บทที่ 2747 โกหกแล้วโกหกอีก + ตอนที่ 2748 ใจอ่อนอีกแล้ว

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 2747 โกหกแล้วโกหกอีก

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนถึงเพิ่งสังเกตเห็นสร้อยคอทองคำบนคอพี่ฮวาจึงแหวเสียงถาม “เธอซื้อสร้อยคอทองคำมาตั้งแต่เมื่อไหร่? ไม่สิ…เธอเอาเงินมาจากไหน? ไหนเธอบอกว่าไม่มีเงินติดตัวสักแดงเดียวไง?”

พี่ฮวาทำหน้าลนยิ่งกว่าเดิมแล้วตอบเสียงตะกุกตะกัก “ฉะ…ฉัน…ฉันมีแต่แรกอยู่แล้ว…ไม่ได้เพิ่งซื้อมา…”

“มีแต่แรกอยู่แล้วงั้นเหรอ? แล้วทำไมก่อนหน้านี้เธอบอกว่าหย่าแล้วไม่ได้อะไรติดตัวมา? แม้แต่เงินค่าเช่าห้องชั้นใต้ดินยังเป็นพี่หนิวช่วยเธอจ่ายเลย” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนซักถามที่ยิ่งถามก็ยิ่งสงสัย

เหมยเหมยขมวดคิ้ว การโกหกครั้งเดียวก็ต้องคิดคำโกหกอีกนับไม่ถ้วนตามมา ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยพูดความจริงเลยสักประโยคเดียว

“อันนี้สามีคนเก่าของฉันซื้อให้…ฉัน…ฉันทำใจขายไม่ลง…”

“ไม่สิ…ไหนเธอบอกว่าเงินที่บ้านถูกสามีเก่าเธอขโมยไปหมดแล้วไม่ใช่เหรอ? แม้แต่แม่กุญแจอายุยืนของลูกชายเธอยังไม่เหลือ ทำไมยังมีสร้อยคอทองคำเหลืออีกล่ะ?”

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนสงสัยหนักกว่าเก่า แม่กุญแจอายุยืนของเด็กมักทำจากเงิน แล้วจะมีราคาเทียบเท่าทองคำได้อย่างไร สามีคนเก่าของพี่ฮวาคงไม่โง่ขนาดนั้นหรอก!

“ฉัน…ฉันซ่อนมันเอาไว้ เขาไม่…ไม่รู้…”

พี่ฮวาน้ำท่วมปากและเสียงแผ่วลงเรื่อย ๆ ศีรษะค่อย ๆงุดต่ำลงจนเล่อเล่อที่ยืนดูอยู่ข้าง ๆพลันก็ตะโกนเสียงดัง “เธอกำลังโกหก!”

คุณพ่อเคยสอนเธอว่าคนโกหกจะมีพฤติกรรมเล็ก ๆน้อย ๆบางอย่างที่เผลอทำโดยไม่รู้ตัว อย่างเช่นบีบนิ้วมือ หันข้าง ก้มหน้า…แล้วก็ไม่กล้าสบตาผู้อื่น คุณน้าคนนี้ตรงตามที่พูดมาทุกอย่างและเธอกำลังโกหกอย่างแน่นอน

“ไม่ใช่นะ…ฉันไม่ได้โกหก…ฉันพูดความจริงทั้งนั้น…”

พี่ฮวาตัวกระตุกเหมือนถูกหนามตำแล้วถลึงตาใส่เล่อเล่อทีหนึ่ง ยัยหนูอ้วนคนนี้ชอบสอดมือยุ่งเรื่องคนอื่นเหมือนแม่ของเธอไม่มีผิด น่าชังเสียเหลือเกิน

“น้ากำลังโกหก…คุณแม่ เธอกำลังโกหก!”

เล่อเล่อไม่พอใจ สิ่งที่คุณพ่อสอนไว้ไม่มีทางผิดพลาด ผู้หญิงคนนี้แคลงใจในตัวเธอก็เท่ากับกำลังแคลงใจในตัวคุณพ่อ ไม่ชอบใจเลย!

