เซียวฉางเฉียนยังคงรู้สึกเกลียดชังหม่าหลันอย่างมาก

เพราะว่า หม่าหลันไม่เคยเก็บหมวกสีเขียวมากกว่ายี่สิบใบที่เธอแขวนไว้ที่ระเบียงของตัวเองเลย

ไม่เพียงแต่ไม่เก็บมันไปเท่านั้น เธอยังซื้อชุดใหม่มาเพิ่มจากช่องทางออนไลน์อย่างต่อเนื่องอีกด้วย และตอนนี้รวมๆ แล้วมีทั้งหมดก็มีมากกว่าสามสิบใบแล้ว

เซียวฉางเฉียนเข้าออก Tomson Riviera ทุกวัน และจะต้องเดินผ่านบ้านของเย่เฉิน ดังนั้นเขาจึงจะได้เห็นหมวกสีเขียวมากกว่าสามสิบใบกระพือปีกอยู่ในสายลม และทุกครั้งเขาก็ต้องรู้สึกโกรธมาก

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อนึกถึงการเยาะเย้ยตัวเองของหม่าหลัน เขาก็รู้สึกเกลียดหม่าหลันมากขึ้นไปอีกขั้น

ก่อนหน้านี้อยากจะหาโอกาสจัดการกับหม่าหลันมาโดยตลอด และก็สร้างปัญหาให้กับครอบครัวของเย่เฉินบ้าง เพื่อที่จะทำให้อู๋ตงไห่รู้สึกพึงพอใจมากที่สุด อย่างไรก็ตามที่ขาของหม่าหลันก็เข้าเฝือกอยู่ และก็อยู่แต่ในบ้านเป็นเวลาส่วนใหญ่ไม่ออกไปไหน อยากจะลงมือก็ไม่มีโอกาสเลย

ในตอนนี้ เฝือกของหม่าหลันถูกถอดออกแล้ว คิดว่าด้วยนิสัยของเธอ เธอจะต้องออกมาตะลอนในไม่ช้าอย่างแน่นอน ตราบใดที่เธอออกจากบ้านบ่อยๆ ตัวเองก็จะมีโอกาสมากมายได้จัดการกับเธอเอง

เมื่อได้ยินว่าจะกลั่นแกล้งหม่าหลัน นายหญิงใหญ่เซียวก็เริ่มรู้สึกให้ความสนใจขึ้นมาด้วย เธอพูดอย่างเย็นชาว่า “หม่าหลันไอ้บ้านี้ วันๆ ก็เอาแต่ตะลอนไปทั่ว ตอนที่อยู่ในศูนย์กักกันเมื่อครั้งก่อน ก็ควรจะตีขาของเธอหักทั้งสองข้างถึงจะบรรเทาความเกลียดชังได้!”

เซียวเวยเวยที่อยู่ข้างๆ ก็รีบพูดว่า “คุณย่า ถ้าอย่างนั้นในครั้งนี้เราก็หาโอกาสทำให้ขาของเธอหักทั้งสองข้างไปเลย!”

“ใช่ครับคุณย่า!” เซียวไห่หลงก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที และพูดออกมาว่า “ตีขาทั้งสองข้างของเธอให้หัก ผมไม่พอใจเธออยู่ในสายตามานานแล้ว!”

นายหญิงใหญ่เซียวมองไปที่เซียวฉางเฉียน และกล่าวว่า “ฉางเฉียน หม่าหลันดูถูกเหยียบหยามคุณมาโดยตลอด และสร้างความอับอายให้กับตระกูลเซียวของเราทั้งหมด ถึงเวลาที่คุณควรวางแผนให้ดีแล้วจริงๆ และสั่งสอนแม่นางปากตลาดคนนั้นสักหน่อย”

เซียวฉางเฉียนพยักหน้าอย่างซ้ำๆ “คุณแม่! ไม่ต้องห่วง! ผมจะไม่ปล่อยผู้หญิงเลวคนนี้ไปอย่างแน่นอน!”

…….

