บทที่ 2883 ความตั้งใจอันชั่วร้าย + ตอนที่ 2884 โลกคู่ขนาน

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 2883 ความตั้งใจอันชั่วร้าย

เหมยเหมยร้องห้าม “กินไม่ได้นะจะติดคอเอา”

เสี่ยวจูเพิ่งมีฟันน้ำนมเพียงแปดซี่ ขนมชนิดนี้มีความเหนียวมาก ถ้าติดฟันยังไม่เท่าไรแต่ถ้าติดคอหรือหลอดลมขึ้นมาก็มีโอกาสทำให้หายใจไม่ออกซึ่งอันตรายมาก

“อร่อย…ไม่เป็น…” เสี่ยวจูไม่ยอมยื่นขนมให้เหมยเหมย เขากัดไปคำหนึ่งเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย

“วางใจเถอะ…ต่อให้เธอสำลักตายเขาก็ไม่เป็นอะไรหรอก คิดว่าเขาโง่เหมือนเธอหรือไง!” ลี่เมิ่งเฉินเหล่มองเหมยเหมยอย่างดูแคลน เขาไม่เคยมองคนที่มีไอคิวต่ำกว่า 150 ดี ๆเลยสักครั้ง

ทว่าผู้หญิงโง่เง่าคนนี้กลับให้กำเนิดลูกที่มีไอคิวสูงถึงสามคน ฟ้าหามีตาไม่!

เหมยเหมยกลอกตามองบนใส่ด้วยความโกรธ  ตั้งแต่รู้จักลี่เมิ่งเฉินมาเจ้าหมอนี่ไม่เคยเป็นมิตรกับเธอเลยสักครั้ง เขามักแสดงสีหน้าประมาณว่า ‘มนุษย์โง่เขลา’ ใส่จนทำเอาเธออึดอัดใจจะตายอยู่แล้ว

ถ้าไม่ใช่เพราะมีเรื่องขอให้หมอนี่ช่วยเธอจะเคลือบถั่วเหลืองใส่เข้าไปเอาให้เขาท้องเสียตายไปเลย

เสี่ยวจูทานก้อนขนมข้าวเหนียวไปสองชิ้นแล้วค่อยทานบะหมี่ในชามต่อ เขาทั้งเรอทั้งหาวสลับกันไปมา ดวงตาเริ่มสะลึมสะลือแต่ไม่ได้ร้องงอแงขอกลับห้องไปนอนเหมือนเมื่อก่อนทว่ากลับมองลี่เมิ่งเฉินแทนด้วยสายตาเหมือนครุ่นคิดบางอย่างอยู่

ลี่เมิ่งเฉินทานจนหมดจานแล้วทานอย่างอื่นต่ออีกสักพัก หลังจากนั้นก็ยิ้มให้เสี่ยวจูเอ่ยว่า “ไปนอนเถอะ!”

เสี่ยวจูพยักหน้าอย่างเชื่อฟังอ้าแขนให้เหมยเหมย แม้เขาจะเดินได้แล้วแต่เขาก็ยังขี้เกียจเดินอยู่ดี มีคนอุ้มดีกว่าตั้งเยอะ

เหมยเหมยอ้าแขนเตรียมอุ้มแต่ลี่เมิ่งเฉินกลับพูดเสียงเข้มว่า “ปล่อยให้เขาเดินเองบ้าง ถ้าไม่เดินนาน ๆเข้า กล้ามเนื้อจะลีบหมด”

“ให้เขาเดินวันละครึ่งชั่วโมงอยู่แล้ว” เหยียนหมิงซุ่นอธิบาย

ลี่เมิ่งเฉินส่ายศีรษะ “ไม่พอ อย่างน้อยต้องหนึ่งชั่วโมง อย่าทำให้เขาเสียนิสัย”

เสี่ยวจูเบะปาก  ‘คนประเภทเดียวกัน’ ไม่น่าเล่นด้วยเลยสักนิด เขาพูดอย่างไม่พอใจว่า “ไม่หรอก…กำลังดี”

เขาคำนวณปริมาณการออกกำลังกายทุกวันซึ่งทำให้กล้ามเนื้อได้รับการออกกำลังอย่างเพียงพอ ดังนั้นกล้ามเนื้อจะลีบได้อย่างไร?

