น่าคับแค้นใจนัก!
คำพูดนี้มันเท่ากับว่าต่อให้จะมีของกินดีๆ แค่ไหนแต่หากมันเหลือพวกเขาก็จะไม่ได้กินแม้แต่น้ำซุป
สามยอดอัจฉริยะนั้นแทบจะอกแตกตายลงตรงนั้น
โจวเซียนเฉินนั้นกัดฟันหันไปร้องถามหยางชิง “หยางชิง เจ้าก็น่าจะรู้นะว่าโอสถสวรรค์ดีกว่าเพียงเล็กน้อยมันก็ส่งผลอย่างมากต่อการบรรลุมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ได้! เจ้าแน่ใจหรือว่าอยากจะให้เด็กนี่มันหลอมโอสถให้เจ้า?”
ตอนนี้พวกเขามั่นใจแล้วว่าเย่หยวนนั้นเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์แน่นอน!
มีเพียงแค่นักหลอมโอสถเท่านั้นที่จะซื้อใจคนได้มากมายปานนี้
เว้นเสียแต่ว่านักหลอมโอสถสวรรค์นั้นมันจะยังมีใครเทียบเคียงพวกเขาได้อีก?
โจวเซียนเฉินนั้นมั่นใจเลยว่าหยางชิงนั้นรู้จักแยกแยะได้
พวกเขาทั้งสามค่ายสำนักนี้คือจุดสูงสุดของเต๋าโอสถบนสามสิบสามสวรรค์!
แต่หยางชิงนั้นกลับยิ้มตอบไปอย่างไม่คิดลังเล “อ่า แน่นอนว่าข้าต้องอยากให้เย่หยวนหลอมให้ ขยะอย่างพวกเจ้ามันยังจะหลอมโอสถสวรรค์ดีๆ ได้หรือ?”
“ฮือ!”
เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวออกมามันก็ย่อมจะทำให้เกิดความแตกตื่นไปทั่ว
“ราชวังสวรรค์โจว ศาลาประชันลึก นิกายจักรพรรดิแรกสามยอดค่ายสำนักนี้กลับถูกเรียกเป็นขยะ!
ข้าได้เปิดหูเปิดตาเสียจริงๆ”
“เจ้าหยางชิงนี่มันคงไม่ได้เสียสติไปแล้วใช่หรือไม่? หากพูดถึงเรื่องการหลอมโอสถแล้วมันจะยังมีใครเทียบเคียงสามค่ายสำนักได้อีก?”
“ข้ารู้จักเจ้าโลกหยุนซานอยู่ ต่อให้เขาจะมาเองเขาก็คงไม่กล้าดูถูกสามค่ายสำนักเช่นนี้แน่!”
…
การเลือกของหยางชิงนี้มันย่อมจะกลายเป็นเรื่องตลกสำหรับคนทั้งหลายไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนจากเผ่ามนุษย์ทั้งหลายนั้นที่พวกเขาต่างเข้าใจเรื่องนี้ดี
ค่ายสำนักอื่นๆ นั้นรวมไปถึงศาลาสวรรค์ม่วงล้ำหรือตระกูลจั่วต่างก็ไม่มีใครกล้าลบหลู่พวกเขาให้มากมายนัก
แต่หยางชิงนั้นกลับไม่คิดสนใจและเชื่อในตัวมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์คนหนึ่งมากกว่าพวกโจวเซียนเฉิน
โจวเซียนเฉินนั้นโกรธจนหน้าดำหน้าแดงเพราะเดิมทีเขานั้นคิดใช้เรื่องโอสถสวรรค์นี้ยุแยงให้คนทั้งสองแตกคอกันแต่ไม่นึกไม่ฝันว่ามันจะเป็นตัวเองที่ถูกตบจนหน้าหัน
“ฮ่าๆ ดีจริงๆ! ในสามสิบสามสวรรค์นี้มันยังไม่เคยมีใครพูดกับราชวังสวรรค์โจวเช่นนี้มาก่อน! หยางชิง เจ้าเลือกมันเองนะ เมื่อถึงเวลาแล้วอย่าได้มาเสียใจทีหลังแล้วกัน!” โจวเซียนเฉินหัวเราะขึ้นเย้ย
หยางชิงเองก็หัวเราะตอบ “เสียใจ? พวกเจ้าต่างหากที่อย่าได้มาเสียใจภายหลังเมื่อถึงเวลานั้นแล้ว!”
