เย่เฉินในเวลานี้ ไม่รู้แม้แต่น้อยว่าตนเองกำลังถูกต่งรั่งหลินจับตามองอย่างใกล้ชิดอยู่
เขาได้จมลงสู่รถสเก็ตน้ำแข็งกีฬายามว่างที่ตอนเด็กๆหลงใหลมากนี้โดยสมบูรณ์แบบ ทุกๆคนต่างก็มีจิตใจที่เป็นเด็ก เย่เฉินเป็นธรรมดาว่าเช่นเดียวกัน
ตอนที่เล่นอย่างมีความสุขมากที่สุด เด็กคนหนึ่งที่เท้าเหยียบรองเท้าสเก็ตน้ำแข็ง ยิ่งลื่นยิ่งไวอยู่บนพื้นผิวน้ำแข็ง มุ่งตรงมายังรถสเก็ตน้ำแข็งของเย่เฉินกับกู้ชิวอี๋
คิดไม่ถึงว่า เด็กคนนี้จะสูญเสียการควบคุมทิศทาง ตอนนี้ระยะห่างใกล้กู้ชิวอี๋เข้ามาเรื่อยๆยังไม่ยอมเลี้ยว ชนเข้ามาทางกู้ชิวอี๋ด้วยความเหม่อลอย
เห็นว่ากำลังจะชน เด็กคนนั้นตกใจเองจนร้องเสียงดังออกมา กู้ชิวอี๋หันไป ตกใจ!
เด็กคนนั้นดูเหมือนก็แค่สิบขวบต้นๆ น้ำหนักก็ไม่เกินสามสิบสามสิบห้ากิโลกรัม แต่หลังจากที่ความเร็วแรงขึ้นมานั้น แรงโจมตีจากความเฉื่อยก็ไม่อาจจะดูถูกได้
ยิ่งอันตรายก็คือ ที่เด็กสวมใส่บนเท้าไม่ใช่รองเท้าสเก็ตน้ำแข็งแบบมีล้อ แต่เป็นรองเท้าสเก็ตน้ำแข็งแบบใบมีด สิ่งๆนั้นทั้งแหลมทั้งคม หากแทงโดนคนหรือข่วนโดนคนล่ะก็ จะเกิดเป็นการได้รับบาดเจ็บที่รุนแรงได้ง่าย!
เย่เฉินเห็นดังนี้ ในความเร่งรีบกระโดดลงจากรถสเก็ตน้ำแข็งอย่างกะทันหัน จากนั้นอุ้มกู้ชิวอี๋เข้ามาไว้ในอ้อมแขนหมุนครึ่งวงกลม อุ้มเธอออกจากตำแหน่งที่กำลังจะถูกชน
แต่ว่า เห็นเด็กคนนั้นจะชนรถสเก็ตน้ำแข็ง เย่เฉินก็ทนไม่ได้ที่เด็กคนนั้นจะได้รับบาดเจ็บ ก็เลยถือโอกาสเตะรถสเก็ตน้ำแข็งออกไปหนึ่งที ในชั่วพริบตาที่รถสเก็ตน้ำแข็งกำลังจะถูกเด็กคนนั้นชนเข้า ฟึ่บพุ่งออกไปจากพื้นน้ำแข็งไปยังอีกทาง
เด็กคนนั้นก็ไม่ได้มีประสบการณ์อะไร ยิ่งไม่ได้มีความสามารถอะไรในการตอบสนองกับสภาวะฉุกเฉิน เห็นกำลังจะชนรถสเก็ตน้ำแข็งแล้ว ก็ตกใจจนเอามือปิดตาทั้งสองข้างของตนเองไปเลย
และในเวลานี้ รถสเก็ตน้ำแข็งก็ถูกเย่เฉินเตะออกไปอีก เด็กก็พุ่งอย่างรุนแรงไปทางด้านหน้าต่อไป อีกทั้งความเร็วยังไวกว่าก่อนหน้านี้เสียอีก!
