ตอนที่ 1955 เรื่องไม่คาดฝันที่สะท้านใจ

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนที่ 1955 เรื่องไม่คาดฝันที่สะท้านใจ
เงาร่างที่ปรากฏในที่นั้นก็คือหลินสวิน

เดิมทีเขาย้อนกลับมาหาลู่ตู๋ปู้ก็เพื่อขอช่องทางติดต่อเหลิ่งซิวเจีย แต่กลับเกิดเรื่องเช่นนี้อย่างไม่คาดคิด

“จินตู๋อี!”

ถูเชียนเจวี๋ยนัยน์ตาหดรัด ส่งเสียงร้องตกใจ.

เมื่อครู่นี้จู่เฟยอวี่ เยียนอวี่โหรวเพิ่งพาผู้แข็งแกร่งทั้งกลุ่มไปตามล่าจินตู๋อี ใครจะคิดว่าเขากลับปรากฏตัวที่นี่

“พี่จิน…”

ลู่ตู๋ปู้และเซี่ยอวี่ฮวาเองก็เผยสีหน้ายากจะเชื่อ เดิมทีพวกเขาคิดว่าครั้งนี้ยากจะหนีเคราะห์ ต้องถูกคัดออกแน่แล้ว

ในขณะเดียวกันก็คิดไม่ถึงว่าในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ หลินสวินที่เดิมทีได้แยกทางตัดขาดจากพวกเขาไปแล้ว กลับมาช่วยได้ทันเวลา!

ผิดคาดเกินไปแล้ว!

และยังทำให้ในใจพวกเขานอกจากตื่นเต้นแล้ว ยังเกิดความรู้สึกผิดถาโถมขึ้นมาด้วย

ก่อนหน้านี้ยามได้ยินว่าหลินสวินกลายเป็นเป้าโจมตีของทุกคน ถูกขุมอำนาจต่างๆ ตามล่า เพื่อเอาตัวรอด พวกเขาไม่ได้ไปช่วยหลินสวินพร้อมกับเหลิ่งซิวเจีย

แม้แต่ก่อนหน้านี้พวกเขาก็กลัวว่าจะเดือดร้อนเพราะหลินสวิน จึงจากมาอย่างเร่งรีบ

แต่ตอนนี้หลินสวินกลับไม่คิดเล็กคิดน้อยกับความบาดหมางครั้งเก่า ปรากฏตัวช่วยพวกเขาคลี่คลายความยากลำบากได้ทันเวลา จะไม่ให้พวกเขาละอายใจได้อย่างไร

“พี่จิน ก่อนหน้านี้เป็นพวกข้าเองที่ผิดต่อเจ้า บุญคุณในวันนี้ พวกข้าขอรับไว้ด้วยใจ เจ้ารีบจากไปเถอะ อย่าได้สนใจพวกเราอีกเลย!”

ซูมู่หานที่บาดเจ็บซ้ำซ้อนตะกายขึ้นจากพื้น ตะโกนเสียงดัง “รีบไป ขืนไม่ไปจะไม่ทันแล้ว!”

“ไปหรือ ไม่มีทาง!”

ถูเชียนเจวี๋ยส่งเสียงตะโกนลั่น “พี่จู่ แม่นางเยียน รีบกลับมาเถอะ เจ้าสารเลวจินตู๋อีปรากฏตัวแล้ว!”

คลื่นเสียงราวกับเสียงมรรค สะเทือนเก้าชั้นฟ้า กังวานไปไกลโพ้น

“สู้ตัวต่อตัวเจ้าไม่ไหว จู่โจมกันเป็นกลุ่ม… พวกเจ้าก็ไม่ไหว”

ดวงตาดำของหลินสวินลึกล้ำ

ยามเอ่ยปากเงาร่างของเขาพริบวาบ ออกโจมตีอย่างเหี้ยมหาญ

และไม่มีการออมมือใดๆ ทันทีที่ลงมือก็โคจรอานุภาพที่แท้จริงของตน

ชั่วขณะนั้นเขาเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน มีความดุร้ายยิ่งยวด มีความองอาจไร้เทียมทาน มีอานุภาพโดดเด่น!

ฟุ่บ!

