บทที่ 3013 กอบกู้โลก + ตอนที่ 3014 เหลืออีกสามวัน

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 3013 กอบกู้โลก

พวกเสี่ยวเป่ามุ่งหน้าต่อไป ยิ่งเดินลึกเข้าถ้ำไปก็ยิ่งแคบลง สุดท้ายก็เข้าได้แค่ทีละคน กำแพงถ้ำอับชื้นเย็นยะเยือกแล้วยังมีลมเย็นพัดผ่านมาเป็นระยะ ๆอีกด้วย

“ปากถ้ำนี้คงมีทางออกอีกหลายทาง นายดูทิศทางลมพวกนี้สิ มันไม่ได้มาจากทิศทางเดียวกันทั้งหมด” เสี่ยวเป่ายื่นมือสัมผัสอยู่ครู่หนึ่งก็ได้ผลสรุปดังกล่าว

เสี่ยวจูพยักหน้า “ฉะนั้น…ถึงได้มีสัตว์ประหลาดบางส่วนโผล่มาจากสวนดอกไม้ มีบางส่วนมาจากนอกหุบเขา ความจริงพวกเขาล้วนออกมาจากถ้ำเหมือนกันแต่คนละเส้นทางเท่านั้นเอง”

“ไม่รู้ในถ้ำมีสัตว์ประหลาดอีกมากเท่าไร แล้วที่อื่น ๆมีอีกหรือเปล่า?” เล่อเล่อครุ่นคิด

หลงเฟิงที่เงียบมาตลอดทางหลังได้สติก็เอ่ยว่า “เคยเจอสัตว์ประหลาดตัวแรกตั้งแต่ห้าปีก่อนในหมู่บ้านหนึ่งในมณฑลอวิ๋น ชาวบ้านที่นั่นยังรักษาขนบธรรมเนียมในการดื่มน้ำเย็นอยู่ คนที่มีอาการเป็นชายโสดคนหนึ่ง เขาเกือบจะกัดครอบครัวที่อยู่ข้างบ้านตายเลยทีเดียว”

“ชายโสดคนนั้นมีอาการเหมือนสัตว์ประหลาดพวกนี้เหรอ?”

หลงเฟิงพยักหน้ารับ “ใช่แล้ว แต่หมู่บ้านนั่นชาวบ้านส่วนมากเป็นนายพราน ชายโสดคนนั้นถูกขับไล่ให้เข้าไปอยู่บนหุบเขาใหญ่กลายเป็นคนป่า ตอนนั้นฉันกับเพื่อนร่วมงานอีกคนได้รับคำสั่งให้ไปฆ่าสัตว์ประหลาดนั่นบนหุบเขาใหญ่”

เสี่ยวเป่าทำหน้าจริงจังพลางถาม “ภายหลังยังมีอีกไหม?”

หลงถูเล่าต่อ “แน่นอน จากนั้นก็พบอีกหลายสิบตัวไม่ขาดสายอยู่กันกระจัดกระจายกันไป แต่คนพวกนี้ล้วนติดนิสัยดื่มน้ำเย็น คนในพื้นที่บอกว่าพวกเขาถูกผีเข้าสิง กลุ่มมังกรของเราตามสืบอยู่นานห้าปีถึงรู้ว่าต้นตอโรคนี้มาจากน้ำ แต่ไม่มั่นใจว่าแหล่งต้นน้ำอยู่ที่ไหน”

เสี่ยวเป่าถามอีก “พวกนายมาที่นี่ไม่ใช่เพราะเชื้อไวรัสเหรอ?”

สองคนส่ายศีรษะ “เรามาเพื่อชีพจรมังกร ถ้ารู้สถานการณ์ที่นี่แต่แรกทางองค์กรคงไม่ส่งแค่เราสองคนมาหรอก”

คาดว่าต่อให้ยกกันมาทั้งกลุ่มมังกรก็กำจัดสัตว์ประหลาดพวกนี้ไม่หมดหรอก!

