ในเวลานี้ เย่เฉินกำลังเดินเล่นอยู่ที่ถนนคนเดินในโอซาก้า
ที่ออกมาข้างนอกในครั้งนี้ เขาก็ยังคงไม่ยอมให้เฉินจื๋อข่ายและคนอื่นๆ ติดตามมาด้วย
เหตุผลก็คือ เขาอยากจะใช้โอกาสจากเวลานี้ กำจัดนินจาที่เหลืออีกสามคนที่ติดตามเขาอยู่โดยตรง
เนื่องจากโอซาก้าเป็นจุดสุดท้ายของธรกิจ ในการเดินทางญี่ปุ่นในครั้งนี้ ดังนั้น เขาอยากจะกำจัดผู้ติดตามสามคนนี้อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็รีบไปที่เกียวโต
เขาจงใจนำฟูจิบายาชิ มาสะทั้งสามคนออกจากย่านใจกลางเมือง เตรียมหาสถานที่ที่เหมาะสมในการลงมือ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือ แต่เดิมคนสามคนที่เดินตามเขาอย่างเงียบๆ ซึ่งอยู่ห่างออกไปสองสามร้อยเมตร ก็เริ่มหันหลังและเดินกลับไป
เย่เฉินอดไม่ได้ที่จะแอบสงสัยว่า “นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? พวกเขาไม่ติดตามผมอีกแล้วเหรอ หรือว่าพวกเขาจะสังเกตได้อะไรบางอย่างงั้นเหรอ?”
“แต่ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ ผมตัวคนเดียว ไม่ได้แสดงเจตนาการโจมตีใดๆ แม้กระทั่งทำเหมือนไม่รู้ว่ามีพวกเขาอยู่ด้วยซ้ำ พวกเขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ
“หรือว่าพวกเขาจะมีเรื่องรีบร้อนอะไร? หรือว่า ทากาฮาชิ มาจิคนนั้นยอมแพ้ปล่อยให้พวกเขาเลิกติดตามผมงั้นเหรอ?”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เย่เฉินก็ถอนหายใจ หันหลังกลับมา และเริ่มติดตามสามคนนี้กลับไป
เขาไม่อยากทิ้งอันตรายที่ซ่อนอยู่ให้กับตัวเอง ยังไงซะนินจาพวกนี้ก็ติดตามเขามานานมากแล้ว ถ้าตัวเองปล่อยให้พวกเขาจากไปแบบนี้ ใครจะรู้ว่าพวกเขาจะกลับมาฆ่าเขาอีกหรือเปล่า?
แม้กระทั่ง ใครจะไปรู้ว่าหลังจากที่พวกเขารู้ว่าตัวเองได้ออกจากญี่ปุ่นไปแล้ว จะตามไปหาเรื่องตัวเองที่เมืองจินหลิงหรือไม่?
เมืองจินหลิงมีภรรยาของตัวเองเซียวชูหรันอยู่ ซึ่งนั่นเป็นจุดอ่อนของตัวเอง ไม่ว่าจะยังไงก็ไม่สามารถปล่อยให้เธอตกอยู่ในอันตรายได้!
ดังนั้น ในวันนี้ ให้สามคนนี้ทิ้งชีวิตของพวกเขาไว้ที่นี่เลยจะดีกว่า!
ฟูจิบายาชิ มาสะไม่คาดคิดว่าเย่เฉินจะหันกลับมาติดตามพวกเขา เขารู้สึกมาตลอดว่าเย่เฉินน่าจะยังไม่ได้สังเกตเห็นการดำรงอยู่ของพวกเขา ดังนั้นตอนนี้เขาจึงพารุ่นน้องสองคน และรีบวิ่งไปในทิศทางของโรงแรม
ตอนนี้ฟ้ามันเริ่มมืดแล้ว และเป็นไปไม่ได้ที่อยากจะเดินทางจากโอซาก้าไปโตเกียวด้วยชิงกันเซ็งและเครื่องบิน ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดก็คือการขับรถไปจนสุดทาง
ถ้าขับรถเร็ว ก็จะสามารถไปถึงโตเกียวได้ภายในห้าถึงหกชั่วโมง
ดังนั้น พวกเขาต้องกลับไปที่โรงแรมเพื่อไปรับรถ จากนั้นก็ออกเดินทางอย่างรวดเร็ว ไปยังกรุงโตเกียว
ทั้งสามคนเดินทางอย่างรีบร้อนตลอดทาง และมาถึงโรงแรมอย่างรวดเร็ว
ที่ทางเข้าโรงแรม ฟูจิบายาชิ มาสะกล่าวสั่งว่า “เจ้ารอง คุณกลับไปเก็บของที่ห้องกับผม เจ้าสาม คุณไปเอารถที่ชั้นใต้ดิน แล้วมารออยู่ที่ทางเข้าโรงแรม เราจะรีบลงมาพบกับคุณโดยเร็วที่สุด!”