พูดจบเขาก็หันไปหาเย่หยวน “ว่าไงจะเริ่มหลอมเลยไหม? ข้าอยากเห็นสีหน้าพวกมันตอนรู้ความจริงไม่ไหวแล้ว!”
แต่เย่หยวนกลับส่ายหัวตอบกลับไป “ไม่ต้องรีบไป ขอข้าศึกษามันก่อน”
เย่หยวนนั้นเคยได้ลองหลอมโอสถสวรรค์ระดับแปดมาแล้วบ้าง แต่ก็ยังน้อยนิด
เพราะสมุนไพรสวรรค์ระดับแปดนั้นมันเป็นของหายากไม่ว่าจะบนสวรรค์ใด
แม้จะเป็นในเผ่ามังกรฟ้าอันยิ่งใหญ่นั้นเองก็ยังมีสมุนไพรสวรรค์กักตุนไว้เพียงน้อยนิด
นอกจากนั้นแล้วตั้งแต่เย่หยวนสำเร็จปราณเทวะโกลาหลมาได้นั้นเขาก็เหมือนได้รู้จักเต๋าโอสถใหม่เป็นครั้งที่สอง
เขานั้นยังต้องใช้เวลารวบรวมความคิดและศึกษามันให้เข้าที่เข้าทาง
หยางชิงยิ้มตอบ “ได้!”
เขานั้นรู้ดีว่าเมื่อเย่หยวนทำหน้าเช่นนี้มันย่อมจะเป็นของไม่ธรรมดาแน่นอน
หากมันหลอมได้ง่ายๆ เย่หยวนย่อมจะไม่ทำหน้าเช่นนี้และพร้อมตบหน้าคนให้หันไปในทันที
แต่ภาพนี้มันกลับดูแสนตลกในสายตาของพวกโจวเซียนเฉินทั้งหลาย
“เฮอะ ทำเป็นวางท่า คิดทำตัวลึกลับ! รอดูเถอะ เจ้าจะได้เสียใจภายหลัง!” โจวเซียนเฉินกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
หลังจากเถียงกันจบแล้วต่างฝ่ายต่างก็แยกย้ายกันเข้าไปเก็บเอาสมุนไพรที่เหลือครึ่งหนึ่งนั้น
มนุษย์นั้นมีกำลังมากที่สุดในที่นี้เมื่อพวกเขาร่วมมือกันมันย่อมจะทำให้พวกเขาได้ส่วนแบ่งไปมากที่สุด
นอกจากนั้นเผ่าปีศาจ เผ่าปีก เผ่าภูตแท้ที่แข็งแกร่งนั้นต่างก็ได้ส่วนแบ่งไปไม่น้อยเช่นกัน
ส่วนคนที่เหลือนั้นแทบจะไม่ได้จับแม้แต่ใบไม้ใบเดียว
หลังแบ่งกันเสร็จสิ้นแล้วมันก็เริ่มการหลอมโอสถขึ้น
การกินสมุนไพรสวรรค์ลงไปตรงๆ ย่อมจะมีประโยชน์ไม่น้อยแต่ว่าการทำให้มันกลายเป็นโอสถสวรรค์ก่อนนั้นย่อมจะเสริมพลังของมันได้ดีที่สุด
เพราะฉะนั้นคนจากราชวังสวรรค์โจว ศาลาประชันลึกและนิกายจักรพรรดิแรกจึงต่างกลายเป็นที่สนใจของทุกผู้คนไป
คนจากค่ายสำนักต่างๆ เข้าไปขอร้องให้พวกเขาช่วยหลอมโอสถสวรรค์ให้ เพราะว่าคนที่ได้มาในวันนี้ต่างล้วนเป็นอัจฉริยะจากสามยอดค่ายสำนักสิ้น บ้างนั้นถึงขั้นเป็นยอดฝีมือคลื่นกำเนิด บ้างนั้นก็บรรลุระดับต้นกำเนิดไปแล้ว!
