เฉินจื๋อข่ายพยักหน้า “เย็นนี้หากไม่มีอะไร ก็ให้เขาไปเปิดหูเปิดตาสักหน่อยเถอะ”
ตอนเที่ยง เย่เฉินไม่ได้ไปไหนทั้งสิ้น
เขาไม่คุ้นเคยกับโตเกียว อีกทั้งยังไม่ชอบเมืองสมัยใหม่ที่เจริญรุ่งเรืองเป็นพิเศษนี้มากนัก
ตรงกันข้าม เขาชอบเย่นจิงมากกว่า เมืองนั้นไม่เพียงแต่มีอาคารสูงระฟ้าที่ทันสมัยและเจริญรุ่งเรืองเท่านั้น แต่ยังมีสถานที่น่าสนใจที่มีประวัติศาสตร์อย่างยาวนานหลายร้อยหรือหลายพันปี บรรยากาศทางวัฒนธรรมเข้มข้นอย่างยิ่ง ในแง่ของพื้นเพแล้วเมื่อเทียบกับโตเกียวก็แข็งแกร่งกว่ามาก
อย่างไรก็ตาม โล่เฉินเองก็ไม่ต้องการกีดกันสิทธิ์ในการไปเดินเที่ยวเล่นของผู้อื่นเพียงแค่เพราะเขาไม่สนใจ ดังนั้นเขาจึงส่ง เฉินจื๋อข่าย หงห้าและคนอื่นๆออกไป
กลุ่มคนไปที่กินซ่าและชินจูกุอันจอแจในช่วงบ่าย ตอนพวกเขากลับมาทุกคนล้วนมีสีหน้าเต็มอิ่ม ถือถุงใบใหญ่เล็กจำนวนมาก
ในตอนเย็น เฉินจื๋อข่ายจัดการให้ทุกคนไปทานอาหารเย็นในร้านอาหารจีนที่เปิดโดยลูกน้องของเขาคนหนึ่ง
หลังทานอาการเสร็จ เย่เฉินเห็นว่าไม่มีอะไรสำคัญ ดังนั้นเขาจึงพูดกับเฉินจื๋อข่ายและหงห้าว่า “อีกเดี๋ยวพวกนายแยกย้ายตามสบายเถอะ ไม่ต้องมาล้อมหน้าล้อมหลังฉันแล้ว”
หงห้ารีบถาม “อาจารย์เย่ อีกเดี๋ยวคุณมีแผนอะไรหรือไม่?”
เย่เฉินคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยขึ้น “ฉันจะออกไปเดินเล่นเอง”
หงห้ายิ้มและถามว่า “อาจารย์เย่ ไปที่ถนนดาวฟ้ากันไหม? ว่ากันว่าสาวงามในถนนดาวฟ้าของญี่ปุ่นนั้นหน้าตาดีมาก!”
เย่เฉินโบกมือ “ไม่ล่ะ ฉันอยากไปเดินเล่นที่มหาวิทยาลัยโตเกียวสักหน่อย ไปเถอะ นายไปเที่ยวที่ถนนดาวฟ้าเองแล้วกัน”
“ไปมหาวิทยาลัยโตเกียว?” หงห้าถามด้วยความประหลาดใจ “อาจารย์เย่ คุณไปทำอะไรที่นั่น มันไม่ใช่มหาวิทยาลัยเก่าของคุณสักหน่อย…”
เย่เฉินพูดอย่างใจเย็น “ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากไปเดินเล่นๆ พวกนายไม่ต้องตามฉันมา”
เฉินจื๋อข่ายรีบพูด “อาจารย์เย่ ให้ผมจัดการให้รถไปส่งคุณไหม?”
“ไม่ต้อง” เย่เฉินโบกมือและเอ่ย “อยู่ที่บ้านของโคบายา ชิอิจิโร่มาทั้งวันแล้วแค่อยากไปเดินเล่นหน่อย”
เมื่อทุกคนเห็นดังนั้น จึงไม่คะยั้นคะยออีกต่อไป
เย่เฉินออกมาจากร้านอาหาร จากนั้นจึงไปที่สถานีรถไฟใต้ดินที่อยู่ถัดจากร้านอาหารคนเดียว หลังจากดูแผนที่เส้นทางแล้ว เขาก็ขึ้นรถไฟใต้ดินไปยังมหาวิทยาลัยโตเกียว
เขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ ถึงอยากไปที่มหาวิทยาลัยโตเกียว เมื่อเขาลองคิดดู นี่อาจมีสาเหตุมาจากอิโตะ นานาโกะ
แม้ว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นจะไม่ค่อยได้ติดต่อกับเขานัก แต่ความดื้อรั้นนั้นทำให้คนรู้สึกปวดใจ
เย่เฉินรู้ว่าเธอไม่ได้อยู่ในโตเกียว แต่รู้ว่าเธอเป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยโตเกียว ดังนั้นจึงอยากไปที่ที่เธอเรียนเดินเล่นดูๆสักหน่อย
ในเวลาเดียวกัน เครื่องบินเจ็ตธุรกิจสุดหรูที่ดัดแปลงจากโบอิ้ง 737 ได้ออกจากสนามบินเย่นจิง
ซูจือเฟยและซูจือหยูสองพี่น้อง รวมทั้งคนรับใช้ของตระกูลซูมากกว่าสิบคนเดินทางไปโตเกียวด้วยกัน
ครอบครัวทากาฮาชิที่ได้รับข่าวล่วงหน้า รู้สึกตื่นเต้นอย่างมากกับการตัดสินใจที่จะพบหน้าพวกเขาของตระกูลซู สมาชิกหลักของตระกูลล้วนมาอยู่ที่สนามบินนาริตะในโตเกียวล่วงหน้าเพื่อรอต้อนรับ
ในขณะเดียวกัน พวกเขาเองก็ทำตามคำขอของซูจือหยู จองห้องที่ดีที่สุดในโรงแรมที่ดีที่สุดในโตเกียวอย่าง Amanda
นางาฮิโกะ อิโตะเองก็ได้รับข่าวเช่นกัน หลังจากรู้ว่าตัวแทนของตระกูลซูต้องการพบกับตระกูลทากาฮาชิก่อน เขาก็โกรธจัด
บวกกับเรื่องที่เมื่อวานนี้ที่ถูกเย่เฉินเบี้ยวหนี้ไป 4.5 พันล้านดอลลาร์ ในใจของเขาก็อัดอั้นมาโดยตลอด สองเรื่องรวมเข้าด้วยกัน ยิ่งทำให้เขาโกรธมากขึ้น
หลังจากโยนเครื่องลายครามล้ำค่าทิ้งไปมากกว่าสิบชิ้นติดต่อกัน เขาก็แอบสาบานว่า หากครั้งนี้ตนไม่มีโอกาสได้ร่วมมือกับกตระกูลซู เขาจะต้องให้เย่เฉินจ่ายค่าชดใช้เป็นสองเท่า!