ตอนที่ 3560 : เปลี่ยนแผนตามสถานการณ์

War sovereign Soaring The Heavens

WSSTH ตอนที่ 3,560 : เปลี่ยนแผนตามสถานการณ์

 

มองไปทั่วทั้งสมรภูมิ 9 ยมโลก ก็เห็นทีจะมีแต่พันธมิตรฟ่านเทียนกองกำลังเดียว ที่มีผู้นำถึง 2 คน สำหรับกองกำลังอื่นๆ เต็มที่ก็มีการแบ่งแยกออกเป็นผู้นำกับรองผู้นำเท่านั้น

  

เหตุผลที่พันธมิตรฟ่านเทียนเป็นแบบนี้ ก็เพราะหวู่หลงขอมา

  

จี้หยิ่ง ผู้นำพันธมิตรฟ่านเทียน นั้นตามใจหวู่หลงมาก ในเมื่อหวู่หลงขอมามันย่อมไม่มีทางปฏิเสธแน่นอน

  

ด้วยประกาลฉะนี้ พันธมิตรฟ่านเทียนจึงมีผู้นำคนที่ 1 และผู้นำคนที่ 2

  

สมาชิกทั่วไปของพันธมิตรฟ่านเทียนอาจไม่ล่วงรู้ต้นสายปลายเหตุ แต่ระดับสูงๆของพันธมิตรฟ่านเทียนนั้นรู้กันดี ไม่ว่าจะเป็น ‘ชายชรา’ ที่ติดตามหวู่หลงก่อนหน้า หรือยอดฝีมือคนอื่นๆของกองกำลังฟ่านเทียนที่อยู่ในแวดวงเดียวกันล้วนล่วงรู้หมด

  

“หรือเจ้าต้วนหลิงเทียนผู้นั้น มันไม่ทราบว่าหวู่หลงเป็นศิษย์ที่แท้จริงลำดับ 2 ของจักรพรรดิสวรรค์จี้ฟ่านเทียน?”

  

พอมีสมาชิกระดับสูงบางคนเปรยเรื่องนี้ขึ้นมา ก็มีระดับสูงอีกคนส่ายหน้าพลางกล่าว “เรื่องพรรค์นั้นเป็นไปมิได้แน่นอน! ด้วยนิสัยของผู้นำหวู่หลงแล้ว ไม่พ้นต้องประกาศฐานะความเป็นมาแน่ชัด และต่อให้ต้วนหลิงเทียนนั่นมันจะพึ่งเข้ามาในสมรภูมิ 9 ยมโลกจนไม่รู้จักว่าผู้นำหวู่หลงเป็นใคร แต่คนอื่นๆในพันธมิตรสวรรค์ไหนเลยจะไม่รู้ได้เล่า?”

  

“ท้ายที่สุดแล้ว ก่อนที่ต้วนหลิงเทียนจะฆ่าผู้นำหวู่หลง ผู้นำหวู่หลงก็เป็นถึงอันดับ 1 ใต้เทพสงคราม 9 ดาราแห่งสมรภูมิ 9 ยมโลก…”

  

หลังได้ยินคำพูดของสมาชิกระดับสูงคนนี้ หลายๆคนก็เห็นด้วย

  

“นอกจากนั้นเท่าที่ข้าทราบ…ไม่ว่าจะผู้นำหวู่หลงก็ดี ผู้นำจี้หยิ่งก็ดี ในฐานะศิษย์ที่แท้จริงเพียง 2 คน จักรพรรดิสวรรค์จี้ฟ่านเทียนย่อมให้ความสำคัญทั้งคู่อย่างมาก ไม่พ้นทั้งคู่ต้องมีรอยประทับจิตเทพของจักรพรรดิสวรรค์จี้ฟ่านเทียนแน่นอน…หากข้าเดาไม่ผิด ตราประทับจิตเทพของจักรพรรดิสวรรค์จี้ฟ่านเทียนอาจสำแดงอิทธิฤทธิ์แล้ว”

  

สมาชิกระดับสูงของพันธมิตรฟ่านเทียนคนก่อนหน้า ยังคงกล่าวความเห็นของตัวเองออกมา

  

“ไม่จริงกระมัง? หากกระทั่งรอยประทับจิตเทพของจักรพรรดิสวรรค์จี้ฟ่านเทียนสำแดงเดชแล้ว ต้วนหลิงเทียนนั่นมันยังจะกล้าฆ่าผู้นำหวู่หลงอยู่อีกหรือ? ทำเช่นนั้นไม่ใช่การหักหน้าจักรพรรดิสวรรค์จี้ฟ่านเทียนหรือไร?”

