บทที่ 2853 ฝาแฝด + ตอนที่ 2854 แยกไม่ออกว่าชายหรือหญิง

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 2853 ฝาแฝด

เหมยเหมยก็นึกเรื่องนี้ขึ้นได้เช่นกัน พูดถึงสยงมู่มู่ก็หน้าตาเหมือนคุณปู่ของเขาจริง ๆ ต่อให้ตอนนี้คุณปู่สยงจะอายุมากแล้ว แต่ก็ยังทิ้งมาดในตอนนั้นให้เห็นอยู่ราง ๆ สมแล้วที่เป็นนักแสดงงิ้วมาเกือบทั้งชีวิต

คุณย่าสยงน่าสนใจยิ่งกว่านั้นอีกเพราะเธอแต่งเป็นผู้ชายและมักขึ้นเวทีคู่กับคุณปู่ซึ่งก็คือยอดฝีมือรุ่นเดียวกัน พวกเขาทั้งสองคนต่างถูกคนยกย่องในวงการงิ้ว

ในเมื่อพวกเขาทั้งสองไม่ได้ตื่นตกใจอะไร จ้าวจิงหนานก็ไม่ต้องกังวลอะไรอีก เธอพึงพอใจในตัวเซียวเซ่อมากอยู่แล้ว ตอนเด็กยังหยอกล้อกับคุณหนูใหญ่เฝิงว่าจะเป็นทองแผ่นเดียวกัน นับว่าตอนนี้ก็สมหวังแล้ว

วันต่อมาสยงมู่มู่รีบกลับอเมริกาทันที ตอนนี้แรงบันดาลใจของเขาพุ่งกระฉูดเพราะในหัวมีแต่เพลงใหม่ ๆทั้งนั้น เขาต้องแก้เพลงในอัลบั้มใหม่ วันแต่งงานในอีกครึ่งปีข้างหน้าก็จะเป็นวันเปิดตัวอัลบั้มด้วย

เขาอยากให้ทุกคนบนโลกใบนี้อวยพรให้เขากับเซียวเซ่อ!

แต่เซียวเซ่อกลับยังอยู่เมืองหลวงต่อ ท่านเคานต์อาวุโสก็ยังไม่กลับอังกฤษ แต่หล่อนไม่ออกไปเที่ยวไหนเลยแค่หมกตัวอยู่ในบ้านไม่ไปไหนทั้งนั้น แม้แต่ข้าราชการรัฐก็ไม่พบ

“ฉันเดาว่าท่านเคานต์อาวุโสคงอยากเจอท่านผู้เฒ่าเซียวสักครั้ง ไม่แน่พวกเขาอาจจะกลับมาคืนดีกันก็ได้!” เหมยเหมยคาดเดา

เหยียนหมิงซุ่นเข้าไปยกบะหมี่ไก่จากในครัวมาป้อนเธอ ตั้งท้องครั้งนี้ความอยากอาหารของเหมยเหมยดีกว่าครั้งก่อน หนึ่งวันต้องทานหกเจ็ดมื้อ แถมไม่มีอาการแพ้ท้องใด ๆสักนิด ท้องก็ใหญ่กว่าครั้งก่อนมากโข

“เดี๋ยวฉันกินเอง พี่ว่าฉันพูดถูกไหมล่ะ?”

เหมยเหมยรู้สึกเร็วไม่ทันใจเลยแย่งถ้วยมาตักทานเอง

“หากเจอสักครั้งคงมีความเป็นไปได้แต่จะกลับมารักกันเหมือนเดิมคงยาก” เหยียนหมิงซุ่นไม่เห็นด้วย ถึงแม้เขาจะไม่ได้ปฏิสัมพันธ์กับท่านเคานต์อาวุโสเท่าไหร่นัก แต่ก็พอมองออกว่าหญิงชราผู้นี้เป็นคนหัวรั้นเอาการเลย

เธออาจจะมีเยื่อใยให้ท่านผู้เฒ่าเซียวอยู่ก็จริง แต่ไม่เพียงพอให้หวนกลับไปรักกันได้อีกหรอก