อีกทั้ง…พวกเขาไม่อาจปฏิเสธได้ว่าต่อหน้าเด็กพวกนี้ กลุ่มมังกรของพวกเขาไม่มีอะไรให้น่าภูมิใจเลยจริง ๆ และไม่มีทางทำได้ดีกว่าเด็กกลุ่มนี้เลย!

เสี่ยวจูง่วนอยู่กับคอมพิวเตอร์พักหนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้นมาด้วยเสียงราบเรียบ “เชื้อไวรัสในน้ำกำลังกลายพันธุ์ไม่หยุด ตอนนี้ใช้อุณหภูมิสูงยังฆ่าเชื้อไวรัสได้ แต่ถ้าเชื้อไวรัสพัฒนาไปถึงระดับขีดสุด อุณหภูมิสูงก็ใช้ฆ่าไม่ได้แล้ว”

“แล้วจะเป็นอย่างไรต่อ?” ทุกคนถามออกมาเป็นเสียงเดียวกัน

“คนทั้งประเทศคงหนีไม่พ้นจนถึงขั้นลามไปทั่วโลก หนิงเฉินเซวียนอยากให้โลกทั้งใบตายไปพร้อมกับเขา” เสี่ยวจูทำสีหน้าเคร่งเครียด

“เขาบ้าไปแล้ว บ้าไปแล้วจริง ๆ…” ทุกคนหายใจสะดุด ความยะเยือกถาโถมเข้ามาในใจไม่หยุดหย่อน

ฐานนิวเคลียร์ก็ว่าบ้ามากพอแล้ว พอเทียบกับเชื้อไวรัสอันน่ากลัวชนิดนี้ฐานนิวเคลียร์นั่นเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยไปเลย ยิ่งกว่านั้นยังมีความเป็นไปได้ว่าหนิงเฉินเซวียนต้องการใช้เรื่องนี้มาตบตาผู้คนเท่านั้น แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงของเขาเพื่อสร้างวันสิ้นโลก!

เสี่ยวเป่าทำหน้าเคร่งเครียดขึ้นยิ่งกว่าเดิม พลันเขาก็นึกถึงข้อสันนิษฐานที่บ้าบิ่นอย่างหนึ่ง

เสี่ยวจูมองมาทางเขาแวบหนึ่ง ทั้งคู่รู้ใจอีกฝ่ายดีแต่ไม่ได้พูดออกมา

“เชื้อไวรัสใช้เวลากลายพันธุ์นานแค่ไหน?” เสี่ยวเป่าถาม

“ประมาณสามวัน หรือจะพูดให้ถูกต้องคงไม่ต้องถึงสามวัน ฉันแค่คาดการณ์คร่าว ๆเท่านั้น” เสี่ยวจูยักไหล่

“งั้นก็นับว่าสามวันแล้วกัน เท่ากับว่าเราต้องกำจัดสัตว์ประหลาดพวกนี้ให้หมดภายในเจ็ดสิบชั่วโมง ทั้งยังต้องกำจัดเชื้อไวรัสในน้ำไปด้วย ไม่งั้น…ก็คงต้องรอวันสิ้นโลกมาเยือนแล้วละ!”

เสี่ยวเป่าเอ่ยเสียงจริงจัง ทุกคนกลั้นหายใจพร้อมกันอย่างอดไม่ได้ กอบกู้โลก…ภาระหน้าที่ที่แสนจะมีเกียรตินี้ตกมาอยู่ในมือพวกเขาโดยปริยาย

“เราจะทำสำเร็จไหม?” สือเอ้อร์ถามเสียงเบา

“สำเร็จ ต้องสำเร็จ!” ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกัน

ถอยไม่ได้ มีแต่ลุยไปข้างหน้าเท่านั้น!

……………………….

