“เฮอะ น่าเบื่อจริง! ไปเถอะ!” คงถานกล่าวขึ้นก่อนจะพาคนเผ่าปีศาจทั้งหมดเดินหน้าต่อไป
เผ่าปีกและคนจากสวรรค์อื่นๆ เองก็ไม่คิดจะอยู่ให้นานไปกว่านี้
แน่นอนว่ามันมิใช่เพราะความน่าเบื่อใดๆ ไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาเองก็คงไม่เสียเวลาอยู่ที่นี่เป็นครึ่งปี
เพียงแค่ว่ามันเจ็บใจ
วังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตนั้นมันตั้งอยู่ในห้วงมิติแยกของตนเอง
สมุนไพรสวรรค์ตรงหน้าพวกเขานั้นมันเป็นแค่สมุนไพรจากสวนส่วนนอกสุด
ไกลออกไปนั้นมันยังมีวังตั้งอยู่อีกมากมาย
หวังหนิงเหยียนและพวกออกเดินทางต่อทำให้พวกโจวเซียนเฉินเองก็ไม่อาจจะอยู่ได้อีก
พวกเขาจึงเข้ามากล่าวลาเย่หยวน “อาจารย์เย่ เราขอตัวก่อนแล้ว!”
เย่หยวนพยักหน้า “ระวังตัวด้วย”
คนจากสวรรค์เดียวกันนั้นย่อมจะต้องอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่มก้อน
พวกเขานั้นรู้ดีว่าในที่แห่งนี้มันต้องร่วมมือกันไว้ ไม่เช่นนั้นแล้วก็อาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ง่ายๆ
แต่เย่หยวนกลับนั่งรอคนทั้งหลายบรรลุให้เสร็จสิ้น จึงค่อยพาคนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดออกเดินทางต่อไป
“เย่หยวน เราต้องรีบหน่อยแล้ว ไม่เช่นนั้นสมบัติข้างหน้ามันจะถูกคนอื่นกวาดเรียบ!” ได้เห็นเย่หยวนที่ยังคงเดินอ้อยอิ่งหยางชิงจึงเข้ามาเร่ง
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ของดีในที่นี้มันมีมากมายจริงแต่มันไม่ง่ายที่จะเอามาหรอก”
หยางชิงต้องหรี่ตาลงกล่าว “หืม? เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”
เย่หยวนตอบกลับไป “เดินต่อไปข้างหน้านี้พวกเฒ่าทั้งหลายคงไม่อาจจะควบคุมตัวเองไว้ได้แล้วเจ้าว่าไหมเล่า?”
หยางชิงที่ได้ยินนั้นต้องขมวดคิ้วแน่น “เจ้าจะบอกว่ามันมีเจ้าโลกลอบเข้ามาในหมู่พวกเราด้วย?”
เย่หยวนพยักหน้ารับไป “มันคงมีไม่น้อย! ไม่เช่นนั้นแล้วเจ้าคิดว่าคนอย่างข้าจะปล่อยคงถานไปง่ายๆ?”
หยางชิงกล่าวขึ้นมาอย่างไม่อยากเชื่อ “มันไม่มีทางเป็นไปได้น่า! เจ้าโลกหวูเทียนจะมองไม่ออกเชียว?”
เย่หยวนที่ได้ยินก็ต้องยิ้มตอบไป “เจ้าเฒ่านั่นมันคงตั้งตารอเรื่องเช่นนี้แล้วมิใช่หรือ? มันเผยวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตออกมาด้วยวิธีการเช่นนี้แล้วมันย่อมรู้ดีว่าคงไม่ได้มีแค่พวกเราที่อยากเข้ามาแน่ เจ้าคงไม่ได้คิดว่ามันจะมาหาผู้สืบทอด บ้าบออะไรนี่จริงๆ หรอกนะ?”
