ตอนที่ 1957 : ความลับที่แท้จริง
แสงส่องเข้าตาของเจี้ยนเฉิน, เฉินเจี้ยน และพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ การเคลื่อนไหวของหินปีศาจชั้นฟ้านั้นทำให้พวกเขาต้องระวังตัว
แม้แต่ฮุสตันก็ยังแสดงสีหน้าแปลกใจออกมาเพราะเขาไม่ได้ทำให้มันเป็นเช่นนี้ กลับกันแล้วมันเป็นท่าทีของหินเอง
นี่คือสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของฮุสตัน
มีแต่นางฟ้าเฮายู่ที่ยังใจเย็นอยู่ สีหน้านางไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย นี่คือความมั่นใจที่มาจากความแข็งแกร่งที่นางมี แต่ต่อมาสายตาของทุกคนก็ต้องหรี่ลงรวมไปถึงนางฟ้าเฮายู่ ด้วยพวกเขาต่างก็มองไปด้านหน้าด้วยความแปลกใจ
ภายใต้แสงสีแดงจากหิน ฉากตรงหน้าพวกเขาได้เปลี่ยนไป กำแพงหินที่ตั้งอยู่ตรงหน้ากลับหายไปเปลี่ยนเป็นทางเดิน ที่นั่นอาบไปด้วยแสงสีแดงแผ่พลังที่น่าขนลุกออกมา
“ช่างเป็นค่ายกลที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ ข้าไม่อาจจะรับรู้ถึงมันได้เลย” นางฟ้าเฮายู่ขมวดคิ้ว นางมองไปยังทางเดินนั้นแล้วพึมพำออกมา
ดวงตานางสั่นไหว นางมองไปที่หินนั่นด้วยความสงสัย
“นี่น่าจะเป็นเส้นทางที่ถูกต้อง” ฮุสตันมองไปด้านหน้า หลังจากที่ทำการตรวจสอบอยู่สักพัก เขาก็เรียกทุกคนมา พวกเขาเดินหน้ากันต่อภายใต้แสงสีแดงจากหิน
ระหว่างทางทุกคนต่างก็ยังอยู่ในระยะแสงของหิน พวกเขาพบว่าพวกเขาผ่านค่ายกลที่แม้แต่นางฟ้าเฮายู่ก็ไม่อาจจะรับรู้ถึงมันมาได้
เมื่อพวกเขาออกจากระยะของแสง ทางตันก็จะปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง กำแพงหินที่ขวางทางพวกเขาอยู่นั้นเหมือนกับของจริง เมื่อตอนสัมผัสกับมันแล้วจะรู้สึกได้ถึงความแข็งและหนัก
ตอนที่พวกเขาผ่านค่ายกลลวงตามาได้ด้วยการนำทางของหิน พวกเขาก็ได้ออกจากโลกเดิมและเดินทางไปยังที่ใหม่ แต่ตอนนั้นเองหินก็เริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรง แสงสีแดงก็เริ่มสั่นไหวเช่นเดียวกัน
พรืด !