ตอนที่ 3014 เหลืออีกสามวัน

“ฉันติดต่อไปทางศูนย์บัญชาการใหญ่ก่อนว่าให้พวกเขาส่งกำลังเสริมมาช่วยแล้วกัน” หลงเฟิงหยิบโทรศัพท์ที่เชื่อมต่อกับดาวเทียมออกมา

เสี่ยวจูมองเขาด้วยใบหน้าเรียบเฉย “โทรศัพท์ของนายโทรไม่ติดหรอก”

“เป็นไปไม่ได้ ของฉันเชื่อมต่อกับดาวเทียม…เอ๊ะ…ทำไมถึงโทรไม่ติดล่ะ?” หลงเฟิงมองโทรศัพท์ด้วยความตกใจ โทรไม่ติดจริง ๆและไม่มีสัญญาณเลยสักนิดเดียว

หลงถูก็หยิบโทรศัพท์ของเขาออกมาแล้วพบว่าไม่มีสัญญาณเหมือนของเขาเช่นกัน

“ของเราโทรติดไหม?” เล่อเล่อรีบล้วงโทรศัพท์ของเธอออกมาก็พบว่าไร้ซึ่งสัญญาณเช่นเดียวกันเลยอดลนลานไม่ได้

พวกเน่าเน่าหยิบโทรศัพท์ออกมาตาม ๆกันซึ่งล้วนไม่มีสัญญาณกันทั้งนั้น เสี่ยวจูถอนหายใจเบา ๆ “ของฉันก็ไม่มีสัญญาณ สัญญาณถูกตัดตั้งแต่เข้ามาในถ้ำแล้ว”

“เกิดอะไรขึ้น?”

เสี่ยวจูหยิบกล่องสีดำขนาดเล็ก ๆเท่าฝ่ามือใบหนึ่งออกมา เขาดึงเสาสัญญาณหนึ่งขึ้นแล้ววางติดกับกำแพงถ้ำไว้ จากนั้นก็เกิดเสียงติ๊ดติ๊ดดังออกมาจากกล่องใบนั้น

“นี่เป็นเครื่องวัดคลื่นสนามแม่เหล็ก ละแวกถ้ำมีสนามแม่เหล็กขนาดใหญ่ที่คอยรบกวนสัญญาณอยู่” เสี่ยวจูเก็บกล่องดำใส่กระเป๋าดังเดิมแล้วอธิบายสาเหตุที่ไม่มีสัญญาณ

“แต่ตอนอยู่บนพื้นดินยังมีสัญญาณอยู่เลย!” เล่อเล่อไม่เข้าใจ

เสี่ยวเป่ายิ้มกล่าว “เราเดินทางมาสี่ชั่วโมงกว่าและเวลาส่วนมากก็ลอยอยู่บนน้ำ คาดว่าคงอยู่ห่างจากหุบเขาอย่างน้อยห้าสิบกิโลเมตรแล้วละ”

เล่อเล่อตบหน้าผากทีหนึ่ง เธอลืมเรื่องนี้ไปเสียหมด เธอฟาดเสี่ยวจูทีหนึ่งแล้วออกคำสั่ง “นายรีบจดตำแหน่งนี้ไว้ กลับไปแจ้งกรมเหมืองแร่ให้พวกเขามาขุดแร่ที”

“ขุดไม่ได้ พื้นที่ตรงนี้ไม่เหมาะกับการขุดเหมือง” เสี่ยวจูหาเหตุผลหนึ่งมาเป็นข้ออ้าง

หลายปีมานี้มนุษย์ขุดเหมืองแร่อยู่เรื่อย ๆและดีแต่มาเอาผลประโยชน์จากธรรมชาติ ภัยพิบัติเลยเริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆแต่มนุษย์กลับไม่รู้จักสำนึกผิด สักวันหนึ่งพวกเขาจะถูกธรรมชาติลงโทษในไม่ช้าก็เร็ว

ไม่สิ…ความจริงธรรมชาติเริ่มลงโทษแล้ว!

