เนื่องจากภรรยาคนปัจจุบันไม่ชอบลูกชายคนโตของมัตสึโมโตะโยชิโตะ หลังจากที่เขาแต่งงานกับภรรยาคนปัจจุบัน มัตสึโมโตะโยชิโตะก็ไล่ลูกชายคนโตออกจากบ้านไปอยู่กับภรรยาคนเก่า

หลังจากนั้น ภรรยาคนปัจจุบันของมัตสึโมโตะโยชิโตะก็ให้กำเนิดลูกชายและลูกสาว ทำให้หลายปีที่ผ่านมา เขานึกถึงลูกชายคนโตกับภรรยาคนเก่าน้อยมาก

แต่ตอนนี้ มัตสึโมโตะโยชิโตะนึกถึงภรรยาคนเก่าและลูกชายคนโตทันที และในที่สุดเขาก็รู้สึกสบายใจเล็กน้อย

อย่างน้อย หลังจากที่ตัวเองตายไป สายเลือดของตระกูลมัตสึโมโตะก็ไม่ได้หมดไปในคืนนี้

ลูกชายคนโตของตัวเอง จะเป็นผู้สืบทอดสายเลือดของตระกูลมัตสึโมโตะต่อไป

สำหรับมัตสึโมโตะโยชิโตะในตอนนี้ ไม่มีอะไรที่ทำให้เขาดีใจและโชคดีเท่ากับเรื่องนี้อีกแล้ว

ผู้หญิงของตระกูลซูที่อยู่ตรงหน้าเขา ดูเหมือนเธอจะมองความคิดของเขาออก

ผู้หญิงคนนั้นยิ้มอย่างเยาะเย้ย และพูดกับมัตสึโมโตะโยชิโตะว่า:”คุณมัตสึโมโตะ ได้ข่าวว่าคุณยังมีลูกชายอีกหนึ่งคนใช่ไหม?”

มัตสึโมโตะโยชิโตะตกใจมากๆและพูดทันที:”ฉันไม่มี! คุณฟังเรื่องนี้มาจากไหน? มันเป็นไปได้ยังไง!”

ผู้หญิงคนนั้นหัวเราะ:”ทุกคนต่างเป็นผู้ใหญ่ คำโกหกโง่ๆแบบนี้ คุณไม่จำเป็นต้องพูดออกมาให้ตัวเองขายขี้หน้า”

เมื่อพูดจบ เธอก็พูดอย่างเย็นชา:”ลูกชายคนโตของคุณชื่อมัตสึโมโตะทาโร หลังจากที่คุณไล่เขาออกจากบ้าน เขาก็เปลี่ยนนามสกุล และใช้นามสกุลของภรรยาเก่าของคุณ และเขาก็เปลี่ยนชื่อเป็นคูโรซาวะโชตะ ตอนนี้อายุสิบสองปี พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ที่จังหวัดยามานาชิที่อยู่ไม่ไกลจากโตเกียว คุณคิดว่าฉันพูดถูกไหม?”

เมื่อมัตสึโมโตะโยชิโตะได้ยินคำพูดของเธอ เขาอึ้งเหมือนโดนฟ้าผ่า

ผ่านไปชั่วครู่ น้ำตาก็ไหลเต็มหน้าของเขา เขาตัวสั่นและคุกเข่าลงพื้น อ้อนวอนอย่างขมขื่นว่า:”ฉันขอร้องละ อย่าฆ่าลูกชายของฉันเลย ฉันเหลือเพียงลูกชายคนสุดท้ายแล้ว ถ้าเขาตายจริงๆ สายเลือดของตระกูลมัตสึโมโตะก็จะหมดไป ได้โปรดเหลือสายเลือดสุดท้ายของตระกูลมัตสึโมโตะได้ไหม! ฉันคุกเข่าคำนับให้คุณก็ได้!”

