ตอนที่ 2066 ศรที่พุ่งทะลวงฟ้าดารา

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

หนึ่งพริบตา!

ในสายตาของผู้บำเพ็ญธรรมโบราณ ชั่วขณะคือหนึ่งห้วงคิด ยี่สิบห้วงคิดคือหนึ่งพริบตา ยี่สิบพริบตาคือชั่วดีดนิ้ว

จวินหวนเป็นที่รู้จักในนาม ‘ชั่วขณะมรรคว่างเปล่า มรรคกระบี่สุดแพรวพราว’ นี่คือการบรรยายว่ามรรคกระบี่ของนางรวดเร็วว่องไว ถึงขั้นสะเทือนใต้หล้า

สำหรับหลินสวิน อภินิหารหยุดเวลาที่ครอบครอง ก็ทำให้ระเบียบเวลาหยุดชะงักได้หนึ่งพริบตา!

สำหรับบุคคลระดับจักรพรรดิ หนึ่งพริบตา ล้วนเพียงพอให้ทำอะไรได้มากมาย

อย่างเช่น การตัดสินเป็นตาย!

ด้วยเหตุนี้เมื่อได้ยินคำพูดของหลินสวิน เย่จื่อจึงพูดตามจิตใต้สำนึก “หากมีโอกาสหนึ่งพริบตา ย่อมเพียงพอให้ข้าสังหารเจ้าเฒ่าระดับจักรพรรดิขั้นห้านั่น แต่ถ้าจะฆ่าเจ้าเฒ่าอีกคนพร้อมกันนั้นยากมาก”

“เพียงพอแล้ว”

นัยน์ตาดำหลินสวินลุ่มลึก กล่าว;jk “ฆ่าคนที่รับมือยากก่อน อีกคนก็จัดการได้ง่ายแล้วไม่ใช่หรือ”

เย่จื่ออดสงสัยไม่ได้ ไม่รู้ว่าหลินสวินเอาความมั่นใจมาจากไหน

“เย่จื่อ เชื่อข้า ประเดี๋ยวเจ้าแค่ลงมือตามที่ข้าบอกก็พอ”

หลินสวินไม่อธิบายนัยเร้นลับของอภินิหารหยุดเวลา นี่เป็นสิ่งที่ยากจะอธิบายให้ชัดเจน ถึงอย่างไรก็เกี่ยวข้องกับพลังของกฎเกณฑ์เวลา อย่างน้อยบนทางเดินโบราณฟ้าดารานี้ เกรงว่าคงไม่มีใครอธิบายปริศนาที่อยู่ในนั้นได้

“ได้!”

เย่จื่อรับปากโดยไม่ต้องคิด

“ตอนนี้พวกเราไปหาหมาแก่สองตัวนี้กัน”

หลินสวินและเย่จื่อหยุดเคลื่อนไหวพร้อมกัน

ฟ้าดาราแถบนี้กว้างใหญ่ไพศาล หมู่ดาวเจิดจรัส มองไม่เห็นโลกมืดนานแล้ว ดูเปล่าเปลี่ยวและกว้างใหญ่หาใดเปรียบ

“เจ้าเดรัจฉาน ทำไมไม่หนีแล้วเล่า”

ตูม!

ในห้วงอากาศปั่นป่วน รุ้งเทพสองสายทะลวงฟ้ามาเยือน อานุภาพชวนตะลึง จากนั้นก็กลายเป็นเงาร่างของชายชุดเทาและชายชราชุดหรูนั่น

คนที่เอ่ยปากคือชายชุดเทา ตัวตนน่ากลัวระดับจักรพรรดิขั้นห้าคนหนึ่ง

สีหน้าเขาเย็นชา ชำเลืองมองหลินสวินวูบหนึ่ง เมื่อเหลือบสายตาไปยังวิญญาณกระบี่เย่จื่อ นัยน์ตาเขาก็เปลี่ยนเป็นเร่าร้อนขึ้นมาทันที

เขานึกขึ้นได้ว่าไม่นานมานี้ สาเหตุที่จักรพรรดิกระบี่เยือกแข็งแห่งเรือนมรรคจักรวาลออกเคลื่อนไหว ก็เป็นเพราะวิญญาณกระบี่ที่อัศจรรย์หาใดเปรียบนี่!

