แหวนมีสไตล์ และขนาดเท่ากัน และแม้แต่ขนาดของวงก็เหมือนกันทุกประการ

ทันทีที่เธอเห็นแหวนวงนี้ อิโตะ นานาโกะ ก็รู้สึกมีความสุขและดีใจอย่างยิ่ง ราวกับว่าแหวนวงนี้เย่เฉินเป็นคนมอบให้ตัวเองอย่างนั้น

เมื่อเห็นเธอมองดูแหวนวงนี้ ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความดีใจ คาวาน่าก็ถามด้วยความประหลาดใจว่า “คุณหนู ทำไมคุณถึงสนใจกับแบรนด์อย่างทิฟฟานี่ล่ะ? แบรนด์แบบนี้เป็นเพียงแบรนด์เครื่องประดับที่ธรรมดาๆ และแหวนวงนี้ก็ราคาถูกเกินไป และเพชรก็ไม่มีระดับพอจริงๆ …….”

สิงที่คาวาน่า เรย์ พูดนั้นไม่มีผิด

แหวนเพชรชนิดนี้ซึ่งขายอยู่ในราคาตลาดไม่ถึงหนึ่งล้านหยวน พูดตรงๆ ก็คือสำหรับเตรียมให้กับคนรวยธรรมดาเท่านั้น

เศรษฐีตัวจริงไม่แม้แต่จะใส่แหวนแบบนี้เลย

คนที่รวยที่สุดในทวีปยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ชอบเพชรมากที่สุด บางตัวก็บริสุทธิ์มากๆ และกระบวนการตัดก็สามารถเข้าถึงเพชรอันดับต้นๆ ได้ เพชรเม็ดหนึ่งก็มีมูลค่าหลายสิบล้าน

คนรวยจริงก็ซื้อเพชรชนิดนี้ และสั่งทำเป็นแหวนเพชรโดยเฉพาะ

ดังนั้น แหวนเพชรที่เศรษฐีอันดับต้นๆ สวมใส่นั้น จึงมีมูลค่ากว่าสิบล้าน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องธรรมดามาก

คนรวยในประเทศจีนมีของชอบมากกว่าคนอื่น พวกเขาไม่ใช่แค่ชอบเพชรอย่างเดียว แต่ยังชอบอัญมณีทุกชนิด โดยเฉพาะหยก

หยกเขียวจักรพรรดิชั้นดีที่แท้จริง มีราคาสูงอย่างน่าประหลาดใจ

กําไลอันเดียวก็จะมีมูลค่ามากกว่าหลายสิบล้านแม้กระทั่งเกินร้อยล้านก็อาจเป็นไปได้

เพราะสำหรับคนรวยแล้ว เครื่องประดับประเภทนี้ไม่เพียงแต่สามารถดึงดูดสายตาคนได้เท่านั้น แต่ยังมีช่องว่างในการเพิ่มมูลค่าอีกมากมายด้วย

ตระกูลอิโตะเองก็เป็นตระกูลที่ร่ำรวยอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่นอยู่แล้ว อิโตะ นานาโกะ ก็เป็นลูกสาวคนเดียวของหัวหน้าตระกูลอีกด้วย เธอชอบแหวนเพชรธรรมดาๆ แบบนี้ มันอยู่นอกเหนือการรับรู้ของ คาวาน่า เรย์ ที่มีต่อเธอจริงๆ เลย

อิโตะ นานาโกะ ถือแหวนเพชรวงนั้นด้วยความรักใคร่ แล้วพูดอย่างเขินอายว่า “คาวาน่า มีบางสิ่งบางอย่างที่วัดด้วยมูลค่าเงินไม่ได้ แหวนวงนี้ อาจไม่ได้มีค่ามากพออยู่ในสายตาของคุณ แต่มันกลับเป็นสิ่งของล้ำค่าอยู่ในสายตาของฉัน”

