาของเรา”
ทันใดนั้น พลานุภาพกดดันบู๊ อันน่ากลัว แผ่ซ่านออกจากตัวเจ้าเมืองหวยเฉิง ล็อกเย่าหลีเอาไว้
ตอนนี้เย่าหลีแข็งทื่อไปทั้งตัว หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดโต หยดลงมาไม่หยุด
เขาค่อยๆ งอขาทั้งสองข้าง เกิดเสียง “ตุ้บ” แล้วคุกเข่าลงบนพื้น
เขาไม่ได้อยากคุกเข่า แต่ร่างกายเขา ไม่สามารถรับแรงกดดันบู๊ ที่ปลดปล่อยมาจากเจ้าเมืองหวยเฉิงได้
ส่วนผู้แข็งแกร่งที่เย่าหลี พามาทั้งสองคน คุกเข่าลงพร้อมกัน
“บุกเข้ามาในจวนเมืองหวยเฉิงของฉัน แถมยังทำร้ายคนของฉัน ตอนนี้ยังจะพาแขกคนสำคัญของฉันไปอีก ควรบอกว่าคนหุบเขาราชายา อย่างพวกนายอวดดี หรือพวกนายไม่เห็นใครอยู่ในสายตาดี”
เจ้าเมืองหวยเฉิง มองเย่าหลีอย่างเหนือกว่า แล้วถามอย่างเย็นชา
เย่าหลีตัวเปียกไปด้วยเหงื่อ พูดด้วยสีหน้าตระหนก “เจ้าเมือง ผมรีบเอาตัวฆาตกร เมื่อกี้จึงไร้มารยาท เจ้าเมืองได้โปรดอย่าถือสาเอาความผู้น้อย!”
เจ้าเมืองหวยเฉิงยิ้มเย็นชา “รู้ว่าตัวเองเป็นผู้น้อยด้วยเหรอ ถ้าไม่เห็นว่าเป็นนาย ฉันนึกว่าราชายามาเองซะอีก!”
หยางเฉินสีหน้านิ่งเหมือนเดิม แอบตกตะลึงในใจ พลานุภาพความกดดันบู๊
ที่เจ้าเมืองหวยเฉิง ปลดปล่อยออกมาเมื่อครู่ แม้จงใจเล่นงานผู้แข็งแกร่งหุบเขาราชายา
แต่พลานุภาพที่เหลือ ก็ทำให้เขารู้สึกถึงความกดดันอันแข็งแกร่ง
เขากำลังคิดว่า ถ้าตัวเองไปหุบเขาราชายาคนเดียว จะรอดกลับมาได้ไหม
เพราะราชายา อาจเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าอย่างแท้จริงก็ได้
แม้เขาสามารถปลดปล่อยพละกำลัง ที่ทัดเทียมกับแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดออกมาได้
แต่แท้จริง เขามีเพียงพละกำลังแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดชั้นกลาง เหมือนมด
เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้า
อย่างเช่นตอนนี้ เย่าหลีมีพละกำลังแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นกลาง ไม่สามารถรับแรงกดดันจากแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้า ของเจ้าเมืองหวยเฉิงได้
ความสามารถในการต่อสู้ของหยางเฉิน อย่างมากก็สูสีกับเย่าหลี หรืออาจด้อยกว่า
ตอนนี้เย่าหลีคุกเข่าบนพื้น สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว รีบพูดออกมาว่า
ผมสำนึกผิดแล้ว ได้โปรดเห็นแก่ราชายา ปล่อยผมไปสักครั้งเถอะ!”
“เจ้าเมืองผู้อาวุโส
“พลั่ก”
เจ้าเมืองหวยเฉิงสะบัดมือ แรงอันบ้าคลั่ง
ตัวของเย่าหลี กระแทกกับภูเขาเทียมข้างๆ อย่างแรง
ทำให้เย่าหลี กระเด็นไปไกลหลายเมตร
เย่าหลีล้มลงบนพื้น สีหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
หยางเฉินหรี่ตาลง มองเจ้าเมืองหวยเฉิง ด้วยสีหน้าตกใจ ยกมือขึ้นมาสะบัด
ไม่ได้สัมผัสอะไรที่จับต้องได้ แค่พลังบู๊ ก็สามารถทำให้เย่าหลี กระเด็นไปหลายเมตร
นี่คือทักษะของแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าเหรอ
“ปล่อยพลังออกมาด้านนอก! ขั้นเก้าชั้นยอด!”
มีคนพูดอย่างตกใจ แววตาเต็มไปด้วยความตกตะลึง
หยางเฉินสีหน้าตกตะลึงเช่นกัน ผู้แข็งแกร่งที่เข้าสู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าได้
เป็นผู้แข็งแกร่งที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกนี้แล้ว ตอนนี้ พละกำลังของเจ้าเมืองหวยเฉิง
เข้าสู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดแล้ว
ผู้แข็งแกร่งระดับนี้ อยากฆ่าคน
ถึงกระทั่งที่ฆ่าศัตรูจนตายได้
ไม่ต้องแตะตัวคู่ต่อสู้ด้วยซ้ำ แค่ใช้พลังบู๊ ก็สามารถทำให้บาดเจ็บสาหัสได้
เย่าหลีล้มลงบนพื้นอย่างแรง เลือดสดไหลออกมาทางมุมปาก สีหน้าช็อกอย่างรุนแรง
เขาพึมพำว่า “แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด เป็นไปได้ยังไง”
จู่ๆ เจ้าเมืองหวยเฉิง
ภายในครึ่งชั่วโมง ไม่งั้น ฉันจะฆ่านายเอง!”