ลี่เมิ่งเฉินยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เขารู้ว่ามันกำลังพอดี แถมเจ้าตัวน้อยนี่ยังรู้ดียิ่งกว่าใครแต่เขาก็ไม่อยากเห็นเจ้าตัวน้อย ‘คนประเภทเดียวกัน’ นี่อยู่อย่างสบายเกินไป เขามีสิทธิ์อะไรกัน!

ตอนเขายังเด็กไม่ได้อยู่สุขสบายขนาดนี้ ดังนั้น…เขาจะไม่ยอมเห็นเจ้าตัวน้อยนี่อยู่อย่างสุขสบายเช่นกัน

ไม่ชอบเดินใช่ไหม งั้นให้เดินวันละชั่วโมงนี่แหละ เอาให้เจ้านี่เหนื่อยตายไปเลย หึหึ!

เพียงแวบเดียวเสี่ยวจูก็มองออกถึงความตั้งใจอันชั่วร้ายของลี่เมิ่งเฉิน แต่ที่แย่กว่านั้นก็คือทั้งพ่อและแม่กลับเชื่ออย่างสนิทใจ…

เหมยเหมยตกใจจนรีบวางเสี่ยวจูลง “เด็กดี…เดินเองนะลูก!”

“แม่…” เสี่ยวจูออดอ้อน น้ำเสียงออดอ้อนพร้อมกะพริบตาปริบ ๆมองเธออย่างน่าสงสาร เหมยเหมยเบี่ยงหน้าหนีไม่มองลูกชายตัวน้อยเพราะกลัวตัวเองห้ามใจไม่ได้ เพื่อให้ขาของลูกน้อยแข็งแรงเธอจำเป็นต้องใจแข็ง

“เสี่ยวจูเดินเองนะ วันหลังต้องเดินเองแล้วนะ แม่จะไม่อุ้มเราแล้ว อ้อนไปก็ไม่มีประโยชน์…แม่ไม่ตกหลุมพรางเราหรอก” เหมยเหมยตีหน้าขรึม

ลี่เมิ่งเฉินกินขนมอย่างมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น ทั้งแอบขยิบตาให้เสี่ยวจูจนเม้มริมฝีปากแน่นด้วยความโมโหพร้อมจดจำแค้นนี้ไว้เรียบร้อย

คอยดูเถอะ!

ถ้าแค้นนี้ไม่ได้ชำระก็คงรู้สึกผิดกับเวลาที่ต้องออกกำลังกายเพิ่ม!

เสี่ยวจูจึงทำได้แค่ค่อย ๆเดินขึ้นข้างบนอย่างเชื่องช้า ไม่ง่ายเลยกว่าจะมาถึงเตียง ก่อนผล็อยหลับไปเขาคิดวิธีที่จะจัดการลี่เมิ่งเฉินไว้แล้วพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก

“ว่ามา!” ลี่เมิ่งเฉินถามขึ้น

“ไปห้องหนังสือแล้วค่อยคุย”

เหยียนหมิงซุ่นพาเขาไปที่ห้องหนังสือ เหมยเหมยและลูก ๆก็ตามไปเช่นกัน เหยียนหมิงซุ่นเล่าเรื่องที่เสี่ยวจูมักนอนมากเกินไปให้ฟังแล้วถามว่า “เสี่ยวจูมองเห็นอะไรเหรอ?”

เหมยเหมยถามออกมาตรง ๆว่า “ใช่ผีหรือเปล่า?”

