ตอนที่ 2855 คนหนึ่งชอบงอแงส่วนอีกคนรักสงบ
ถึงสยงมู่มู่จะหน้าตาเหมือนผู้หญิงแต่เสียงกลับไม่เหมือนเลยสักนิด แค่ได้ยินก็รู้แล้วว่าเป็นผู้ชาย คนที่ไม่รู้ความจริงดวงตาแทบถลนออกมาอยู่รอมร่อ
สิ่งเหนือคาดแบบนี้ทำเอาพวกเขาเหมือนกำลังฝันอยู่ก็ไม่ปาน
อู่เชากลับยิ้มพร้อมอธิบายว่า “เจ้าบ่าวเกิดมาในครอบครัวที่มีฝีมือในศิลปะการแสดง เมื่อสามสิบปีก่อนคุณปู่ของเขาเคยมารับบทแสดงเป็นสาวงามคนหนึ่งในลอนดอน เชิญทุกท่านดูที่จอภาพเลยครับ”
จอใหญ่ฉายภาพคุณปู่สยงในตอนนั้น เขารับบทเป็นจู้อิงไถซึ่งหน้าตาคล้ายคลึงกับสยงมู่มู่ในตอนนี้อยู่ไม่น้อย ทุกคนถึงได้เข้าใจในทันที ที่แท้เขาก็เกิดมาในครอบครัวที่มีฝีมือในศิลปะการแสดงนี่เอง!
เสียงปรบมือที่แสนอบอุ่นดังกระหึ่มดั่งเสียงคลื่นซัดสาด ทางสยงมู่มู่เริ่มเตรียมตัวร้องเพลง แม้แต่คนในวงก็พามาเตรียมตัวโชว์การแสดงถึงในงานเลย
อัลบั้มใหม่ครั้งนี้มีเพลงภาษาอังกฤษอยู่หลายเพลง ภายใต้การแสดงของเขาทุกคนฟังกันอย่างเมามัน ทั้งยังลอบดีใจที่ครั้งนี้ไม่ได้มาเสียเปล่าด้วย
เหมยเหมยดูไลฟ์สดอยู่บนเตียง คนที่เหยียนหมิงซุ่นส่งไปเก่งมากเพราะจับภาพได้ทุกมุมซึ่งเห็นชัดกว่าอยู่ในงานเสียอีก ครั้นเห็นคนมากมายร่วมอวยพรงานแต่งงานของสยงมู่มู่ เธอก็ทั้งอิจฉาและทั้งเศร้าใจ
เธอท้องลูกคนที่สองแล้ว แต่ยังไม่ได้จัดงานแต่งงานเลย!
ตอนแรกคุยกันว่ารอเล่อเล่อโตกว่านี้หน่อยค่อยจัดงานแต่งงาน แต่ตอนนี้ท้องสองใกล้คลอดแล้ว ถ้ารอเจ้าหนูทั้งสองโตอีกก็ตั้งอีกหลายปี เกรงว่างานแต่งงานคงเลื่อนไปไม่มีกำหนด!