  

สมาชิกระดับสูงหลายคนของพันธมิตรฟ่านเทียน พากันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ

  

“ข้าพึ่งได้รับข่าวเพิ่มเติม…”

  

ตอนนี้เองชายชราที่เป็นมาชิกระดับสูงของพันธมิตรฟ่านเทียน และมีหน้าที่ดูแลข้อมูลข่าวสาร พลันเอ่ยขึ้นมาอีกรอบว่า “ก่อนที่ต้วนหลิงเทียนนั่นมันจะฆ่าผู้นำหวู่หลง…รอยประทับจิตเทพของจักรพรรดิสวรรค์จี้ฟ่านเทียนได้ฉายเงาจักรพรรดิสวรรค์จี้ฟ่านเทียนให้ปรากฏตัวขึ้นมา และยังยินดีจ่ายราคาให้ต้วนหลิงเทียนไม่อั้นเพื่อซื้อชีวิตผู้นำหวู่หลง”

  

“อย่างไรก็ตาม ต้วนหลิงเทียนนั่นใช้การกระทำเป็นการปฏิเสธ”

  

“เจ้านั่นมันถึงกับลงมือฆ่าทั้งผู้นำหวู่หลง และทำลายเงาร่างจากรอยประทับจิตเทพของจักรพรรดิสวรรค์จี้ฟ่านเทียนทิ้งไปพร้อมๆกัน!”

  

พอเสียงของสมาชิกระดับสูงที่ดูแลการข่าวของพันธมิตรฟ่านเทียนดังจบคำ ฉากเรื่องราวเหนือค่ายพันธมิตรฟ่านเทียนก็กลายเป็นเงียบงันทันที แต่ละคนชักสีหน้าตกตะลึงหันไปมองมองคนอื่นๆตาโตด้วยความเหลือเชื่อ

  

ต้วนหลิงเทียนไม่เพียงปฏิเสธการชดใช้จากจักรพรรดิสวรรค์จี้ฟ่านเทียน แต่ยังฆ่าหวู่หลงกับเงาร่างจักรพรรดิสวรรค์จี้ฟ่านเทียนไปพร้อมๆกัน?

  

แม้ร่างดังกล่าวจะเกิดจากการใช้รอยประทับจิตเทพเป็นสื่อเพื่อฉายเงาตัวจริงข้ามระยะไกลห่าง และไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับตัวจริงหลังถูกทำลาย แต่การกระทำแบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับท้าทายยั่วยุตัวตนขอบเขตเทพอย่างแรง!

  

“ต้วนหลิงเทียนนั่นตายแน่!”

  

“มันถึงกับหาญกล้าลงมืออุกอาจถึงเพียงนี้เชียว? ต่อให้เป็นฟงชิงหยางจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียนคนนั้น ครั้งนี้ก็คงยากจะช่วยมันได้กระมัง?”

  

“มันคิดจริงๆหรือว่าอาจารย์ของมันบรรลุถึงขอบเขตเทพแล้ว มันจะสามารถข้ามหัวจักรพรรดิสวรรค์จี้ฟ่านเทียนได้? จักรพรรดิสวรรค์จี้ฟ่านเทียนจะอย่างไรก็เป็นถึง อันดับ 1 ในรายนามจักรพรรดิสวรรค์ ทั้งยังบรรลุถึงขอบเขตเทพตั้งแต่ฟงชิงหยางยังไม่ปรากฏตัวขึ้นในระนาบเทวโลกด้วยซ้ำ! เห็นว่าด่านพลังยังเจียนจะบรรลุถึงขอบเขตราชาเทพแล้วอีกด้วย!!”

