ตอนที่ 1956 : การปรากฏตัวของหินปีศาจชั้นฟ้า

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1956 : การปรากฏตัวของหินปีศาจชั้นฟ้า

เจี้ยนเฉิน, พยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์, ฮุสตัน และเฉินเจี้ยนต่างก็พากันลงมือ

จากการฝึกฝนของพวกเขา พวกเขาก็ได้ทำความเข้าใจแผนการพอได้บ้าง ดังนั้นตอนที่พวกเขาใช้ค่ายกลมายาแสงจันทร์นั้น พวกเขาก็สามาถทำมันได้โดยไม่ยากลำบากนัก พวกเขาถือว่าเตรียมตัวกันมาอย่างดี

ไม่นานทั้งสี่คนก็ได้สร้างค่ายกลมายาแสงจันทร์ที่สมบูรณ์ขึ้นมาได้

บวกกับพลังแสงจันทร์ที่แผ่ออกมารอบตัวพวกเขา ม่านพลังที่อัดแน่นขึ้นมาจากพลังแสงจันทร์ได้ปรากฏขึ้นรอบตัวพวกเขาแผ่ออกไปหลายร้อยเมตร

แม้ว่าค่ายกลนี้จะเสร็จสิ้นแล้วแต่มันก็ไม่ได้มีพลังงานแผ่ออกมาเลยแม้แต่น้อย นอกจากแสงจันทร์ที่ส่องประกาย

ผลก็คือค่ายกลมายาแสงจันทร์นั้นเห็นได้แค่ด้วยสายตา มันเป็นไปไม่ได้ที่จะพบมันด้วยการรับรู้อื่นรวมไปถึงการรับรู้วิญญาณด้วย

ค่ายกลมายาแสงจันทร์ไม่อาจจะใช้โจมตีรึป้องกันได้ มันใช้ไว้แค่ปกปิดทุกอย่างในค่ายกลก็เท่านั้น

แน่นอนว่านอกเหนือจากนี้นั้นเกิดขีดจำกัดของค่ายกลไป

นางฟ้าเฮายู่ไม่ลังเลเมื่อเห็นค่ายกลแสงจันทร์ลวงตาเสร็จสมบูรณ์ขึ้นมา นางเริ่มพุ่งเข้าไปทันที

นางเครียดเล็กน้อย กฎขอบเขตตั้งต้นที่แผ่ออกมาจากตัวนาง การเคลื่อนไหวทุกอย่างของนางนั้นมีพลังที่ร้ายกาจ

แต่เนื่องจากมันถูกกดพลังเอาไว้ พลังขอบเขตตั้งต้นจึงไม่ได้ปะทุออกมา นางปกปิดมันได้อย่างสมบูรณ์

นางฟ้าเฮายู่พุ่งผ่านค่ายกลออกไปอย่างรวดเร็ว แค่นาทีเดียวมันก็มีรูเกิดขึ้นมาที่ค่ายกลที่ขวางทางไปสู่ชั้นต่อไป มันได้เผยเส้นทางที่ดำมืดออกมา

ลมพัดผ่านทางเดินนั้นและมันก็เต็มไปด้วยกลิ่นอายปีศาจ กลิ่นอายปีศาจนี้บริสุทธิ์และอัดแน่นไหลผ่านมาจากทางเดินนั้น

“หลีกเลี่ยงไม่ให้โดนสนใจ ข้าสร้างทางเข้าจากค่ายกลนี้ได้ชั่วคราว มันจะปิดตัวลงเองในไม่ช้า เข้ามา” เฮายู่ บอกกับเจี้ยนเฉินและคนอื่น ๆ ด้วยการโบกมือ พลังแสงจันทร์ก็ได้ปรากฏขึ้นและกลิ่นอายปิศาจในทางเดินก็สลายไปทันที ในพริบตานางก็ได้เข้าไปในทางเดินที่นำไปสู่ชั้นต่อไป

ทั้งสี่คนได้ลบค่ายกลออกและหายตัวไปในทางเดินนั้นในพริบตา

ไม่นานหลังจากที่สี่คนเข้าไป รูของค่ายกลก็ปิดตัวลงกลับไปสู่สภาวะเดิมของมัน

สาขาของลัทธิปิศาจชั้นฟ้านั้นเหมือนจะเป็นปราสาทขนาดใหญ่เมื่อมองดูจากภายนอก ด้านในนั้นมันใหญ่ซึ่งเหมือนกับโลกขนาดย่อย พื้นที่ในแต่ละชั้นนั้นเกินกว่าขนาดของปราสาท

ห้องโถง, ห้องลับและห้องอื่น ๆ เหมือนกับมีโลกของตัวเอง

ปราสาทนั้นเต็มไปด้วยค่ายกล ทุกอันต่างก็แข็งแกร่ง มันถูกตั้งไว้ในพื้นที่เปิดหรือแอบซ่อนไว้ แค่พลังงานที่มันแผ่ออกมาก็เพียงพอทำให้ทั้งสี่คนต้องกลัวได้

ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขาแล้ว พวกเขาไม่กล้าที่จะใช้การรับรู้วิญญาณเพราะกลัวว่าจะไม่สามารถรับรู้ได้ถึงราชาเทพที่ซ่อนตัวอยู่และเป็นการเปิดเผยตัวเอง

ผลก็คือทั้งสี่คนนั้นได้แต่ตามหลังนางฟ้าเฮายู่ไป

ระหว่างทาง ทั้งสี่ก็ได้หลีกเลี่ยงเขตอันตรายและราชาเทพที่เดินตรวจตราภายใต้การนำทางของนางฟ้าเฮายู่ พวกเขาเดินหน้าไปเงียบ ๆ โดยไม่ทำให้คนอื่นรู้ตัว

