บทที่ 2751 สิ่งที่หนูเรียนไม่ทำให้ท้องหิว + ตอนที่ 2752 หนูอยากกินอมยิ้ม

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 2751 สิ่งที่หนูเรียนไม่ทำให้ท้องหิว

ฉีฉีเก๋อพอได้ฟังก็รู้สึกขบขัน เธอเหลือบมองสองพี่น้องที่กำลังจดจ่ออยู่กับการกินเนื้อแดดเดียวอยู่ก็ฉีกยิ้มกว้างแล้วถามขึ้นว่า “เล่อเล่อก็ไม่ได้เรียนเหรอ?”

“ไม่ได้เรียนเหมือนกัน กู่เจิงที่ฉันซื้อให้ก็ถูกเธอทำพังหมด กระดาษเขียนพู่กันก็เอาไปเช็ดก้น พู่กันโดนเผาทิ้งหมด…ถ้าให้เรียนอีกสงสัยหลังคาบ้านคงโดนรื้อออกมาก่อน แล้วยังจะเรียนอะไรอีกล่ะ!” สีหน้าเหมยเหมยแสดงความเหนื่อยหน่าย

มีอยู่ช่วงหนึ่งเธอก็อยากฝึกให้ลูกสาวของเธอเป็นสาวงามเรียบร้อยคนหนึ่ง แต่ความเป็นจริงกลับไม่ปรานีเธอเลยสักนิด ในที่สุดเธอก็ตื่นจากฝันและปลงอย่างแท้จริง!

งั้นก็ให้ลูกสาวของเธอโบยบินอย่างอิสระเถอะ อยากจะทำอะไรก็ทำ เพราะอย่างไรเสียก็ยังมีลูกน้องของเหยียนหมิงซุ่นเป็นทหารตั้งมากมาย ไม่ต้องกังวลว่าลูกสาวจะแต่งไม่ออกหรอก!

ฉีฉีเก๋ออดไม่ได้ที่จะหัวเราะ รู้สึกโล่งอกขึ้นมาไม่น้อยเพราะอย่างน้อยก็ยังมีคนอยู่เป็นเพื่อนเธอ!

“หนูยิงหนังสติ๊กเป็น ยืนบนควบม้าได้ ชกต่อยเป็น…เป็นตั้งหลายอย่างนะ!” เล่อเล่อโต้กลับด้วยเสียงอันดัง แม่ชอบไม่พูดความจริง เธอเรียนมาไม่น้อยเลยนะ!

เป่ารื่อน่าดวงตาเป็นประกายแล้วตะโกนขึ้นว่า “หนูก็จะเรียนด้วย!”

สิ่งที่พี่เล่อเล่อเรียนต้องสนุกแน่ ๆ เธออยากเรียนด้วย!

“พี่จะสอนเธอเอง พวกเราเริ่มจากเรียนยิงหนังสติ๊กก่อน” เมื่อได้ยินว่าเป่ารื่อน่าอยากเรียน เล่อเล่อก็มีความกระตือรือร้นทำตัวเป็นคุณครูขึ้นมาทันที

“อย่าไปตามน้องสิเล่อเล่อ สิ่งที่เราทำเป็นไม่ใช่ความสามารถพิเศษอะไรเลย อย่าพาน้องเสียคนสิ” เหมยเหมยบ่น

“ต้องเป็นความสามารถพิเศษสิคะ พ่อบอกว่าใช่ พ่อยังบอกอีกว่าสิ่งที่หนูเรียนมีประโยชน์มากกว่าพวกเปียโนเยอะเลย วันหลังถ้าหิวก็ไม่อดตาย” เล่อเล่อไม่พอใจแล้ว สิ่งที่เธอเรียนจะไม่ใช่ความสามารถพิเศษได้อย่างไร

ความสามารถพิเศษของเธอ ถ้าเกิดหิวก็ยังใช้หาของกินได้แต่เปียโนทำไม่ได้ พ่อบอกมาว่าประโยชน์ของเปียโนมีแค่อย่างเดียวคือเลื่อยออกไปทำเป็นฟืน

