บทที่ 2741 ชอบให้ใช้ไม้อ่อน + ตอนที่ 2742 ไม่มีความรับผิดชอบ

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 2741 ชอบให้ใช้ไม้อ่อน

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนปั้นหน้าตึงอีกครั้งพลางถลึงตาใส่เหมยเหมยอย่างไม่พอใจแวบหนึ่ง “ก็เพราะเธอไง เห็นเสื้อผ้าที่พี่ฮวาใส่หรือยัง ตั้งแต่ตัวจรดปลายเท้ารวมกันยังไม่ถึงร้อยหยวนเลย ฉันเห็นทุกวันจนปวดตาไปหมดแล้ว”

ตั้งแต่รู้ความเธอก็เห็นแต่เสื้อผ้าที่เพื่อนรอบตัว แม้กระทั่งตัวเองสวมใส่…มีชุดไหนที่ไม่ใช่ชุดดี ๆบ้าง?

เสื้อผ้ายี่ห้อดังราคาแพงที่ต้องทุ่มเงินซื้อไปกว่าครึ่งเพราะชื่อยี่ห้อแต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเสื้อผ้ารองเท้าและกระเป๋ามียี่ห้อเหล่านั้น…เป็นงานประณีตอย่างแท้จริงและมีจุดตำหนิน้อย ไม่เหมือนสินค้าข้างทางที่เป็นงานฝีมือหยาบ ไม่พูดถึงรอยเย็บแล้วกันแต่เธอถึงขั้นเห็นด้ายบนเสื้อที่หลุดออกมา แถมยังเจอไม่น้อยด้วย

ไหนจะรองเท้ากับกระเป๋าที่ทำจากวัสดุอย่างดีก็ช่าง แต่หนังเทียมที่กลิ่นเหม็นหึ่งทำเอาเธอที่ได้กลิ่นต้องปวดศีรษะตามไปด้วย

พี่ฮวาดันซื้อสินค้าที่ทำจากหนังเทียมทั้งหมด เนื่องจากเป็นสินค้าใหม่เลยยิ่งขับให้มีกลิ่นแรงมากกว่าเดิม คุณหนูใหญ่เหริ่นไม่เพียงแค่สายตาดีแต่จมูกยังรับกลิ่นดียิ่งกว่าสุนัข เห็นเส้นด้ายหลุดลุ่ยลอยพลิ้วตามสายลม กลิ่นหนังเทียมที่ส่งกลิ่นเหม็นหึ่งอยู่เกือบยี่สิบชั่วโมง…

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนรู้สึกใกล้จะเป็นบ้าเต็มทีแล้ว!

“ในเมื่อเธอทนไม่ได้ก็ให้พี่ฮวาทิ้งกระเป๋าคุณภาพแย่พวกนั้นไปสิ เธอเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ จำเป็นต้องทรมานตัวเองเหรอ?” เหมยเหมยทำท่าไม่ยี่หระ

เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ก็เอามาเครียดได้ หาเรื่องลำบากให้ตัวเองจริง ๆ

ฉีฉีเก๋อเอ่ยเสริม “ไม่งั้นเธอก็เอาเงินค่าเสื้อผ้ากระเป๋าพวกนั้นให้พี่ฮวาไป ไม่ไหวจริง ๆเธอก็ให้พี่ฮวาใส่เสื้อผ้าตัวเดิมที่เธอซื้อให้เถอะ ถึงจะแพงไปหน่อยแต่เธอก็ไม่ขาดแคลนเงินแค่นี้นี่นา ไม่จำเป็นต้องทรมานตัวเองหรอก”

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนทำหน้าบึ้ง “คิดว่าฉันไม่ได้บอกไปหรือไง ฉันพูดไปหลายรอบแล้วแต่ให้ตายยังไงพี่ฮวาก็ไม่ยอมใส่ บอกว่าคนรับใช้อย่างเธอมีสิทธิ์ใส่เสื้อผ้าดี ๆแบบนี้ได้อย่างไรกัน โอ๊ย…ฉันก็ไม่กล้าพูดแรงเกินไป กลัวเธอแล้วจริง ๆ!”