ยามนี้เมื่อได้เห็นจึงทำให้เขาอดเกิดความโลภอย่างรุนแรงขึ้นมาไม่ได้

“เขาเป็นของข้า”

ชายชราชุดหรูที่อยู่ข้างๆ กล่าวขึ้นมาทันใด แววตาเขาล้ำลึก จ้องมองเย่จื่อเช่นกัน

“เช่นนั้นก็ต้องดูว่าใครจะชิงไปได้”

ชายชุดเทาไม่ยอมถอยแม้แต่น้อย

ทันทีที่ทั้งสองมาถึงก็มองเย่จื่อเป็นเหยื่อ ระหว่างพูดคุยล้วนมองข้ามหลินสวินไปทั้งอย่างนั้น

กลับเห็นหลินสวินกล่าวทอดถอนใจเบาๆ “พวกเจ้าสองคนน่าจะไม่ใช่พวกไร้ชื่อ แต่กลับยอมเป็นสุนัข ถ้าแค่นั้นก็แล้วไปเถอะ ถึงอย่างไรจะเป็นหมาหรือไม่ก็เป็นเรื่องของพวกเจ้า แต่พวกเจ้ากลับวิ่งมาหาที่ตายซะอย่างนั้น โง่งมอะไรปานนี้”

ชายชุดเทาและชายชราชุดหรูต่างอึ้งไปสักพัก

ด้วยฐานะของพวกเขา แค่กระทืบเท้าก็ทำให้ทั่วหล้าสั่นสะเทือนได้แล้ว ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหนย่อมต้องได้รับความเคารพนับถือและห้อมล้อมอย่างที่สุด

ไหนเลยจะคิดว่าคนรุ่นหลังคนหนึ่งจะกล้าด่าพวกเขาเป็นหมาสองตัวต่อหน้า

สีหน้าของพวกเขาอึมครึมลงทันที

“พวกเศษเดนแห่งคีรีดวงกมลนั่นล้วนจากไปแล้ว หญิงที่อยู่ข้างกายเจ้าก็ถูกใต้เท้าเหยี่ยนซิงรั้งไว้ เชื่อว่าใช้เวลาไม่นานก็จะถูกกำจัด ข้าอยากรู้นักว่าใครมันให้ความกล้ากับเจ้ากันแน่ ยังกล้าโอหังเช่นนี้ในช่วงที่ความตายมาเยือนอีกหรือ”

เสียงของชายชุดเทาเย็นเยียบ “หรือเจ้าคิดว่าวิญญาณกระบี่นี้ปกป้องเจ้าได้ ทำให้เจ้ากำเริบเสิบสานได้หรือ”

นี่ไม่ใช่คำพูดไร้สาระ

หากแต่เป็นท่าทีระวังตัวอย่างหนึ่ง

ถึงอย่างไรฐานะของหลินสวินก็ไม่ธรรมดา ใครจะกล้าลืมว่าเหล่าศิษย์พี่ของเขาเป็นพวกที่น่ากลัวระดับใด

แล้วใครจะกล้าลืมว่าจักรพรรดิกระบี่เยือกแข็งตายอย่างไร

เปลี่ยนเป็นบุคคลระดับกึ่งจักรพรรดิคนอื่น ชายชุดเทาคงคร้านจะพูดมากความและลงมือไปแล้ว แต่หลินสวิน… ไม่เหมือนกัน!

“เจ้าหมาแก่ เจ้าหวาดกลัวอยู่ในใจสินะ”

หลินสวินยิ้มเจือแววถากถาง “ไม่อย่างนั้นจะพูดมากเช่นนี้ทำไม”

“จริงดังว่า”

เย่จื่อพยักหน้า

ชายชุดเทาสีหน้าไม่น่าดู สบตากับชายชราชุดหรูวูบหนึ่ง

ครู่ต่อมาทั้งสองคนลงมือพร้อมกัน เป้าหมายเป็นเอกฉันท์อย่างน่าแปลกใจ

ไม่ใช่เย่จื่อ หากแต่เป็นหลินสวิน!