กายมรรคทองขาวที่พร่าวพราวของเขาเปล่งแสง ว่องไวรวดเร็วดุจเงาแสงโฉบพุ่ง ระหว่างเคลื่อนย้ายไร้ซึ่งร่องรอย

เมื่อนิ้วของเขากดลงไป

พรูด!

ผู้สืบทอดแกนหลักเรือนมรรคจักรวาลที่อยู่ใกล้หลินสวินที่สุดหว่างคิ้วหลั่งเลือด กระดูกตรงคิ้วถูกแทงทะลุ ขณะที่กำลังจะถูกฆ่า พลังเคลื่อนย้ายสายหนึ่งพลันปรากฏขึ้น พาคนผู้นั้นออกจากแดนลับโลกาสวรรค์ไปอย่างหวุดหวิด

หลินสวินไม่มองด้วยซ้ำ สะบัดแขนเสื้อคราหนึ่ง ปราณกระบี่ไท่เสวียนแน่นขนัดทะยานออกมา ตบลม้วนไปทางคู่ต่อสู้อีกคน

คนผู้นั้นฝืนปะทะเต็มกำลัง โคจรพลังแห่งตนถึงขีดสุด บนร่างประกายศักดิ์สิทธิ์ปกคลุม แสงมรรคตัดสลับ ควบรวมเป็นประทับรบสิบแปดชั้น

ประทับรบทุกชั้นล้วนมีอานุภาพที่เทพผีไม่อาจคาดเดา สิบแปดชั้นซ้อนกัน ราวกับสามารถกลับภูเขาพลิกสมุทร ซ้อนกันเป็นชั้นๆ อานุภาพก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวี

ประทับรบจักรวาลสิบแปดชั้น!

หนึ่งในมรดกชั้นสูงของเรือนมรรคจักรวาล ดุดันหาใดเปรียบ

เพียงแต่มรดกชั้นสูงระดับนี้ ภายใต้ปราณกระบี่ไท่เสวียนของหลินสวินกลับดูไร้ค่า แค่พริบตาเท่านั้นก็เห็นประทับรบเป็นชั้นๆ เหล่านั้นถูกปราณกระบี่แน่นขนัดไพศาลทำลายทั้งหมด เสียงกัมปนาทสะท้านฟ้า ละอองแสงแสบตาพร่างพรมทั่วฟ้า

ตูมโครม…

แม้แต่เงาร่างของคนผู้นั้นยังถูกปราณกระบี่ที่ราวกับมหาสมุทรปกคลุม ถูกคัดออกไป

พริบตาเดียวผู้สืบทอดเรือนมรรคจักรวาลสองคนถูกโจมตีพ่ายแพ้อย่างต่อเนื่อง!

ทันทีที่เปิดฉากต่อสู้ ความองอาจไร้เทียมทานที่บดขยี้อย่างเด็ดขาดของหลินสวินซึ่งสำแดงออกมา ทำเอาพวกลู่ตู๋ปู้เบิกตาโพลง แทบไม่กล้าเชื่อ

ในศึกถกมรรคแคว้นเมฆา พวกเขาล้วนเคยเห็นความองอาจของหลินสวินมาแล้ว แต่เขาในตอนนั้นไม่สามารถเทียบกับตอนนี้ได้เลย!

แข็งแกร่งเกินไปแล้ว

ความเข้าใจที่พวกลู่ตู๋ปู้มีต่อหลินสวินถูกล้มล้างไปอย่างสิ้นเชิง เหมือนเห็นคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักกันเลย

“รีบลงมือ ต้องยืนหยัดไว้ให้ได้! กำลังเสริมของพวกเรากำลังจะมาถึงแล้ว!”

ถูเชียนเจวี๋ยตะโกน

เขาเองก็โจมตีเต็มกำลังโดยไม่ลังเล

ในฐานะผู้แข็งแกร่งที่เคยได้สัมผัสพลังต่อสู้ของหลินสวินมาก่อน เขาย่อมรู้ถึงความน่ากลัวของหลินสวินดีที่สุด

ควรรู้ว่าตอนนั้นเขานำคนกลุ่มหนึ่งลงมือพร้อมกัน ยังถูกหลินสวินใช้กระบวนค่ายกลใหญ่เล่นงานจนเสียหายหนัก สุดท้ายแม้ร่วมมือกับจู่เฟยอวี่และเยียนอวี่โหรวก็ยังไม่สามารถจับตัวหลินสวินได้ กลับถูกอีกฝ่ายทลายการปิดล้อมออกมาอย่างง่ายดาย!

