บทที่ 2833 แฟนคลับที่เปลี่ยนใจไปชอบคนอื่น + ตอนที่ 2834 ในที่สุดก็คิดได้สักที

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 2833 แฟนคลับที่เปลี่ยนใจไปชอบคนอื่น

เซียวเซ่อพาตัวเองมานั่งข้างเหมยเหมยบนโซฟาขณะที่อีกข้างของเหมยเหมยคือสยงมู่มู่ เธอนั่งคั่นตรงกลางระหว่างคู่กัดคู่นี้ส่วนอู่เชานั่งตรงข้ามพวกเขา

ผู้ชมด้านล่างเวทีเห็นใบหน้าด้านตรงของเซียวเซ่อที่ถูกแสงไฟสาดส่องให้เห็นโฉมหน้าเธอได้อย่างชัดเจน คนที่สายตาดีถึงขั้นเห็นรูขุมขนบนผิวหน้าเนียนของเธอซึ่งสร้างความตกตะลึกให้แก่ทุกคนถ้วนหน้า

แม้เซียวเซ่อจะแต่งตัวยูนิเซ็กส์แต่หน้าตาของเธอก็มีความเป็นผู้หญิงมากขึ้นเรื่อย ๆหลังจากโตขึ้น ถ้าเธอไว้ผมยาวแม้จะใส่ชุดผู้ชายก็ไม่มีใครเข้าใจเธอผิดว่าเป็นผู้ชายอีกแล้ว

ถึงโฉมหน้าของเธอเทียบเหมยเหมยที่ดูมีเสน่ห์เย้ายวนไม่ได้แต่กลับดูสวยไปอีกแบบ ดวงตากลมโตเรียบนิ่งดั่งผืนมหาสมุทรที่ลุ่มลึกยากจะคาดเดาและมองไม่เห็นก้นบึ้งของมัน ผิวขาวละเอียดจมูกโด่ง ปากเล็กกระจับและขนตาหนาเข้ม ผมเป็นสีน้ำตาลธรรมชาติ ไม่มีใครสงสัยในความงดงามของเธอเลย

“ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ต่อให้เธอเป็นผู้หญิง ไม่ใช่รุก ฉันก็ไม่คัดค้านให้เธอคบกับมู่มู่” มีแฟนคลับสาวคนหนึ่งจากที่นั่งฝั่งผู้ชมพึมพำคนเดียว

เพื่อนของเธอก็เป็นเด็กสาวคนหนึ่งเช่นกัน แววตาเคลิบเคลิ้มมองเซียวเซ่ออย่างหลงใหล “ฉันก็เปลี่ยนใจแล้วเหมือนกัน หลังจากนี้คุณหนูอดัมจะเป็นไอดอลอันดับหนึ่งของฉัน มู่มู่คืออันดับสองแล้ว…คุณหนูอดัมมีบุคลิกที่ควีนมาก ฉันรักเธอมากเหลือเกิน!”

“ฉันก็เหมือนกัน…ฉันฝันอยากเป็นอย่างเธอเพราะมีความน่าเกรงขามจากภายในสู่ภายนอก ทุกอิริยาบถมันช่างน่าหลงใหล…หัวใจของฉันเต้นดังตึกตัก ๆ…รอถึงช่วงพักฉันจะไปขอลายเซ็นคุณหนูอดัม”

“ฉันด้วย…ฉันจะขอถ่ายรูปคู่กับคุณหนูอดัมด้วย…”

“ฉันรู้สึกว่าคุณหนูอดัมไม่ควรแต่งงานกับผู้ชายคนเดียว เธอควรสร้างฮาเร็มแล้วรวบรวมหนุ่มหล่อจากทั่วทุกมุมโลกมาอยู่ด้วยกัน ทั้งคนผิวดำ ผิวขาว ผิวเหลือง ผิวน้ำตาล…อย่างน้อยก็สักเจ็ดคนสิ วันจันทร์ถึงวันอาทิตย์สลับเวียนไปวันละคน…”