เหนือจากระดับลึกล้ำไปนั้นมันคือระดับต้นกำเนิด!
ระดับต้นกำเนิดนั้นคืออาณาจักรที่กว้างใหญ่
การบรรลุมาถึงระดับต้นกำเนิดนั้นมันเท่ากับเริ่มเข้าใจตนกำเนิดของเต๋าโอสถ!
นอกจากโอสถสวรรค์โกลาหลแล้วพวกเขาย่อมจะหลอมได้ทุกสิ่งอย่าง
แน่นอนว่าคนระดับนั้นย่อมจะกลายเป็นเป้าหมายของทุกผู้คนไป
โอกาสเช่นนี้มันไม่ได้มีมาง่ายๆ เพราะสมุนไพรสวรรค์มากมายขนาดนี้ออกจากวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตไปมันย่อมจะหาไม่ได้อีกแล้ว
“นายน้อยโจว ข้าจะขอมอบสมุนไพรสวรรค์ระดับเก้าสามชิ้นให้ท่านเพื่อแลกกับการให้ราชวังสวรรค์โจวของท่านช่วยหลอมโอสถสวรรค์เลื่องลือให้แก่ข้า!”
“จักรพรรดิจินหนาน ข้าจะให้สมุนไพรสวรรค์ที่ข้ามีทั้งหมดแลกกับการที่พวกท่านหลอมโอสถสวรรค์ระดับแปด โอสถกฤษฎีกาแท้สวรรค์โกลาหล!”
“นายน้อยชู…”
…
พวกโจวเซียนเฉินกลายเป็นจุดศูนย์กลางของทุกผู้คนจนรอบตัวไม่มีช่องให้อากาศไหลผ่าน
คนทั้งหลายนั้นต่างต้องการให้พวกเขาช่วยหลอมโอสถสวรรค์ให้ แม้แต่หวังหนิงเหยียนหรือฉินไป่ชวนเองก็มิใช่ข้อยกเว้น
ในโถงพันวิญญาณนั้นพวกเขาเก็บสั่งสมความรู้มามาก ตอนนี้พวกเขาจึงต้องการโอสถสวรรค์มาช่วยปลดปล่อยพวกมันเป็นพลังบ่มเพาะไป
ในตอนนี้คนจากสามค่ายสำนักกลายเป็นเหมือนดั่งดาราดังไป
คำโม้ของหยางชิงนั้นมันย่อมจะไม่ทำให้คนทั้งหลายเชื่อถือใดๆ เพราะเต๋าโอสถของสามค่ายสำนักนี้คือจุดสุดยอดอย่างไม่ต้องสงสัย!
ไม่ขอให้พวกเขาช่วยหลอมแล้วจะเอาไปให้เด็กที่ไหนไม่รู้หลอมให้หรือ?
จะบ้าหรืออย่างไร!
มีเพียงแค่คนสองกลุ่มเท่านั้นที่ไม่คิดขยับเคลื่อนไหว
คนจากสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดและเผ่าภูตแท้ทั้งหลาย!
เย่หยวนนั้นหาที่นั่งพักและนั่งหลับตาลงสัมผัสถึงคุณสมบัติของสมุนไพรสวรรค์ทั้งหลายในมือ
หลังจากนั้นเขาก็เริ่มหาวิธีการหลอมด้วยปราณเทวะโกลาหล
ส่วนอีกด้านนั้นการหลอมโอสถมันเริ่มขึ้นแล้ว
พร้อมด้วยเสียงโห่ร้องตื่นตะลึง!