“เธอจะกลัวหล่อนทำไม? เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนสมองเธอยังดีอยู่ไหม? ความโอหังแต่ก่อนของเธอหายไปไหนหมด?” ฉีฉีเก๋อรู้สึกเหลือเชื่ออย่างมาก

เจ้านายกลับกลัวคนรับใช้?

จะว่าอย่างไรก็ไม่เข้าท่าเลย!

“ฉันก็ไม่ได้กลัวหล่อนจริง ๆหรอก พวกเธอก็รู้ว่าฉันเป็นคนชอบใช้ไม้อ่อน แค่ฉันพูดแรงหน่อยพี่ฮวาก็ร้องไห้แล้ว ฉันกลัวผู้หญิงร้องไห้ที่สุด…”

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเองก็ปวดศีรษะเหลือเกินแต่ทำอะไรพี่ฮวาไม่ได้จริ งๆ พูดแรงไปก็ไม่ได้แต่พอไม่พูดเธอก็รู้สึกแย่เอง

เหมยเหมยขมวดคิ้ว ทำไมถึงร้องไห้อีกแล้วล่ะ?

“แบบนี้ไม่ได้การล่ะ เธอจะอยู่ในกำมือคนรับใช้แบบนี้ไม่ได้ ไร้กฎระเบียบกันพอดี เธออยู่บนนี้นะ ฉันจะเป็นคนไปพูดกับพี่ฮวาเอง วัน ๆเอาแต่ร้องห่มร้องไห้ดูไม่เข้าท่าเลย ไม่ไหวจริง ๆก็เปลี่ยนคนใหม่!”

เหมยเหมยว่าแล้วก็ลุกขึ้นยืน เธอไม่ชอบพี่ฮวาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเพราะเอาแต่ปั้นหน้าบูดอยู่ทุกวัน ทำเอาคนที่เห็นพลอยหงุดหงิดตามไปด้วย

“ไม่ต้องเปลี่ยนแล้วดีกว่า นอกจากจุดนี้พี่ฮวาก็ค่อนข้างดีเลย พ่อแม่สามีฉันชมเธอใหญ่เลย!” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนไม่อยากเปลี่ยนพี่เลี้ยงเท่าไรนัก ไม่ใช่เพราะตัวเธอแต่ประเด็นคือพ่อแม่ของอิงจวี้กัง

ด้วยสาเหตุที่เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนอยากรักษาหุ่นเลยเลื่อนแผนเรื่องมีลูกออกไปอีกสองปี ปิดบังพ่อแม่สามีเรื่องที่สุขภาพหายดีเป็นปลิดทิ้งแล้ว ถึงพ่อแม่ตระกูลอิงเองก็โวยวายอยู่พักหนึ่งแต่สุดท้ายก็ยอมตกลงรับเลี้ยงเด็กแทน แถมยังดีกับนันนันไม่หยอก

ฉะนั้นเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนจึงรู้สึกผิดต่อพ่อแม่สามีมาตลอด เมื่อพี่ฮวาเพิ่งมาทำงานที่บ้านพ่อแม่ตระกูลอิงได้ฟังเรื่องราวที่พี่ฮวาประสบพบเจอมาก็แสดงความเห็นใจอย่างสุดซึ้ง ก่อนจะแอบกำชับกับอิงจวี้กังว่าให้ทำดีกับหญิงสาวผู้น่าสงสารคนนี้ให้มาก

ฉะนั้น…เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนถึงได้ยอมอดทนเพื่อไม่ทำให้พ่อแม่สามีต้องไม่พอใจ ไม่อย่างนั้นหากอีกสองเดือนข้างหน้าพ่อแม่สามีกลับมาจากบ้านเกิดเห็นพี่ฮวาหายไปจะเกิดความเข้าใจผิดกันอีก

………………………………………………

ตอนที่ 2742 ไม่มีความรับผิดชอบ

เหมยเหมยได้ยินคำนี้ก็รู้สึกโมโหอย่างไม่มีสาเหตุ “ช่างเถอะงั้นเหรอ? เราหาพี่เลี้ยงมาทำไม? ก็เพื่อแบ่งเบาภาระให้ตัวเองสบายกายสบายใจมากขึ้นไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้หล่อนกลับกำลังส่งผลกระทบต่ออารมณ์เธออย่างรุนแรงแล้วคิดจะช่างมันอีกเหรอ?”