หลังพูดจบ เธอก็แทบจะอดรอไม่ไหว ที่จะสวมแหวนวงนั้นใส่บนนิ้วนางของตัวเอง

เมื่อมองดูแหวนวงนี้ เธออดไม่ได้ที่จะแสดงรอยยิ้มที่มีความสุขอยู่บนใบหน้าของเธอ

คาวาน่า เรย์ อุทานว่า “คุณหนู นิ้วนางนั้นใช้สำหรับสวมแหวนแต่งงานโดยเฉพาะ คุณไม่สามารถสวมแหวนที่นิ้วนางได้ มิฉะนั้นถ้าใครเห็นเข้า ก็จะคิดว่าคุณได้แต่งงานไปแล้ว!”

เมื่อ อิโตะ นานาโกะ ได้ยินคำพูดนี้ ถึงตระหนักได้ในทันทีว่า ในฐานะที่เป็นผู้หญิงโสดคนหนึ่ง ไม่ควรสวมแหวนที่นิ้วนางจริงๆ ถ้าทำแบบนี้จะทำให้คนรอบข้างเข้าใจผิดตัวเองได้

แต่ความรักใคร่ของเธอที่มีต่อแหวนวงนี้ไม่ได้ถูกขัดขวางเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นเธอจึงรีบถอดแหวนออก และก็เก็บกลับไปอย่างระมัดระวัง แล้วแลบลิ้นให้ คาวาน่า เรย์ “ไม่เป็นไร ฉันก็แค่ลองสวมดูเฉยๆ ถ้าออกไปข้างนอกฉันจะไม่ใส่ออกมาอย่างแน่นอน”

คาวาน่า เรย์ พยักหน้า และถามเธอ “คุณหนู ตอนนี้พวกเราจะไปไหนกันคะ?”

อิโตะ นานาโกะ กล่าวว่า “ไปโรงพยาบาลเถอะ ฉันจะไปอยู่เป็นเพื่อนคุณพ่อสักหน่อย!”

“โอเค!”

……

ในขณะนี้ เย่เฉินก็ได้ผ่านด่านตรวจความปลอดภัยไปเรียบร้อยแล้ว และนำหนังสือเดินทางและบัตรผ่านขึ้นเครื่องของตัวเอง มาถึงที่ห้องรับรองวีไอพี

ในตอนนี้ มีเวลาก่อนเครื่องบินออก อีกประมาณหนึ่งชั่วโมง และก่อนเครื่องขึ้นอีกประมาณครึ่งชั่วโมง

มีคนไม่มากนักในห้องรับรองวีไอพี ดังนั้นเย่เฉินจึงหาที่นั่งได้ตามต้องการและนั่งลง

ทันทีที่นั่งลง พนักงานต้อนรับคนสวยก็เดินเข้ามาถามทันทีว่า “สวัสดีคุณท่าน คุณต้องการอยากจะดื่มอะไรไหม?”

เย่เฉินก็ไม่รู้ว่าทำไม ในหัวใจของเขายังคงเต็มไปด้วยเงาร่างของ อิโตะ นานาโกะ ดังนั้นเขาจึงโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ “ไม่ต้องการ ขอบคุณครับ”

พนักงานต้อนรับยักหน้า และพูดอย่างสุภาพว่า “ถ้าคุณมีความต้องการใดๆ โปรดบอกฉันได้ตลอดเวลา”

“โอเค”

หลังจากเย่เฉินพูดจบ เขากำลังจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อติดต่อกับเฉินจื๋อข่าย ด้วยความรู้สึกที่ว่องไวในการได้ยินเขาก็ได้ยินเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ไม่ไกล กำลังลดเสียงลงแล้วพูดกับโทรศัพท์ว่า “เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็น แจ้งลูกเรือ ในคืนนี้บินให้ไปที่เมืองจงไห่ก่อน พวกเราพักผ่อนอยู่ในเมืองจงไห่หนึ่งคืน แล้วค่อยกลับไปที่เย่นจิงในวันพรุ่งนี้!”