ตอนที่ 3657

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 3657 : แขกไม่ได้รับเชิญ ทําลายประตูบุกเข้ามา

 

ต้วนหลิงเทียนกับถังชงที่ถูกพาไปยังห้องส่วนตัวนั้น ก็เลือกที่จะสั่งอาหารอีกชุด โดยชุดที่กินเหลือกว่าครึ่งแล้วก็ไม่ได้บอกให้ยกไปแต่อย่างใด เป็นการอุดหนุนอีกฝ่ายที่มอบห้องส่วนตัวให้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

 

“ขอบคุณท่านลูกค้ามาก”

 

บริกรที่เห็นความเมตตาของถังชง ก็เร่งโค้งคำนับพลางกล่าวขอบคุณด้วยความสุภาพทันที จากนั้นก็เตรียมจากไป “ขอท่านลูกค้าทั้ง 2 รอสักครู่ ข้าน้อยจะรีบไปกสำรับอาหารชุดใหม่มาให้พวกท่านทันที”

 

หลังจากบริกรจากไปแล้ว ถังชงที่นั่งในห้องส่วนตัวด้วยอริยาบถผ่อนคลาย ก็เริ่มคุยกับต้วนหลิงเทียนต่อ “ต้วนหลิงเทียน ว่าแต่เจ้าตบแต่งภรรยาแล้วหรือยัง พอดีข้ามีหลานสาวตัวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มอยู่คน หากเจ้าสนใจเดี๋ยวข้า..”   

 

ทว่าไม่ทันที่ถังชงจะได้กล่าวจบคำ ต้วนหลิงเทียนก็เร่งกล่าวขัดออกมาเสียก่อน “เอ่อ อาวุโสถังชง พอดีข้ามีภรรยาอีกทั้งยังมีลูก 2 คนแล้ว”

 

จังหวะนี้ต้วนหลิงเทียนได้แต่คลี่ยิ้มเจื่อนๆเต็มใบหน้า เขาไม่คิดเลยว่าถังชงที่คุยสัพเพเหระมาตลอด อยู่ดีๆจะเปิดประเด็นดังกล่าวขึ้นมา ยังทำท่าราวกับพร้อมจะเป็นพ่อสื่อให้เขาเสียอย่างนั้น กระทั่งยังคิดจะจับคู่หลานสาวให้เขาหน้าตาเฉย

 

“อันที่จริง บุรุษมากสามารถ คิดจะมี 3 ภรรยา 4 อนุก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องแปลกอะไร…”

 

เห็นได้ชัดว่าถังชงยังไม่คิดจะปล่อยต้วนหลิงเทียนให้รอดพ้นเรื่องนี้ไปง่ายๆ

 

“อาวุโสถังชงอย่าล้อข้าเล่นเลย ข้าไม่อาจมีสตรีเพิ่มได้แล้วจริงๆ”

 

สุดท้ายด้วยการยืนกรานของต้วนหลิงเทียน ในที่สุดถังชงก็ได้แต่ถอดใจและเลิกแนะนำหลานสาวให้ต้วนหลิงเทียน

 

ขณะเดียวกัน

 

คนของตระกูลจ้งที่ถูกจ้งซื่อส่งกลับไปยังตระกูลเพื่อนำจานค่ายกล ในที่สุดก็ได้ของและรีบกลับมายังเหลาอาหารด้วยความเร็ว

 

ด้านนา 2 ตระกูลจ้ง จ้งเอ้อ ก็กำลังเดินทางไปที่เหลาอาหารเช่นกัน

 

“พวกเรามาจัดตั้งค่ายกลรอบๆเหลากันก่อนเถอะ”

 

คนของตระกูลจ้งที่ถูกส่งให้กลับไปเอาจานค่ายกลที่ตระกูล ก็ถูกนำโดยชายชราคนหนึ่ง มันเป็นมือดีของจ้งซื่อที่คอยติดตามอยู่ข้างกายจ้งซื่อตลอด และถ้าหากต้วนหลิงเทียนเห็นชายชราคนนี้ เขาก็คงจดจำได้ทันที

