ตอนที่ 2887 เยือนโลกโลกีย์ยามหลับฝัน
ในที่สุดเหยียนหมิงซุ่นก็เข้าใจ มิน่าลี่เมิ่งเฉินถึงใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะมาหาเขาได้ คิดดูแล้วก็น่าจะเป็นเพราะดูแลภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์อยู่สินะ?
ลี่เมิ่งเฉิน…เยือนโลกโลกีย์ยามหลับฝัน!
เจ้าหมอนี่หลอกทุกคน!
“ภรรยาคนปัจจุบันเป็นลูกสาวตระกูลไหน?” เหยียนหมิงซุ่นอดไม่ได้ที่จะอยากรู้ว่าคนที่เอาลี่เมิ่งเฉินได้อยู่หมัด เป็นผู้หญิงแบบไหนกัน
แววตาของลี่เมิ่งเฉินแฝงความอ่อนโยน เอ่ยยิ้ม ๆว่า “ไม่ได้มาจากตระกูลใหญ่โตอะไร นายไม่รู้จักหรอก”
เมื่อเหยียนหมิงซุ่นได้ยินก็เข้าใจในทันที ผู้หญิงที่มาจากครอบครัวธรรมดาจะต้องเป็นผู้หญิงที่ไม่ธรรมดาแน่นอน ไม่เช่นนั้นจะมัดใจลี่เมิ่งเฉินได้อย่างไร?
“ผู้ใหญ่ครอบครัวนายเห็นด้วยเหรอ?”
ลี่เมิ่งเฉินแค่นเสียงกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า “ตอนนี้คุณปู่ก็ต้องพึ่งยาของฉันเพื่อมีชีวิตอยู่ต่อเลยไม่กล้าที่จะคัดค้าน”
ตอนนี้ในตระกูลขึ้นอยู่กับเขาเพียงผู้เดียว ถ้าไม่ใช่เพราะยังไม่อยากรับช่วงต่อผู้นำตระกูลเร็วเกินไป เขาคงหยุดให้ยาชายชรานานแล้ว แต่เป็นแบบในตอนนี้ก็ดี เขาคอยบงการอยู่เบื้องหลัง เรื่องที่ไปทำผิดต่อคนอื่นก็ให้ชายชราออกหน้ารับแทน ส่วนเขาก็แอบมีความสุขอยู่เบื้องหลัง
ใครใช้ให้ครอบครัวนี้เคยทำร้ายเขากันล่ะ!
“นายศึกษาตัวยาวิเศษได้แล้วเหรอ?” เหยียนหมิงซุ่นไม่ค่อยอยากจะเชื่อนักเพราะยาวิเศษพวกนั้นเป็นยาอายุวัฒนะอย่างแท้จริง ตัวยาเจือจางอยู่หลายสิบเท่าและส่วนประกอบในตัวยาหลายตัวก็ยากที่จะวิเคราะห์ได้ เขาพยายามอยู่หลายรอบก็ไม่สำเร็จ ลี่เมิ่งเฉินมีความสามารถขนาดนั้นเลยเหรอ?