เหมยเหมยถอยหายใจด้วยความทุกข์ใจ
งานแต่งงานของสยงมู่มู่และเซียวเซ่อในครั้งนี้ได้รับความสนใจยิ่งกว่าที่คาดไว้เสียอีก ถึงแม้งานแต่งงานจะสิ้นสุดลงแล้วแต่กระแสกลับไม่ลดลงเลย สื่อดังทุกแห่งต่างประโคมรายงานข่าว โดยเฉพาะภาพที่สยงมู่มู่สวมชุดเจ้าสาวคนทั้งโลกต่างรับรู้กันหมด
กระทั่งบนโลกอินเทอร์เน็ตต่างบอกว่าเขาเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดในศตวรรษอย่างไม่มีใครเทียมได้
เพราะอัลบั้มใหม่ของสยงมู่มู่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเหนือความคาดหมายของตนจนตีตลาดต่างประเทศได้ ทั้งยังติดชาร์ตสามอันดับเพลงฮิตไม่มีตก โดยเฉพาะเพลงภาษาอังกฤษสองสามเพลงนั้นฮิตติดหูเป็นกระแสในวงกว้าง
ทุกอย่างกำลังไปในทางที่ดีแต่ท้องของเหมยเหมยกลับใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ทนยากมากขึ้นทุกวัน ทว่าเธอก็ยังกัดฟันทนต่อไป ถ้าไม่ถึงวินาทีสุดท้าย เธอจะไม่มีทางให้ผ่าคลอดเด็ดขาด
ห่างจากวันกำหนดคลอดอีกสิบกว่าวัน ในที่สุดเหมยเหมยก็เจ็บท้องคลอด ผ่านไปสามชั่วโมงก็คลอดเจ้าอ้วนน้อยออกมาสองคน
พี่ชายน้ำหนัก 2.8 กิโลกรัม ส่วนน้องชาย 2.7 กิโลกรัม
เหยียนหมิงซุ่นมองเจ้าอ้วนสองคนที่นอนเรียงกันแล้วเหลือบมองเหมยเหมยที่หมดสติไปพร้อมน้ำตา เขายากที่จะจินตนาการได้จริง ๆว่าเหมยเหมยตัวเล็กแค่นี้ทำไมถึงใส่ไปได้ตั้งสองคนนะ?
หนูน้อยทั้งสองต่างนอนหลับตาพริ้ม พยาบาลอาบน้ำให้พวกเขาแล้วจึงสะอาดหมดจด ผมดกดำ ทว่าหน้าตากลับไม่เหมือนกันสักนิด คนพี่หน้าตาเหมือนคุณตาจ้าวอิงหัว โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้นที่ถอดกันออกมาเปี๊ยบ
ส่วนคนน้องเหมือนเหมยเหมยและเหยียนหมิงซุ่นรวมร่าง รูปหน้าเหมือนเหมยเหมย แต่จมูกกลับเหมือนเหยียนหมิงซุ่น
“…ทำไมน้องชายไม่เล่นกับหนูละคะ?” เล่อเล่อสำรวจของเล่นของเธอด้วยความใคร่รู้ เธอยื่นมือไปหมายจะปลุกน้องชาย คุณย่าหยางตกใจยกใหญ่แล้วรีบดึงมือกลับมา
แรงหลานสาวเยอะขนาดนั้นจะทำน้องชายเจ็บตัวเอาได้
เหมยเหมยหลับไปหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็ม ๆถึงฟื้น พอลืมตาขึ้นมาก็ให้เหยียนหมิงซุ่นอุ้มลูกมาให้ดู
“คนที่ตื่นอยู่เป็นพี่คนโต ส่วนคนที่หลับอยู่เป็นคนน้อง” เหยียนหมิงซุ่นเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม ถึงแม้จะเพิ่งคลอดได้แค่วันเดียวแต่เขาจับจุดต่างของสองพี่น้องนี้ได้