  

  

เหล่าสมาชิกระดับสูงของพันธมิตรฟ่านเทียนพากันจ้อกันไม่หยุดปาก และฟังจากคำพูดของพวกมัน เห็นชัดว่าล้วนยึดถือต้วนหลิงเทียนไม่ต่างอะไรจากคนที่ตายไปแล้ว

  

เรื่องราวทั้งหมด แน่นอนว่าต้วนหลิงเทียนไม่รู้เลย

  

เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่า จี้หยิ่ง ผู้นำของพันธมิตรฟ่านเทียนถึงกับเร่งรุดเดินทาง จนมาถึงสถานที่ตั้งค่ายพันธมิตรสวรรค์ในภาคตะวันออกเขต 9 เพราะการตายของหวู่หลงในเวลาอันสั้น

  

อนิจจาตอนที่จี้หยิ่งมาถึง ค่ายของพันธมิตรสวรรค์ก็กลายเป็นว่างเปล่าร้างผู้คนไปแล้ว สมาชิกของพันธมิตรสวรรค์ล้วนแยกย้ายจากไปหมดสิ้น กระทั่งซ่างกวนอวิ๋นเฟิงและเหล่าผู้พิทักษ์ทั้งหลายส่วนใหญ่ก็จากไปกันหมด

  

ถึงแม้จะมีบางคนที่ไปหากองกำลังใหม่เพื่อเข้าร่วมด้วยกัน แต่ก็มีน้อยนักที่ทำอะไรแบบนั้น

  

เว้นเสียแต่ความสัมพันธ์จะแน่นแฟ้นจริงๆ

  

และในปัจจุบันหลังจากที่พันธมิตรสวรรค์ถูกยุบ คนของพันธมิตรสวรรค์แต่เดิมก็ได้ไปหากองกำลังใหม่เพื่อเข้าร่วมเกือบหมด ที่ยังไม่เข้าร่วมก็ท่องไปในสมรภูมิ 9 ยมโลกตามอำเภอใจ

  

บ้างขึ้นเหนือ บ้างลงใต้ กระทั่งบางคนก็ลองเปลี่ยนไปทางตะวันตกดู

  

แน่นอนว่ายังมีบางคนที่เลือกจะไปยังภาคกลาง

  

แต่รวมๆแล้วก็ถือว่าพันธมิตรสวรรค์ได้หายไปอย่างสมบูรณ์ ต่อให้จี้หยิ่งจะระบายโทสะลงกับคนพันธมิตรสวรรค์มากแค่ไหน แต่การหาคนของพันธมิตรสวรรค์สักคนในตอนนี้ ก็ไม่ต่างอะไรจากงมเข็มในกองฟาง!

  

บางคนอาจคิดว่า…

  

ผู้นำของพันธมิตรสวรรค์จะอย่างไรก็เป็นคนมีชื่อเสียงพอสมควรในภาคตะวันออกเขต 9 ยากที่จะไม่มีใครจดจำได้! ตราบใดที่ยังไปไม่พ้นภาคตะวันออกต้องมีคนรู้จักแน่นอน…

  

อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงต่อให้จะไม่ได้ออกจากภาคตะวันออก ก็แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีใครจดจำมันได้ เนื่องเพราะปกติแล้วชื่อที่ใช้ตอนอยู่พันธมิตรสวรรค์ ไม่ใช่ชื่อจริงแต่อย่างใด…เป็นแค่หนึ่งในนามแฝงของพวกมัน!

  

การท่องไปในสมรภูมิ 9 ยมโลกนั้น ไม่ใช่ทุกคนที่จะกล้าเปิดเผยรูปร่างหน้าตารวมถึงชื่อจริงของตัวเอง!