ทันใดนั้นเองหินก็เปลี่ยนเป็นลำแสงสีแดงและหลุดจากการควบคุมของฮุสตันไป มันพุ่งออกไปด้วยตัวมันเอง “ไม่นะ ข้าไม่อาจจะควบคุมหินได้ ! ” สีหน้าของฮุสตันเปลี่ยนไป พวกเขาอยู่ในสาขาของลัทธิปีศาจชั้นฟ้า มันมีอันตรายอยู่ทั่วทุกที่ หากพวกเขาสร้างความผันผวนขึ้นมา พวกเขาก็จะถูกพบตัว
“ไล่ตามมันไป ! ” เจี้ยนเฉินตะโกนออกมาและไล่ตามหินไปทันที
ยังไงซะหินปีศาจชั้นฟ้าก็คือวัตถุเทพและมีจิตวิญญาณของตัวเอง มันเป็นไปไม่ได้ที่เจี้ยนเฉินและขั้นเหนือเทพคนอี่น ๆ จะไล่ตามมันไปได้ทัน ไม่นานพวกเขาก็ได้ห่างจากหินออกไปเรื่อย ๆ
ถ้าไม่ใช่เพราะการเชื่อมต่อที่ฮุสตันมีกับหินแล้ว พวกเขาอาจจะหามันไม่เจอเลยก็ได้
“อย่าต่อต้าน ข้าจะเอาเจ้าไปกับข้าด้วย ! ” ตอนนั้นเสียงของนางฟ้าเฮายู่ก็ดังขึ้นมา พลังแสงจันทร์ได้หมุนวนรอบตัวทั้งสี่คน หลังจากนั้นความเร็วของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นและไล่ตามหินไปด้วยความเร็วที่น่ากลัว
พวกเขาเคลื่อนที่กันอย่างรวดเร็วจนเจี้ยนเฉินและคนอื่น ๆ ไม่อาจจะเห็นรอบกายได้ชัดนัก
หินพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว เพราะมันเป็นวัตถุเทพ มันจึงไม่อาจจะเคลื่อนไหวแบบเงียบ ๆ เหมือนกับนางฟ้าเฮายู่ได้
ผลก็คือพลังของมันและตัวตนในฐานะวัตถุเทพได้แผ่ออกมา เป็นธรรมดาที่หลายคนจะรับรู้ถึงมัน
“ใครกัน ? ”
มีเสียงตะโกนดังขึ้นมาในที่ต่าง ๆ ภายในปราสาท ในเวลาเดียวกันการรับรู้ของวิญญาณที่แข็งแกร่งก็แผ่กวาดออกมาจากทุกทิศทางพุ่งตรงไปยังหินปีศาจชั้นฟ้า
“มันคือวัตถุเทพ ! ”
“ของใครกัน ? ทำไมข้าถึงเคยเห็นมันมาก่อน ? ”
“มันไม่ได้เป็นของลัทธิปีศาจชั้นฟ้า ไม่นะ มีคนแอบเข้ามาที่สาขา ! ”
ทันใดนั้นผู้คนรอบ ๆ ก็เริ่มลนลาน ราชาเทพได้โผล่ออกมาจากห้องลับหรือมิติที่ครอบคลุมด้วยค่ายกล พวกเขารีบไล่ตามหินปีศาจชั้นฟ้าไป
“มีคนแอบเข้ามาที่สาขา เร็วเข้า ติดต่อรองหัวหน้า” ผู้อาวุโสราชาเทพผู้หนึ่งลอยอยู่ในอากาศ ตาเขาเป็นประกาย เขามองไปที่หินปีศาจชั้นฟ้าด้วยการรับรู้วิญญาณพร้อมกับเสียงที่ดังก้องไปทั่ว
แต่ปราสาทแห่งนี้ครอบคลุมด้วยค่ายกลจากด้านในและยังมีหลายพื้นที่ เขตที่เจี้ยนเฉินและคนอื่น ๆ เข้ามาด้วยความช่วยเหลือจากหินนี้ ชัดเจนแล้วว่าเป็นอีกพื้นที่ของปราสาท ผลก็คือเสียงของราชาเทพคนนั้นดังก้องไปทั่วแค่ที่นั่น ไม่ใช่ทั้งปราสาท
แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่ผู้อาวุโสราชาเทพผู้นี้ก็ได้เตือนสติราชาเทพทุกคนที่อยู่ที่นั่นได้
แต่ตอนนี้เอง นางฟ้าเฮายู่ได้ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังผู้อาวุโส นางได้วางมือขาว ๆ ลงบนหัวของผู้อาวุโสคนนั้นแล้วกดลงไปเบา ๆ
เสียงระเบิดดังขึ้นพร้อมกับหัวของราชาเทพที่ระเบิดออก วิญญาณของเขาได้ถูกลบไปทันที
เขาเป็นถึงราชาเทพที่แข็งแกร่งแต่กลับตายเช่นนี้ได้ เขาไม่อาจจะต้านทานได้เลยแม้แต่น้อย เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครฆ่าเขา
นางฟ้าเฮายู่ลอยอยู่ในอากาศ พลังแสงจันทร์หมุนวนรอบตัวนาง นางมองไปรอบ ๆ ด้วยสายตาเย็นชาและสร้างผนึกด้วยมือทั้งสองข้าง ดวงจันทร์ขนาดเท่ากับฝ่ามือลอยออกมาจากมือนาง พลังงานที่มันมีน่ากลัวที่เพียงพอจะทำลายที่นั่นได้ มันทำให้เจี้ยนเฉินและคนอื่น ๆ ต่างก็หน้าซีดเพราะความตกใจ
ต่อมาดวงจันทร์ก็ได้แตกออกเปลี่ยนเป็นเส้นพลังแสงจันทร์ขนาดเท่ากับนิ้วมือ มันเหมือนกับลูกศรพุ่งไปโดยรอบด้วยพลังที่น่ากลัว
ฉึก ฉึก ฉึก ฉึก… !