“เล่อเล่อพูดถูก เธอกำลังโกหก เล่อเล่อเยี่ยมที่สุดเลย ลูกพาน้องเป่ารื่อน่าไปดูทีวีทางนั้นเถอะ!”

เหมยเหมยหลอกให้เด็กปลีกตัวออกไปแล้วมองพี่ฮวาที่ยังคร่ำครวญว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดด้วยสายตาดุดัน “เสื้อผ้าพวกนั้นเธอขายไปทั้งหมดเท่าไหร่? อย่าคิดจะโกหกอีก ไม่งั้นฉันจะให้เชี่ยนเชี่ยนไล่เธอออกเดี๋ยวนี้!”

พี่ฮวาได้ยินก็แข้งขาอ่อนเพลียหน้าซีดเผือด ไม่ง่ายเลยกว่าเธอจะหางานสบาย ๆแบบนี้ทำ เจ้านายใจดีคุยง่ายแล้วยังจ่ายเงินเดือนสูง ออกไปจากที่นี่แล้วเธอจะไปหาเจ้านายแบบนี้ได้จากไหนอีก!

“บอกมา…ไม่บอกก็ออกไปเลย!”

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเอ่ยเสริมเหมยเหมยโดยการตวาดใส่เรียกให้พี่ฮวาตัวสะท้านเฮือก ก่อนจะยอมรับสารภาพทุกอย่างแต่โดยดีไม่กล้าจะปิดบังอะไรอีก

เสื้อผ้าถูกเธอขายไปทั้งหมดอย่างที่ว่า ขายให้ร้านเสื้อผ้าร้านหนึ่งที่มีเสื้อสามตัวกับรองเท้าสองคู่และกระเป๋าหนึ่งใบ ราคาเดิมหนึ่งหมื่นสองพันหยวนแต่เธอหั่นครึ่งราคาได้มาหกพันหยวน จากนั้นก็เสียเงินหนึ่งพันแปดร้อยเพื่อซื้อสร้อยคอทองคำหนึ่งเส้น ที่เหลือก็เก็บเข้าบัญชีเงินฝาก

“คุณนาย…เงินคืนให้หมดเลย แต่อย่าไล่ฉันไปเลย…ฉันไม่กล้าทำอีกแล้ว!”

พี่ฮวาเดินไปเอาสมุดบัญชีในห้องออกมา แม้จะปวดใจแต่เพื่ออนาคตก็ชิงส่งมอบให้เจ้านายก่อนจะดีกว่า เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเป็นคนที่ดูเหมือนจะดุแต่ความจริงรับมือง่าย ถึงเวลาเธอค่อยแกล้งทำตัวให้ดูน่าสงสาร รับรองว่าต้องได้ผลประโยชน์อีกไม่น้อยแน่!

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนโกรธจนเอามือปัดสมุดบัญชีทิ้ง ลำพังแค่เงินหนึ่งหมื่นหยวนคิดว่าจะอยู่ในสายตาเธอหรือ?

สิ่งที่เธอโกรธคือพี่ฮวาโกหกแล้วโกหกอีก ปั่นหัวเธอเล่นเหมือนเป็นตัวตลก

“ไป…เธอรีบเก็บของแล้วออกไปเดี๋ยวนี้!” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนชี้นิ้วไปทางประตูพร้อมตะคอกเสียง

พี่ฮวาตกใจจนขาอ่อนแรงคุกเข่าดังตุบแล้วกราบแทบเท้า “คุณนาย ขอร้องละ ฉันจะไม่ทำผิดอีกแล้ว ฉันนึกว่าคุณนายให้เสื้อผ้าพวกนั้นมาก็เท่ากับเป็นของของฉัน ถึงได้อยากเปลี่ยนเป็นเงินมาเก็บเอาไว้ ฉันแค่กลัวความจนมากเกินไป คุณนาย…คุณนายเกิดมาบนกองเงินกองทอง ไม่เข้าใจความรู้สึกที่ต้องทนหิวสามวันสามคืนแต่ฉันรู้…มันเกินกว่าที่คนจะรับไว้จริง ๆ…”