“โอเค!” เจ้าสามพยักหน้า และทั้งสามคนก็แบ่งออกเป็นสองกลุ่ม สองคนใช้ลิฟต์ขึ้นไปชั้นบนไปที่ห้องและเก็บสัมภาระแบบลวกๆ และเก็บอุปกรณ์ตรวจสอบ และอีกคนหนึ่งก็ขึ้นลิฟต์ไปที่โรงเก็บรถใต้ดินเพื่อไปเอารถ
ทันทีที่ฟูจิบายาชิ มาสะเข้าไปในลิฟต์ เขาก็รีบโทรไปรายงานกับทากาฮาชิ มาจิ
ทันทีที่รับสาย เขาก็รีบพูดด้วยความเคารพว่า “คุณทากาฮาชิ เราจะกลับไปโตเกียวในอีกห้านาที และคาดว่าจะถึงในอีกสี่ชั่วโมง! ภายในสองสามชั่วโมงนี้ โปรดคุณอยู่แต่ในบ้านและอย่าเดินไปทั่ว ทุกเรื่องรอให้พวกเรากลับไปแล้วค่อยคุยกัน”
ทากาฮาชิ มาจิพูดด้วยความตื่นตระหนกเล็กน้อยว่า “ฟูจิบายาชิ เมื่อกี้นี้ผมได้ให้คนไปสืบมาแล้ว ว่ากันว่าวิธีการของอีกฝ่ายนั้นดุร้ายมาก และแม้แต่ก๊าซซารินก็ถูกนำมาใช้ นี่แม่งมันบ้าไปแล้วจริงๆ! ตอนนี้ผมกลัวว่าพวกเขาจะลงมือกับผมมาก ตระกูลฟูจิบายาชิของพวกคุณยังมีผู้ยอดฝีมืออีกกี่คนในโตเกียว? รีบให้พวกเขามาปกป้องผมที่บ้านของผมทั้งหมด!”
ฟูจิบายาชิ มาสะรีบพูดว่า “คุณทากาฮาชิ ตอนนี้เราไม่มีกำลังคนมากพอที่จะใช้ได้ในโตเกียวแล้ว เพราะกำลังคนที่เหลืออยู่ถูกส่งไปเกียวโตหมดแล้ว และกำลังจับจ้องไปที่อิโตะ นานาโกะ จะให้ผมแจ้งให้พวกเขารีบกลับไปไหม?”
ทากาฮาชิ มาจิลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดว่า “ไม่จำเป็น! ให้พวกมันอยู่ที่เกียวโตไปเถอะ! ตราบใดที่พวกเขาสามารถควบคุมอิโตะ นานาโกะได้ ผมก็ยังพอจะมีทุนที่จะไกล่เกลี่ยกับนางาฮิโกะ อิโตะ!ไม่สามารถปล่อยให้ไข่ไก่อยู่ในกรงเดียวกันได้!”
ฟูจิบายาชิ มาสะพูดทันทีว่า “โอเค งั้นพวกเราสามคนจะกลับไปก่อน เราจะต้องปกป้องความปลอดภัยของคุณให้ดีอย่างแน่นอน!”
ในเวลาเดียวกัน ศิษย์น้องสามของฟูจิบายาชิ มาสะก็ลงจากลิฟต์ที่ชั้นใต้ดินชั้นสอง และรีบวิ่งไปที่หน้ารถ
ทันทีที่เขากำลังจะปลดล็อคประตูเพื่อเข้าไปในรถ ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่ามีแรงเข้ากระชากคอของเขาโดยตรงจากด้านหลัง!
ทันทีหลังจากนั้น เขาก็เห็นคนใช้มีดคุไน จี้ที่คอของตัวเองอย่างแน่นหนา!
อีกอย่าง เขาก็รู้จักกับมีดคุไนนี้ด้วย! มันเป็นสิ่งที่ศิษย์น้องเล็กของตัวเองฟูจิบายาชิ โอตะที่เป็นเจ้าของ!
เขาพึมพำอยู่ในใจด้วยความตื่นตระหนกว่า “หรือว่า คนคนนี้ ก็คือคนที่ฆ่าศิษย์น้องเล็ก!”
เขาตกใจไปหมดทั้งคน และพูดโพล่งออกมาว่า “พี่ใหญ่โปรดไว้ชีวิตผมด้วย อย่าฆ่าผมเลยนะครับ!”
เย่เฉินพูดอย่างเย็นชาว่า “ถ้าอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อ ก็ทำตามที่ผมพูด!”
เขาพยักหน้าอย่างรวดเร็วราวกับโขลกกระเทียม “ผมจะฟังของคุณทั้งหมดเลย คุณอย่าหุนหันพลันแล่น มีดคุไนนี้ทายาพิษที่ดุร้าย ถึงแค่จะโดนผิวหนังเพียงเล็กน้อยก็คงไม่รอดแล้ว……..”
……