 

เพราะในตอนที่ต้วนหลิงเทียนอยู่ในห้องส่วนตัวของโรงประมูลตระกูลโจวกับต้วนเฉียวอวี่และ อวี๋ชิวซวนในอดีต ก็เป็นชายชราผู้นี้ที่ตีเนียนเข้ามาในห้องส่วนตัวเขาพร้อมกับพนักงานในโรงประมูลตระกูลโจว

 

จานค่ายกลที่ชายชรากลับไปเอาที่ตระกูลจ้งนั้น ก็เป็นมรดกตกทอดของตระกูลจ้ง มันสามารถสร้างข่ายอาคมปิดกั้นวิญญาณเทพได้ชะงัด มีไว้เพื่อปิดกั้นการติดต่อสื่อสารโดยเฉพาะ

 

ภายในข่ายอาคมปิดกั้นวิญญาณเทพ ไม่มีผู้ใดสามารถส่งข้อความทางวิญญาณได้

 

“ต้วนหลิงเทียน วันนี้เจ้าต้องตาย!”

 

เมื่อเห็นคนของจ้งซื่อเริ่มติดตั้งจานค่ายกล สองตาจ้งเค่อฉีก็เริ่มฉายแววดุร้ายกระหายเลือด ในสายตาของมัน วันนี้ต้วนหลิงเทียนทำได้แค่เป็นศพในเหลาอาหารตระกูลจ้ง!

 

เดือนก่อน หลังจากรู้ว่าต้วนหลิงเทียนทำคำแนนในการทดสอบนักศึกษา 10 ดาวได้ 120,000 กว่าแต้ม มันก็รู้สึกสิ้นหวังจับใจ

 

หากไม่เข่นฆ่าอีกฝ่ายให้ตายตั้งแต่กลางทาง มันก็ไม่มีวันมองเห็นอนาคตแน่!

 

และถึงตอนนั้นกระทั่งตระกูลจ้งเองก็อาจจะพินาศคามือต้วนหลิงเทียน ทำให้ตระกูลจ้งเองก็มุ่งมั่นที่จะฆ่าต้วนหลิงเทียนเพื่อขจัดเภทภัยให้จงได้

 

อย่างไรก็ตาม ต่อให้ตระกูลจ้งอยากจะฆ่าต้วนหลิงเทียนให้ตายมากแค่ไหน แต่พวกมันก็รู้ดีว่าตราบใดที่ต้วนหลิงเทียนไม่ออกนอกเขตสถานศึกษาหมอกเร้นลับ และไม่ได้อยู่ห่างกายอาจารย์ที่ทรงพลังในสถานศึกษาหมอกเร้นลับ เช่นนั้นตระกูลจ้งของพวกมันก็ไม่มีวันฆ่าอีกฝ่ายได้แน่

 

แต่วันนี้อยู่ดีๆต้วนหลิงเทียนไม่เพียงแต่จะออกนอกเขตสถานศึกษาหมอกเร้นลับ ยังมาปรากฏตัวในเหลาอาหารตระกูลจ้งเสียอย่างนั้น ที่สำคัญยังไม่มีอาจารย์คนไหนติดตามมาอีก!

 

ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นดั่งโอกาสที่ฟ้าประทานให้ตระกูลจ้งของพวกมัน!

 

โอกาสที่จะกำจัดต้วนหลิงเทียน!!

 

ด้วยพรสวรรค์และความเข้าใจของต้วนหลิงเทียน วันหน้าเมื่อเติบโตขึ้น ไม่พ้นต้องเป็นเภทภัยอันใหญ่หลวงของตระกูลจ้งแน่ทำให้กระทั่งยามหลับ คนของตระกูลจ้งก็ฝันเรื่องฆ่าต้วนหลิงเทียน!

 

ในเมื่อโอกาสมาถึงเบื้องหน้า พวกมันไหนเลยจะพลาด

 

“อา 4 ท่านเตรียมการพร้อมแล้วหรือยัง?”