  

มีน้อยคนนักเช่น ต้วนหลิงเทียน หวู่หลง และจี้หยิ่ง ที่มั่นใจในตัวเอง และเข้าสู่สมรภูมิ 9 ยมโลกด้วยรูปร่างหน้าตาและชื่อจริง

  

ต้องทราบด้วยว่ากระทั่งเทพสงคราม 9 ดารา หลายคนยังเลือกจะซ่อนตัวตนที่แท้จริงเอาไว้ด้วยซ้ำ…ทั้งหมดเพื่อให้พวกมันใช้พลังของเทพเบญจธาตุได้อย่างเปิดเผย เมื่อไม่มีใครรู้ตัวตนที่แท้จริง ทำให้ไม่ต้องกลัวว่าจะส่งผลกระทบหลังออกจากสมรภูมิ 9 ยมโลก

  

‘ไม่คิดเลยว่า จี้หยิ่ง ผู้นำพันธมิตรฟ่านเทียนจะมาด้วยตัวเอง’

  

ซ่างกวนอวิ๋นเฟิงที่ได้เปลี่ยนรูปร่างหน้าตารวมถึงชื่อตัวเองแล้ว พอเห็นจี้หยิ่งกำลังเหินข้ามฟ้ามุ่งหน้าไปยังภาคตะวันออกเพื่อตามหาต้วนหลิงเทียนที่พันธมิตรสวรรค์ ก็อดคิดในใจอย่างทอดถอนไม่ได้

  

เรื่องที่จี้หยิ่งจะมาด้วยตัวเอง แม้มันจะพอคาดเดาได้บ้าง แต่การได้เห็นจี้หยิ่งมาเองกับตาก็ทำให้ตกใจอยู่บ้าง

  

‘ดูเหมือนข่าวลือจะเป็นความจริง…ผู้นำพันธมิตรฟ่านเทียน จี้หยิ่ง รักและเอ็นดูหวู่หลงศิษย์น้องอย่างมาก ไม่ใช่เรื่องเกินเลยหากจะพูดว่ามันเห็นอีกฝ่ายเป็นดั่งน้องคนสุดท้องที่มีค่าราวของวิเศษ จะถือไว้ในมือก็กลัวหล่น จะอมไว้ในปากก็กลัวละลาย…’

  

ซ่างกวนอวิ๋นเฟิงคิดถึงจุดนี้ก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมาพลางถอนหายใจ

  

ตอนนี้ซ่างกวนอวิ๋นเฟิงก็ได้เข้าร่วมกองกำลังใหม่แล้ว แถมมันไม่เพียงปกปิดตัวตนและชื่อเท่านั้น มันยังปกปิดกระทั่งด่านพลังฝึกปรืออีกด้วย ‘อยู่บ่มเพาะพลังที่นี่สักพัก รอให้บรรลุการผสานรวมความลึกซึ้งจนมีพลังเทียบได้กับเทพสงคราม 8 ดาราระดับต้นๆพวกนั้นก่อน ข้าค่อยออกจากภาคตะวันออกนี่ไปยังภาคกลาง’

  

ภาคกลางนั้น เป็นอะไรที่ทุกคนในสมรภูมิ 9 ยมโลกอยากไปโลดแล่น…

  

อย่างไรก็ตามหากไม่มีพลังฝีมือเท่าค่าเฉลี่ยของเทพสงคราม 8 ดาราหรือเป็นชนชั้นยอดฝีมือ ก็คงไม่อาจสร้างชื่ออะไรได้ และถูกลิขิตให้เป็นได้แค่ลิ่วล้อผู้อื่นเท่านั้น

  

‘ไม่รู้…วันหน้าข้าจะมีโอกาสได้พบเจอจ้าววังน้อยอีกหรือไม่…’

  

พอคิดถึงจุดนี้ซ่างกวนอวิ๋นเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะใจหายอยู่บ้าง

  

การกระทำของต้วนหลิงเทียนครั้งนี้ไม่ต่างอะไรกับการทลายฟ้าในสายตาของมันเลย หากยังไม่บรรลุถึงเทพสงคราม 9 ดาราวันหนึ่ง ก็เสมือนต้องเสี่ยงตายเพิ่มไปอีกวัน เว้นเสียแต่จะเลือกปกปิดตัวตน

  

‘หวังว่าจ้าววังน้อยจะฟังคำแนะนำของข้า และเลือกที่จะปกปิดตัวตนเอาไว้’

  

ซ่างกวนอวิ๋นเฟิงได้แต่ลอบกล่าวในใจอย่างเป็นห่วง

  