ไม่เคยเห็นเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเป็นแม่พระขนาดนี้มาก่อน

เมื่อก่อนชอบด่าว่าฉีฉีเก๋อแม่พระ ตอนนี้ดูแล้วเธอต่างหากที่สติเลอะเลือนที่สุด

“ขอแค่พี่ฮวาทิ้งเสื้อผ้ากระเป๋ารองเท้าพวกนั้นไปฉันก็จะอารมณ์ดีขึ้นทันที เธอคุยกับหล่อนดี ๆนะ อย่าบอกว่าจะไล่เธอออก ไม่งั้นฉันคงหาคำอธิบายให้พ่อแม่สามีฉันไม่ได้”

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนบอกเหตุผลของเธอออกมาพร้อมรับสายตาเหยียดหยามสองคู่

สมน้ำหน้า!

เมื่อก่อนมีลูกไม่ได้เพราะเจอปัญหา ตอนนี้สุขภาพดีขึ้นแล้วกลับไม่อยากมีลูก หากพวกเธอเป็นพ่อแม่ตระกูลอิงแล้วรู้ความจริงเข้าจะต้องโมโหจนตายแน่ ๆ!

“เข้าใจแล้ว ฉันจะคุยกับหล่อนดี ๆ ไม่เข้าใจเธอจริง ๆหาเรื่องให้ตัวเองแท้ ๆ!”

ในเมื่อเรื่องเอี่ยวไปถึงพ่อแม่สามีเหมยเหมยก็ไม่อาจไล่พี่ฮวาออกโดยพลการได้ เธอไม่ใช่เจ้าของบ้านตัวจริงสักหน่อยและไม่มีอำนาจมากขนาดนั้นด้วย

ฉีฉีเก๋อกับเหมยเหมยลงไปชั้นล่างพร้อมกันปล่อยให้เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนอยู่ข้างบนคนเดียว ชั้นล่างเล่อเล่อกับเป่ารื่อน่ากำลังเล่นเกมเทพพิทักษ์หยี่หลองสินต่อสู้กับเทพธิดาทั้งเจ็ดอย่างสนุกสนาน นันนันกำลังนั่งตัวตรงอยู่บนพื้นดูทั้งคู่เล่นกันอย่างจดจ่อ ทั้งคอยปรบมือหัวเราะเสริมเป็นครั้งคราวจนทำเอายายหนูทั้งสองเล่นกันฮึกเหิมกว่าเดิม

เหมยเหมยเห็นแล้วก็รู้สึกตลกดี เทพพิทักษ์หยี่หลองสินเคยต่อสู้กับเทพธิดาทั้งเจ็ดตั้งแต่เมื่อไรกัน?

ยายหนูทั้งสองไม่รู้ไปฟังนิทานเรื่องนี้มาจากไหนถึงได้แต่งเรื่องไปเรื่อยแบบนี้

พี่ฮวาไม่ได้นั่งเฝ้าเด็ก ๆและไม่อยู่ในห้องนั่งเล่นด้วย เหมยเหมยใจกระตุกรีบสาวเท้าลงไปชั้นล่าง “เล่อเล่อ คุณป้าล่ะ?”

เล่อเล่อกำลังชูไม้ถูพื้นสนุกได้ที่พอดี พอได้ยินคำถามก็ชี้นิ้วไปสวนหลังบ้านอย่างไม่สบอารมณ์ทีหนึ่งก่อนจะหันกลับมาต่อสู้กับเป่ารื่อน่าต่อ โบกไม้ถูพื้นไปมาจนข้าวของกระจัดกระจายเต็มพื้น

เหมยเหมยหนังตากระตุก ยังดีที่ไม่ได้อยู่บ้านเธอ ปล่อยให้เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเป็นคนจัดการเองแล้วกัน

“เป่ารื่อน่า เล่อเล่อ พวกหนูระวังหน่อยนะ อย่าทำให้น้องเจ็บตัวละ!”