เธอหดตัวหลบอยู่หลังเหยียนหมิงซุ่นตามสัญชาตญาณ ทั้งมักจะรู้สึกว่าในห้องหนาวเหน็บเหลือเกิน

……………………………………….

ตอนที่ 2884 โลกคู่ขนาน

ลี่เมิ่งเฉินหัวเราะลั่นพร้อมมองเหยียนหมิงซุ่นอย่างขบขัน “นายก็คิดว่าเป็นผีเหมือนกันเหรอ?”

เหยียนหมิงซุ่นไม่ค่อยเข้าใจความหมายของเขา บอกตามตรงครั้งนี้ความคิดของเขาตรงกับเหมยเหมย ถ้าไม่ใช่ผีแล้วจะเป็นอะไรได้?

แต่เขาว่ากันว่าผีมักปรากฏตัวตอนกลางคืน แต่ตอนนี้ทั้งเน่าเน่าและเสี่ยวจูเห็นแม้กระทั่งตอนกลางวันซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดไปหน่อย

“ถ้าไม่ใช่ผีแล้วจะเป็นอะไรได้ล่ะ? หรือว่าบนโลกใบนี้ยังมีสิ่งมีชีวิตที่คล้ายมนุษย์อยู่อีกเหรอ? แถมล่องหนได้ด้วย?” เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้ตอบแต่ถามกลับ

เหมยเหมยพยักหน้าหงึก ๆ ใช่สิ นอกจากผีแล้ว…เธอคิดถึงความเป็นไปได้อื่นไม่ออกเลย

คงไม่ใช่มนุษย์ต่างดาวหรอกนะ!

ลี่เมิ่งเฉินหุบยิ้มแล้วจู่ ๆก็ถามขึ้นว่า “พวกเธอรู้จักโลกคู่ขนานไหม?”

เหมยเหมยชิงตอบก่อน “ฉันรู้…สิ่งที่แตะต้องไม่ได้และภาพลวงตาประหลาดในตำนาน ที่แท้ก็คือโลกคู่ขนานใช่ไหม?”

เธอเคยอ่านนิยายเกี่ยวกับโลกคู่ขนานเมื่อชาติก่อนพลันรู้สึกอิจฉาโลกคู่ขนานเหลือเกิน เธอขอพรพระเจ้าทุกวันว่าช่วยให้พื้นที่ว่างน้อย ๆกับเธอสักแห่ง ถึงกระทั่งเธองมงายหยดเลือดลงบนเครื่องประดับหยกของเธอ แต่แน่นอนว่าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น

ขอแค่ตั้งใจจะต้องสำเร็จสักวันแน่ ๆ ดูสิชาตินี้เธอถึงได้มีฉิวฉิวและโลกคู่ขนานของตัวเอง!

ดังนั้น…เธอจึงเชื่อในคำเล่าลือที่มีมาแต่โบราณ สิ่งเหล่านั้นจะต้องเป็นเรื่องจริงแน่นอน เรื่องจะมาจากไหนได้ถ้าไม่มีมูล!

ลี่เมิ่งเฉินมองเหมยเหมยด้วยความประหลาดใจ ไม่นึกว่าเธอจะรู้เรื่องพวกนี้ด้วย เมื่อก่อนคงดูแคลนเธอมากไปหน่อย

“ก็ประมาณนั้น โลกคู่ขนานมีอยู่จริง จริง ๆแล้วพวกเราทุกคนต่างเคยพบเจอกันแล้วทั้งนั้น แต่ส่วนมากแค่แวบเดียวคนส่วนมากเลยจำไม่ได้” ลี่เมิ่งเฉินอธิบาย