“ฆ่า!”

“ฆ่า”

“ฆ่า”

ผู้สืบทอดเรือนมรรคจักรวาลสี่คนที่เหลือกับถูเชียนเจวี๋ยโจมตีใส่หลินสวินเต็มกำลังพร้อมกัน บ้างเร่งเร้าวิชาลับ บ้างเรียกสมบัติออกมา

ทันใดนั้นพื้นที่แถบนี้มีแสงสมบัติไหลวน เสียงมรรคดังสะท้าน ฟ้าดินอับแสง

“แม่นางเซี่ย พวกเราก็ร่วมด้วยเถอะ ไปช่วยพี่จินสังหารศัตรู!”

ลู่ตู๋ปู้กัดฟัน สีหน้าเด็ดเดี่ยว ในใจเขาเต็มไปด้วยความละอายและซาบซึ้ง คิดอยากกอบกู้สถานการณ์อย่างเร่งด่วน

“ดี”

เซี่ยอวี่ฮวาตอบรับโดยไม่ต้องคิด

แต่ไม่รอทั้งสองลงมือ ก็ถูกเงาร่างสีขาวสง่าขวางเอาไว้แล้ว

เป็นจินเทียนเสวียนเยวี่ย นางสวมชุดขาวยิ่งกว่าหิมะ เย็นชางดงาม กล่าวว่า “พวกเจ้าดูการต่อสู้ก็พอ พี่จินกำชับไว้ว่าให้ข้ารับผิดชอบความปลอดภัยของพวกเจ้า”

ชั่วขณะหนึ่งอารมณ์ของลู่ตู๋ปู้และเซี่ยอวี่ฮวาต่างซับซ้อนขึ้นมา

ในศึกถกมรรคแคว้นเมฆา พวกเขายังสามารถเทียบเคียงหลินสวินได้อยู่เลย แต่ตอนนี้… แม้แต่ช่วยยังช่วยไม่ได้ด้วยซ้ำ…

ในสนามรบการต่อสู้ดุเดือด ภูผาธาราสั่นไหว ต้นไม้ใบหญ้าแหลกละเอียด ปั่นป่วนและโกลาหลทั้งแถบ

มองภาพนี้จากไกลๆ สีหน้าของหวังถูดุดัน ตะโกนในใจ ‘เอาชนะเขา เอาชนะเขา ต้องให้เขาถูกคัดออกให้ได้!’

การปรากฏตัวของหลินสวินทิ่มแทงสภาวะจิตของหวังถูให้เปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวแล้ว

ก่อนหน้านี้เพื่อเอาตัวรอด เขาหักหลังหลินสวินเพื่อแลกโอกาสโดยไม่เสียดาย และสุดท้ายยังหนีมาเพียงลำพังโดยไม่สนใจพวกลู่ตู๋ปู้ ซูมู่หาน เซี่ยอวี่ฮวา

แต่ตอนนี้กลับเป็นหลินสวินที่ออกหน้าช่วยพวกลู่ตู๋ปู้

เมื่อเทียบกันแล้ว ขับให้หวังถูดูแย่มาก ทำให้จิตใจเขาเกิดความขุ่นเคืองที่ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้

ตูม!

ฉับพลันนั้นเสียงกึกก้องสะท้านฟ้าสะเทือนดินดังขึ้นในสนามรบ

ก็เห็นว่า….

พวกถูเชียนเจวี๋ยที่ตอนแรกปิดล้อมหลินสวิน ต่างล้วนถูกซัดกระเด็นออกไป เงาร่างโซเซ แต่ละคนต่างร้องตกใจ

และในสนามรบ ร่างหลินสวินเจิดจรัส สะดุดตายิ่งยวด ทุกการเคลื่อนไหวล้วนเต็มไปด้วยอานุภาพยิ่งใหญ่ที่สามารถทำลายล้างทุกอย่างได้อย่างง่ายดาย

ทุกคนเข้าปิดล้อม กลับไม่สามารถกำราบเขาได้ สภาพการณ์ปิดล้องกลับถูกเขาทะลวงออก!