แผ่นดินไหว สึนามิ พายุ น้ำท่วมน้ำป่าไหลหลากที่เป็นภัยพิบัติจากธรรมชาติต่างๆ เริ่มเกิดบ่อยขึ้นเรื่อยๆ ล้วนเป็นการเอาคืนมนุษย์จากธรรมชาติที่ถูกทำลายไปอย่างมหาศาล แต่มนุษย์ยังไม่รู้จักปรับปรุงตัว

ดังนั้น…เสี่ยวจูไม่มีวันให้มนุษย์มาทำลายภูเขาใหญ่เก่าแก่แห่งนี้แน่นอน

เล่อเล่อหลงเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงจึงไม่ได้พูดอะไรอีก

เสี่ยวเป่ากับสือเอ้อร์ รวมถึงพวกหลงเฟิงหลงถูมองอย่างรู้ทันแต่ไม่ได้เปิดโปงคำลวงของเสี่ยวจู ในเมื่อเรื่องปกป้องพื้นธรณีของธรรมชาติมีจุดประสงค์ตรงกัน

“เรามีภารกิจสองอย่าง อย่างแรกคือกำจัดสัตว์ประหลาด อย่างที่สองหาวิธีถอนพิษ สองภารกิจนี้ต้องทำให้สำเร็จในสามวัน เริ่มได้!”

เสี่ยวเป่ายื่นมือออกมา คนอื่น ๆก็แปะมือตาม ๆกัน “สู้กันเถอะ ต้องชนะ!”

เสี่ยวจูให้เน่าเน่าโค้งตัวลงเพื่อวางคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กหรือก็คือโน้ตบุ๊กไว้บนหลังเขา นิ้วมือเคาะบนแป้นพิมพ์อย่างว่องไวจนจับตามองไม่ทัน โค้ดบนหน้าจอเด้งขึ้นมาอย่างรวดเร็วผ่านตาไปโดยไม่มีใครมองเห็นอย่างชัดเจน

“ฉันหาวิธีถอนพิษได้แล้ว แต่ยังไม่มีการทดสอบ ไปกันเถอะ เราไปหาหัวหน้าแสนลึกลับคนนั้นกัน”

เสี่ยวจูเก็บโน้ตบุ๊กใส่กระเป๋าแล้วเดินหน้าต่อ เจสันตามอยู่ด้านหลังคิดไม่ตกสักทีก็โพล่งคำถามที่อัดอั้นอยู่ในใจมานานไปว่า “โน้ตบุ๊กของนายไม่ต้องชาร์ตแบตเหรอ? ฉันเห็นใช้มาหลายวันแล้ว!”

“ไม่ต้อง ชาร์ตไฟด้วยพลังงานจากแสงอาทิตย์ก็พอ!”

“ดีจัง ซื้อได้จากที่ไหนเหรอ?” เจสันดีใจสุดฤทธิ์ เขาก็อยากได้โน้ตบุ๊กเครื่องกะทัดรัดแถมไม่ต้องคอยชาร์ตไฟแบบนี้เหมือนกัน ต่อให้แพงแค่ไหนก็ซื้อได้

“ฉันประกอบเอง หาซื้อไม่ได้”

“งั้นนายช่วยประกอบให้ฉันสักเครื่องได้ไหม? ฉันจ่ายเงินให้”

“ไม่ได้ อีกอย่างนายอาจไม่มีโอกาสได้ใช้ก็ได้”

“ทำไมล่ะ?” เจสันไม่เข้าใจ

เสี่ยวจูนึกเสียใจภายหลังเหลือเกินที่เมื่อกี้เผลอตอบเจสันไปประโยคหนึ่ง เขารำคาญจะตายอยู่แล้ว เขาหันกลับมาตอบเสียงเรียบ “เพราะคนตายไม่จำเป็นต้องใช้โน้ตบุ๊ก!”

…………………