“ในความฝันเหรอ?” เหยียนหมิงซุ่นครุ่นคิดหนัก

“ใช่ ในความฝัน พวกนายสามารถรับรู้ถึงมันได้ บางครั้งยามเจอคนแปลกหน้าหรือสถานที่แปลกตา คำพูดบางคำหรือเรื่องราวบางอย่างที่เกิดขึ้นกะทันหัน…ทั้ง ๆที่เราเพิ่งเผชิญกับสิ่งนั้นแต่กลับรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูกราวกับว่าเคยพบเจอที่ไหนมาก่อน…” ลี่เมิ่งเฉินค่อย ๆอธิบาย

“ใช่ ใช่ ใช่เลย…เป็นแบบนี้แหละ ฉันมักจะมีความรู้สึกนี้บ่อย ๆ” เหมยเหมยพยักหน้าเห็นด้วยอย่างมาก

คำพูดของเมิ่งลี่เฉินตรงกับที่เธอคิดเป๊ะ เหตุการณ์แบบนี้มักจะเกิดขึ้นกับเธออยู่เสมอ ครั้นเห็นคนแปลกหน้าหรือสถานที่แปลก ๆแต่กลับรู้สึกคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด

ที่แท้สิ่งนี้ก็คือโลกคู่ขนานหรอกหรือ!

เหยียนหมิงซุ่นถามขึ้นว่า “นายจะบอกว่าสิ่งของหรือคนที่เสี่ยวจูเห็นในความฝัน แท้ที่จริงแล้วก็คือโลกคู่ขนานอย่างนั้นเหรอ?”

“ใช่ เขากำลังเรียนรู้ เจ้าตัวน้อยนี่ไอคิวสูงมากใช่ไหม?” ลี่เมิ่งเฉินมั่นใจมาก

เหมยเหมยตอบว่า “เดือนที่แล้วเพิ่งวัดไป 200”

“ไม่แค่นั้นหรอก…200 เป็นแค่ตัวเลขไอคิวที่เขาอยากให้คนอื่นรู้ แต่ตัวเลขจริง ๆมีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ ในความเป็นจริงแล้วคนที่พัฒนาแบบทดสอบไอคิวก็คือคนโง่เขลา ของแบบนี้มีสิทธิ์อะไรมาวัดสมองของยอดอัจฉริยะ!

ลี่เมิ่งเฉินแสดงสีหน้าเยาะเย้ย เขาไม่เคยไปทดสอบวัดระดับไอคิวนั่นเลย เมื่อก่อนเขาเคยว่างจนรู้สึกเบื่อมากเลยเอาแบบทดสอบวัดระดับไอคิวมาทำเล่น แต่ดูไปสักพักก็ไม่รู้สึกน่าสนใจเลยสักนิด

สิ่งเหล่านี้เป็นแค่ขยะ คนโง่เท่านั้นถึงจะไปทดสอบมัน!

เหยียนหมิงซุ่นและเหมยเหมยต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอก ไม่ใช่ผีก็ดีแล้ว ลี่เมิงเฉินเห็นท่าทีของเหมยเหมยที่โล่งอกจึงจงใจพูดว่า “จริง ๆแล้วปรโลกที่เรามักจะพูดถึงก็ถือว่าเป็นโลกคู่ขนาน…วิญญาณมีอยู่จริง อย่างในห้องหนังสือแห่งนี้มีผีวนเวียนอยู่นับไม่ถ้วน…”

เหมยเหมยที่เพิ่งโล่งใจก็กระโดดลุกพรวดขึ้นมาอีกครั้ง สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด เธอกอดแขนเหยียนหมิงซุ่นไว้แน่นมองซ้ายทีขวาทีด้วยความตื่นตระหนกเพราะกลัวว่าจะมีผีน่ากลัวสักตัวกระโดดโผล่ออกมา

“ไม่ต้องกลัวนะ ต่อให้มีผีจริง ๆพวกมันก็ถูกกักขังไว้อยู่ในโลกคู่ขนานเท่านั้นออกมาไม่ได้หรอก” เหยียนหมิงซุ่นพูดปลอบใจ

………………………