หยางชิงที่ได้ยินก็ต้องพยักหน้าไป “เรื่องนั้นแน่นอนอยู่แล้ว! เฮ้อ ดูท่าข้าจะยังคิดน้อยเกินไป! เจ้าเฒ่านั่นมันอย่างไรก็คงเป็นเฒ่าเจ้าเล่ห์แน่ๆ!”
พูดไปเดินไปนั้นสุดท้ายคนทั้งหลายก็มาถึงสวนขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง
ในที่แห่งนี้มันมีทั้งเรือนและกระท่อมมากมายตั้งเรียงรายด้วยหินหลากรูปร่าง มีเสียงนกการ้อง กลิ่นหอมของดอกไม้ครบครัน เป็นภาพของสวนอย่างในจินตนาการ
ทุกอย่างนั้นมันช่างดูสงบและน่าผ่อนคลาย
แต่จู่ๆ มันก็มีเสียงคนร้องขึ้น!
มีเสียงของคนผู้หนึ่งร้องขึ้นมาอย่างตื่นเต้น “ดูนั่นเร็ว! นั่นมัน…สมบัติโกลาหลสวรรค์!”
คำพูดเดียวนี้มันทำให้คนนับร้อยๆ ต้องหันไปมองตาม!
“สมบัติโกลาหลสวรรค์! มันเป็นสมบัติโกลาหลสวรรค์จริงๆ! ข้ารวยแน่แล้ว!”
“นั่นมันของข้า! พวกเจ้าห้ามเอาไป!”
“นี่มันขุมสมบัติแท้ๆ! ฮ่าๆ บางทีข้าอาจจะสามารถบรรลุเจ้าโลกได้ในที่นี้ก็ได้!”
…
คนทั้งหลายต่างหันไปมองตามและพบกับกระดิ่งน้อยวางอยู่ไม่ไกล
กระดิ่งนี้มันดูหรูหราอย่างมากพร้อมทั้งยังมีคลื่นพลังงานแสนรุนแรง
นี่มันคือสมบัติโกลาหลสวรรค์!
เย่หยวนผงะไปเมื่อได้เห็นและร้องห้ามขึ้นทันที “หยุด!”
แต่มันก็สายไปแล้วสำหรับหลายๆ คน!
แม้ว่าเย่หยวนนั้นจะได้รับการยอมรับนับถือแค่ไหน มันก็ย่อมจะยังมีคนที่หลงมัวเมาในความโลภอยู่บ้าง
ต่อหน้าสมบัติโกลาหลสวรรค์เช่นนี้แล้วมันย่อมจะมีคนที่ไม่อาจห้ามใจตัวเองได้อยู่ไม่น้อย
คนนับร้อยพุ่งตัวเข้าไปหากระดิ่งนั้นอย่างบ้าคลั่ง
แต่ก่อนที่พวกเขาจะทันได้แตะกระดิ่ง พวกเขานั้นกลับกลายร่างเป็นแค่ฝุ่นผงจางหายไปกับอากาศ ราวกับว่าตัวตนของพวกเขานั้นมันไม่มีอยู่จริงมาแต่แรก
ในหมู่คนนับร้อยนั้นมันมีถึงยอดฝีมือคลื่นกำเนิดอยู่ด้วย!
สีหน้าของคนที่เหนือนั้นซีดขาวลงทันที พวกเขานั้นไม่รู้สึกเลยว่ามันมีการโจมตีมาจากที่ใด!
