หนึ่งชั่วโมงต่อมา เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวสองลำก็ได้ออกเดินทางทีละลำที่ท่าอากาศยานนานาชาติเย่นจิง และผู้ยอดฝีมือระดับสูงเกือบร้อยคนของตระกูลซู ก็ถูกส่งไปยังโตเกียวทั้งหมด!
ในเวลานี้ที่โตเกียว ภายใต้ผิวเผินที่สงบก็ได้พลุ่งพล่านแล้ว!
เมื่อตำรวจโตเกียวรู้เรื่องนี้ พวกเขาก็ตกใจจนกระวนกระวายไปหมด วุ่นวายไปทั้งหมดเลยทีเดียว!
พวกเขารู้ว่า การฆ่าคนไปหลายสิบคน และการลักพาตัวคนสองคนนั้น ไม่เพียงแต่เลวร้ายในลักษณะเท่านั้น แต่ยังมีแนวโน้มที่จะเกิดเหตุการณ์ระดับนานาชาติขึ้นอีกด้วย!
ดังนั้น ตำรวจในโตเกียวจึงปิดกั้นโรงแรมบุรีทันที และเจ้าหน้าที่จากแผนกสอบสวนกำลังสืบหาเบาะแสอันมีค่าทั้งหมดทั่วทั้งโรงแรมทีละนิ้ว
อันดับแรกพวกเขาได้พบเจอกับมือถือที่ซูจือเฟยทำหล่นไว้ในห้องพักของซูจือหยู และพบบันทึกการสนทนาทางโทรศัพท์ของเขากับนางาฮิโกะ อิโตะ จากนั้นก็พบดาวกระจายที่มีเครื่องหมายของตระกูลฟูจิบายาชิอีกครั้งอยู่ในห้องของผู้ติดตามของตระกูลซู
ทันทีที่พบเบาะแสทั้งสอง ก็ยิ่งทำให้ตำรวจโตเกียวหัวโตเข้าไปใหญ่!
ผู้กำกับใหญ่ของกรมตำรวจนครบาลโตเกียวที่มากำกับอยู่ที่เกิดเหตุด้วยตัวเอง หน้าซีดด้วยความตกใจ หลังได้รับการตอบกลับเหล่านี้
เขามองไปที่ช่างเทคนิคด้านล่าง และถามอย่างเสียงดังว่า “พวกคุณแน่ใจหรือว่าทั้งตระกูลอิโตะและตระกูลทากาฮาชิเป็นที่น่าสงสัยทั้งคุ่!”
หัวหน้าตำรวจที่รับผิดชอบการสอบสวนในสถานที่พูดโพล่งออกมาว่า “ผู้กำกับใหญ่ มีข่าวลือมาว่า ทั้งอิโตะและทากาฮาชิสองตระกูลกำลังพยายามอย่างเต็มที่ที่จะบรรลุความร่วมมือกับตระกูลซู แต่ตระกูลอิโตะดูเหมือนจะเสียเปรียบอยู่ ดังนั้นพวกเขาจึงมีสิ่งจุงใจที่จะลงมือกับคนของตระกูลซู และที่เกิดเหตุยังพบดาวกระจายของตระกูลฟูจิบายาชิ ตระกูลฟูจิบายาชิก็เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของตระกูลทากาฮาชิ ดังนั้นในเรื่องนี้อาจจะเป็นตระกูลทากาฮาชิที่ใส่ร้ายตระกูลอิโตะ แต่อย่างไรก็ตามทั้งสองฝ่ายต่างก็น่าสงสัยทั้งคู่……..”
ผู้กำกับใหญ่แทบอยากจะร้องไห้ออกมา พร้อมพูดโพล่งออกมาว่า “แค่ข่าวการเสียชีวิตของคนนับสิบกว่าคนถูกเผยออกไป ก็น่าจะสร้างกระแสฮือฮาไปทั่วโลกแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการใช้ซารินในการฆ่าคน นี่สามารถถือได้ว่าเป็นการโจมตีของผู้ก่อการร้ายแล้ว! ปรากฏว่าคนที่ถูกลักพาตัวไปยังเป็นหลานชายคนโตและหลานสาวคนโตของตระกูลอันดับต้นๆ ของประเทศจีนอีกด้วย คุณบอกผมเดี๋ยวนี้เลยว่า เจ้านายที่อยู่เบื้องหลังฆาตกรอาจเป็นหนึ่งในสองตระกูลที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น คดีนี้จะจัดการอย่างไรดี? ”
อีกฝ่ายก็พูดอย่างช่วยไม่ได้ว่า “ผู้กำกับใหญ่ ผมก็ไม่อยากจะทำให้คดียุ่งยากเกินไปเลย แต่สายหลักฐานของคดีปัจจุบันมันเป็นแบบนี้ และสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญสูงสุดในตอนนี้ก็คือ ตามหาตัวสองพี่น้องของตระกูลซูออกมา หากว่าพวกเขาตายไป กรมตำรวจนครบาลโตเกียวของเรา ก็จะต้องตกเป็นตัวตลกของโลกอย่างแน่นอน!”