“อย่าไปฟังพ่อพูดซี้ซั้ว เขาไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้นแหละ ประโยชน์ของเปียโนมีเยอะแยะจะตาย ถ้าเราเรียนรู้ได้และทำได้ดี แน่นอนว่าวันหลังถึงหิวก็ไม่อดตาย!” เหมยเหมยถือโอกาสหลอกล่อไปด้วย เพียงแต่ว่าเล่อเล่อเองก็ไม่ได้ตกหลุมพรางง่าย ๆ

“สิ่งที่หนูเรียนตอนนี้ก็ไม่ทำให้หิวตายเหมือนกัน!”

เหมยเหมยยักไหล่อย่างเอือมระอา ยิ่งโตขึ้นยิ่งเกลี้ยกล่อมยาก

ไม่สิ…ควรจะพูดว่าลูกสาวบ้านนี้ ตั้งแต่เกิดมาก็เกลี้ยกล่อมยากเย็นอยู่แล้ว ทำตัวเป็นอันธพาลตั้งแต่เด็กไม่รู้นิสัยเหมือนใคร?

อย่างไรเสียก็ไม่เหมือนเธอแล้วกัน!

ฉีฉีเก๋อกลับดวงตาเป็นประกาย ฉับพลันก็นึกอะไรขึ้นได้ “จริงสิ…ทำไมฉันมัวแต่เชื่ออะไรเดิม ๆนะ มวยปล้ำ ขี่ม้าก็ล้วนเป็นความสามารถพิเศษทั้งนั้น สิ่งเหล่านี้ฉันสอนเองได้ ไม่ต้องไปหาคุณครูมาสอนด้วย!”

“ขี่ม้าไปที่ฟาร์มม้าทางชานเมืองฝั่งตะวันตกสิ ทำบัตรสมาชิกสักใบ แถมยังช่วยเธอเลี้ยงม้าได้ด้วย” เหมยเหมยแนะนำ

สถานที่ของเฮ่อเหลียนชิงเป็นฐานประจำการของทหารที่สำคัญ เธอจึงไม่สะดวกที่จะรับบุคคลภายนอกเข้าไปด้วย ไม่เช่นนั้นก็คงพาเป่ารื่อน่าไปฝึกม้าที่หลังสวนฟาร์มแล้ว ส่วนเล่อเล่อก็ไปขี่ม้าที่นั่นบ่อย ๆ

“ฉันรู้จักที่นั่น พรุ่งนี้ฉันจะไปทำบัตรสมาชิกให้เป่ารื่อน่า แล้วให้พ่อฉันส่งม้าตัวน้อยมาให้จะได้อยู่เป็นคู่หูกับเป่ารื่อน่าตั้งแต่เด็ก ๆด้วย” ฉีฉีเก๋อรู้สึกสบายใจขึ้นมาก นับว่าได้แก้ปัญหาใหญ่ของเธอแล้ว

เนื่องจากเป่ารื่อน่าโวยวายอยากจะเรียนยิงหนังสติ๊กตลอดและไม่ยอมออกห่างจากเล่อเล่อเลย ฉีฉีเก๋อก็ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงต้องยอมให้เป่ารื่อน่าไปอยู่กับเหมยเหมยก่อนสักสองสามวัน ประจวบกับเธอจะได้กลับทุ่งหญ้าไปเลือกม้ามาให้เป่ารื่อน่าเองด้วย

คุณย่าหยางและป้าฟางต่างชอบเป่ารื่อน่าที่แสนน่ารักอยู่แล้วเลยอยากให้เด็กน้อยมาเล่นที่บ้านทุกวัน มื้อเย็นคุณป้าฟางทำอาหารอร่อยเต็มโต๊ะซึ่งล้วนเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและอร่อยด้วย

“อร่อยจังเลย…คุณยายฟางทำอาหารอร่อยมากเลยค่ะ” ปากน้อย ๆของเป่ารื่อน่าเคี้ยวตุ้ย ๆไม่หยุดพร้อมชมไม่ขาดปาก