“ไม่สนหรอก ขอแค่เซียวเซ่อแต่งงานกับสยงมู่มู่ได้ก็พอ” เหมยเหมยเขมือบบะหมี่เคี้ยวตุ้ย ๆ เพียงแวบเดียวก็ทานหมดเกลี้ยง จากนั้นก็เรอออกมาอย่างพึงพอใจ ถึงจะรู้สึกดีแต่ก็ยังไม่หนำใจพอ

“ยังไม่อิ่มเหรอ?” เหยียนหมิงซุ่นถาม

“อืม…ยังกินได้อีกหน่อย พี่ว่าครั้งนี้คงไม่ใช่เจ้าหนูกินจุอีกหรอกนะ?” เหมยเหมยเดา

เล่อเล่อทานจุมาก ตอนเธอตั้งท้องเล่อเล่อเธอทานเยอะมาก ตอนนี้ความอยากอาหารมากกว่าครั้งก่อนอีก หรือว่าลูกคนนี้จะทานจุยิ่งกว่าเล่อเล่อนะ?

เหยียนหมิงซุ่นใจเต้นตึกตัก ความรู้สึกตระหนักกลัวก็ถาโถมขึ้นมา ความเป็นไปได้นี้ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้นี่นา!

“ไม่เป็นไรหรอก ต่อให้จะเป็นเด็กกินจุพวกเราก็เลี้ยงไหว พี่ไปต้มเส้นให้เธออีกก่อน” เหยียนหมิงซุ่นปลอบใจภรรยา พอหมุนตัวเดินเข้าครัวไปก็มุ่นคิ้วแน่น

สัญชาตญาณบอกเขาว่าเด็กสองคนที่จะเกิดมาไม่น่ากังวลใจยิ่งกว่าเล่อเล่ออีก!

ไม่รู้ว่าพวกเขาจะมีพรสวรรค์ด้านไหน ฉับพลันเหยียนหมิงซุ่นก็รู้สึกตั้งตารอคอยขึ้นมา

เวลาครึ่งปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว ท้องของเหมยเหมยนูนขึ้นเหมือนภูเขาลูกเล็ก ขนาดเดินยังลำบาก กำหนดคลอดยังเหลืออีกหนึ่งเดือน แต่เพราะเธอตั้งท้องลูกแฝดเลยมีความเป็นไปได้ว่าจะออกมาก่อน

ตอนท้องได้สามเดือนเหมยเหมยมั่นใจแล้วว่าตนท้องลูกแฝด และเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงทานเยอะขนาดนั้น

เหตุที่ดูแลปกป้องลูกทั้งสองอย่างระมัดระวัง แม้กระทั่งเข้าห้องน้ำยังมีคนคอยติดตามเพราะกลัวว่าเธอจะเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้น ตลอดครึ่งปีมานี้ผ่านไปอย่างราบรื่น แต่ร่างกายของเธอรับไม่ไหวมากขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งรู้สึกว่าหายใจยังลำบากเลย

“ไม่ไหวก็ผ่าคลอดเถอะ!” เหยียนหมิงซุ่นเป็นห่วงสุขภาพเหมยเหมยเลยอยากให้เธอไปผ่าคลอด

“ไม่เอา…ฉันยังทนไหว!” เหมยเหมยค้านเสียงกร้าว

เธอไม่อยากทิ้งรอยแผลไว้บนหน้าท้องหรอก อีกอย่างเพิ่งแปดเดือนเอง เธออยากให้ลูกเติบโตในท้องอีกหน่อย ต่อให้เพิ่มมาแค่หนึ่งวันก็ยังดี แบบนี้ร่างกายจะได้แข็งแรง!