……………………………

ตอนที่ 2748 ใจอ่อนอีกแล้ว

พี่ฮวาร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหล ทั้งยังพูดประโยคหนึ่งก็โขกศีรษะกับพื้นทีหนึ่ง ใช้เวลาไม่นานบริเวณหน้าผากก็ปูดโปนแต่ยังไม่ยอมหยุด เธอทำต่อไปเรื่อย ๆจนนันนันที่อยู่ในอ้อมแขนของฉีฉีเก๋อนิ่งไปครู่หนึ่ง กะทั่งเปลี่ยนเป็นเบะปากแล้วร้องไห้ขึ้นมาฉับพลัน

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนถลาเข้าไปโอ๋ ไม่รู้จะทำอย่างไรกับพี่ฮวาที่สภาพน่าสงสารดี ทั้งสงสารทั้งน่าโกรธเคือง

แต่พอพี่ฮวาทำตัวให้ดูน่าสงสารอีกระลอกเธอก็ไม่ได้เดือดดาลเท่าก่อนหน้านี้แล้ว บางทีพี่ฮวาอาจจะยากจนเกินไปจริง ๆถึงคิดได้ว่าจะขายเสื้อผ้าทิ้ง

“เธอลุกขึ้นมาก่อน ไม่น่าดูเลย!” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนตะคอกใส่

เหมยเหมยกับฉีฉีเก๋อแลกเปลี่ยนสายตากันวูบหนึ่งก่อนจะส่ายหน้าพร้อมกันอย่างเอือมระอา

ฟังจากน้ำเสียงของเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนก็รู้ว่าใจอ่อนอีกแล้ว พวกเธอก็ไม่อยากทำตัวเป็นคนใจร้ายอีก ปล่อยให้เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนค่อย ๆเห็นธาตุแท้ของพี่ฮวาเองแล้วกัน อย่างไรเสียยัยคนนี้ก็มีเงินถมเถไป เสียไปอีกแสนกว่าหยวนก็ไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไร!

พี่ฮวากระแทกศีรษะลงพื้นแรงกว่าเดิมจนเกิดเสียงตุบ ๆดังลั่น “คุณนาย…ท่านเป็นกวนอิมผู้มีจิตเมตตา ฉันได้เจอท่านถือว่าเป็นบุญวาสนาที่สั่งสามาสิบชาติ ฉันสัญญาว่าหลังจากนี้จะซื่อสัตย์กับคุณนาย ดูแลคุณหนูให้ดี…”

เหมยเหมยฟังแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียนใจ คนเราตัดสินจากภายนอกไม่ได้จริง ๆ พี่ฮวาดูเป็นคนใสซื่อแต่ฝีปากเป็นคนช่างเจรจานัก บ่งบอกว่าพี่ฮวาไม่ใช่คนซื่อแต่อย่างใดแถมยังเป็นคนที่มีเล่ห์เหลี่ยมอย่างมาก

ไม่ผิดไปจากที่เหมยเหมยคาดการณ์เอาไว้ว่าเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนใจอ่อนกับพี่ฮวาอีกครั้ง เธอกลัวเพื่อนจะว่าตัวเองเลยได้แต่มองไปทางเหมยเหมยอย่างรู้สึกผิด

“เรื่องครอบครัวเธอก็จัดการเองเถอะ ฉันจะพาเล่อเล่อไปทานเนื้อย่าง” เหมยเหมยจูงมือเล่อเล่อเดินไปทางประตูโดยไม่คิดจะสนใจอะไรอีก

พอได้ยินดังนั้นฉีฉีเก๋อก็เดินตามเหมยเหมยไปอุ้มเป่ารื่อน่าขึ้นมาเช่นกัน “ฉันพาเป่ารื่อน่าไปเรียนเปียโนล่ะ!”