“อร่อยก็กินเยอะ ๆนะ มา…น่องไก่คนละชิ้น” คุณย่าหยางยิ้มแล้วหยิบน่องไก่ชิ้นใหญ่ให้เด็กน้อยทั้งสองซึ่งแบ่งคนละอันพอดี

“ขอบคุณค่ะคุณย่า…”

เป่ารื่อน่าขอบคุณอย่างมีมารยาทแล้วถึงค่อยกัดน่องไก่คำโต ทันใดนั้นพลันนึกอะไรขึ้นได้จึงกระซิบข้างหูของเล่อเล่อว่า “หลังจากกินข้าวแล้ว พวกเรากินอมยิ้มกันต่อไหม?”

……………………………………….

ตอนที่ 2752 หนูอยากกินอมยิ้ม

เล่อเล่อชะงักไป เธอเข้าใจความหมายของน้องสาว ในขณะที่กำลังกัดน่องไก่ไปก็กระซิบเสียงเบาว่า “เดี๋ยวพี่ถามพ่อให้ พ่อต้องมีของอร่อยแน่ ๆ”

วันนี้คุณแม่กับคุณป้ากระซิบกระซาบกันคงคิดจะซ่อนของกินเก็บไว้กินเองแน่ ๆ ฮึ…อย่าคิดที่จะปิดบังเธอเลย!

เป่ารื่อน่าพยักหน้าด้วยความพอใจ วันนี้เธอมีความสุขจังเลยเพราะมีของอร่อยมากมายขนาดนี้ แล้วยังกินอมยิ้มได้ด้วย ดีจัง!

 เหมยเหมยมองเด็กน้อยสองคนกระซิบกระซาบดูมีลับลมคมในกันจึงกลั้นขำไม่อยู่ อายุน้อยแค่นี้ก็มีความลับกันเสียแล้ว!

“เป่ารื่อน่ากินน่องไก่ชิ้นนี้หมดก็พอแล้วนะ ไม่งั้นเดี๋ยวจะปวดท้องเอาได้!” เหมยเหมยพูดพร้อมรอยยิ้ม

เด็กคนนี้ปกติกินไม่เยอะ ถ้าอยู่ดี ๆกินเยอะเกินไปคงย่อยไม่ทัน กระเพาะของเด็กยังไม่แข็งแรงพอซึ่งอาจเกิดปัญหาได้ง่าย

“ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวให้กินยาช่วยย่อยก็ได้แล้วให้เล่อเล่อพาไปวิ่งเล่นที่สวนหลังบ้านสัก 2-3 รอบก็สบายแล้ว” เหยียนหมิงซุ่นคิดต่างออกไป ไม่ต้องทะนุถนอมเด็ก ๆดีขนาดนั้นก็ได้ ไม่ว่าจะเด็กผู้หญิงหรือเด็กผู้ชายต้องโลดโผนบ้างจะได้แข็งแรง

เหมยเหมยถลึงตาใส่ “พี่คิดว่าเด็กคนอื่น ๆจะแข็งแรงเหมือนลูกสาวพี่หรือไงคะ สุขภาพของเป่ารื่อน่าไม่ค่อยดี แค่หวัดเล็กน้อยยังใช้เวลาหลายวันกว่าจะหาย ดังนั้นจึงต้องคอยดูแลเอาใจใส่ให้ดีค่ะ”

ตอนที่ฉีฉีเก๋อมีเป่ารื่อน่าเป็นช่วงเวลาที่เธอยากลำบากมากที่สุด ทั้งยังต้องทนทุกข์ทรมานจากยายแก่ปีศาจนั่นอีก ไม่ต้องพูดถึงเรื่องโภชนาการที่รับไม่เพียงพอหรอกแถมยังต้องทำงานบ้านด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะว่าสุขภาพของฉีฉีเก๋อดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้วล่ะก็เป่ารื่อน่าจะรอดหรือเปล่ายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ!