คนโตชอบร้องงอแงแต่ร่าเริงมากแม้แต่ตอนนอนยังไม่สงบเลย แต่คนเล็กกลับชอบนอน นอกจากตื่นมาดูดนมแม้แต่ถ่ายหนักถ่ายเบาก็ยังหลับตา นิสัยขี้เกียจแบบนี้ไม่รู้ว่าได้มาจากใคร
……………………………………………
ตอนที่ 2856 เน่าเน่ากับเสี่ยวจู
ถึงแม้สองพี่น้องไม่ใช่เด็กทานจุแต่ก็ทานมากกว่าเด็กทั่วไปอยู่มากโข น้ำนมของเหมยเหมยเพียงพอให้ได้แค่คนเดียวซึ่งก็คือน้องชายคนเล็กที่ทานน้อยกว่าหน่อย ส่วนคนพี่ทานเก่งกว่าเล็กน้อย น่าจะสาเหตุเพราะใช้แรงมากนั่นเอง
คนพี่แม้แต่ตอนนอนยังไม่นอนอย่างสงบเสงี่ยมเลย เดี๋ยวต่อยซ้ายทีเตะขวาทีร้องอ้อแอ้ ไม่รู้ว่าเขาทะเลาะอยู่ในฝันหรืออย่างไร ในเมื่อใช้แรงเยอะก็ต้องทานเยอะเป็นธรรมดา แค่ลืมตาก็งอแงร้องกินแล้ว
หากเหมยเหมยให้นมพี่น้องทั้งสอง ปกติจะแค่อยู่ท้องเท่านั้นซึ่งที่เหลือก็ต้องดื่มนมผงเพิ่ม โชคดีที่สองพี่น้องไม่เลือกทาน ไม่ว่าอะไรก็ทานได้อย่างเอร็ดอร่อยทุกอย่าง ผ่านไปไม่กี่วันก็ตัวอวบอ้วนขึ้นเหมือนเด็กน้อยในการ์ตูนหนูน้อยจี๋เสียงซึ่งน่าปลื้มใจเหลือเกิน
ลูก ๆโตเร็วมากจริง ๆซึ่งในแต่ละวันไม่เหมือนกันเลย ไม่นานก็อายุครบหนึ่งเดือน ชื่อเต็มของพวกเด็ก ๆคุณปู่เหยียนเป็นคนตั้งให้ คนพี่ชื่อเฮ่อเหลียนเฟิง ส่วนคนน้องชื่อเหยียนหลิงเทียน นี่เป็นคำมั่นสัญญาที่เหยียนหมิงซุ่นเคยให้เฮ่อเหลียนชิงไว้ว่าถ้าได้ลูกผู้ชายจะให้ใช้แซ่เฮ่อเหลียนเพื่อสืบทอดตระกูลเฮ่อเหลียนต่อไป
แต่ชื่อเล่นเหมยเหมยเป็นคนตั้ง คนโตชื่อเน่าเน่าเพราะงอแงจนทำเอาทรมานจริง ๆเลยเรียกว่าเน่าเน่า คนเล็กให้ชื่อว่าเสี่ยวจู เดิมทีเหมยเหมยอยากตั้งชื่อว่าจิ้งจิ้ง เพราะชื่อสอดรับตรงข้ามกับเน่าเน่าพอดี
แต่พวกผู้ใหญ่ไม่เห็นด้วยเพราะชื่อจิ้งจิ้งเหมือนชื่อเด็กผู้หญิงจึงคัดค้านกันอย่างหนักแน่น เหมยเหมยเองก็คร้านจะคิดอีกเลยเรียกว่าเสี่ยวจูไปเลยโต้ง ๆ วัน ๆกินแล้วก็นอน นอนแล้วก็กิน แบบนี้ก็เหมือนหมูตัวหนึ่งเลยไม่ใช่หรือไง
อีกอย่างชื่อทั่วไปก็เรียบง่ายดี ชื่อเสี่ยวจูดีแล้ว แถมยังติดปากเรียกง่ายด้วย
ด้วยสถานะพิเศษของเหยียนหมิงซุ่น ฉะนั้นไม่ว่าจะวันครบรอบหนึ่งเดือนหรือหนึ่งขวบของสองพี่น้องจึงไม่ได้จัดงานอะไรทั้งนั้น แค่สังสรรค์กันเองในครอบครัว
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพิ่งครบหนึ่งเดือนไปไม่นานก็อายุครบหนึ่งขวบแล้ว
ตอนอายุได้สิบเดือนพี่ชายเน่าเน่าก็วิ่งเร็วราวกับบินได้ พอหนึ่งขวบก็ซนปีนป่ายนู้นนี่เลยต้องมีคนคอยจับตามองทุกนาที ไม่งั้นเจ้าหนูวิ่งหนีหายไปไม่เห็นเงา แล้วผีที่ไหนจะรู้ว่าเขาหายไปไหน