“ไม่…อย่างน้อยต้องยี่สิบห้าคนถึงจะดี ตัดไปห้าวันที่ประจำเดือนมา เวลาที่เหลือก็พลอดรักเรียงคนเลย…”

“…เป็นความคิดที่ดี เดี๋ยวเราเสนอความเห็นกับคุณหนูอดัมแล้วกัน อย่าให้เธอต้องทอดทิ้งป่างดงามทั้งผืนเพื่อหญ้าเพียงต้นเดียว ไม่คุ้มค่าเอาซะเลย!”

……

กลุ่มผู้ชมที่เดิมทีควรเป็นแฟนคลับตัวยงของสยงมู่มู่กลับเปลี่ยนใจไปชอบคนอื่นหลังได้เห็นใบหน้าตรงของเซียวเซ่อเพียงแวบเดียว พวกเขาหลงรักเซียวเซ่อที่มีบุคลิกความเป็นควีนจนหลงลืมสยงมู่มู่ไปเลย

หัวใจผู้หญิง…เปลี่ยนไวยิ่งกว่าอากาศในเดือนมิถุนายนเสียอีก!

เหมยเหมยจงใจเอ่ยกับอู่เชาว่า “ทำไมนายไม่แนะนำสถานะของฉันล่ะ มัวแต่แนะนำเซ่อเซ่ออยู่นั่น”

ทุกคนถึงค่อยเบี่ยงเบนความสนใจไปที่เหมยเหมยพลางอดอิจฉาสยงมู่มู่ในเรื่องผู้หญิงไม่ได้ คู่กรณีข่าวอื้อฉาวแต่ละคนมีแต่สวยขึ้นเรื่อย ๆ แต่ฟังจากน้ำเสียงที่เหมยเหมยคุยกับอู่เชาคาดว่าคงจะสนิทสนมกันพอตัว

อู่เชาพูดกลั้วหัวเราะ “อย่าเพิ่งรีบร้อนสิกำลังจะเริ่มแล้วนี่ไง แขกรับเชิญคนสวยท่านนี้ผมก็ต้องขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการหน่อย เธอชื่อจ้าวเหมยเป็นลูกพี่ลูกน้องของมู่มู่ ลูกพี่ลูกน้องจริง ๆนะ…ทุกคนฟังให้ชัดเจนล่ะ ถึงเวลานั้นอย่าเขียนข่าวว่าเป็นน้องสาวชู้รักอะไรมั่วซั้วล่ะ…”

มีเสียงหัวเราะดังครืนจากด้านล่างเวที โดยเฉพาะนักข่าวเหล่านั้นที่ทำหน้ายิ้มแหย

“จ้าวเหมยท่านนี้ก็เป็นน้องสาวของผมเหมือนกัน ถึงไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดแต่เราเติบโตมาด้วยกัน ผมเห็นเธอเป็นน้องสาวมาตลอด ฉะนั้นหลังจากนี้พวกคุณอย่าเขียนข่าวมั่ว ๆว่าเป็นรักสี่เศร้าอะไรนั่นอีก ทุกครั้งที่เห็นข่าวที่พวกคุณเขียนผมรู้สึกไม่ดีเลย อีกอย่างผมกลัวน้องเขยผมจะตามฆ่าผมด้วย!”

อู่เชากึ่งพูดกึ่งล้อเล่นช่วยกระตุ้นบรรยากาศให้ดูคึกคักขึ้น ผู้ชมต่างอารมณ์ลื่นไหลไปตามเขา

……………………………….