ทั้งสองรีบขอตัวออกมาจากบ้านเหริ่นเชี่ยนเชี่ยน พอก้าวพ้นประตูมาก็พรูลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ หันไปมองหน้ากันและกันแล้วหัวเราะอย่างระอา

“ไม่ไหวเลยจริง ๆ พี่หนิวไปหาคนแปลกพิลึกแบบนี้มาจากไหนกันนะ?” ฉีฉีเก๋อเริ่มบ่นพี่หนิว นี่แนะนำแต่คนแบบไหนมากันนะ

“บางทีพี่หนิวก็คงไม่รู้อะไรมากมั้ง แค่คิดว่าหล่อนน่าสงสารเลยช่วย ประเด็นสำคัญก็ขึ้นอยู่กับเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเอง อนาคตหล่อนต้องโดนดีไม่ช้าก็เร็ว” เหมยเหมยส่ายหน้ากล่าว

“ไม่เป็นไรหรอก หล่อนเงินเยอะไม่ใช่เหรอ เงินไม่กี่หมื่นไม่ใช่ปัญหา ไม่ต้องสนใจหล่อนแล้ว ฉันจะหาครูสอนเปียโนให้เป่ารื่อน่า เธอแนะนำบ้างสิ” ฉีฉีเก๋อถาม

เดิมทีเธอไม่มีความคิดนี้แต่เด็กโรงเรียนอนุบาลแต่ละคนต่างมีความสามารถพิเศษล้นเหลือ เล่นเปียโน เขียนพู่กันจีน เล่นไวโอลิน เต้นรำจีนโบราณ บัลเล่ต์…เด็กทุกคนต้องมีความสามารถพิเศษอย่างน้อยสองอย่างขึ้นไป เป่ารื่อน่าเริ่มเรียนรู้การร่างภาพจากเธอมาตั้งแต่เด็กก็เท่ากับว่ามีอย่างหนึ่งแล้ว สมัครเรียนเปียโนอีกอย่างก็ครบแล้ว

“เป่ารื่อน่าอยากเรียนเองเหรอ? ไม่อยากเรียนเธออย่าฝืนใจลูกเชียว!” เหมยเหมยเกลี้ยกล่อม

“ไม่อยาก…หนูไม่อยากเรียนเปียโน หนูจะเล่นกับพี่เล่อเล่อ”

เป่ารื่อน่าบิดตัวไปมาเป็นการปฏิเสธ เธอไม่อยากเรียนอะไรทั้งนั้น เธอแค่อยากเล่นกับพี่เล่อเล่ออย่างเดียว!

เล่อเล่อเชิดคางที่มีเหนียงสามชั้นขึ้นอย่างได้ใจแล้วลูบศีรษะเป่ารื่อน่าไปมา “เธอมาอยู่บ้านพี่สิ พี่จะพาเธอไปเล่นทุกวันเลย!”

เปียโนมีอะไรน่าเรียนกัน เสียงดังจะตายชัก เธออยากทุบให้มันพังไปให้รู้แล้วรู้รอด!

เป่ารื่อน่าพยักหน้าอย่างดีใจ “อื้ม…คุณแม่…หนูจะไปอยู่บ้านพี่สาว!”

ฉีฉีเก๋อตำหนิเสียงต่ำ “ถ้าไม่เชื่อฟังแม่จะไม่รักหนูแล้วนะ ต้องเรียนเปียโน ไม่อย่างนั้นหนูจะสู้คนอื่นไม่ได้ แล้วจะล้าหลังเพื่อนมากรู้ไหม?”

คิดว่าเธออยากบังคับฝืนใจลุกสาวหรือ แต่เด็กย้อนเวลากลับมาเริ่มต้นใหม่ไม่ได้ ถ้าเกิดพลาดไปแล้วไม่ทัดเทียมกับคนอื่นจริง ๆล่ะ?

อย่างไรเสียเรียนไปก็ไม่มีอะไรเสียหาย เรียนให้มากย่อมมีผลดีเสมอ!

……………