เมื่อพูดจบ มัตสึโมโตะโยชิโตะก็คำนับด้วยการเอาศีรษะกระแทกกับพื้นหินอ่อนอย่างแรง

เขาในเวลานี้ รู้สึกสิ้นหวังและเสียใจอย่างมาก แต่เขารู้ตัวดี ศพของครอบครัวทั้งหมดถูกเรียงอยู่ด้านหน้าของเขา และเขาก็ไม่มีทางแก้ไขอะไรได้แล้ว แม้แต่ชีวิตของตัวเองก็ไม่สามารถปกป้องได้ ดังนั้นความหวังเดียวของเขาก็คือให้ลูกชายคนโตมีชีวิตต่อไป

ดังนั้น ในเวลาที่เขาคุกเข่าคำนับ เขาก็ทำอย่างจริงจัง โดยหวังว่าการกระทำของเขาจะทำให้ผู้หญิงที่เยือกเย็นคนนี้เห็นใจ

มัตสึโมโตะโยชิโตะคุกเข่าคำนับไปสามครั้ง หน้าผากของเขาก็เต็มไปด้วยเลือดสด

แต่เขาไม่กล้าหยุด ยังคงคุกเข่าคำนับต่อ จนหน้าผากของเขาบาดเจ็บสาหัสและเต็มไปด้วยเลือด และเขาใกล้จะหมดสติเพราะศีรษะกระแทกกับพื้นอย่างแรง

มัตสึโมโตะโยชิโตะกัดฟันตัวเองและพยายามประคองร่างกาย และในปากก็พูดพึมพำ:”ได้โปรด! ได้โปรด! ได้โปรด!!! ได้โปรดรับปากคำขอสุดท้ายของฉันด้วย!!!”

ในเวลานี้ผู้หญิงคนนั้นยิ้มอย่างเยาะเย้ยและพูด:”ต้องขอโทษจริงๆ คุณพูดสายเกินไปแล้ว เมื่อห้านาทีที่แล้ว คูโรซาวะโชตะถูกวางยาพิษและตายไปแล้ว!”

เมื่อมัตสึโมโตะโยชิโตะได้ยินคำพูดนี้ เขาก็สติแตกทันที เขาเงยหน้าขึ้นมา ตะโกนอย่างบ้าคลั่ง:”ทำไม! ทำไมพวกคุณต้องฆ่าล้างคนของตระกูลมัตสึโมโตะด้วย?! ทำไมต้องฆ่าล้างทุกคนให้สิ้นซากด้วย?!”

ผู้หญิงคนนั้นพูดอย่างเย็นชา:”นี่คือผลลัพธ์ที่คุณคิดร้ายต่อตระกูลซูและทำให้ตระกูลซูโกรธ!”

น้ำตาของมัตสึโมโตะโยชิโตะไหลลงมาทันที และน้ำตาของเขาก็เป็นสีเลือด ทำให้ใบหน้าของเขาดูน่าเวทนามากๆ

เขาในเวลานี้กลายเป็นคนที่หมดอาลัยตายอยากแล้ว เขาพูดพึมพำ:”ฆ่าฉันเถอะ ฆ่าฉันเดี๋ยวนี้เลย!”

ผู้หญิงคนนั้นก็พยักหน้า หยิบหยกสีขาวที่เกาะสลักเป็นเมล็ดทานตะวันออกมาจากกระเป๋าและพูดเบาๆ:”มัตสึโมโตะโยชิโตะ ก่อนที่คุณจะตาย ฉันหวังว่าคุณจะจำชื่อของฉันไว้ ฉันชื่อซูรั่วหลี!”

เมื่อพูดจบ เธอก็สะบัดมือ หยกสีขาวที่เกาะสลักเป็นเมล็ดทานตะวันก็พุ่งออกไป

ผ่านไปหนึ่งวินาที ระหว่างคิ้วของมัตสึโมโตะโยชิโตะก็มีรูเล็กๆที่มีเลือดปรากฏขึ้น มีเสียงตูมดังขึ้น เขาก็ล่มลงกับพื้นและเสียชีวิตทันที!