 

เมื่อเห็นจ้งซื่อที่นำคนไปจัดตั้งจานค่ายกลย้อนกลับมา สองตาจ้งเค่อฉีก็เปล่งแสงจ้าขึ้นมาทันที

 

“เรียบร้อย”

 

จ้งซื่อพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะถามออกมาอีกครั้ง “ว่าแต่ไฉนพวกเจ้าหนูนั่นไม่อยู่กับเจ้าเล่า? พวกมันกลับไปกันหมดแล้วหรือ?”

 

“ยังไม่”

 

จ้งเค่อฉีส่ายหัวไปมา “ข้าบอกให้พวกมันเข้าไปรอในห้องส่วนตัวที่ดื่มกินกันก่อนหน้า และไม่ได้บอกพวกมันว่าข้ามาทำอะไร…เพียงบอกว่ามีธุระที่ต้องไปจัดการเล็กน้อย ให้พวกมันรอข้าสักพักเท่านั้น”

 

“อืม ทำได้ดี”

 

จ้งซื่อพยักหน้าพลางกล่าวชื่นชม “ตอนนี้พวกเราแค่รอให้พ่อเจ้ามาถึงแล้วนำจานค่ายกลอีกชุดมาปิดผนึกห้องส่วนตัวของต้วนหลิงเทียน ก็ลงมือได้แล้ว”

 

“เมื่อจานค่ายกลชุดที่ 2 ติดตั้งเสร็จ การลงมือของพวกเราก็รับประกันความสำเร็จมากขึ้น”

 

“พอถึงตอนนั้น พวกเราก็จะได้กำจัดเจ้าต้วนหลิงเทียนนั่นให้พ้นทาง ขจัดภัยซ่อนเร้นอันยิ่งใหญ่ของตระกูลจ้งเราออกไปถาวร!”

 

ขณะกล่าวถึงท้ายประโยค สองตาจ้งซื่อก็ฉายแววอำมหิต

 

สีหน้าของจ้งเค่อฉีเองก็แดงก่ำขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น จากนั้นก็คลิ้มร่าพลางกล่าว “ว่ากันว่าเรื่องจริงมักตรงข้ามกับความฝัน ดูเหมือนตอนนี้จะเป็นเช่นนั้นจริงๆ”

 

ช่วงเดือนที่ผ่านมามันฝันร้ายทำนองเดียวกันซ้ำๆ

 

ในความฝันนั้น หากไม่ต้วนหลิงเทียนฆ่ามันตายเยี่ยงสุนัขก็เป็นต้วนหลิงเทียนละเลงเลือดตระกูลจ้งจนล่มสลาย

 

ทุกครั้งมันได้แต่สะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความหวาดผวา

 

ทำให้หลังๆมามันไม่กล้านอนหลับ เลือกที่จะนั่งบ่มเพาะพลังแทน

 

นายคนที่ 2 ของตระกูลจ้ง จ้งเอ้อ นั้น ในฐานะที่เป็นบิดาบังเกิดเกล้าของจ้งเค่อฉี หน้าตามันจึงละม้าคล้ายจ้งเค่อฉีอยู่หลายส่วน หากแต่ท่วงท่าและบุคลิก ถือว่าแตกต่างจากจ้งเค่อฉีคนละเรื่อง

 

จ้งเค่อฉีนั้น ท่าทางบอกยยี่ห้อนายน้อยถือดีเอาแต่ใจ

 

ตรงกันข้าม จ้งเอ้อ กลับเต็มไปด้วยความสุขุมหนักแน่นบ่งบอกถึงวุฒิภาวะกับสติปัญญา มองปราดเดียวก็บอกว่ามันไม่ใช่คนธรรมดาๆ  

 

“ท่านพ่อ”

 

เมื่อเห็นการมาของจ้งเอ้อ ลูกตาจ้งเค่อฉีก็สว่างขึ้นยังเร่งกล่าวทักบิดาด้วยรอยยิ้ม “ท่านมาแล้ว!”