นี่เห็นได้ว่าน่าเหลือเชื่อนัก ถึงขั้นเป็นเรื่องไร้สาระ แต่คนที่เคยรู้จักหลินสวินมาก่อนจะเข้าใจว่าการทำเช่นนี้เป็นสิ่งที่ชาญฉลาดที่สุด

สำหรับพวกเขา หลินสวินที่ถูกคนมองข้ามโดยง่ายเหมือนมดปลวก ความจริงแล้วไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง

ในการประชันหมากครั้งใหญ่นั้น ด้วยการปรากฏตัวของเขาจึงชักนำผู้สืบทอดแห่งคีรีดวงกมลมามากมาย และเป็นเพราะเขาปู้โจวมหาสมบัติแรกกำเนิดในมือเขา จึงช่วยดึงให้จักรพรรดิยุทธ์ออกมา และเอาชนะจอมจักรพรรดิไร้นามได้ในคราเดียว!

ข้างกายเขายังมีวิญญาณกระบี่ติดตาม มีหญิงปริศนาคุ้มกัน นี่… จะไม่ใช่คนสำคัญได้อย่างไร

จับโจรต้องจับหัวหน้า

สำหรับพวกชายชุดเทา แม้ว่าหลินสวินจะอ่อนแอ แต่หากจับตัวเขาได้ การตามล่านี้จะเท่ากับสำเร็จไปครึ่งหนึ่ง!

ตูม!

ฟ้าดาราสั่นสะเทือน ดวงดาวใกล้เคียงล้วนสั่นคลอนรุนแรง

บุคคลระดับจักรพรรดิสองคนลงมือพร้อมกัน เปลี่ยนเป็นกึ่งจักรพรรดิทั่วไปเกรงว่าคงขวัญหนีดีฝ่อนานแล้ว ได้แต่นั่งรอความตาย ไม่มีโอกาสดิ้นรนแต่แรก

แต่หลินสวินต่างออกไป

พริบตาที่พวกชายชุดเทาลงมือ เย่จื่อที่เตรียมตัวอยู่ก่อนแล้วรับคำสั่งของหลินสวินและพุ่งออกไปทันที

สำหรับเรื่องนี้พวกชายชุดเทาไม่รู้สึกแปลกและไม่ใส่ใจ ก็แค่วิญญาณกระบี่เท่านั้น มีหรือจะต้านการโจมตีของพวกเขาสองคนที่มีต่อกึ่งจักรพรรดิคนหนึ่งได้

ในเวลานี้เอง…

แสงเจิดจ้างามตระการหาใดเปรียบสายหนึ่งพุ่งออกมาจากร่างของหลินสวิน

เวลาหยุดตรึงในพริบตานี้

สรรพสิ่งทั่วหล้า กลุ่มดาวทั่วฟ้าเหมือนหยุดไปหนึ่งพริบตา

และพริบตานี้เองที่ปราณกระบี่สายหนึ่งฟาดฟันมาถึง ปราณกระบี่นั้นอัดแน่นด้วยพลังทั้งชีวิตของเย่จื่อ สาดส่องฟ้าดาราแถบนี้สว่างไสว

ฟุ่บ!

เมื่อชายชุดเทาตอบสนอง ปราณกระบี่ก็แหวกผ่านพลังป้องกันรอบตัวเขา ผ่าร่างเขาเป็นสองท่อนแล้ว พลังมรรคกระบี่ที่น่าหวาดกลัวปลดปล่อยออกมา ป่นพลังจิตของเขาจนกลายเป็นจุณอย่างรวดเร็วรุนแรง

ไม่มีเสียงร้องโหยหวน ไม่มีการดิ้นรน สัตว์ประหลาดเฒ่าระดับจักรพรรดิขั้นห้าคนหนึ่งถูกฆ่าตายเช่นนี้ จิตสิ้นวิญญาณสลาย!

ทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นในหนึ่งพริบตาที่หยุดตรึงนั้น

พริบตานี้ชายชราชุดหรูนั่นก็ตกใจจนหนังศีรษะแทบระเบิด ถอยห่างออกไปทันที ราวกับได้รับแรงกระตุ้นหนักหน่วง

แม้แต่เย่จื่อก็ตะลึงงัน

หากสู้กันซึ่งหน้า ด้วยพลังที่เขามีตอนนี้ ย่อมยากจะไปสั่นคลอนคนที่ก้าวสู่ระดับจักรพรรดิขั้นห้า

แต่ตอนนี้กระบี่เดียวของเขากลับฆ่าชายชุดเทานั่นได้!