ลี่เมิ่งเฉินเอ่ยอย่างได้ใจ “แน่นอน ไม่มีอะไรบนโลกใบนี้ที่ฉันทำไม่ได้”
ในความเป็นจริงแล้วเขารู้สึกผิดในใจเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะสามารถวิเคราะห์ส่วนประกอบของยาวิเศษออกมาได้ แต่กลับหาของที่แทนกันไม่ได้เลย เขาสงสัยแม้กระทั่งว่ายาของเหยียนหมิงซุ่นจะไม่ใช่ของที่หาได้ในโลกใบนี้
เพราะเขาวิเคราะห์สิ่งมีชีวิตที่สามารถหาได้บนโลกใบนี้แล้วแต่ไม่มีสิ่งไหนที่เหมือนเลย 100% เจอเพียงแต่วัตถุดิบยาบางตัวที่คล้ายคลึงกันเท่านั้น
ดังนั้น…ลี่เมิ่งเฉินเลยลองเอาวัตถุดิบที่ใกล้เคียงกันมาใช้จนได้เป็นยาที่เขาให้ชายชราทานจนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าประสิทธิภาพของยาจะสู้ยาวิเศษของเหยียนหมิงซุ่นไม่ได้แต่ก็ดีกว่ายาที่พวกหมอเถื่อนใช้อยู่มากโข อย่างน้อยก็ยื้อชีวิตชายชราไว้ได้ ปางตายอย่างไรเสียก็ดีกว่าตายไปแล้ว
เพื่อตอบแทนลี่เมิ่งเฉิน เหยียนหมิงซุ่นจึงให้ยาเขาไปขวดหนึ่ง ไม่เช่นนั้นเจ้านี่คงไม่ยอมปล่อยเขาไปง่าย ๆแน่
เหมยเหมยจงใจพูดว่า “นายศึกษาตัวยาได้แล้วไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมยังต้องมาเอายาจากเราอีกล่ะ?”
ลี่เมิ่งเฉินมองเธอด้วยสายตาแฝงนัยยะบางอย่างแล้วเหลือบมองฉิวฉิวที่นอนแผ่อยู่บนพัดลมแขวนเอ่ยว่า “ฉันไม่ถือหรอกนะถ้าจะมีของดีไว้กับตัวเยอะ และยิ่งเป็นสมบัตินอกโลกแบบนี้แล้วด้วย ยิ่งมีไว้เยอะก็ยิ่งดี”
เหมยเหมยใจเต้นระรัว เธอไม่กล้ามองตาลึกล้ำคู่นั้นของลี่เมิ่งเฉินอีกจึงรีบเบือนหน้าหนีและไม่พูดอะไรต่อ
เจ้าหมอนี่มองความสามารถพิเศษของฉิวฉิวออกหรือเปล่านะ
ไม่อย่างนั้นทำไมถึงพูดว่ายาวิเศษเป็นสมบัติ ‘นอกโลก’ ล่ะ?
สีหน้าของเหยียนหมิงซุ่นกลับเรียบนิ่ง เขายิ้มพลางเอ่ยขึ้นว่า “ของก็ได้ไปแล้ว เมื่อไรนายจะกลับล่ะ?”
ลี่เมิ่งเฉินนั่งตัวตรงอย่างสง่าผ่าเผย “ใช่จะมาได้บ่อย ๆ ฉันอยากอยู่ต่ออีกสักสองสามวัน ให้ภรรยาของนายช่วยจัดห้องนอนรับแขกให้หน่อย ห้องจะต้องหันไปด้านพระอาทิตย์เท่านั้น ฉันอยากตื่นขึ้นมาพร้อมแสงแรกของรุ่งอรุณ เตียงต้องมีขนาดสองเมตรเพราะเวลานอนฉันชอบกลิ้ง
อ้อ แล้วของใช้บนเตียงต้องเป็นสีขาวเหมือนกันหมด ห้ามมาปลุกฉันก่อนสิบโมงเช้า อาหารเช้าจัดไว้ตอนสิบโมงครึ่งพร้อมช่วยเตรียมขนมลาม้วนไส้ถั่วแดงให้จานหนึ่งด้วย แล้วก็ไข่ดาวสุกระดับมีเดียม แรร์สองฟองพร้อมนมร้อนที่ไม่มีกลิ่นคาวหนึ่งแก้ว”
เหมยเหมยฟังจนตาลายไปหมดจึงอดไม่ได้ที่จะขัดขึ้นว่า “ไม่มีทั้งนั้นแหละ ถ้าไม่นอนในห้องนอนรับแขกที่เตรียมไว้แล้วก็กลับไปบ้านตัวเองนอนซะ”
ผู้ชายแมน ๆคนหนึ่งเรื่องมากยิ่งกว่าองค์หญิงเสียอีก โรคจิต!