 ตอนที่ 2834 ในที่สุดก็คิดได้สักที

เหมยเหมยยิ้มเอ่ย “ฉันกับสามีของฉันรักกันดี ลูกสาวอายุสี่ขวบแล้วและกำลังมีลูกคนที่สองด้วย ภาพที่โรงพยาบาลที่นักข่าวตามถ่ายทั้งสองครั้งล้วนเป็นตอนไปตรวจครรภ์ สยงมู่มู่กับเซ่อเซ่อไปเป็นเพื่อนฉันเท่านั้นเอง เราสี่คนคือเพื่อนที่สนิทกันมาก ๆ”

เธอใช้คำว่ามาก ๆและเน้นเสียงหนักเพื่อสื่อถึงมิตรภาพที่แน่นแฟ้นของพวกเขา

อู่เชาพูดคล้อยตาม “ใช่แล้ว เราสี่คนสนิทสนมคุ้นเคยกันมากเหมือนครอบครัวเดียวกัน อีกอย่างนามปากกาผมเหมยเหมยยังเป็นคนแต่งให้ด้วยซ้ำ บอกได้ว่าถ้าไม่ได้กำลังใจกับแรงสนับสนุนของเหมยเหมยก็คงไม่มีผมในทุกวันนี้ เธอเป็นทั้งเพื่อนและอาจารย์ที่ดีของผมเลย”

“อย่าพูดอย่างนั้น ฉันแค่จุดประกายนิดหน่อย สิ่งสำคัญก็ยังต้องอาศัยความสามารถของตัวนายเองด้วย” เหมยเหมยแอบรู้สึกผิดเล็กน้อยเพราะชาติที่แล้วเธอไม่ได้ตักเตือนอู่เชา แต่เขาก็ไปได้ดีในวงการศิลปะวัฒนธรรมกับวงการบันเทิงแบบนี้เช่นกัน

แต่ชาตินี้อู่เชามีชื่อเสียงก่อนหลายปี ทั้งยังมากกว่าชาติที่แล้วมากโข

สยงมู่มู่แอบร้อนใจคนเดียวแล้วพยายามส่งสายตาไปทางอู่เชา ไหนล่ะท่าไม้ตาย?

กระทั่งตอนนี้ยังมัวแต่คุยกับเหมยเหมยจนลืมเรื่องของเขาไปแล้ว เจ้าอ้วนไม่แยกแยะเรื่องหลักเรื่องรองเลย!

อู่เชาแสร้งทำเป็นไม่เห็นแต่กลับหัวเราะในใจ เขาพูดอีกว่า “ความจริงเหมยเหมยยังมีอีกหนึ่งสถานะ พวกคุณคงจะเคยได้ยินกันมาบ้าง มีหนังสือการ์ตูนเรื่องหนึ่งที่ดังมากในสิบปีก่อน พวกคุณยังจำได้ไหม?”

“รู้…เจ้าหญิงอัปลักษณ์!”

บรรดาผู้ชมตื่นเต้นกันในฉับพลันโดยเฉพาะหญิงสาวที่อายุยังน้อย ๆกันอยู่ จนตอนนี้พวกเธอยังอ่านการ์ตูนเล่มนี้อยู่เลย!

“ใช่แล้ว เหมยเหมยก็คือผู้สร้างเรื่องเจ้าหญิงอัปลักษณ์และเป็นโปรดิวเซอร์ละครชื่อเดียวกันด้วย ขณะเดียวกันเธอก็เป็นศิลปินที่ยอดเยี่ยมมาก ๆคนหนึ่ง เธอเป็นหลานสาวของอาจารย์เหยียนตานชิง คุณแม่เป็นศิลปินชื่อดังเหยียนซินหย่า อีกทั้งเหมยเหมยยังก่อตั้งมูลนิธิกระโปรงแดงเพื่อต่อต้านการใช้ความรุนแรงภายในครอบครัวและปกป้องสิทธิสตรีอีกต่างหาก”

อู่เชาแนะนำประวัติของเหมยเหมยจนได้เสียงปรบมือกราวจากด้านล่างเวที เหมยเหมยลุกยืนโค้งตัวให้พร้อมแอบภูมิใจอยู่ลึก ๆ

จะว่าไปชาตินี้เธอค่อนข้างประสบความสำเร็จด้านการงานและครอบครัวซึ่งรักใคร่กลมเกลียวกันดี ถือว่าประสบความสำเร็จในชีวิตแล้วสินะ!

