กับถังซื่อไห่ เย่เฉินกลับไม่ได้ระวังมากจนเกินไป

นี่เป็นเพราะว่า เขาสามารถแยกแยะออก ว่าถังซื่อไห่ไม่มีเจตนาร้ายต่อตนเองอย่างแน่นอน

แม้กระทั่งตนเองตลอดหลายปีมานี้สามารถเติบโตอยู่ที่จินหลิงมาอย่างปลอดภัย ก็ยังดีที่ได้ถังซื่อไห่แอบคุ้มครองดูแลอยู่

ดังนั้น หากถังซื่อไห่มีความคิดไม่ดีกับตัวเองจริงๆ ไม่มีทางรอมาจนถึงตอนนี้แน่

นี่ก็เป็นหนึ่งในคนที่ทำให้เย่เฉินเชื่อใจได้อย่างแน่นอนในจำนวนคนไม่มาก ดังนั้น เขาจึงเตรียมติดต่อกับถังซื่อไห่สักหน่อย นัดเจอเขาทำความเข้าใจรายละเอียดบางส่วนในปีนั้น

ถังซื่อไห่ในเวลานี้กำลังอยู่ที่เย่ซื่อกรุ๊ป

ในห้องประชุมชั้นสูงของเย่ซื่อกรุ๊ป ทายาทสายตรงทั้งหมดของตระกูลเย่ ต่างก็รวมตัวกันอยู่ที่นี่ เข้าร่วมการประชุมใหญ่ของตระกูล

เจ้าภาพการประชุม คือคุณท่านของตระกูลเย่ และก็เป็นคุณปู่ของเย่เฉิน เย่โจงฉวน

และลูกหลานตระกูลเย่เกือบยี่สิบคน ล้วนนั่งกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่ภายในห้องประชุม

ในเวลานี้ คุณท่านเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าที่ทอดถอนใจ “อาจารย์ดูโหงวเฮ้งเมื่อวานนี้ไปอย่างรีบร้อน จากภูเขาเย่หลิงซานตรงไปที่สนามบิน แม้แต่หน้าครั้งสุดท้ายของท่านฉันก็ยังไม่ได้เห็น น่าเสียดายจริงๆ!”

ลุงใหญ่ของเย่เฉินเย่ฉางโคงเอ่ยปากถามว่า “พ่อ พ่อให้พวกเรารีบมาประชุม ก็เพราะเรื่องอาจารย์ดูโหงวเฮ้งกลับอเมริกาหรอครับ?”

เย่โจงฉวนโบกมือเล็กน้อย เอ่ยว่า “อาจารย์ดูโหงวเฮ้งเคยพูดกับฉันเอาไว้ตั้งนานแล้วว่า เหตุผลที่ท่านก่อสร้างที่ภูเขาเย่หลิงซานเสร็จยังอยู่ที่เย่นจิง อยู่ภายในประเทศ ก็เพราะรอคอยโอกาสและโชคชะตาที่เป็นของตัวเอง ตอนนี้ท่านไปแล้ว คาดว่าท่านคงจะได้รับโอกาสและโชคชะตาที่รอคอยมาหลายปีแล้ว”

ทุกคนทยอยกันพยักหน้า มีลูกพี่ลูกน้องชายรุ่นเดียวกับเย่เฉินคนหนึ่งเอ่ยถามขึ้นว่า “คุณปู่ งั้นวันนี้คุณปู่ให้พวกเรามา คือมีเรื่องที่สำคัญอะไรหรอครับ?”

คราวก่อนที่คุณท่านเรียกทายาทสายตรงของตระกูลเย่ทั้งหมดมารวมตัวประชุม ก็ยังคงเป็นตอนที่ตัดสินใจย้ายสุสานบรรพบุรุษ ธุรกิจครอบครัวของตระกูลเย่ถึงอย่างไรก็ใหญ่มาก ลูกชายแบ่งดูแลไปในแต่ละส่วน กระจายกันไปทั่วทั้งประเทศ หากไม่ใช่เรื่องที่สำคัญเร่งด่วนถึงขีดสุด ไม่มีความจำเป็นต้องให้ทุกคนมารวมตัวกันอย่างยากลำบากเช่นนี้

เย่โจงฉวนถอนหายใจออกมา เอ่ยว่า “ในตอนแรก อาจารย์ดูโหงวเฮ้งบอกกับฉันว่า หลังจากที่สถานการณ์ยากลำบากความรู้ความสามารถไม่อาจแสดงออกมาได้แตกออก ก็จะมีโอกาสแค่กางปีกก็ทะยานสู่ฟ้า ขึ้นไปอีกชั้นหนึ่งได้ แต่ฉันกลับคิดไม่เข้าใจมาโดยตลอด โอกาสที่ตระกูลเย่แค่กางปีกก็ทะยานสู่ฟ้าอยู่ที่ไหนกันแน่”

ทุกคนเพียงครู่เดียวมองหน้ากันและกัน

ความแข็งแกร่งในตอนนี้ของตระกูลเย่ เป็นอันดับที่สองในตระกูลใหญ่ของทั้งประเทศ เป็นรองเพียงแค่ตระกูลซูเท่านั้น หากขึ้นไปอีกหนึ่งชั้น นั่นไม่ใช่ต้องนำหน้าตระกูลซู กลายเป็นตระกูลอันดับหนึ่งภายในประเทศหรอกหรอ?

ด้วยเหตุนี้ ทุกคนก็ล้วนตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย

อาสามของเย่เฉิน เย่ฉางหยุนเอ่ยปากขึ้นว่า “คุณพ่อ อาจารย์ดูโหงวเฮ้งในตอนแรกมีเผยให้เห็นเบาะแสคร่าวๆหน่อยไหมครับ? เช่นโอกาสนี้จะปรากฏขึ้นที่ไหนกันแน่? ที่ตัวของใคร? หรือว่าจะหาเบาะแสที่เกี่ยวข้องกันได้ผ่านทางเรื่องไหน?”

เย่โจงฉวนส่ายศีรษะเอ่ยว่า “อาจารย์ดูโหงวเฮ้งพูดเพียงแค่ตระกูลเย่จะได้รับโอกาสดีที่ฟ้าประทานให้เข้ามา แต่สำหรับโอกาสที่ดีนี้คืออะไร ไปแสวงหาได้ที่ไหนกันแน่ ท่านไม่ได้หลุดออกมาแม้แต่คำเดียว พูดแค่ว่าเป็นความลับของฟ้าไม่อาจเปิดเผยได้!”

เย่ฉางโคงกระเดาะปากเอ่ยว่า “งั้นขอบเขตนี้ก็กว้างเกินไปหน่อยแล้ว พวกเราอยากจับเบาะแสก็จับเอาไว้ไม่อยู่!”

เย่โจงฉวนเอ่ย “จับไม่อยู่ ก็ต้องคิดหาวิธีจู่โจม สืบหารอบด้านขึ้นก่อน!”

ในขณะที่พูด เย่โจงฉวนก็เอ่ยขึ้นอีก “สองวันนี้ฉันคิดปัญหาหนึ่งมาโดยตลอด นั่นก็คือตระกูลเย่ของเรา จะทำยังไงถึงจะสามารถนำหน้าตระกูลซูได้กันแน่”

“นำหน้าตระกูลซู?”