ลี่เมิ่งเฉินแค่นเสียงใส่อย่างเย็นชา “พอใช้งานหมดประโยชน์ก็ไล่กันใช่ไหม…วันหลังถ้าลูกของเธอมีปัญหาไม่ต้องมาหาฉันเลยนะ…”
“ฉันจะไปเตรียมให้นายตอนนี้แหละ ทำให้นายพอใจแน่นอน!” เหมยเหมยรีบฉีกยิ้มในทันทีและหมุนตัวไปเตรียมห้องนอนรับแขกให้
เพื่อลูกชาย…เธอยอมอดทน!
……………………………………….
ตอนที่ 2888 วางยา
เหมยเหมยและป้าฟางช่วยกันจัดห้องนอนรับแขก เนื่องจากในบ้านไม่มีของใช้บนเตียงที่เป็นสีขาวเลยจำเป็นต้องไปซื้อที่ห้าง
พวกเธอสองคนใช้เวลาไปครึ่งวันกว่าจะจัดห้องเรียบร้อยซึ่งทรมานพวกเธอไม่น้อยเลย เหมยเหมยปูผ้าปูที่นอนพลางสบถในใจก่นด่าลี่เมิ่งเฉินจนกระอักเลือดตายไปแล้ว
ใครใช้ให้เจ้าหมอนี่มีความสามารถกันล่ะ ในเมื่อขอความช่วยเหลือเขานี่นา ต่อให้รู้สึกคับข้องใจแค่ไหนก็ต้องอดทนต่อไป
เล่อเล่อพาเน่าเน่าลงมาเล่นข้างล่าง เธออ่านความคิดของเหมยเหมยออกอย่างทะลุปรุโปร่งพลันกลอกตาไปมาวางแผนจะบอกเสี่ยวจูว่าพรุ่งนี้วางยาให้ ‘คนเลว’ นั่นเพิ่มเป็นสองเท่าเลย
วันรุ่งขึ้นหลังจากคนในบ้านทานมื้อเช้าเสร็จ เหยียนหมิงซุ่นและเล่อเล่อก็แยกย้ายกันไปทำงานและไปเรียน เหมยเหมยคอยดูแล ‘แขก’ อยู่ที่บ้าน ส่วนป้าฟางคอยเตรียมอาหารเช้าอยู่ในครัว
เวลาเก้าโมงเน่าเน่าวิ่งขึ้นไปปลุกเสี่ยวจูด้านบน เจ้าหนูน้อยยังงัวเงียลืมตาไม่ขึ้นเลยมุดเข้าไปในผ้าห่ม เน่าเน่าเห็นแล้วโมโหเลยยื่นมือไปตบทีหนึ่ง
“ห้ามนอนต่อ คนเลวจะตื่นแล้ว”
เสี่ยวจูตื่นในทันใด เขาค่อย ๆปีนลงจากเตียงช้า ๆ เน่าเน่าจูงมือเขาไปอาบน้ำแล้วจับแต่งตัวให้เสร็จสรรพ แต่ทว่า…เสื้อผ้าบิดเบี้ยว ผมเผ้ายุ่งเหยิง และยังมีขี้ตาติดอยู่ตรงตา…
“ยาที่พี่สาวให้มา”
เน่าเน่าล้วงหยิบผงสลอดที่ใช้กระดาษห่อทับหนาหลายชั้นออกมา เสี่ยวจูรับมาใช้จมูกสูดกลิ่นแล้วเบือนหน้าหนีไปทางอื่นอย่างนึกรังเกียจ
เหม็นชะมัด!
เน่าเน่าเองก็ดมเช่นกันแต่กลับไม่รู้สึกเหม็น กลิ่นไม่น่าดมเท่าไรแต่ยังอยู่ในขอบเขตที่เขารับได้
“น้องชาย…คนเลวจะดมกลิ่นออกไหม?” เน่าเน่ารู้สึกเป็นกังวลเพราะจมูกสุนัขของคนเลวนั่นดีเป็นพิเศษ แบบนี้จะหลอกเขาได้เหรอ?