หลังจากรับประทานอาหารกลางวันที่บ้านแล้ว เย่เฉินก็โทรศัพท์ให้หงห้าขับรถเข้ามา รับเขาไปที่คอกเลี้ยงสุนัข

เขาวางแผนที่จะไปญี่ปุ่นในวันพรุ่งนี้ และรีบจัดการกับเรื่องทั้งหมดที่เกี่ยวกับบริษัทผลิตยาโคบายาให้เรียบร้อย

อยากจะได้บริษัทผลิตยาโคบายามา จะขาดความช่วยเหลือจากโคบายา ชิอิจิโร่และโคบายา ชิจิโร่ของพี่น้องคู่นี้ไม่ได้

ในรถของหงห้า เย่เฉินถามเขาว่า “ในช่วงเวลานี้พฤติกรรมของโคบายา ชิอิจิโร่และโคบายา ชิจิโร่เป็นอย่างไรบ้างที่อยู่ในคอกเลี้ยงสุนัข?”

หงห้าหัวเราะ “เรียนอาจารย์เย่ สองพี่น้องนี้พฤติกรรมดีมากอยู่ในคอกเลี้ยงสุนัข และขยันทำงานได้ดีมาก และก็ไม่กล้าโอ้อวดไปทั่ว พวกเขาเชื่อฟังเหมือนกับนกกระทาตัวหนึ่งเลยทีเดียว แต่ว่าพวกเขาสองคนไม่สามารถเจอหน้ากันได้ ก็เหมือนกับสุนัขสองตัวที่มีความแค้นต่อกัน ทุกครั้งที่เจอหน้ากันก็ต้องมีเรื่อง ตอนนี้ผมได้แบ่งแยกให้ทั้งสองคนไปยังพื้นที่ไม่เหมือนกัน และพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้ทั้งสองได้เจอหน้ากัน”

เย่เฉินพยักหน้าเบาๆ ระหว่างโคบายา ชิอิจิโร่และโคบายา ชิจิโร่ มีความเกลียดชังต่อกันอย่างลึกซึ้งอยู่แล้ว

โดยเฉพาะโคบายา ชิอิจิโร่ ก่อนหน้านี้เขาถูกเย่เฉินหลอกลวงไปครั้งหนึ่ง และแม้แต่พ่อของเขาก็ยังถูกเย่เฉินหลอกลวงวางยาพิษจนตาย แต่เติมมันก็ช่างน่าสมเพชอยู่แล้ว แต่ไม่คาดคิดว่าน้องชายของเขายังโยนปัญหาอีก และโยนความผิดโทษฐานวางยาพิษฆ่าพ่อผู้ให้กำเนิดของตัวเองให้เขา และยังใช้เงินเป็นจำนวนมากมาเป็นเงินรางวัล เพื่อที่จะซื้อหัวของเขาอีกด้วย

สามารถกล่าวได้ว่า เขาจะไม่มีวันยกโทษให้โคบายา ชิจิโร่ จนวันตายอย่างแน่นอน

อันที่จริงโคบายา ชิจิโร่ก็มีความแค้นต่อพี่ชายของตัวเองคนนี้อย่างมาก

เพราะว่าครั้งที่แล้วเย่เฉินก็ได้ชี้แจงอย่างชัดเจนแล้ว พี่น้องสองคนมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะสามารถกลับไปญี่ปุ่นพร้อมกับเขาได้ และอีกคนหนึ่งที่เหลืออยู่ก็ต้องอยู่ในคอกเลี้ยงสุนัขและทำงานไปตลอดชีวิต

และตัวเย่เฉินเองก็มีแนวโน้มที่จะพาพี่ชายของเขาโคบายา ชิอิจิโร่กลับไปด้วย ดังนั้นเขาจึงหวังให้พี่ชายของเขาจะประสบอุบัติเหตุบางอย่างในทุกๆ วัน และเป็นการดีที่สุดที่จะตายไปโดยตรง หากเป็นเช่นนั้นแล้วก็ ตัวเองก็จะกลายเป็นตัวเลือกเพียงคนเดียวของเย่เฉิน