ต่งรั่งหลินหัวเราะแหะๆ ไปทีหนึ่ง “ฉันรู้แล้ว!”

เซียวชูหรันยิ้มและพูดว่า “พอดีเลยที่วันนี้ฉันไม่ได้มีธุระอะไร เดี๋ยวฉันจะขับรถไปรับพวกเธอที่สนามบินนะ”

“ได้เลย!” ต่งรั่งหลินยิ้มและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นคงต้องลำบากคนสวยมารับแล้วนะ!”

เซียวชูหรันยิ้มพร้อมกับพูดว่า “จะเกรงใจกับฉันขนาดนี้ทำไมกันเล่า นอกจากนี้มันก็ไม่ใช่มารับเธอคนเดียวสักหน่อย แต่ยังต้องมารับเย่เฉินของบ้านเราด้วย”

ต่งรั่งหลินพูดว่า “ได้ๆ เธอมารับเย่เฉินของบ้านพวกเธอ แล้วถือโอกาสมารับฉันด้วยเลยใช่ไหม?”

เซียวชูหรันยิ้มพร้อมกับพูดว่า “ใช่แล้ว!”

“ได้เลย” ต่งรั่งหลินพูดอย่างจนปัญญาว่า “แค่สามารถแวะมารับฉันด้วย ฉันก็พอใจมากแล้ว!”

เซียวชูหรันพูดว่า “งั้นฉันคงจะไม่คุยกับพวกเธอแล้วนะ เดี๋ยวเจอกันที่สนามบินนะ!”

“ได้”

เที่ยวบินในระยะเวลา 2 ชั่วโมงนั้น ในที่สุดเครื่องบินก็ลงจอดที่สนามบินจินหลิงอย่างราบรื่น

เย่เฉินและต่งรั่งหลินออกจากสนามบินด้วยกัน และเห็นเซียวชูหรันรออยู่ที่นั้นแล้ว

ไม่ได้เจอเซียวชูหรันมาหลายวันนี้แล้ว เย่เฉินก็คิดถึงเธออย่างมาก เมื่อเห็นเซียวชูหรันสวมเสื้อโค้ทยาว ด้วยรูปร่างที่ผอมเพรียว และบุคลิกที่โดดเด่นนั้น

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ เซียวชูหรันก็คิดถึงเย่เฉินอย่างมากเช่นกัน

ยังไงก็ตาม ตั้งแต่ที่พวกเขาทั้งสองแต่งงานกันมา ก็ไม่เคยต้องห่างกันนานขนาดนี้มาก่อนเลย

ซึ่งในการใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันทุกวันตามปกตินั้นก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมาก แต่เมื่อคนหนึ่งต้องไม่อยู่ข้างๆ ด้วยจริงๆ ถึงรู้สึกได้ถึงความไม่สามารถปรับตัวได้และความรู้สึกคิดถึงที่ไม่เคยหยุดลงเลย

เมื่อเห็นเย่เฉินเดินออกมาจากทางออกเซียวชูหรันก็รีบก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว แล้วกอดเขาเบาๆ

หลังจากที่กอดเย่เฉินไปเพียงไม่กี่วินาทีเธอก็หันไปกอดต่งรั่งหลินอย่างกระมิดกระเมี้ยน

ต่งรั่งหลินตะลึงอย่างมากกับการกระทำที่เป็นฝ่ายเริ่มกอดเย่เฉินของเซียวชูหรัน เธอตระหนักได้ว่า ความเป็นเพื่อนสนิทนี้ของเธอดูเหมือนว่าจะทำให้ท่าทีของเธอที่มีต่อเย่เฉินนั้นเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม เธอยังไม่สามารถคิดได้ด้วยซ้ำว่า มันเปลี่ยนแปลงยังไง

เย่เฉินคิดไม่ถึงเลยว่า เซียวชูหรันจะกอดตัวเขาโดยตรง ต่อหน้าต่งรั่งหลินเมื่อคิดดูแล้ว ความรู้สึกของภรรยาที่มีต่อเขา ดูเหมือนว่าจะพัฒนาไปจากเดิมมากและนี่ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีอย่างหนึ่ง

หลังจากที่เซียวชูหรันและต่งรั่งหลินกอดกันเบาๆ ถึงเห็นว่าเย่เฉินกำลังถือถุงช้อปปิ้งแอร์เมสอยู่สองสามใบเธอถามไปด้วยความประหลาดใจว่า “เย่เฉินทำไมคุณถึงซื้อสินค้าแอร์เมสมาเยอะขนาดนี้?”

เย่เฉินยิ้มพร้อมกับพูดว่า “ผมซื้อของขวัญมาฝากคุณและพ่อกับแม่”

เซียวชูหรันพูดอย่างเร่งรีบว่า “ไอ้หยา ซื้อแบรนด์แพงขนาดนี้มาทำไมกันเนี่ย แค่ซื้อสินค้าเฉพาะท้องถิ่นมาสักหน่อยก็พอแล้ว…”

เย่เฉินยิ้มพร้อมกับพูดว่า “นี่ก็ถือว่ามาหารายได้และการใช้จ่ายเพื่อคนในครอบครัวก็ถือว่ามันสมเหตุสมผลแล้ว”

เซียวชูหรันพูดอย่างจริงจังว่า “แบบนี้เดี๋ยวจะทำให้แม่เคยตัว แม่เป็นคนยังไงนั้นคุณยังไม่รู้อีกเหรอ? และครั้งนี้คุณก็ซื้อของแพงขนาดนี้ให้แม่อีก ครั้งหน้าความอยากของเธอจะยิ่งมากขึ้นไปอีกนะ”

เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย “ครั้งนี้ผมซื้อกระเป๋ารุ่นจำนวนจำกัดมาฝากที่รักด้วยนะและสิ่งที่ซื้อมาฝากให้แม่นั้นเป็นสินค้าธรรมดาที่ประกอบการสั่งซื้อเท่านั้น”

เซียวชูหรันพูดอย่างเสียดายว่า “ถ้าอย่างนั้นครั้งนี้คุณคงจ่ายไปไม่น้อยเลยนะคะ… ”

เย่เฉินยิ้มพร้อมกับพูดว่า “คุณนี่ก็เอาแต่กังวลเรื่องเงินตลอดเวลาเลย ยังไงก็ตามเงินนี้น่ะมันหาได้ง่ายอยู่แล้ว เรากลับบ้านกันก่อนเถอะไว้ค่อยคุยอย่างละเอียดกันอีกที!”