ในมิตินั้นพลังแสงจันทร์ได้เข้าโจมตีราชาเทพที่เผยตัวเองออกมา ก่อนที่พวกนั้นจะได้ส่งเสียงร้องออกมา วิญญาณของพวกนั้นก็สลายหายไป
ตอนนั้นทั้งมิติเต็มไปด้วยความเงียบงัน
เจี้ยนเฉิน, พยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์, ฮุสตันและเฉินเจี้ยนยืนอยู่ด้านหลังนางฟ้าเฮายู่ หลังจากที่เห็นว่านางฟ้าเฮายู่ได้ฆ่าราชาเทพไปมากมายได้อย่างง่ายดาย พวกเขาต่างก็รู้สึกตกตะลึง
แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าพวกขอบเขตตั้งต้นนั้นแข็งแกร่ง แต่พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงเมื่อเห็นพลังนั้นกับตาตัวเอง
ราชาเทพพวกนี้ไม่ได้อ่อนแอ ทุกคนนั้นแข็งแกร่งจนทั้งสี่คนยากจะรับมือได้ พวกเขาคงจะหนีไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่พวกนี่กลับอ่อนแอเหมือนมดต่อหน้านางฟ้าเฮายู่
ราชเทพไม่ต่างอะไรจากมดเลย !
“เราเปิดเผยตัวแล้ว รองหัวหน้าทั้งสามน่าจะกลับมาในไม่ช้า” นางฟ้าเฮายู่พูดขึ้นมา ตอนแรกนั้นนางมั่นใจเรื่องการแอบแฝงกายเข้ามาโดยไม่ได้ทำให้ใครรู้ตัว
แต่ลัทธิปีศาจชั้นฟ้ากลับรู้ตัวขึ้นมาในตอนนี้
นางฟ้าเฮายู่ไม่ได้คิดมากในเรื่องนี้แต่อย่างใด นางรีบเดินทางไล่ตามหินปีศาจชั้นฟ้าต่อไปกับเจี้ยนเฉินและคนอื่น ๆ
ตอนที่นางฟ้าเฮายู่ตามหินนั้นทัน หินก็ได้มาถึงข้าง ๆ บ่อเลือดขนาดใหญ่
บ่อแห่งนี้มีขนาดใหญ่ มันราวกับทะเลที่ไกลสุดลูกหูลูกตา
คลื่นหมุนวนอยู่ในทะเลเลือดคอยโจมตีมิติ คลื่นนั้นสูงหลายร้อยเมตรได้สร้างเสียงระเบิดอันน่ากลัวขึ้นมา มีลมพัดเหนือทะเลเลือดแห่งนี้กลายเป็นวังวนขึ้น มีใบหน้านับไม่ถ้วนที่เหมือนกับกำลังกรีดร้องออกมา นี่ดูเหมือนกับนรก มันน่ากลัวอย่างมาก
เจี้ยนเฉิน, เฉินเจี้ยน, ฮุสตัน และพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ยืนอยู่ที่ริมบ่อ พวกเขามองไปยังทะเลที่กว้างใหญ่แห่งนี้ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“มันน่าจะเป็นความลับของลัทธิปีศาจชั้นฟ้า พวกเขาก่อสงครามขึ้นเพื่อสร้างมัน” นางฟ้าเฮายู่มองไปยังทะเลเลือด หลังจากนั้นนางก็มองไปยังลมบนท้องฟ้าและหลังจากที่คิดได้ไม่นาน นางก็พึมพำออกมา “พวกเขาได้สร้างทะเลจากเลือดและควบแน่นเป็นลูกประคำโลหิตทั้งเก้าผ่านค่ายกลโดยการดูดซับแก่นพลังงานจากเลือด พวกเขารวมพลังทั้งหมดนี้มาจากวิญญาณของคนตาย พวกเขาสกัดเอาแก่นของพวกนั้นเพื่อสร้างลูกประคำวิญญาณทั้งเก้าผ่านค่ายกลเหล่านี้ ลัทธิปีศาจชั้นฟ้าพยายามจะทำอะไร ? “