มันรู้ดีว่ามีอัจฉริยะรุ่นเยาว์จำนวนมาก ที่ถือดีในความสามารถของตัว และหยิ่งผยองลำพองเพราะภูมิหลังความเป็นมา ไม่ว่าจะก่อการอะไรก็มักจะใช้ตัวตนที่แท้จริงต่ออย่างไม่กลัวเกรง ซึ่งคนเหล่านี้หลายคนก็ไม่ได้พบจุดจบที่ดีนัก

  

มันไม่อยากให้ต้วนหลิงเทียนต้องเป็นแบบนั้น

  

ยังดีที่ต้วนหลิงเทียนไม่ทราบความคิดในหัวของซ่างกวนอวิ๋นเฟิง มิฉะนั้นเขาต้องหัวเราะออกมาดังร่าแน่

  

สำหรับเขาแล้ว แม้หน้าตาจะมีความสำคัญ แต่มันน้อยยิ่งกว่าความปลอดภัยในชีวิตของเขามากโข

  

ที่สำคัญเขาไม่ได้มีแค่ตัวเองเท่านั้นที่ต้องระวัง

  

ในโลกใบเล็กของเขายังมีคนสำคัญ กระทั่งเค่อเอ๋อเองก็ยังรอเขาไปช่วยที่ระนาบเทพ

  

ถึงแม้ก่อนหน้าที่เข้าร่วมพันธมิตรสวรรค์ เขาจะเลือกใช้หน้าตาและชื่อที่แท้จริง แต่ทั้งหมดเพราะเขามี ‘ความมั่นใจ’ ว่าต่อให้พบเจอเทพสงคราม 9 ดาราเขาก็สามารถเอาตัวรอดได้แน่นอน…เพราะก่อนหน้า นี้ตอนที่เหล่าเทพเบญจธาตุได้ใช้มหาค่ายกลหลบหนีเพื่อให้เขารอดพ้นเงื้อมมือมาได้ พฤกษาเทพครองสวรรค์ก็ได้ใช้พลังเด็ดใบไม้ของพฤกษาเทพกำเนิดชีพออกมาใบหนึ่ง และให้วารีเทพชำระโลกาสลักพลังส่วนหนึ่งของมหาค่ายกลหลบหนีไว้ให้เขา จนมันไม่ต่างอะไรกับยันต์อมตะหลบหนีเลิศล้ำแผ่นหนึ่ง

  

หน้าที่ของใบไม้ดังกล่าว ก็เหมือนกับยันต์อมตะหลบหนีประเภทมิติระดับสูง

  

แม้แต่ในสมรภูมิ 9 ยมโลกแห่งนี้ เขาก็สามารถใช้ใบไม้ต่างยันต์อมตะหลบหนีนั่น เพื่อหลีกลี้เภทภัยได้ง่ายๆ

  

ต่อให้อยู่ด้านนอก หากไม่ใช่ว่าตัวตนระดับราชาเทพมาเอง เขาก็ยังสามารถหลบหนีได้อย่างราบรื่นเช่นกัน

  

เป็นเพราะมีไพ่ตายดังกล่าว เขาจึงกล้าเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงในพันธมิตรสวรรค์

  

แผนเดิมของเขาคือเฝ้ารอให้วิหารเฟิงฮ่าวสงคนมาฆ่าเขาถึงหน้าประตู เพื่อที่เขาจะได้ฆ่าพวกมันทิ้งเป็นการล้างแค้นให้อาจารย์ส่วนหนึ่ง…แต่เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าคนของวิหารเฟิงฮ่าวยังไม่มา แต่ศิษย์ที่แท้จริงลำดับ 2 ของจักรพรรดิสวรรค์จี้ฟ่านเทียนอย่างหวู่หลงดันมาเสียก่อน

  

ทำให้เขาจำต้องเปลี่ยนแผนไปตามสถานการณ์

  

เรื่องที่ฆ่าหวู่หลงแล้ววจะทำให้จักรพรรดิสวรรค์จี้ฟ่านเทียนโมโห เขาย่อมรู้เป็นธรรมชาติ

  

แต่เขาก็ยังเลือกจะทำแบบนั้น

  