จากนั้นเมื่อเงาร่างของหลินสวินเข้าใกล้ คู่ต่อสู้คนแล้วคนเล่าต่างถูกกำราบทีละคนประหนึ่งกระดาษเปื่อย ถูกคัดออกพร้อมเสียงโหยหวน

ในสนามรบเหลือเพียงถูเชียนเจวี๋ยที่กำลังดิ้นรน!

ภาพนี้ทำให้ลูกตาหวังถูแทบหลุดออกมา กำหมัดแน่น ปากพึมพำว่า “นี่เป็นไปได้อย่างไร เจ้าหมอนี่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ได้อย่างไร”

ควรรู้ว่าพวกนั้นล้วนเป็นผู้สืบทอดแกนหลักของเรือนมรรคจักรวาล ไม่ขาดผู้มีชื่อเสียงในกระดานราชันอริยะปวงสวรรค์

แต่ต่อหน้าหลินสวิน กลับประหนึ่งไก่กระเบื้องสุนัขดินเผา!

ไม่เพียงแค่หวังถู ลู่ตู๋ปู้ เซี่ยอวี่ฮวา ซูมู่หานต่างสูดหายใจสะท้านอย่างอดไม่อยู่ นี่… จึงจะเป็นอานุภาพที่แท้จริงของเขาหรือ

และตอนนี้ถูเชียนเจวี๋ยกำลังยืนหยัดอย่างยากลำบาก

ก่อนหน้านี้เขาถูกขังอยู่ในกระบวนค่ายกลใหญ่ ถูกหลินสวินโจมตีจนบาดเจ็บ หากไม่ใช่เพราะเยียนอวี่โหรวและจู่เฟยอวี่มาช่วยทันท่วงที คงถูกคัดออกไปนานแล้ว

และตอนนี้ ภาพเช่นเดียวกันนี้ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง!

“สมควรตาย! เหตุใดพวกจู่เฟยอวี่จึงยังไม่มา”

ในใจถูเชียนเจวี๋ยร้อนรน ตาเบิกถลน สู้กับหลินสวินเพียงลำพังทำให้เขาตกอยู่ในสภาพถูกกดข่มอย่างสิ้นเชิง

ไม่ว่าเขาจะสำแดงวิชาอัศจรรย์ระดับใด เรียกสมบัติระดับใดออกมา ล้วนถูกหลินสวินทำลายอย่างสมบูรณ์ ทำให้เขาตกอยู่ในสภาพทุลักทุเล เทียบกันแล้วด้อยกว่าอย่างชัดเจน

ไม่นานก็กระอักเลือดอย่างต่อเนื่อง บาดเจ็บสาหัส!

เห็นเขาสู้ไม่ได้เช่นนี้ พวกลู่ตู๋ปู้รู้สึกเหลือเชื่อ นี่เป็นถึงพวกร้ายกาจที่อยู่ในสิบอันดับแรกของกระดานราชันอริยะปวงสวรรค์เชียวนะ แต่กลับมีสภาพน่าอนาถ ถูกพี่จินเหยียบย่ำโดยสมบูรณ์!

“หยุดมือ…”

ทันใดนั้นเสียงตวาดดังจากไกลๆ เงาร่างคนกลุ่มหนึ่งแปลงเป็นรุ้งศักดิ์สิทธิ์ เคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศเข้ามา อานุภาพยิ่งใหญ่

ผู้นำก็คือจู่เฟยอวี่และเยียนอวี่โหรวนั่นเอง

ตอนที่เห็นว่าในสนามรบเหลือเพียงถูเชียนเจวี๋ยที่กำลังฝืนยืนหยัดอย่างยากลำบาก ทั้งยังบาดเจ็บสาหัส พวกจู่เฟยอวี่ต่างเผยสีหน้ายากจะเชื่อ

พวกเขาเพิ่งจากไปไม่นาน ก็เกิดภาพน่าอนาถเกินกว่าจะทนดูเช่นนี้หรือ

สีหน้าของพวกลู่ตู๋ปู้ล้วนเปลี่ยนไป มีพวกร้ายกาจที่แข็งแกร่งอย่างที่สุดถึงยี่สิบกว่าคน สถานการณ์เริ่มรุนแรงขึ้นแล้ว!