นี่ทำให้เขายากจะเชื่ออยู่บ้าง

ตอนนี้เองที่เขาตระหนักได้ในที่สุด ว่าความหมายของ ‘โอกาสหนึ่งพริบตา’ ที่หลินสวินพูดถึงนั้นชวนตะลึงระดับใด!

“นี่… นี่เป็นไปได้อย่างไร”

ตอนนี้ชายชราชุดหรูนั่นเพิ่งร้องตะโกนออกมาอย่างขุ่นเคือง ไม่อาจจินตนาการว่าทำไมถึงเกิดเรื่องที่แปลกประหลาดและน่ากลัวเช่นนี้ได้ นี่เป็นการล้มล้างความเข้าใจทั้งหมดของเขาจริงๆ

จิตใจของเขาสั่นสะท้าน สีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก มือเท้าพลันเย็นเยียบ

หากตายในการห้ำหั่นซึ่งหน้า คงไม่ถึงขั้นทำให้เขาตกตะลึงเช่นนี้ สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวอย่างแท้จริงคือ การที่ไม่เห็นว่าชายชุดเทานั่นตายอย่างไร!

สิ่งที่ไม่อาจระบุ มักจะหมายถึงความหวาดกลัว

“เย่จื่อ ฆ่าเขาซะ”

หลินสวินพลันเอ่ยปาก

ฟุ่บ!

เย่จื่อออกโจมตี คู่ต่อสู้ระดับจักรพรรดิขั้นสี่คนหนึ่ง เขามีความมั่นใจว่าจัดการได้

ปราณกระบี่พุ่งทะยานขึ้นไปกลางฟ้าดารา เย่จื่อในตอนนี้เหมือนจักรพรรดิกระบี่แห่งยุคคนหนึ่ง ผงาดเหนือวัฏจักร

การตอบสนองแรกของชายชราชุดหรูก็คือหนี

ความตายของชายชุดเทาสร้างแรงกระตุ้นอย่างใหญ่หลวงให้กับเขา ทำให้เขาไม่อาจไม่กังวลว่าตนจะตายอย่างกะทันหันเช่นกัน

ฟุ่บ!

เขาดูคลุ้มคลั่งหาใดเปรียบ หนีอย่างสุดชีวิต

เย่จื่อไล่ตามไปติดๆ ไม่คิดจะปล่อยอีกฝ่ายไปเช่นนี้

“อู้เชวีย”

ขณะเดียวกันหลินสวินนำธนูวิญญาณไร้แก่นสารออกมา “ข้าต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า”

“ได้”

อู้เชวียที่เก็บตัวเงียบอยู่ในธนูวิญญาณไร้แก่นสารมาหลายปีปรากฏตัวทันใด กลายเป็นเด็กหนุ่มผมเทาที่แผ่กลิ่นอายอำมหิตร้ายกาจออกมารอบตัว

ครู่ต่อมาอู้เชวียดึงธนูวิญญาณไร้แก่นสารแล้วสูดหายใจลึก คลื่นพลังที่น่าหวาดกลัวแผ่ออกมาจากตัวเขา

คันธนูที่ทำขึ้นจากกระดูกมากมายนั้นส่งเสียงดังครั่นครืน ไอพลังอำมหิตโหมกระหน่ำ เข้าปกคลุมฟ้าดาราแถบนี้

อู้เชวียในตอนนี้ต่างไปจากอดีตอย่างเห็นได้ชัด

เขายืนตระหง่านอยู่กลางฟ้าดาราราวกับเทพธนูองค์หนึ่ง เผยอานุภาพอำมหิตที่ทำให้ดวงดาวต่างสั่นสะเทือนออกมา

เมื่อเขาง้างสายธนูแดงสดดั่งโลหิตนั้น กระแสลมในห้วงอากาศใกล้เคียงราวกับถูกสูบไปจนหมด ทรุดตัวดังสะเทือนเลื่อนลั่นทันที

หลินสวินที่อยู่ข้างๆ พลันรู้สึกแสบตา จิตใจสั่นสะท้าน

ปึง!