ในฐานะยอดคนอันดับหนึ่งของยุคสมัยนี้ โจวเซียนเฉินย่อมจะมีเต๋าโอสถที่สุดแข็งแกร่ง
เขานั้นเป็นถึงนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับเก้าที่มีชื่อเสียงลือลั่น
“เก่งกาจนัก! เก่งกาจจนเกินจริง! แม้ว่าวรยุทธของนายน้อยโจวนั้นจะไม่ได้เหนือล้ำฟ้าดินแต่ว่าวิชาโอสถของเขานั้นกลับทิ้งคนอื่นๆ ไปอย่างไม่เห็นฝุ่นเลยจริงๆ!”
“ใช่แล้ว! บรรพบุรุษหวู่หยานั้นคือยอดคนอันดับหนึ่งในเต๋าโอสถ! เขานั้นคือเจ้าโลกคนเดียวที่ไปถึงล้ำสวรรค์ได้ด้วยเต๋าโอสถ แน่นอนว่าผู้สืบทอดของคนระดับนั้นมันย่อมไม่มีทางเป็นคนธรรมดาไป!”
“จักรพรรดิจินหนานและนายน้อยชูเองก็ไม่ด้อยไปกว่ากันเลย! ฝีมือของพวกเขานั้นมันเทียบเคียงระดับของนายน้อยโจวได้ทีเดียว!”
“ฮ่าๆ ครั้งนี้เรามีโชคเสียจริงๆ! ตราบเท่าที่เราได้โอสถสวรรค์นี้มากำลังของพวกเราย่อมจะพัฒนาล้ำไปแน่นอน!”
…
บรรพบุรุษหวู่หยานั้นคือเจ้าโลกคนเดียวบนสามสิบสามสวรรค์ที่สามารถก้าวถึงล้ำสวรรค์ได้ด้วยเต๋าโอสถ
เขานั้นคือจุดสูงสุดของเต๋าโอสถอย่างไม่ต้องสงสัย
โจวเซียนเฉินคนนี้เองก็เป็นยอดอัจฉริยะไร้ที่เปรียบในราชวังสวรรค์โจวเช่นกัน
แม้ว่าเขานั้นจะยังไม่บรรลุระดับต้นกำเนิดแต่ว่าเต๋าโอสถของเขานั้นมันก็ไปจนถึงหน้าประตูระดับต้นกำเนิดแล้ว
การจะบรรลุต้นกำเนิดนั้นมันสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
คนจากค่ายสำนักต่างๆ นั้นย่อมจะไม่เคยได้เห็นการหลอมโอสถที่น่าตื่นตะลึงขนาดนี้มาก่อน
พวกเขาทั้งหลายได้รู้สึกเหมือนได้เปิดหูเปิดตาและยื่นส่งมอบสมุนไพรสวรรค์ออกมาอย่างไม่ขาดสาย
ส่วนเรื่องเย่หยวนนั้นมันไม่มีใครจดจำได้อีกต่อไป
ด้านหนึ่งนั้นการหลอมโอสถกำลังดำเนินไปอย่างร้อนแรงแต่ส่วนด้านเย่หยวนนั้นมันกลับไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ
พริบตาเดียวนั้นมันก็ผ่านไปถึงสามเดือน
ความรวดเร็วของพวกโจวเซียนเฉินนั้นมันไม่ธรรมดา โอสถสวรรค์ทั้งหลายนั้นมันถูกหลอมจนแล้วเสร็จในเวลาแค่สามเดือนนี้
พร้อมๆ กันนั้นทั้งสามค่ายสำนักต่างก็ได้สมุนไพรสวรรค์เป็นค่าจ้างกลับไปไม่น้อย
แม้ว่ามันจะไม่อาจเทียบกับสมุนไพรสวรรค์ในมือเย่หยวนได้แต่มันก็ถือว่าเป็นจำนวนที่มากล้น
ส่วนตัวเย่หยวนนั้นเขายังคงนั่งนิ่ง
จนตอนนี้เขาก็ยังคงนั่งเก็บตัวต่อไป
โจวเซียนเฉินกล่าวขึ้นมาเย้ย “อาจารย์เย่ ทำไมยังไม่ออกมาหลอมโอสถอีกเล่า? หรือว่าแท้จริงแล้วเจ้าแค่คิดจะเก็บสมุนไพรสวรรค์ทั้งหลายไว้ใช้คนเดียว?”