ทั้งบ้านมีเพียงเหยียนหมิงซุ่นและเล่อเล่อปรามเจ้าหนูอยู่ ลุงเหลาและป้าฟางจนปัญญาแล้วจริง ๆ ส่วนเหมยเหมย…ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย
วันนี้อากาศแจ่มใสเข้าสู่ช่วงต้นฤดูร้อนแล้ว อากาศไม่หนาวไม่ร้อน ลมโชยอ่อน ๆจนชวนให้น่าหลับจริง ๆ
พอเหมยเหมยทานมื้อเที่ยงเสร็จก็พาหนูน้อยทั้งสองไปนอนกลางวัน เสี่ยวจูไม่ต้องพานอนเลยแค่วางบนเตียงก็นอนกรนหลับตาพริ้มสบาย เจ้าหนูน้อยเหมือนตอนเด็กไม่มีผิด นอกจากกินก็นอน วันหนึ่งหลับได้นานสิบกว่าชั่วโมงเชียวแหละ
แต่นี่อายุครบหนึ่งขวบแล้ว เสี่ยวจูก็ยังเดินไม่ได้ ขนาดยืนยังทรงตัวไม่ค่อยอยู่เลย พอเท้าแตะพื้นหน่อยก็ร้องอ้อแอ้แล้วก็นอนลงบนพื้น จากนั้นก็เบิกดวงตากลมโตสุกใสส่งให้จนดุด่าไม่ลงจริง ๆ
เหยียนหมิงซุ่นตรวจกระดูกให้เสี่ยวจูแต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะฉะนั้นเหตุที่ยังยืนทรงตัวไม่ได้ เหมยเหมยคิดว่าคงเป็นเพราะ——ขี้เกียจ
ฟังดูแล้วอาจจะเหมือนโกหกแต่เหมยเหมยรู้สึกว่าเป็นเช่นนั้นจริง ๆ เพราะเจ้าหนูน้อยคนนี้ขี้เกียจจนน่าประหลาด
ในเมื่อไม่มีปัญหาอะไรเหมยเหมยก็คร้านจะสนใจแล้ว อยากเดินก็เดินไม่อยากเดินก็ช่าง เก่งนักก็นอนไปแบบนี้ตลอดชีวิตเถอะ!
ส่วนเน่าเน่าพานอนอยู่นานซึ่งกว่าจะหลับได้ไม่ง่ายเลย เหมยเหมยเองก็ง่วงเต็มที เธอหาวหวอดใหญ่แล้วก็เข้าสู่ห้วงนิทราจึงไม่ทันสังเกตเห็นว่าเน่าเน่าที่กำลังปิดตาลืมตาขึ้น เขาหยัดกายลุกนั่งพร้อมเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง นัยน์แววตาแฝงความใคร่รู้และตื่นเต้น
พอเหมยเหมยตื่นขึ้นมาก็มีชีวิตชีวาขึ้นมาก แต่ไม่นานเธอก็สังเกตเห็นว่าเน่าเน่าที่นอนอยู่กับเธอหายตัวไปแล้ว บนเตียงมีเพียงเสี่ยวจูที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่ น้ำลายสีใสไหลย้อยออกมาจากมุมปากจนหมอนเปียกชุ่มไปหมด
เหมยเหมยนึกว่าเจ้าหนูน้อยตกเตียงแล้วแต่ค้นหาทั่วห้องก็ไม่เจอเน่าเน่า
“อย่าเพิ่งร้อนใจไป บางทีอาจจะวิ่งขึ้นไปเล่นข้างบนก็ได้” คุณย่าหยางปลอบเหมยเหมยทั้งที่ตัวเองก็ร้อนใจไม่แพ้กัน
แต่ว่าทั้งด้านหน้าด้านหลัง ทั้งด้านบนด้านล่าง แม้แต่ที่นอนสุนัขก็หาแล้วแต่ก็ไม่เจอแม้แต่เงาของเน่าเน่า
“หรือจะถูกคนไม่ได้ลักพาตัวไปแล้ว?” เหมยเหมยยิ่งคิดก็ยิ่งกระวนกระวายใจ
…………………………