ฉีฉีเก๋อเห็นแล้วก็รู้สึกผวาตามไปด้วย เล่อเล่อกำไม้ถูพื้นด้ามใหญ่ขนาดนั้น ส่วนเป่ารื่อน่ากำไม้ขนไก่ด้ามหนึ่ง เกิดเด็กน้อยทั้งสองไม่ทันระวังตัวแล้วปัดไปโดนตัวนันนันก็แย่เลย

“ทำไมพี่ฮวาไม่อยู่เฝ้าเด็ก?” ฉีฉีเก๋อไม่พอใจอย่างมาก

โชคดีที่พวกเธอลงมาก่อน ไม่อย่างนั้นคงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น!

เหมยเหมยก็ไม่พอใจเช่นกัน เดิมทีคิดว่านอกจากพี่ฮวาจะชอบร้องไห้แล้วคงไม่มีปัญหาเรื่องอื่นอีก แต่ตอนนี้เท่าที่ดูแล้วเธอมีความรับผิดชอบไม่มากพอ ทำไมถึงปล่อยให้เด็กน้อยทั้งสามเล่นกันเองได้ล่ะ!

ห้องนั่งเล่นมีเครื่องใช้ไฟฟ้า มีปลั๊กไฟ มีโต๊ะมีตู้เก็บของแล้วยังมีตู้ปลาขนาดใหญ่…ล้วนเป็นสิ่งของเครื่องใช้ที่ก่ออันตรายแก่เด็กได้ ไม่มีผู้ใหญ่คอยจับตาดูแล้วใครจะวางใจลง?

ไม่รู้ว่าพี่ฮวากำลังทำอะไรอยู่กันแน่!

เหมยเหมยไปสวนหลังบ้านแล้วปล่อยให้ฉีฉีเก๋อเฝ้าเด็กอยู่ที่ห้องนั่งเล่น สวนหลังบ้านพื้นที่ไม่กว้างนัก เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนปลูกต้นองุ่นไว้ต้นหนึ่งรวมถึงดอกกุหลาบอีกจำนวนหนึ่ง แต่ตอนนี้กลับมีผักกาดขาวเพิ่มมาอีกหย่อมหนึ่งรวมถึงต้นหอมอีกหลายแถว

พี่ฮวากำลังเก็บผักกาดขาว ในตะกร้าผักกาดขาวสดใหม่นอนเรียงกันกว่าครึ่งตะกร้า ดูฉ่ำน้ำกว่าที่วางขายตามท้องตลาดสดมากโข

ครั้นเห็นเหมยเหมยเดินเข้ามาพี่ฮวาก็ลุกพรวด คลี่ยิ้มเจื่อนแล้วก้มหน้าน้อย ๆเผยสีหน้าอมทุกข์อีกครั้ง

“พี่ฮวา…พี่น่าจะอยู่เฝ้าเด็กในห้องนั่งเล่นนะ พี่ปล่อยให้เด็กอยู่ห้องนั่งเล่นคนเดียวมันอันตรายมากรู้ไหม?” เหมยเหมยอดตำหนิไม่ได้ พยายามเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่สุดในเมื่ออีกฝ่ายไม่ใช่คนรับใช้บ้านตัวเอง

แต่ใครจะคิดว่า–

พี่ฮวาน้ำตาร่วงเผาะแล้วพูดเสียงติดสะอื้นว่า “ฉันแค่ผละออกมาครู่เดียวเอง คิดจะเก็บผักมาทำมื้อเที่ยง ตอนเช้าคุณนายบอกว่าอยากทานผักกาดขาว…”

ตอบไม่ตรงคำถาม เหมยเหมยมองพี่ฮวาที่กำลังร่ำไห้เสียใจอย่างจนใจ ในที่สุดก็เข้าใจความรู้สึกเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนแล้ว

…………………