ความกลัวในสิ่งที่ไม่รู้และไม่อาจเข้าใจได้นี้ทำให้พวกเขาขนลุกตั้ง
“น…นักบุญสวรรค์เย่ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน?” เมื่อไม่รู้ว่ามันคืออะไรสุดท้ายพวกเขาก็เอ่ยปากขึ้นถามเย่หยวน
ทั้งๆ ที่เย่หยวนนั้นมีพลังบ่มเพาะต่ำที่สุดในกลุ่ม แต่ในเวลานี้เย่หยวนกลับเป็นเหมือนเสาหลักของกลุ่มไป
โชคยังดีที่คนส่วนมากนั้นเคารพเย่หยวนอย่างสุดหัวใจและยั้งตัวเองไว้ทัน
เมื่อเย่หยวนบอกว่าไม่ พวกเขาก็จะไม่ขยับ
และเพราะเหตุนั้นพวกเขาจึงรอดชีวิตมาได้ ไม่เช่นนั้นแล้วมันคงมีมากกว่าร้อยคนที่ต้องตายลง
เมื่อสักครู่นี้เย่หยวนสัมผัสได้ถึงความแปลกประหลาดและกล่าวเตือนออกมา
คนทั้งหลายนั้นต่างล้วนอยากจะเข้าไปแย่งชิงแต่สุดท้ายก็ยั้งมือตัวเองไว้
ตอนนี้พวกเขาต่างรู้สึกโล่งสุดใจที่ตัดสินใจยั้งมือไป
ฟังคำนักบุญสวรรค์เย่นั้นมันไม่มีคำว่าผิดพลาด!
เย่หยวนนั้นไม่คิดพูดใดๆ แต่ขมวดคิ้วแน่นขึ้นมาแทน
จากนั้นเขาก็พุ่งตัวเข้าไปยังกระดิ่งนั้น
เพียงแค่ว่าขณะที่มือของเขากำลังจะเอื้อมไปถึง ตัวกระดิ่งมันก็จางหายไปต่อหน้าต่อตาคนทั้งหลายเสียก่อน
เมื่อคนทั้งหลายได้เห็นเช่นนั้นพวกเขาทั้งหลายก็ต้องอ้าปากค้างเบิกตากว้าง
ทำไมเย่หยวนถึงไม่เป็นไร?
ทำไมกระดิ่งมันกลับหายไป?
สวนนี้มันมีแต่ความแปลกประหลาดทุกซอกมุมเสียจริง!
เย่หยวนนั้นไม่ขยับตัวออกมาจากจุดนั้นแต่ค่อยๆ มองดูรอบๆ ตัวแทน
ลมที่พัดผ่านหน้าเขานั้นมันเปี่ยมไปด้วยคลื่นพลังงานฟ้าดิน
คนทั้งห้าหมื่นนั้นต่างยืนนิ่งมองดูเย่หยวนอย่างเงียบงัน ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง
หลังจากผ่านไปอีกนานสองนานสุดท้ายเย่หยวนก็เบิกตากว้างขึ้นทำให้คนทั้งหลายนั้นเกรงกลัวจนแทบลืมหายใจ
“ข้าว่าเราคงหลงเข้ามาในมหาค่ายกลแล้ว!” เย่หยวนกล่าวขึ้น
“มหาค่ายกล! มันเป็นไปได้อย่างไร? เรา…เราสัมผัสถึงเต๋าค่ายกลไม่ได้แม้แต่น้อย!”
“นักบุญสวรรค์เย่ ท่านเข้าใจผิดหรือไม่? ข้านั้นเป็นจอมเทพค่ายกลสวรรค์ระดับเก้าคนหนึ่งแต่ข้านั้นไม่อาจจะสัมผัสถึงพลังใดๆ ของค่ายกลได้เลย!”
“หากมันเป็นมหาค่ายกลจริงๆ เราเข้ามามากมายขนาดนี้เราคงไม่ตายกันสิ้นแล้วหรือ?”