คนที่ตกใจยิ่งกว่ากลับเป็นเหล่านักข่าว ในที่สุดพวกเขาก็จำพื้นหลังอันแสนลึกลับของเหมยเหมยได้สักที ได้ข่าวว่าสามีเป็นข้าราชการระดับสูงที่มีที่มาที่ไปไม่ธรรมดา หลายปีก่อนเพราะจ้าวเหมยท่านนี้ทำให้สำนักพิมพ์หลายแห่งถูกปิดตัวลง ล้วนเป็นความดีความชอบของสามีเธอทั้งสิ้น

ไม่คิดว่าเพื่อนของสยงมู่มู่จะเป็นคนใหญ่โตกันทุกคนเลย!

แต่พวกเขานึกถึงเบื้องหลังสีแดง[1]ของสยงมู่มู่ก็ไม่คิดจะแปลกใจแล้ว สังคมชนชั้นสูงอยู่ไกลชาวบ้านธรรมดาอย่างพวกเขาจนไม่อาจเอื้อมถึง!

อู่เชาให้ผู้ช่วยหยิบหมอนอิงมาหลาย ๆใบเพื่อให้เหมยเหมยใช้รองตัวเอาไว้ “ตอนนี้เธอเป็นบุคคลที่ต้องได้รับการปกป้องอย่างดี ผมเลยต้องระวังหน่อย”

เขาเหลือบมองสยงมู่มู่ที่นั่งก้นไม่ติดเก้าอี้แวบหนึ่งก็หัวเราะ พลางกล่าวขึ้นว่า “ตอนนี้เข้าสู่เรื่องสำคัญเลย จุดประสงค์หลักของรายการวันนี้เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์จากข่าวที่ไม่เป็นจริงเมื่อหลายวันก่อน เมื่อกี้ผมได้เกริ่นความสัมพันธ์ของเราสี่คนไปชัดเจนแล้ว ประเด็นในตอนนี้ก็มาพูดเรื่องความสัมพันธ์ของเซียวเซ่อกับมู่มู่แล้วกัน!”

ผู้ชมด้านล่างเวทีตื่นตัวทำหูตั้งในทันที

ไม่มีใครสังเกตเห็นคุณตาผมหงอกท่านหนึ่งกำลังเดินเข้ามาเงียบ ๆแล้วหาที่นั่งที่หนึ่งนั่งลงไป ไม่มีใครสังเกตเห็นเขาเลยตลอดตั้งแต่ต้นจนจบรายการ

ท่านผู้นี้ก็คืออาจารย์เซียวเหยียนนั่นเอง เขาได้ข่าวว่าหลานสาวจะออกรายการจึงอาศัยความสัมพันธ์จากคนรู้จักในช่องโทรทัศน์ของเขาแอบย่องเข้ามาเงียบ ๆโดยไม่มีใครรู้

อู่เชาบนเวทีชี้ไปที่เซียวเซ่อกับสยงมู่มู่แล้วกล่าว “สองท่านนี้มีความสัมพันธ์ที่พิเศษนิดหน่อยหรือจะพูดให้น่าฟังพวกเขาเป็นเพื่อนที่เติบโตกันมาตั้งแต่เด็กรู้จักกันมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย ถือว่าเป็นคู่ขิงก็ราขาก็แรง แต่คนในเหตุการณ์ย่อมไม่รู้ตัว ตัวพวกเขายังไม่รู้ใจตัวเองด้วยซ้ำ กระทั่งหลายวันก่อนเพื่อนของผมคนนี้ถึงฉลาดขึ้นมาบ้าง”

สยงมู่มู่เกาศีรษะหลังอย่างเคอะเขิน ก็ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย!

……………………