ต่งรั่งหลินที่อยู่บริเวณไม่ไกล อยู่บนเส้นตรงสามจุดที่ประกอบขึ้นคือหน้าสุดเด็กคนนั้น ตรงกลางเย่เฉิน และสุดท้ายตัวเธอเองอยู่ตลอดเวลา เย่เฉินกับกู้ชิวอี๋บังเด็กผู้หญิงคนนั้นเอาไว้พอดี ดังนั้นเธอจึงไม่ได้เห็นชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ และก็ไม่ได้เห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งสูญเสียการควบคุมอยู่บนพื้นน้ำแข็ง
เธอเห็นเพียงแค่เย่เฉินที่คิดไม่ถึงว่าจะช้อนตัวอุ้มผู้หญิงคนนั้นขึ้นมา ให้การอุ้มท่าเจ้าหญิงที่คลุมเครืออย่างหาใดเปรียบ ในใจทั้งข่มขื่นทั้งโมโห!
เธออดไม่ได้ที่จะแอบคิดในใจ “เย่เฉินคนๆนี้เกินไปแล้วจริงๆ!มาถึงเย่นจิงเพื่อพบคนรักก็มากพอแล้ว ยังกล้าโชว์ความรักอย่างอลังการที่ทะเลสาบโห้วไห่สถานที่สาธารณะแบบนี้อีก นี่ก็กำเริบเสิบสานเกินไปแล้วล่ะมั้ง?”
ในตอนที่เธอกำลังโมโหนั้นเอง ด้านหน้ามีเงาดำพุ่งเข้ามาอย่างกะทันหัน น้องสาวของเธอตะโกนเสียงดังขึ้นมาอยู่ที่ด้านข้าง “อ๊า!พี่รั่งหลิน ระวังค่ะ!”
เพิ่งจะพูดจบ เงาดำนั้นก็ได้พุ่งเข้ามาที่ด้านหน้าของต่งรั่งหลิน!
ต่งรั่งหลินเวลานี้ ถึงได้ละความสนใจจากเย่เฉินและกู้ชิวอี๋ เคลื่อนย้ายมาที่เงาดำนั้นที่พุ่งมาทางตนเอง
เมื่อเธอเห็นชัดเจนว่า ที่พุ่งมาทางตนเองคิดไม่ถึงว่าคือเด็กผู้หญิงที่มือปิดตาสองข้าง ร้องเสียงดังด้วยความตกใจกลัว เธอก็ตกใจจนไม่รู้จะทำอย่างไรดีเช่นเดียวกัน
คนที่เคยเล่นสเก็ตน้ำแข็งหรือเคยเล่นสกีต่างก็รู้กฎระเบียบด้านความปลอดภัยที่พื้นฐานที่สุด ก็คือจะต้องอยู่ไกลจากคนที่สูญเสียการควบคุมหน่อย!
อยู่บนพื้นผิวน้ำแข็งและพื้นหิมะ หากคนๆหนึ่งเบรกไม่เป็นล่ะก็ งั้นความเร็วของเขาก็ง่ายมากที่จะไปถึงสถานะที่อันตรายมาก หากถูกคนๆหนึ่งพุ่งชนด้วยความเร็วสูง ไม่มีอะไรแตกต่างกันมากกับการถูกรถชนด้วยความเร็วสูง
และรองเท้าสเก็ตแบบใบมีดกับแผ่นสกีหิมะต่างก็แข็งและแหลมคมเป็นอย่างยิ่ง ง่ายมากที่จะเกิดเป็นการบาดเจ็บที่รุนแรง
ต่งรั่งหลินในเวลานี้ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดีแล้ว ส่วนลึกภายในจิตใจถึงขั้นเตรียมใจที่จะถูกเด็กคนนี้ชนอย่างรุนแรงสักหน่อยเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
ในวินาทีที่รองเท้าสเก็ตน้ำแข็งแบบใบมีดเกือบจะโดนเข้ากับตนเอง เธอก็ตกใจจนหลับตากรีดร้องขึ้นมา
ทว่า หลังจากนั้นชั่วขณะ การชนอย่างรุนแรงที่คาดการณ์เอาไว้กลับไม่ได้เกิดขึ้น!