เมื่อศรนี้โฉบพุ่งออกไป หลินสวินก็ลืมตาไม่ขึ้น พร่างพรายและบาดตาเกินไปแล้ว พลังที่อัดแน่นก็น่าหวาดกลัวและอำมหิตเกินไป

ห่างออกไป เย่จื่อที่กำลังไล่ล่าตัวแข็งทื่อ หันกลับมาอย่างอดไม่ได้

พลันเห็นศรเทพที่เหมือนภาพมายาสายหนึ่งแหวกผ่านฟ้าดารามาด้วยความเร็วที่เกินจริง ทุกจุดที่เคลื่อนผ่าน ดวงดาวมากมายระเบิดออกเหมือนทำจากกระดาษ!

ปึง!

บริเวณห่างไกลออกไปอีก ชายชราชุดหรูที่กำลังหนีตายกรีดร้องโหยหวน จากนั้นร่างกายเขาก็ถูกรุ้งศรที่เปล่งประกายสายนั้นทะลวงผ่าน ระเบิดกระจุยดังสนั่น

ฝนโลหิตแดงก่ำฟุ้งกระจาย

พลันเห็นว่ากลางฟ้าดาราแถบนี้ปรากฏรอยแยกยาวหลายหมื่นจั้ง ใกล้รอยแยกไม่ว่าจะเป็นดวงดาวหรือหินอุกกาบาต ทั้งหมดล้วนถูกป่นกลายเป็นจุณ เมื่อฝุ่นควันจางหายก็ยังมีเสียงแหลมสูงดังก้อง

และนี่ก็เป็นความเสียหายที่ศรของอู้เชวียสร้างขึ้น!

ศรเดียวพุ่งทะลวงฟ้าดารา ยิงสังหารระดับจักรพรรดิขั้นสี่คนหนึ่งที่นอกระยะหลายหมื่นจั้ง!

ภาพที่สะเทือนใต้หล้านั้น เย่จื่อเห็นแล้วอึ้งค้าง

เดิมทีหลินสวินไม่หวังว่าอู้เชวียจะลงมือ แต่เมื่อเห็นอู้เชวียลงมือแล้ว เขาก็ไม่ได้หวังว่าศรนี้จะมีอานุภาพมากเท่าไหร่

จากมุมมองเขา แค่ขวางชายชราชุดหรูนั่นไม่ให้หนีไปได้ก็พอแล้ว

แต่ความสามารถของอู้เชวียกลับล้มล้างการคาดเดาในใจเขาอย่างสิ้นเชิง ศรที่เรียกได้ว่าสะท้านฟ้าสะเทือนดินนั้น ทำให้หลินสวินอดสูดหายใจหนาวเยือกไม่ได้เช่นกัน จิตใจล้วนสั่นสะท้าน

เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าหลังจากเก็บตัวเงียบมาหลายปี อู้เชวียจะเปลี่ยนเป็นดุดันเช่นนี้

ต้องรู้ว่าตอนที่อยู่หุบเขาตะวันคล้อยในปีนั้น อู้เชวียที่บาดเจ็บสะสมทำได้แค่สังหารบุคคลระดับกึ่งจักรพรรดิเท่านั้น

แต่ตอนนี้…

เขาใช้ศรเดียวสังหารจักรพรรดิ!

ทั้งคนที่ฆ่ายังเป็นเจ้าเฒ่าที่ก้าวสู่ระดับจักรพรรดิขั้นสี่คนหนึ่ง!

‘มรรคธนูต้องใช้พลังทั้งชีวิตรวมไว้ในศรเดียว นัยเร้นลับที่สำคัญที่สุดมีแค่สี่คำ คราเดียวปลิดชีพ!’

อู้เชวียที่รูปร่างเหมือนเด็กหนุ่มผมเทาเก็บธนูวิญญาณไร้แก่นสารลงไป บนใบหน้าที่เต็มไปด้วยความดุดันและอหังการเผยรอยยิ้มสดใส “นายน้อย ศรนี้ไม่ทำให้ท่านผิดหวังกระมัง”

……………………..