“ลูกประคำโลหิตกับลูกประคำวิญญาณงั้นหรือ ? ” เจี้ยนเฉินถามขึ้นมา เขาเองก็ทำการตรวจสอบทุกอย่างตรงหน้า แต่เขาก็ไม่พบอะไรนอกจากทะเลเลือดและลมหมุน
“มีลูกประคำโลหิต 9 ลูกที่มีพลังงานอย่างมากอยู่ที่ก้นทะเลเลือด ส่วนลมหมุนนี้ไม่ใช่ลมธรรมดา มันคือพลังงานวิญญาณที่ถูกถึงออกมาโดยค่ายกล มันมีลูกประคำวิญญาณในพลังวิญญาณเหล่านี้ เจ้าอาจจะมองไม่เห็นมันด้วยความแข็งแกร่งที่เจ้ามีตอนนี้” นางฟ้าเฮายู่พูดขึ้น
เจี้ยนเฉิน พูดขึ้นมาว่า “ลัทธิปีศาจชั้นฟ้านั้นสร้างสงครามเพื่อเก็บเลือดและพลังงานเอามาอัดแน่นเป็นลูกประคำโลหิตและลูกประคำวิญญาณหรือ ? ทำไมพวกเขาถึงได้ทำแบบนั้น ? ”
นางฟ้าเฮายู่ส่ายหน้า “ข้าเองก็ไม่มั่นใจในเรื่องนี้ แก่นพลังงานในลูกประคำโลหิตสามารถทำให้ระดับการบ่มเพาะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้ ส่วนพลังงานในลูกประคำวิญาณนั้นยกระดับวิญญาณของคนได้ แต่พวกมันอัดแน่นขึ้นมาจากพวกระดับต่ำ ดังนั้นผลของมันจึงแทบไม่ส่งผลต่อพวกที่มีการบ่มเพาะระดับสูง มันไม่จำเป็นที่พวกนี้ต้องทำเช่นนี้ด้วยความแข็งแก่รงที่พวกเขามี “
นางฟ้าเฮายู่มองไปรอบ ๆ และเครียดขึ้นมา “ยิ่งกว่านั้นก็ยังมีค่ายกลที่แข็งแกร่งปกป้องบ่อเลือดเอาไว้ มันแข็งแกร่งพอที่ทำให้ข้ากลัวได้ ดูเหมือนว่าบ่อเลือดนี้จะสำคัญกว่าสิ่งใดในปราสาทแห่งนี้เมื่อดูจากความแข็งแกร่งของค่ายกลแล้ว”
“ ข้าไม่คิดว่าจะมีใครอื่นที่มีควาสามารถสร้างค่ายกลแบบนี้ขึ้นมาได้นอกจากผู้อาวุโสสูงสุดในตำนานของพวกเขา”
สีหน้าของเจี้ยนเฉินเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินแบบนั้น เขามองไปที่บ่อเลือดและพูดขึ้นมาว่า “ผู้อาวุโสสูงสุดของลัทธิปีศาจชั้นฟ้าสร้างที่แบบนี้ขึ้นมารึ ? ”
ผู้อาวุโสสูงของลัทธิปีศาจชั้นฟ้าคือตัวตนที่แม้แต่ตระกูลระดับสูงของที่ราบเมฆาก็ยังต้องหวาดกลัว
ถ้าไม่ใช่เพราะผู้อาวุโสสูงสุดที่คอยปกป้องแล้ว มันคงเป็นไปไม่ได้ที่รองหัวหน้าขั้นอสงไขยนั้นจะสร้างของแบบนี้ขึ้นมาได้
ผลก็คือทันทีที่เขาด้ยินว่าผู้อาวุโสสูงสุดของลัทธิปีศาจชั้นฟ้าได้สร้างของแบบนี้ขึ้นด้วยตัวเอง เจี้ยนเฉินก็ยากจะประคองสติตัวเองได้