จักรพรรดิธรรมตู้ผิง!

ผู้คนจำได้ในแวบเดียว ว่าภิกษุเฒ่าระดับจักรพรรดินั่นเป็นระดับจักรพรรดิที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของแดนกษิติครรภ์ ควบคุมดูแลในแคว้นเรืองเมฆามาโดยตลอด อานุภาพดุจสวรรค์

“เป็นการต่อสู้แห่งจักรพรรดิดังคาด!”

คนนับไม่ถ้วนตะลึง แม้แต่จักรพรรดิธรรมตู้ผิงยังลงมือ คู่ต่อสู้จะแข็งแกร่งเพียงใด

ในบรรยากาศกดดันอันตรายอย่างที่สุดเช่นนี้ เงาร่างสง่างามของหลินสวินก้าวย่างกลางอากาศออกมา ราวกับรุ้งเทพสายหนึ่ง ส่องสว่างท้องฟ้าและสะท้อนเข้าสายตาทุกคน

“กึ่งจักรพรรดิคนหนึ่ง เป็นไปได้อย่างไร…”

มีคนร้องเสียงหลง

“ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่กึ่งจักรพรรดิคนหนึ่งกล้าท้าทายระดับจักรพรรดิ”

ผู้คนมากมายปั่นป่วน อึ้งจนอ้าปากค้าง นี่เหนือความคาดหมายเกินไปแล้ว

“เจ้าเฒ่า ตอนนี้ถึงคราวตัดหัวเจ้าแล้ว!”

หลินสวินเงยหน้าขึ้นคำรามเสียงยาว เงาร่างสว่างไสวสะดุดตา พุ่งโจมตีขึ้นฟ้า

ได้ยินคำพูดของเขาทำเอาผู้คนผิดคาดอีกระลอกหนึ่ง ต่างไม่กล้าเชื่อหู นั่นเป็นถึงจักรพรรดิธรรมตู้ผิง ใช่ว่ากึ่งจักรพรรดิคนหนึ่งจะสั่นคลอนได้

ทว่าแต่ละภาพที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นกลับทำให้ทุกคนที่จับตามองการต่อสู้นี้ล้วนอึ้งงัน ในหัวว่างเปล่า

การต่อสู้ครั้งนี้ปะทุขึ้นแล้ว จักรพรรดิธรรมตู้ผิงออกโจมตี กลับไม่สามารถฆ่าคนรุ่นหลังที่มีพลังปราณระดับมกุฎกึ่งจักรพรรดิคนนั้นได้ในทันที!

นี่ทำลายการรับรู้ของผู้คนโดยสมบูรณ์ ราวกับได้เห็นปาฏิหาริย์ที่ไม่เคยมีมาก่อนในหมื่นกาล!

……

ใต้ฟ้ากว้างใหญ่ แสงมรรคพวยพุ่ง โกลาหลไปทั้งแถบ

หลินสวินกับจักรพรรดิธรรมตู้ผิงต่อสู้กันอย่างดุเดือด เงาร่างทั้งสองตัดกันไปมา ชั่วพริบตาก็ประมือกันร้อยกว่ากระบวนท่า ต่อสู้จนฟ้าดินวุ่นวาย สุริยันจันทรามืดมนไร้แสง

“ตายซะ!”

จักรพรรดิธรรมตู้ผิงถือวัชระเล่มหนึ่ง โจมตีราวกับเทพ

กฎเกณฑ์มหามรรคสีดำพลุ่งพล่านอยู่รอบตัวเขา วิวัฒน์เป็นลักษณ์ประหลาด ทั้งโคมเขียว เจดีย์ธรรม คัมภีร์ธรรม เบาะรองนั่ง ปลาไม้ ระฆังทองแดงเป็นต้น ส่องแสงสว่างไสว

มองจากไกลๆ ราวกับพระโพธิสัตว์ในตำนานมีชีวิต รูปลักษณ์เคร่งขรึม อานุภาพสะเทือนเก้าฟ้า

ตูม โครม!

ภายใต้การโจมตีของเขา ห้วงอากาศปั่นป่วนราวดุจกระแสน้ำ เสียงมรรคแผ่เป็นคลื่นราวกับสายฟ้า เผด็จการไร้ขอบเขต

นี่ก็คือระดับจักรพรรดิ

ทุกการเคลื่อนไหวล้วนมีอานุภาพทำลายฟ้าดิน!

เผชิญหน้ากับการโจมตีที่น่ากลัวระดับนี้ หลินสวินกลับไม่ด้อยกว่าสักนิด เงาร่างของเขาพร่างพราว ร่างสะท้อนลักษณ์แห่งหุบเหวใหญ่ สำแดงวิชาแห่งเตาหลอม มีอานุภาพพาดขวางเก้าฟ้า ไม่ถอยแม้แต่ก้าวเดียว ผงาดกร้าวดั่งเทพมาร

“ฆ่า!”