ผู้กำกับใหญ่พูดอย่างโกรธเคืองว่า “สั่งให้ตำรวจในโตเกียวออกตัวทั้งหมด! ถึงจะต้องขุดดินสามฟุตในโตเกียว ก็ต้องตามหาคนจนเจอให้ได้!”
การออกตัวขนาดใหญ่ของกรมตำรวจนครบาลโตเกียวเช่นนี้ ทำให้ทั้งเมืองโตเกียววุ่นวายไปหมดในคราวเดียว
คนที่ได้รับข่าวเป็นคนแรก ก็คือตระกูลใหญ่ในโตเกียว
เนื่องจากนางาฮิโกะ อิโตะไม่ได้รับคำตอบจากซูจือเฟยเลย ดังนั้นเขาจึงริเริ่มโทรหาเขา หลังจากโทรไปสองสามสายก็ไม่มีใครรับสาย เขาจึงส่งคนไปค้นหาสถานการณ์ทันที เมื่อเขาได้ยินข่าวนี้ คนทั้งคนก็ตกตะลึงไปเหมือนโดนฟ้าผ่าเลย
เขาไม่เข้าใจ ใครที่กล้าหาญขนาดนี้ กล้าที่จะลงมือกับคนของตระกูลซูงั้นเหรอ
แม้ว่าเขาจะรู้ว่า ก่อนที่ซูจือเฟยจะถูกลักพาตัว เขาก็เพิ่งคุยกับเขาทางโทรศัพท์ แต่หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิดปกติ ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรเลย และเขาก็ไม่ได้คาดคิดว่าในเรื่องนี้จะมีอะไรเกี่ยวข้องกับตัวเอง
แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ทากาฮาชิ มาจิได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาก็ตกตะลึงไปในทันที
ซูจือเฟยตกลงเซ็นสัญญากับเขาในเช้าวันพรุ่งนี้ แต่จู่ๆ ก็ถูกลักพาตัวไปพร้อมกับน้องสาวของเขา? นี่แม่งไม่ใช่การทำให้งานของตัวเองต้องเสียเหรอ?
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ผู้ต้องสงสัยคนแรกที่เขานึกถึงก็คือนางาฮิโกะ อิโตะ!
นี่ไม่ใช่เพียงเพราะตระกูลอิโตะเป็นคู่แข่งที่ใหญ่ที่สุดของตัวเองเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะการตายของฟูจิบายาชิ โอตะ จึงเป็นที่น่าสงสัยอย่างมากว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับนางาฮิโกะ อิโตะ!
การตายที่ไม่ชัดเจนของฟูจิบายาชิ โอตะ ทำให้ทากาฮาชิ มาจิรู้สึกเหมือนกำลังถูกคนอื่นจับตามองเขาอยู่ ตอนนี้พี่น้องของตระกูลซูถูกลักพาตัวอีกครั้ง เขาก็ต้องคิดไปที่นางาฮิโกะ อิโตะโดยธรรมชาติ
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาทันที!
นางาฮิโกะ อิโตะสามารถฆ่าคนของตระกูลซูได้มากกว่าสิบคน และลักพาตัวพี่น้องตระกูลซูไป บางทีเขาอาจจะลงมือทำกับตัวเองก็ได้!
มีคนจำนวนมากในตระกูลซูถูกสังหาร ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นได้ว่ากองกำลังที่นางาฮิโกะ อิโตะรวบรวมมานั้นแข็งแกร่งมาก และตัวเองก็ต้องเสริมความแข็งแกร่งในการปกป้องความปลอดภัย!
ดังนั้น เขาจึงโทรหาฟูจิบายาชิ มาสะซึ่งกำลังเฝ้าติดตามเย่เฉินอยู่ในทันที และกล่าวอย่างประหม่าทันทีที่เขาอ้าปากพูดว่า “ฟูจิบายาชิ มาสะ พวกเจ้าทั้งสามคนรีบกลับมาที่โตเกียว และกลับมาเดี๋ยวนี้เลย!”
ฟูจิบายาชิ มาสะถามด้วยความประหลาดใจว่า “กลับไปโตเกียวเดี๋ยวนี้เหรอ? คุณทากาฮาชิ หรือว่าเราไม่ต้องไปติดตามคนจีนคนนั้นแล้วเหรอ?”
ทากาฮาชิ มาจิพูดโพล่งออกมาว่า “ไม่มีเวลาไปสนใจกับเขามากแล้ว นางาฮิโกะ อิโตะไอ้สารเลวคนนั้นคาดว่าจะเป็นคนที่ลักพาตัวคนของตระกูลซูไป เกรงว่าในครั้งนี้เขาอาจจะสู้ตายกับผมแล้ว! พวกคุณรีบกลับมาปกป้องความปลอดภัยให้ผมทันที!”