 

“อืม”

 

จ้งเอ้อพยักหน้าให้จ้งเค่อฉี รอยยิ้มหากยังคลี่กางขึ้นบนใบหน้าสงบเฉยเมย “เค่อฉี คราวนี้ต้องถือเป็นความดีความชอบของเจ้าที่พบตัวต้วนหลิงเทียนได้ทันเวลา…หาไม่แล้วตระกูลจ้งของพวกเราคงสูญเสียโอกาสล้ำค่าเพียงหนึ่งเดียวที่จะกำจัดต้วนหลิงเทียนนั่น”

 

“ว่าแต่ต้วนหลิงเทียนกับญาติของมันอยู่ห้องส่วนตัวห้องใด?”

 

หลังได้รับทราบตำแหน่งห้องส่วนตัวของต้วนหลิงเทียนจากจ้งเค่อฉีและจ้งซื่อแล้ว ดวงตาของจ้งเอ้อก็ฉายแววอำมหิตเยียบเย็นขึ้นมาทันใด “เจ้า 4 แล้วนี่เจ้าได้ตรวจสอบพลังฝึกปรือของชายชราผู้นั้นหรือยัง?”

 

“ยังไม่พี่รอง”   

 

จ้งซื่อส่ายหัวไปมา “พี่รองคนของข้าไม่มีผู้ใดเป็นราชาเทพ เช่นนั้นจึงไม่กล้าใช้สำนึกเทวะตรวจสอบคนข้างกายต้วนหลิงเทียนส่งเดช…หาไม่แล้วเกิดพวกเราแหวกหญ้าให้งูตื่นขึ้นมา เกรงว่าคงร้ายมากกว่าดี”

 

“เอาล่ะ เจ้าทำได้ดีมาก”

 

จ้งเอ้อพยักหน้าด้วยความชื่นชม จากนั้นมันก็โบกมือเบาๆ ก่อนที่คนที่ติดตามมากับมันจะแยกย้ายกันออกไปเร็วไว พริบตาก็เริ่มประจำตำแหน่งและเปิดใช้จานค่ายกล เพื่อสร้างม่านพลังบางอย่างปกคลุมไปทั่วห้องส่วนตัว พาลให้ห้องส่วนตัวบังเกิดการสั่นสะเทือนเล็กน้อย

 

จังหวะนี้ ไม่ว่าจะต้วนหลิงเทียนหรือถังชง ก็สัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในห้องส่วนตัวทันที

 

ในขณะที่หวว่างคิ้วของถังชงขดย่นเป็นปม และกำลังจะแผ่สำนึกเทวะออกกไปตรวจสอบสถานการณ์โดยรอบ ประตูห้องส่วนตัวก็พลันถูกผู้คนถีบเปิดดัง “ปง!” ด้วยแรงถีบอันหนักหน่วงตัวประตูยังปลิวกระเด็นเข้ามา จากนั้นก็ปรากฏร่าง 4 ร่างพุ่งเข้ามาปิดกั้นประตูทางออกเพียงหนึ่งเดียวดังกล่าว แม้การมาของพวกมันจะไม่ได้รวดเร็วอะไร แต่ก็เป็นจุดสนใจ 2 คนในห้องส่วนตัวไม่น้อย

 

กล่าวให้ชัดคือดึงดูดความสนใจของต้วนหลิงเทียนกับถังชง

 

“หืม? จ้งเค่อฉี?”