…
ครั้งนี้พวกเขากลับไม่ได้เชื่อถือคำของเย่หยวนอย่างเต็มร้อย
เพราะว่ารอบๆ ตัวพวกเขานั้นมันไม่มีร่องรอยของมหาค่ายกลใดๆ ทั้งสิ้น
เย่หยวนตอบกลับไป “ข้านั้นได้ยินมาว่าวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตนั้นมีปรมาจารย์ค่ายกลผู้หนึ่งนามว่าเจ้าโลกชีฟาง เขานั้นเป็นคนที่ก้าวไปถึงล้ำสวรรค์ด้วยเต๋าค่ายกล ฝีมือของเขานั้นมันย่อมจะเหนือล้ำเกินกว่าพวกเราเข้าใจได้! ในศึกบุกวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตในอดีตนั้นเขาบาดเจ็บสาหัสและสละพลังชีวิตตัวเองเพื่อแลกกับการสร้างมหาค่ายกลใหญ่ยักษ์ขึ้นมาค่ายกลหนึ่ง ในค่ายกลนั้นมันมีแค่คำว่า ‘สวรรค์’ คำเดียวเขียนอยู่! เขานั้นใช้สวรรค์จัดการสังหารเจ้าโลกที่มาบุกวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตไปถึงห้าสิบเจ็ดคน! ในหมู่คนที่ตายลงไปนั้นมันมีแม้แต่ยอดฝีมือล้ำสวรรค์! ข้าเดาว่าเราอาจจะติดเข้ามาในสวรรค์แน่แล้ว!”
คนทั้งหลายนั้นต้องสูดหายใจเข้าลึกอย่างสุดใจ
สังหารเจ้าโลกถึงห้าสิบเจ็ดคนลงด้วยค่ายกลเดียว!
มันจะต้องเป็นพลังความสามารถที่เหนือล้ำจินตนาการแค่ไหน?
เพราะในสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นมันมีเจ้าโลกเหลือเพียงแค่หกสิบกว่าคน
นั่นหมายความว่าเจ้าโลกชีฟางผู้เดียวนั้นสามารถทำลายสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดทั้งสวรรค์ลงได้ด้วยพลังของเขาเพียงผู้เดียว!
มันเป็นอะไรที่เหนือล้ำจินตนาการไปมาก!
เย่หยวนนั้นเข้าใจเต๋าค่ายกลลึกล้ำแค่ไหน?
เขานั้นจึงสัมผัสได้ถึงความผิดปกติในวินาทีที่กระดิ่งนั้นหายไป
ก่อนหน้านี้แม้แต่ตัวเย่หยวนเองก็ไม่รู้เลยว่าตัวเองติดเข้าในค่ายกล!
มหาค่ายกลนี้มันลึกล้ำจนเกินไป!
“วังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตนั้นมันตั้งอยู่ในห้วงมิติที่กว้างใหญ่ล้ำและที่น่ามันคงเรียกได้ว่าเป็นโลกของตัวเอง!
มหาค่ายกลนี้มันกินพื้นที่ห้วงมิติของวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตไปและเราไม่อาจจะสัมผัสถึงมันได้เลย ตอนนี้เราตกอยู่ในมหาค่ายกลแล้ว! แต่ว่ามหาค่ายกลนี้มันซับซ้อนกว่าที่เราเข้าใจกันนัก เรียกว่ามันคือจุดสูงสุดของเต๋าค่ายกลแล้วก็ว่าได้!
มิติเวลาในที่แห่งนี้มันขยับไหวไปตามความต้องการของเจ้าโลกชีฟาง ซับซ้อนเกินกว่าจะเข้าใจ”
“เมื่อสักครู่นี้พวกเขาทั้งหลายไปแตะโดยประตูพลังงานทำให้ถูกค่ายกลลบล้างออกไป! แต่ตอนที่ข้าไปนั้นประตูพลังงานมันได้เลื่อนผ่านไปแล้วข้าจึงไม่บาดเจ็บแม้แต่น้อย กระดิ่งนั้นมันอาจจะดูเหมือนวางอยู่บนหญ้าแต่แท้จริงแล้วมันวางอยู่ในอีกห้วงมิติหนึ่งอย่างสิ้นเชิง นี่มันคือเทคนิคที่จะล่อคนเข้าไปใกล้ประตูพลังงาน! นอกจากนั้นแล้วมหาค่ายกลนี้มันยังแตกต่างจากมหาค่ายกลใดๆ ที่ข้าเคยเห็น เพราะมัน…มีชีวิต!” เย่หยวนกล่าวขึ้น