“ชมการต่อสู้ต่อก็พอแล้ว”

และตอนนี้จินเทียนเสวียนเยวี่ยยังคงดูใจเย็นมาก นิ่งสงบเป็นที่สุด ไม่ว่าจะหนีหรือสู้ นางก็เชื่อมั่นในตัวหลินสวินอย่างที่สุด

ห่างออกไปหวังถูอดคลี่ยิ้มไม่ได้ ความเคียดแค้นในใจพลิกโหมซัดสาด จินตู๋อีหนอจินตู๋อี ดูสิว่าต่อไปเจ้าจะโอ้อวดอย่างไรอีก!

“พี่จู่ แม่นางเยียน รีบมาช่วยข้า…!”

ถูเชียนเจวี๋ยที่เริ่มรู้สึกถึงความสิ้นหวัง ตอนนี้ดีใจจนแทบคลั่ง ราวกับคนที่กำลังจะจมน้ำคว้าความหวังในการมีชีวิตอยู่ได้

และตอนนี้เอง จู่ๆ หลินสวินก็ยิ้มพูด “รู้หรือไม่ว่าเหตุใดข้าจึงเก็บเจ้าไว้จนถึงตอนนี้”

เก็บข้าไว้จนถึงตอนนี้หรือ

ถูเชียนเจวี๋ยรู้สึกเหลือเชื่อ หรือว่า…

ตูม!

และยามนี้เอง หลินสวินรวบนิ้วแทงออกไป

หนามเเสงคม!

เร็วจนเหลือเชื่อ และดุร้ายถึงขีดสุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เป็นประกายแสงที่ควบรวมอยู่ตรงปลายนิ้วจุดหนึ่งเท่านั้น กลับส่องสว่างภูผาธารา

วิชามรรคที่ถูเชียนเจวี๋ยสำแดงออกมา รวมถึงพลังป้องกันในตัว ล้วนระเบิดแหลกละเอียดภายใต้การแทงนี้

ประกายคมนั้นเหมือนแสงที่สะท้านหมื่นกาล แทงเข้าหน้าอกของถูเชียนเจวี๋ย!

เพียงแต่ไม่รอให้ประกายคมนั่นแทงทะลุหัวใจของถูเชียนเจวี๋ย บดขยี้จิตวิญญาณของเขา ตัวเขาก็หายไปกลางอากาศ

ถูกคัดออกไปแล้ว!

ผู้ที่อยู่ในอันดับเก้าบนกระดานราชันอริยะปวงสวรรค์ ผู้สืบทอดแกนหลักเรือนมรรคจักรวาลที่ชื่อเสียงเลื่องลือ กลับถูกคัดออกไปง่ายๆ เช่นนี้!

นี่ก็หมายความว่า บุคคลพลิกฟ้าอย่างเขา แม้มีชีวิตอยู่ก็ไม่มีคุณสมบัติเข้าร่วมชิงชัยในเขตต้องห้ามเซียนโบราณอีกแล้ว

ตอนที่เห็นภาพนี้ จู่เฟยอวี่และเยียนอวี่โหรวที่รีบมาช่วยต่างอึ้งงัน เบิกตาโพลง ในใจเกิดความเดือดดาลและหนาวสะท้านที่พูดไม่ออก

ที่เดือดดาลก็เพราะหลินสวินกำราบถูเชียนเจวี๋ยต่อหน้าต่อตาพวกเขา แต่พวกเขากลับช่วยไม่ทัน

ที่หนาวสะท้านก็เพราะ คนที่แข็งแกร่งยิ่งเช่นถูเชียนเจวี๋ย กลับถูกคัดออกง่ายๆ เช่นนี้…

ควรรู้ว่าพลังต่อสู้ของถูเชียนเจวี๋ย ไม่ได้ด้อยกว่าจู่เฟยอวี่และเยียนอวี่โหรวเท่าไหร่!

ชั่วขณะนี้จินเทียนเสวียนเยวี่ยรวมทั้งพวกลู่ตู๋ปู้ ในใจต่างตกตะลึงอย่างอดไม่ได้

ถูเชียนเจวี๋ย!

บุคคลที่ประหนึ่งยักษ์ใหญ่ในแดนลับโลกาสวรรค์ หากไม่มีอะไรผิดคาด จะต้องผ่านการคัดเลือกถกมรรคครั้งนี้อย่างไร้ข้อกังขา มีคุณสมบัติเข้าสู่เขตต้องห้ามเซียนโบราณ

แต่เรื่องไม่คาดฝันกลับเกิดขึ้นเช่นนี้!

………………………