 

มอง 4 คนที่บุกเข้ามาปราดเดียว ต้วนหลิงเทียนก็จดจำจ้งเค่อฉี ที่เป็นนักศึกษา 10 ดาวของสถานศึกษาหมอกเร้นลับเหมือนเขาได้ทันที จากนั้นเขาก็พบว่าชายชราที่ยืนอยู่ด้านหลังจ้งเค่อฉีที่อู่ด้านหลังชายวักลางคน 2 คนอีกทีก็แลดูคุ้นตานัก ราวกับเคยเห็นที่ไหนมาก่อน…แต่ปุบปับกลับนึกไม่ออก

 

ทว่าต้วนหลิงเทียนจำมันไม่ได้ ไม่ใช่หมายความว่าชายชราผู้นั้นจะจำเขาไม่ได้เช่นกัน

 

ชายชราที่อยู่ด้านหลังจ้งเค่อฉี พอเห็นหน้าค่าตาต้วนหลิงเทียนชัดๆ ลูกตาของมันก็หดเล็กลงเร็วไว จากนั้นสีหน้าก็เริ่มเปลี่ยนสีไปอย่างมาก

 

ชายหนุ่มชุดม่วงคนนี้…มิใช่ชายหนุ่มคนเดียวกันกับที่มันเห็นในห้องส่วนตัวหมายเลข 9 ที่โรงประมูลตระกูลโจว ตอนที่ตระกูลโจวตั้งใจจัดงานประมูลเพื่อขายเคล็ดวิชาบ่มเพาะระดับจอมราชันเทพโดเฉพาะหรือไร?

 

เดิมทีมันเข้าไปในห้องส่วนตัวของอีกฝ่าย ก็เพื่อดูหน้าค่าตาจะได้สืบค้นความเป็นมาผู้อื่น

 

เพราะในการประมูลวันนั้น อีกฝ่ายกล้าประมูลโอสถเทพเจี๋ยอี๋ปิ่งทั้ง 3 เม็ดที่จ้งซื่อ นา 4 ตระกูลจ้งต้องการ ด้วยเหตุนี้จ้งซื่อจึงส่งมันไปตรวจสอบอีกฝ่ายว่าเป็นใครมาจากไหน ทั้งหมดเพราะขุ่นเคืองที่อีกฝ่ายกล้าไม่ไว้หน้ามัน และหลังจบการประมูลจะได้ลงมือบีบคั้นให้ส่งมอบโอสถเทพเจี๋ยอี๋ปิ่งออกมา…

 

วันนั้นมันติดตามพนักงานของโรงประมูลตระกูลจ้งเข้าไปในห้องส่วนตัวที่อีกฝ่ายอยู่ และในห้องก็ไม่ได้มีแต่ชายหนุ่มชุดม่วงคนเดียว แต่ยังมีเด็กหญิงที่แลดูใกล้ชิดสนิทสนม กับโฉมงามคนหนึ่งนั่งในห้องนั้นด้วย

 

เดิมทีมันก็ไม่ได้เก็บเด็กหญิงกับโฉมงามนั่นมาใส่ใจ

 

ต่อมาไม่นาน เมื่อหานเลี่ยง อาวุโส 2 ของนิกายหมื่นปีศาจซึ่งเป็นขุมกำลังระดับราชาเทพ ได้ประพฤติตัวหยาบคาย สุดท้ายก็เกือบถูกโฉมงามเข่นฆ่า ทำให้มันรวมถึงทุกคนในโรงประมูล ตระหนักได้ทันทีว่าโฉมงามนั้น ที่แท้เป็นถึงตัวตนระดับจอมราชันเทพ! ที่สำคัญคือตัวตนเช่นนางกลับเรียกหาเด็กหญิงในห้องว่า ‘คุณหนู’ สิ่งนี้บ่งบอกว่าสถานะของเด็กหญิงที่มันไม่เห็นอู่ในสายตาตอนแรก น่ากลัวจะยิ่งใหญ่เกินตอแยแล้ว

 

หลังจากที่โฉมงามกับเด็กหญิงจากไป หลายคนก็คิดจะเข้าไปพบชายหนุ่มที่ประมูลโอสถเทพเจี๋ยอี๋ปิ่งทั้ง 3 เพื่อทำความรู้จักกับอีกฝ่าย จะได้มีลู่ทางเพื่อสานไมตรีกับเด็กหญิงและโฉมงามนางนั้น

 