……………………………………………

ตอนที่ 2854 แยกไม่ออกว่าชายหรือหญิง

เหยียนหมิงซุ่นทำได้เพียงให้เหมยเหมยเข้าโรงพยาบาลก่อนอย่างจนใจพร้อมทั้งตระเตรียมทีมหมอไว้เสร็จสรรพ พวกเขาพร้อมรอคำสั่งผ่าคลอดทุกเมื่อ

“ฉันอยากไปร่วมงานแต่งของเซียวเซ่อ…ก็ได้ พี่ถือว่าฉันไม่ได้พูดแล้วกัน” เหมยเหมยพูดไปได้แค่ครึ่งเดียวก็กลืนคำพวกนั้นลงท้องไป เพราะเหยียนหมิงซุ่นไม่แม้แต่จะสนใจเธอสักนิด

“พี่จะส่งคนไปไลฟ์สดในงานเลย เธออยู่ที่นี่ก็เห็นได้เหมือนกัน” เหยียนหมิงซุ่นเตรียมการไว้แต่แรกแล้ว ไปร่วมงานถึงที่ไม่ได้ แต่ไลฟ์สดในงานไม่มีปัญหา

ถึงแม้เหมยเหมยจะเสียดายอยู่บ้างแต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรให้ดูเลย ดูผ่านไลฟ์สดได้ก็นับว่าไม่เลวแล้ว

งานแต่งงานของสยงมู่มู่คือหลังจากนี้อีกสามวัน ข่าวการแต่งงานแพร่สะพัดไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว อีกทั้งวันนั้นก็เป็นวันเปิดตัวอัลบั้มใหม่ด้วย ชื่ออัลบั้มใหม่ก็คือ ‘คนที่ฉันรัก’ พวกเขาต่างเล่าลือกันว่าเป็นเพลงรักที่สยงมู่มู่แต่งให้เซียวเซ่อซึ่งสไตล์เปลี่ยนไปจากอัลบั้มที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง เหล่าแฟนเพลงต่างตั้งตารอคอยเชียวล่ะ

อีกอย่างก่อนหน้านี้สยงมู่มู่ประกาศว่าเขาจะจัดงานแต่งงานที่ไม่เหมือนใคร นี่จึงทำให้เหล่าแฟนเพลงต่างพากันคันยุบยิบ ตั้งตานับถอยหลังทุกวันหวังว่าจะถึงวันแต่งงานสักที

อีกทั้งสถานะพิเศษของเซียวเซ่อ การแต่งงานครั้งนี้จึงเป็นกระแสดังยิ่งกว่าเหล่าเจ้าหญิงเจ้าชายเสียอีก เหล่านักข่าวสื่อดังทั่วโลกต่างรีบไปลอนดอนเพื่อเตรียมรายงานข่าวการแต่งงานให้ทันท่วงที

พวกอู่เชาและฉีฉีเก๋อต่างก็ได้รับบัตรเชิญและไปประเทศอังกฤษแต่เนิ่น ๆแล้ว ท่านผู้เฒ่าเซียวก็ไปด้วยเช่นกัน ครึ่งปีก่อนท่านเคานต์อาวุโสเป็นฝ่ายนัดเจอเขาก่อน พวกเขาสองคนคุยกันอยู่นาน แต่ไม่มีใครรู้ว่าคุยอะไรกันบ้าง

แต่หลังจากนั้นท่านเคานต์อาวุโสก็กลับประเทศอังกฤษและไม่ได้หวนคืนดีกับท่านผู้เฒ่าเซียวแต่อย่างใด แต่เธอก็ไม่ได้คัดค้านหากเซียวเซ่อจะเชิญให้เขามาร่วมงานแต่งงานด้วย เดาว่าคงสะสางเรื่องในใจกันแล้ว

ในที่สุดความแค้นเกือบครึ่งศตวรรษก็มลายหายไป ถึงแม้จะไม่ได้กลับมารักกันอีกแต่ก็นับว่าเป็นเรื่องดี

งานแต่งงานใกล้เริ่มแล้ว เซียวเซ่อเปลี่ยนไปใส่ชุดอัศวินผู้กล้าหาญ เธอรูปร่างสูงโปร่ง พอสวมชุดผู้ชายกลับไม่ดูขัดตาเลยสักนิดแต่ดูหล่อเหล่ากล้าหาญ ส่วนอีกฝั่งสยงมู่มู่กำลังแต่งหน้าอยู่ เขาสวมชุดเจ้าสาวที่ท่านเคานต์อาวุโสสั่งตัดไว้ให้ ด้านบนปักเพชรและไข่มุกเต็มไปหมด แค่ชุดแต่งงานชุดเดียวก็ราคาแพงหูฉี่แล้ว