ต้องบอกว่าการรักษาความปลอดภัยที่นี่นั้นแน่นหนาอย่างมาก ขอบเขตตั้งต้นทั่วไปจะเผชิญหน้าอันตรายถึงชีวิตหากแทรกซึมเข้ามาที่นี่ แต่เฮายู่นั้นไม่ใช่พวกทั่วไป มันไม่จำเป็นต้องกลัวอันตรายใด ๆ เมื่อมีนางคอยนำทาง เมื่อเดินทางลึกเข้ามา พวกเขาก็เข้าไปที่เขตหลักของสาขาแห่งนี้ โดยที่ตอนนั้นสีหน้าของนางฟ้าเฮายู่ก็ดูเคร่งเครียดขึ้นมาด้วย

“ที่นี่น่าจะเป็นทางเข้าสู่ชั้นต่อไปแต่มันมีค่ายกลที่ทรงพลังซ่อนอยู่ที่นี่” เฮายู่หยุดที่ปลายห้องโถงและมองไปด้านหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง

“มันมีค่ายกลกักขังและค่ายกลสังหารรวมกับค่ายกลลวงตาที่นี่ ค่ายกลมันแข็งแกร่งที่แม้แต่พวกที่อยู่ขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 7 ก็ต้องสิ้นหวังหากโดนขังไว้ที่นี่ ดูเหมือนว่าพื้นที่ด้านบนนี้จะเป็นส่วนสำคัญของสาขา บางทีเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมลัทธิปิศาจชั้นฟ้านั้นก่อสงครามมากมายคงอยู่ที่นี่” เฮายู่พูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด หลังจากที่ทำการตรวจสอบค่ายกลแล้วนางก็พูดขึ้นมาด้วยความมั่นใจ “แต่ค่ายกลนี้ก็ไม่อาจจะหยุดเราได้ มันแค่ว่าการผ่านค่ายกลนี้ไปอาจจะสร้างความผันผวนมากซะจนค่ายกลมายาแสงจันทร์ไม่อาจจะปกปิดได้”

“เข้าสู่ค่ายกล ! ” สักพักเฮายู่ก็ได้ตัดสินใจ

“ ช้าก่อน นางฟ้าเฮายู่ ! ” จู่ ๆ ฮุสตันก็พูดขึ้นด้วยความอึดอัดใจ

เฮายู่หันกลับมามองโดยที่คนอื่น ๆ ก็มองไปที่ฮุสตันด้วย

“ มีอะไรรึ ลุงเซียว ? ” เจี้ยนเฉินถามด้วยความสับสน

ฮุสตันมองไปที่ค่ายกลตรงหน้า หลังจากที่เงียบไปสักพักเขาก็พูดขึ้น “บางทีมันอาจจะไม่ใช่เส้นทางที่ถูกต้อง”

เจี้ยนเฉิน, เฉินเจี้ยน และพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์พากันแปลกใจและมองไปที่ฮุสตันด้วยความสงสัย

แม้แต่เฮายู่ก็ยังมองไปที่เขาด้วยความแปลกใจ นางได้ถามขึ้นมาว่า “เจ้ารู้ได้ยังไงว่ามันไม่ใช่เส้นทางที่ถูกต้อง ? ”

“เพราะนี่ ! ” ด้วยความคิดก็มีหินขนาดเท่ากับนิ้วโป้งลอยออกมาจากหน้าผากของนเขา หินนี้เป็นสีแดงราวกับอัดขึ้นมาจากเลือด มันมีพลังปิศาจแผ่ออกมา

มันคือหินปิศาจชั้นฟ้าที่เจี้ยนเฉินมอบให้ฮุสตันเอาไว้

เฮายู่มองไปที่หินนั่นสักพักและพูดขึ้นว่า “ นี่คือวัตถุเทพปีศาจระดับสูง ดูเหมือนว่าเจ้าจะได้การยอมรับจากมันเนื่องจากเจ้าสามารถใช้มันได้ด้วยความแข็งแกร่งที่เจ้ามีตอนนี้”

ฮุสตันพยักหน้า เขาเรียนรู้เรื่องจิตวิญญาณวัตถุของหินปิศาจชั้นฟ้ามานานแล้ว เขาได้พูดขึ้น “ จิตมันเพิ่งจะบอกข้าให้ไปอีกเส้นทาง”

หลังจากที่คิดสักพัก เฮายู่ก็พูดขึ้นว่า “งั้นก็นำทางไป ! ”

ทั้งห้าคนได้เปลี่ยนเส้นทางทันทีโดยมีฮุสตันรับหน้าที่นำทาง ซึ่งทำให้พวกเขาต้องเดินทางไปตามเส้นทางที่หินปิศาจชั้นฟ้าบอก

ไม่นานทั้งห้าก็หยุด มันไม่ใช่เพราะพวกเขาต้องการจะหยุดแต่พวกเขามาถึงทางตัน มันไม่มีทางให้พวกเขาเดินหน้าต่อ

“ไม่มีค่ายกลที่นี่ ที่นี่เป็นทางตัน” เฮายู่ขมวดคิ้วหลังจากที่ตรวจสอบรอบ ๆ แล้ว

แต่ตอนนั้นเองหินก็เริ่มส่องแสงสีแดงออกมาห่อหุ้มตัวพวกเขาเอาไว้