เพราะการปรากฏตัวของเด็กหญิงกับโฉมงามในรูปแบบนายบ่าว ทำให้พวกมันตระหนักได้รางๆ ว่าอย่างน้อยๆก็ต้องมาจากขุมกำลังระดับจอมราชันเทพ กระทั่งเผลอๆยังอาจจะเป็นคนของขุมกำลังระดับจักรพรรดิเทพด้วยซ้ำ

 

อนิจจาเด็กหญิงกับโฉมงามก็จากไปโดยเร็ว ทำให้ทุกคนทำได้แค่พยามสานไมตรีกับชายหนุ่มที่ได้ยินเพียงแต่เสียงเท่านั้น

 

อนิจจากว่าทุกคนจะเข้าไปถึงห้องส่วนตัวหมายเลข 9 ด้านในก็ว่างเปล่าไร้ผู้คนเสียแล้ว

 

ชายหนุ่มคนนั้น นอกจากพนักงานของโรงประมูลตระกูลโจวที่นำสิ่งของไปมอบและเก็บค่าใช้จ่าย ก็มีแค่มันคนเดียวเท่านั้นที่ล่วงรู้ว่าอีกฝ่ายมีหน้าตาอย่างไร

 

เพียงแต่มันไม่คิดไม่ฝันจริงๆ ว่าการพบเจอกันอีกครั้ง จะเป็นในลักษณะนี้

 

‘มันมาที่นี่ทำอะไรกัน!?’

 

ในขณะที่ชายชราลอบคิดไปอย่างหวั่นใจ สีหน้ามันก็เปลี่ยนไปไม่น้อย จากนั้นก็หันไปมองชายชราที่นั่งตรงข้ามต้วนหลิงเทียนโดยไม่รู้ตัว

 

ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนเพียงนั่งมองผู้บุกรุกอย่างพวกมันด้วยความสงบ ชายชราผู้นั้นก็ไม่ต่าง หากแต่ในสายตาเฉยเมยไร้แยแสของอีกฝ่าย กลับแฝงไว้ด้วยความขุ่นเคืองรังเกียจอยู่บ้าง

 

“ต้วนหลิงเทียน!”

 

จ้งเค่อฉีที่ยืนอยู่ด้านหลังจ้งเอ้อ มองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาปานจะกลืนกิน มุมปากยังยกยิ้มแสยะเย็นชา “ข้าไม่คิดไม่ฝันจริงๆว่าเจ้าจะกล้าหาญชาญชัยถึงเพียงนี้ ถึงกับกล้าออกจากสถานศึกษาหมอกเร้นลับ! ที่สำคัญยังไร้อาจารย์ติดตามข้างกาย!!”

 

“เจ้าว่า…หากวันนี้ข้าฆ่าเจ้าทิ้งที่นี่ ทางสถานศึกษาหมอกเร้นลับจะล่วงรู้หรือไม่เล่า ว่าข้าเป็นผู้ลงมือ?”

 

ยิ่งมารอยยิ้มเนชาเย้ยหยยันที่มุมปากจ้งเค่อฉีก็ยิ่งยกสูงขึ้น ดวงตาของมันแทบจะกลายเป็นคนวิปริตไปแล้ว  

 

“อ้อ เจ้าอยากฆ่าข้าเหรอ?”

 

ต้วนหลิงเทียนเหลือบมองจ้งเค่อฉีผ่านๆ จากนั้นก็ไปหยุดสายตาลงบนร่างจ้งเอ้อกับจ้งซื่อทื่นอยู่ด้านหน้า “หรือ…เป็นตระกูลจ้งที่คิดจะฆ่าข้า?”

 

“ตระกูลจ้ง?”

 

ตอนนี้เองสีหน้าถังชงที่นั่งตรงข้ามต้วนหลิงเทียนก็เปลี่ยนเป็นมืดมนอึมครึมนัก

 

คนของตระกูลจ้งคิดฆ่าต้วนหลิงเทียนต่อหน้ามัน…ผู้อาวุโสฝ่ายในของนิกายหมอกเร้นลับ?