หวู่หลงมันคิดฆ่าเขา หากเขาไม่กล้าฆ่ามันทิ้ง แม้จะบอกตัวเองว่าเป็นการรอโอกาสเหมาะ แต่สิ่งนี้ก็ไม่อาจประววิงเวลาได้นานนัก และหากมันไม่ตายเขาก็ไม่อาจสบายใจได้

  

ในปัจจุบันเขากำลังจะทะลวงพลังไปให้ถึงขอบเขตเทพ…

  

หากใจไม่กระจ่าง ย่อมพบเจอกับจุดรอคอยอันใหญ่หลวง เรื่องจะทะลวงให้ถึงขอบเขตเทพก็จะเกิดการล่าช้าออกไปอีก

  

และนั่นไม่ใช่อะไรที่เขาอยากจะเห็น

  

ดังนั้นแม้เงาร่างจักรพรรดิสวรรค์จี้ฟ่านเทียนจะปรากฏขึ้น เขาก็ยังฆ่าหวู่หลงทิ้ง เพื่อให้ใจปลอดโปร่งไร้สิ่งใดติดค้าง จะได้ทุ่มจิตสมาธิไปกับการบ่มเพาะพลังเพื่อให้ถึงขอบเขตเทพได้เร็วที่สุด

  

‘ดูเหมือนตอนนี้จะไม่มีโอกาสฆ่าคนของวิหารเฟิงฮ่าวแล้ว’

  

เดิมทีต้วนหลิงเทียนคิดไว้ว่า ต่อให้วิหารเฟิงฮ่าวจะส่งคนมาฆ่าเขา แต่พวกมันก็คงหาเทพสงคราม 9 ดาราไม่ง่าย เต็มที่ก็อาจเป็นแค่กลุ่มยอดฝีมือเทพสงคราม 8 ดาราเท่านั้น

  

อย่างไรก็ตาม หากไม่ใช่เทพสงคราม 9 ดารา ต่อให้จะมียอดฝีมือเทพสงคราม 8 ดารายกโขยงกันมากี่คนก็เท่านั้น

  

ด้วยความแข็งแกร่งของเขาตอนนี้ พร้อมด้วยกระบี่หลิงหลง 7 เปลี่ยน ให้ยอดฝีมือเทพสงคราม 8 ดาราแห่กันมาร้อย ก็ฆ่าทิ้งทั้งร้อย!

  

หากเป็นคนอื่น อาจประสบปัญหาหมดพลังหรือพลังขาดห้วง

  

แต่เขาไม่เจอปัญหานั้นแน่นอน

  

เพราะไม่เพียงแต่เขาจะมีชีพจรสวรรค์ 99 จุดสาย แต่ยังมีพลังวิญญาณฟ้าดินอันมหาศาลในโลกใบเล็กภายในกายของเขาซึ่งคุณภาพเทียบได้กับระนาบเทพ เขาสามารถชักนำมันมาเสริมพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดในร่างได้ทุกเมื่อ ไม่ต้องกลัวว่าจะพบเจอกับสภาวะหมดพลัง ดั่งมีแบตเตอรี่ที่ให้พลังงานอนันต์พกติดตัว…

  

‘ปกปิดตัวตนไปสักพัก…เพราะดูท่าจี้หยิ่งที่ว่า คงไม่คิดเลิกราง่ายๆแน่’

  

จี้หยิ่ง ผู้นำคนที่ 1 ของพันธมิตรฟ่านเทียน ศิษย์ที่แท้จริงลำดับ 1 ของจักรพรรดิสวรรค์จี้ฟ่านเทียน และยังเป็นถึงบุตรบุญธรรมของจักรพรรดิสวรรค์จี้ฟ่านเทียน เทพสงคราม 9 ดารา…หากเขาต้องพบเจอมันในช่วงนี้ เกรงว่าคงได้แต่ใช้ใบไม้ที่พฤกษาเทพครองสวรรค์กับวารีเทพชำระโลกาสร้างให้เขาไว้ใช้ต่างยันต์อมตะหลบหนีแน่นอน

  

แต่เขาไม่คิดจะใช้ของดีแบบนั้น ไปกับจี้หยิ่ง…