“แต่งให้ฉันสวยเหมือนหญิงงามล่มเมืองไปเลย ฉันจะทำให้ประชาชนทั้งโลกตาถลนให้หมด” สยงมู่มู่ได้ใจสุดขีด เขาที่สวมชุดเจ้าสาวสวยจนสะกดตาคนมอง แยกไม่ออกว่าเป็นชายหรือหญิง ช่างแต่งหน้ายังหลงผิดเพราะเกิดมาไม่เคยเจอผู้ชายคนไหนแต่งตัวเป็นผู้หญิงได้สวยยิ่งกว่าผู้หญิงขนาดนี้มาก่อน

“ถึงฤกษ์งามยามดีแล้ว เจ้าสาวเข้าพิธีได้” พิธีกรก็คืออู่เชา

เซียวเซ่อขี่ม้าด้วยมาดน่าเกรงขามเข้ามาในงาน ฉับพลันก็มีเสียงปรบมือโห่ร้องดังขึ้น คนที่มาร่วมงานมีมหาศาล ส่วนมากเป็นราชนิกุลชั้นสูงในอังกฤษ อีกทั้งยังมีราชนิกุลของประเทศอื่นด้วย ส่วนทางฝั่งสยงมู่มู่จะเป็นญาติและเพื่อนสนิท รวมถึงเหล่าแฟนเพลง

ผู้สื่อข่าวก็ไม่น้อยหน้าต่างพากันกดรัวชัตเตอร์ไม่หยุด

ทุกคนต่างงงงวยกันหมดพานหลงคิดว่าอู่เชาพูดผิด ทั้ง ๆที่คนที่เข้างานมาคือเจ้าบ่าวแล้วจะพูดว่าเป็นเจ้าสาวได้อย่างไร เขาไม่เป็นมืออาชีพเอาเสียเลย

“ท่านผู้นี้คือคุณหนูอิงกริดแมน อดัม ซึ่งก็คือนางเอกในวันนี้” อู่เชาแนะนำตามลำดับพิธีการ เซียวเซ่อลงจากม้าอย่างงามสง่าแล้วโค้งด้วยท่วงท่ามาตรฐานให้ทุกคน

“นี่มันอะไรกัน? ทำไมเจ้าสาวถึงสวมชุดผู้ชายล่ะ? แถมขี่ม้าด้วย? แล้วเจ้าบ่าวไปไหน?”

ทุกคนต่างกระซิบกระซาบกันเสียงเบา ไม่เข้าใจว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น ท่านเคานต์อาวุโสนั่งเงียบนิ่งแต่นัยน์ตาแฝงความขำขันไว้อยู่

ผู้ชายคนนี้ยอมละทิ้งชีวิตและศักดิ์ศรีทุกอย่างเพื่อหลานตน ฉะนั้นจึงคู่ควรที่เธอจะฝากฝังหลานไว้ด้วย หวังว่าเธอจะมองไม่ผิดคนนะ!

“ยินดีต้อนรับเจ้าบ่าว!” อู่เชาเอ่ยเสียงดัง

ท่ามกลางเพลงบรรเลงในงานแต่งงานสยงมู่มู่ที่สวมชุดเจ้าสาวก็เดินออกมา สวยจนไร้ใครเทียม แสงความงามเปล่งประกายจนแทบทำให้ทุกคนตาบอด

อะไรกัน…ทั้ง ๆที่เป็นผู้หญิงแท้ ๆ ทำไมกลายเป็นเจ้าบ่าวไปได้ล่ะ?

อีกอย่างทำไมเจ้าบ่าวถึงสวมชุดเจ้าสาว ตระกูลอดัมกำลังเล่นสนุกอะไรอยู่กันแน่?

สยงมู่มู่เดินมาหยุดอยู่เบื้องหน้าของเซียวเซ่อ ทั้งสองสบตากันแล้วอมยิ้ม สยงมู่มู่คว้าไมค์มาพร้อมตะโกนขึ้นว่า “วันนี้เป็นวันมงคลของผม ผมจะร้องสักเพลง!”

………………………………….