เสี่ยวจูยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วส่ายศีรษะยืนยัน
การรับรู้กลิ่นของคนเลวนั่นสู้เขาไม่ได้หรอก!
เหมยเหมยกำลังเตรียมตัวขึ้นไปชั้นบนเพื่อปลุกเสี่ยวจูลงมาทานข้าวแต่กลับเห็นสองพี่น้องเดินลงมาเอง เธอเลยดีใจจุ๊บแก้มพวกเขาไปคนละที
“น่ารักจริง ๆ!”
ไม่เหมือนผู้ใหญ่บางคนที่ทำตัวพิลึกแล้วยังขี้เกียจอีก จนถึงป่านนี้ยังไม่ลงมาเลย ไม่มีจิตสำนึกความเป็นแขกเลยสักนิด
เสี่ยวจูตามเหมยเหมยเข้าห้องคราวไป ป้าฟางกำลังต้มนมเดือดปุด ๆอยู่ ในห้องครัวอบอวลไปด้วยกลิ่นนม เสี่ยวจูกลอกตาไปมาแล้วชี้ไปที่นมพร้อมถามว่า “คุณอาดื่มนมไหม?”
“ใช่แล้ว…คุณอาก็ดื่มนมเหมือนเสี่ยวจูไง” เหมยเหมยตอบพร้อมรอยยิ้ม
จะว่าไปแล้วรสนิยมการกินของสองคนนี้ก็คล้ายคลึงกันไม่น้อย ไม่ชอบกินเนื้อสัตว์และชอบกินอาหารจืด ๆ แต่ว่าลี่เมิ่งเฉินไม่ค่อยชอบกินของหวานซึ่งจุดนี้ต่างจากเสี่ยวจู เพราะเสี่ยวจูติดขนมหวานเป็นที่สุด
เสี่ยวจูมีแผนในใจ เขาขยิบตาส่งซิกให้เน่าเน่า เน่าเน่าเข้าใจในทันทีพลันร้องว่าอยากฟังนิทานแล้วลากเหมยเหมยออกไปด้านนอก ในครัวจึงเหลือเพียงป้าฟางและเสี่ยวจูสองคนเท่านั้น
“นมใกล้ต้มเสร็จแล้ว เดี๋ยวเสี่ยวจูก็ดื่มได้แล้วนะ” ป้าฟางนึกว่าเสี่ยวจูรอดื่มนม เธอคนอีกไม่กี่ทีก็ตักใส่แก้วให้เสี่ยวจูก่อน พอมองดูเวลาใกล้สิบโมงแล้วจึงตักอีกแก้วให้ลี่เมิ่งเฉินด้วย
นมร้อน ๆสองแก้วเล็กใหญ่วางอยู่บนโต๊ะอาหาร ป้าฟางกลับมาที่ครัวอีกรอบเพื่อเตรียมทำขนมลาม้วนไส้ถั่วแดง
บนโต๊ะอาหารจึงเหลือเสี่ยวจูเพียงลำพัง อาหารเช้าของเขาคือไข่ตุ๋น เกี๊ยวไส้ผักและนมร้อนหนึ่งแก้ว
เสี่ยวจูไม่ได้รีบร้อนที่จะทานอาหาร เขาล้วงเอาผงสลอดจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาดม พอครุ่นคิดครู่หนึ่งก็วิ่งเข้าไปในห้องครัวอีกครั้งลองผสมเครื่องปรุงรสอย่างอื่นดู
ป้าฟางบ่นเขาอยู่หลายประโยคแต่เสี่ยวจูแค่ใช้ดวงตากลมโตมองเธอโดยไม่พูดอะไรทั้งนั้น ป้าฟางจึงใจอ่อนตามใจเขาแต่ก็คอยระมัดระวังไม่ให้ผงเข้าตา
……………………………