มองเย่าหลี แล้วพูดว่า “ฉันต้องการเห็นเจียงลั่ว ในจวนเมืองหวยเฉิง
พูดจบ
เขามองหยางเฉิน แล้วพูดว่า
“หยางเฉิน นายมากับฉัน!”
“ครับ!”
หยางเฉินรีบตามเจ้าเมืองหวยเฉิงออกไป
ไม่นาน ทั้งสองมาถึงห้องของเจ้าเมืองหวยเฉิง
ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ผมคงโดนบังคับไปหุบเขาราชายาแล้ว ถ้าผมไปหุบเขาราชายา คงโชคร้ายมากกว่าโชคดี”
หยางเฉินพูดว่า “ขอบคุณเจ้าเมืองผู้อาวุโส
เจ้าเมืองหวยเฉิง
พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ถ้านายไปหุบเขาราชายา มีเพียงทางเดียวเท่านั้น
นั่นคือความตาย!”
ไม่รอให้หยางเฉินพูด
ฆ่าคนอย่างไร้เหตุผล”
เขาพูดต่อ “นายไม่เคยเจอราชายา ไม่รู้พฤติกรรมของราชายา เขาเป็นคนก้าวร้าวมาก
“นายฆ่าคนของเขา ยังกล้าไปหาคนที่หุบเขาราชายา เขาจะปล่อยนายไปได้ยังไง”
“สิ่งสำคัญคือ จากที่ฉันรู้
เมื่อสามปีก่อน
แดนบู๊ของเขา น่าจะเข้าสู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดแล้ว”
เมื่อได้ยินคำพูดของเจ้าเมืองหวยเฉิง หยางเฉินยิ่งตกตะลึง
เจ้าเมืองหวยเฉิง
ทำไมขนาดราชายา ยังมีพละกำลังแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดได้ล่ะ
มีพละกำลังแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด ยังไม่เท่าไร
หยางเฉินรีบพูดว่า “ขอบคุณเจ้าเมืองผู้อาวุโสมากครับ!”
พูดจบ เขาถามอีกว่า “เจ้าเมืองผู้อาวุโส ผมสงสัยเรื่องหนึ่งมาตลอด ผมฆ่าลูกเขยของจวนเมืองหวยเฉิง คุณไม่เพียงแต่จะไม่ฆ่าผม อีกทั้งยังช่วยผมด้วย”
แววตาเจ้าเมืองหวยเฉิง ฉายแววแหลมคม หลังเงียบไปครู่หนึ่ง จึงพูดว่า “ถ้าฉันบอกว่า ถึงนายไม่ลงมือกับหลงเยว่ ฉันก็จะลงมือกับเขาเอง นายเชื่อไหม”
หยางเฉินอึ้งไป จากความหมายของเจ้าเมืองหวยเฉิง เขาวางแผนจะฆ่าหลงเยว่อยู่แล้วเหรอ
ผมสำนึกผิดแล้ว ได้โปรดเห็นแก่ราชายา ปล่อยผมไปสักครั้งเถอะ!”
“พลั่ก”
ไม่รอให้หยางเฉินตอบ เจ้าเมืองหวยเฉิงพูดว่า “บางเรื่อง ไม่สะดวกที่จะบอกนาย แต่รู้แค่ว่า การตายของหลงเยว่ ฉันไม่มีทางโทษนาย”
“แน่นอนว่า ถึงฉันไม่คิดฆ่าหลงเยว่ นายฆ่าเขา ฉันก็ทำอะไรนายไม่ได้เหมือนกัน”
หยางเฉินยิ่งสงสัย “ทำไมครับ”
เขาไม่เข้าใจจริงๆ จากคำพูดของเจ้าเมืองหวยเฉิง ราวกับไม่ว่าหยางเฉินทำเรื่องร้ายแรงแค่ไหน เขาก็จะไม่แตะต้องหยางเฉิน
เจ้าเมืองหวยเฉิงพูดว่า “เพราะอาจารย์ผู้ไร้นามของนาย ฉันติดหนี้ชีวิตเขา! แน่นอนว่าถ้าฉันไม่ติดหนี้ชีวิตเขา ฉันก็ไม่ฆ่านายเหมือนกัน เพราะถ้าฉันฆ่านาย เขาไม่ปล่อยฉันไว้แน่”
คำพูดของเจ้าเมืองหวยเฉิง ทำให้หยางเฉินยิ่งตกใจ
เจ้าเมืองหวยเฉิง เป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด ฟังจากที่เขาพูด ผู้ไร้นามแข็งแกร่งกว่าเขางั้นเหรอ
งั้นแสดงว่า พละกำลังของผู้ไร้นาม เกินกว่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดแล้วงั้นเหรอ
หยางเฉินอดถามออกมาไม่ได้ว่า “แดนบู๊ของอาจารย์ผม อยู่ระดับไหนกันแน่ครับ”
เจ้าเมืองหวยเฉิง หัวเราะอย่างมีเลศนัย จากนั้นพูดว่า “ต่อไปนายจะรู้เอง!”
ขณะนั้น ความกดดันบู๊อันน่ากลัว ใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว
“ครืนน!”
เสียงดังสนั่น สิ่งก่อสร้างที่หยางเฉินกับเจ้าเมืองหวยเฉิงอยู่ พังลงมาทันที
เสียงที่เต็มไปด้วยความโมโห ดังลงมาจากฟ้า “ไอ้แก่ นายกล้าดีเหลือเกิน กล้าทำร้าย ศิษย์ของราชายา อย่างฉันงั้นเหรอ”