และด้วยเหตุนี้ร่างกายของเป่ารื่อน่าจึงอ่อนแอแต่ตอนนี้ดีขึ้นมาหน่อย ช่วงวัยเด็กวิ่งออกเข้าโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น ฉีฉีเก๋อก็เหนื่อยมาไม่น้อยเลย

คุณย่าหยางช่วยพูด “ต้องเอาใจใส่หน่อยนะ คนอื่นมาฝากลูกไว้ที่บ้านเรา เราก็อย่าทำให้ลูกเขาป่วยเลย”

ถ้าอาหารเหลือก็ไม่เป็นไรเพราะเอาไปให้ไก่กินได้ สนามหลังบ้านใหญ่ขนาดนั้นเธอและป้าฟางจึงเลี้ยงไก่ไว้สิบกว่าตัว พอออกไข่มาก็พอกินในบ้านแล้ว แถมบางครั้งยังแบ่งไปให้เหยียนซินหย่าด้วย

“กินอิ่มแล้วค่ะ…”

เป่ารื่อน่ากินได้ไม่มากนัก เธอกินน่องไก่ไปหนึ่งชิ้นก็อิ่มแล้ว แต่สำหรับเล่อเล่อกินไก่ไปกว่าครึ่งตัวแล้วยังต่อด้วยกุ้งมากกว่าครึ่งจาน แล้วยังมีข้าวอีกสามถ้วย…อืม ถือว่าพออยู่ท้องบ้างแล้ว

เธอยังต้องเหลือท้องไว้กินของอร่อยอีก

“พ่อคะ…พ่อให้อมยิ้มหนูหน่อย!” เล่อเล่อมองไปทางเหยียนหมิงซุ่นด้วยท่าทีจริงจัง

เหยียนหมิงซุ่นกลับงุนงง “ไปขอแม่เราสิ พ่อมีอมยิ้มที่ไหนกัน!”

ปกติเขาไม่ถูกกับของหวานแล้วจะมีอมยิ้มซ่อนไว้ได้อย่างไรกัน เล่อเล่อไปฟังจากไหนมา?

“พ่อมี…ก็ต้องมีสิ แล้วยังยาวมากด้วย!” เล่อเล่ออ้าแขนกว้างให้เห็นว่ามันยาวมากจริง ๆ อย่างไรเสียอมยิ้มของคุณพ่อก็ยาวมากที่สุด แม่เคยบอกเธอนี่นา

เล่อเล่อทึกทักเองว่าไม้นางฟ้า[1]ที่พวกเหมยเหมยพูดถึงคืออมยิ้ม แล้วยังทึกทักเองอีกว่าความยาวที่พวกเธอสามคนถกเถียงกันคือความยาวของอมยิ้ม ตอนนี้เธอน้ำลายไหลย้อยออกมาแล้ว

อมยิ้มยาวขนาดนั้นเธอจะต้องกินให้หนำใจไปเลย!

เหยียนหมิงซุ่นมองพลางขบขันแล้วล้วงกระเป๋ากางเกงออกมาให้ดู “ดูสิ…ไม่มีอะไรเลย ไม่มีอมยิ้มด้วย!”

เล่อเล่อปีนป่ายหาบนตัวเหยียนหมิงซุ่นอยู่นานก็ไม่เจออมยิ้มจริง ๆ แม้แต่ลูกอมยี่ห้อเทือกเขาแอลป์ยังไม่มีเลย เล่อเล่อรู้สึกไม่พอใจจึงมองไปที่เหมยเหมยอย่างคาดโทษ “แม่โกหก…แม่บอกว่าพ่อมีอมยิ้ม แม่พูดโกหก…”

เหมยเหมยงุนงงยิ่งกว่าเหยียนหมิงซุ่น “แม่เคยบอกหนูเมื่อไรกัน? เหยียนเล่อเล่ออย่ามาใส่ร้ายคนอื่นนะ!”

“เคยพูด แม่พูดว่าไม้นางฟ้า นั่นต้องเป็นอมยิ้มที่นางฟ้าเป็นคนทำแน่ ๆ” เล่อเล่อบ่นเสียงดัง

เหมยเหมย…อยากมุดลงดินจริง ๆ…

……………………………………….

[1] ดิลโด้