ผมดำของหลินสวินปลิวสยาย ดวงตาเย็นชาดุจสายฟ้า

จักรพรรดิกระบี่นภาประสานที่ถูกกำราบอยู่ในเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขามานานแล้ว นี่ทำให้ยามเขาเผชิญกับจักรพรรดิตู้ผิงซึ่งเป็นระดับจักรพรรดิขั้นหนึ่งเช่นกัน จึงมั่นใจอย่างที่สุด มีความองอาจที่ไร้ศัตรูอยู่รางๆ

เพียงพริบตาเท่านั้น

สีหน้าของจักรพรรดิธรรมตู้ผิงก็เปลี่ยนไปอย่างควบคุมไม่อยู่ ในสายตาเต็มไปด้วยความยากจะเชื่อ

ตั้งแต่ก้าวสู้ระดับจักรพรรดิเป็นต้นมา บุคคลที่ต่ำกว่าระดับจักรพรรดิเขาล้วนไม่เห็นในสายตา สังหารอย่างง่ายดายราวกับตัดหญ้า

แต่ตอนนี้มกุฎกึ่งจักรพรรดิคนหนึ่ง กลับมองข้ามปราการสวรรค์แห่งระดับจักรพรรดิ ก้าวข้ามระดับใหญ่มาต่อสู้กับเขาด้วยพลังที่เทียบเคียงกัน

ทั้งทางเดินโบราณฟ้าดาราตลอดเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่เคยเกิดเรื่องที่เช่นนี้มาก่อน เป็นเรื่องที่ล้มล้างการรับรู้อย่างสิ้นเชิง

ที่ทำให้จักรพรรดิธรรมตู้ผิงเหลือเชื่อที่สุดคือ กฎเกณฑ์ระดับกึ่งจักรพรรดิที่หลินสวินครอบครอง เกือบจะสมบูรณ์แบบไร้บกพร่องแล้ว ไม่ต่างอะไรกับกฎเกณฑ์ระดับจักรพรรดิแท้

นี่ทำให้ตอนที่เขาต่อสู้ อานุภาพที่ปลดปล่อยออกมาจึงเหนือกว่าที่ระดับมกุฎกึ่งจักรพรรดิสามารถครอบครองได้ เย้ยฟ้าอย่างที่สุด

เหตุใดเจ้าหมอนี่จึงแข็งแกร่งขนาดนี้ เขาเป็นใครกันแน่

จักรพรรดิธรรมตู้ผิงยิ่งสู้ยิ่งตกใจ เขาใช้อานุภาพที่แท้จริงของระดับจักรพรรดิแล้ว ยิ่งไม่เคยออมมือใดๆ แต่ต่อสู้มาถึงตอนนี้กลับไม่ได้เปรียบเลยสักนิด

นี่ทำให้เขาถึงขั้นไม่สามารถรับได้อยู่บ้าง

เป็นถึงระดับจักรพรรดิ กลับสู้กับมกุฎกึ่งจักรพรรดิคนหนึ่งอย่างสูสีกัน นี่หากแพร่ออกไปมีแต่จะพิสูจน์ว่าเขาไม่เอาไหน กลายเป็นที่น่าขบขันของคนในใต้หล้า

“ฆ่า!”

จักรพรรดิธรรมตู้ผิงไม่ลังเลอีกต่อไป ใช้ไพ่ตายก้นกรุ เงาร่างพลันเปลี่ยนเป็นสูงใหญ่อย่างที่สุดขึ้นมา

มือข้างหนึ่งของเขาถือวัชระ อีกข้างประคองเจดีย์ธรรมสีทอง อานุภาพของศาสตราจักรพรรดิทั้งสองชิ้นเชื่อมฟ้าคลุมดิน ทำให้ฟ้าดินยังสั่นสะท้าน สรรพสิ่งแหลกละเอียด แม้แต่พื้นดินยังยุบเป็นร่องขนาดใหญ่

“เจ้าเฒ่า เจ้าไม่ไหว”

หลินสวินสูดหายใจลึกคราหนึ่ง ในดวงตาดำที่ราวกับหุบเหวมีประกายแห่งจิตต่อสู้โหมซัด เขาเรียกดาบมหามรรคไร้วิชาออกมาโดยไม่ลังเล

ฉัวะ!

คมดาบเจิดจ้ากรีดฉีกท้องฟ้า ทะลวงอากาศ

ปราณดาบบาดตายาวหลายพันจั้งฟันสังหารเข้ามา มองข้ามวิชาลับที่เร่งเร้าอยู่รอบตัวจักรพรรดิธรรมตู้ผิงโดยตรง

พริบตานั้นจักรพรรดิธรรมตู้ผิงส่งเสียงอู้อี้ ร่างกายเบื้องหน้าถูกกรีดเป็นรอยดาบน่าตกใจ เนื้อแตกหนังขาด เลือดสดๆ ไหลหลั่งไม่หยุด

“เจ้า… เจ้าคือ…”

ตอนที่เห็นดาบไร้วิชา จักรพรรดิธรรมตู้ผิงก็จำฐานะของหลินสวินได้ทันที เพราะหลังจากการประชันหมากครั้งใหญ่ครั้งนั้นสิ้นสุดลง ทุกคนล้วนรู้ว่าดาบไร้วิชาที่เดิมเป็นยอดสมบัติพิทักษ์ตระกูลของเผ่าจักรพรรดิดึกดำบรรพ์ตระกูลซาง ถูกหลินสวินผู้สืบทอดคีรีดวงกมลช่วงชิงไป

ทว่ายังไม่รอพูดจบหลินสวินก็โจมตีเข้ามาแล้ว ปราณดาบราวกับระลอกคลื่นทับซ้อนกัน ปกคลุมทั่วทุกทิศ สว่างไสวจนทำเอาฟ้าดินอับแสง ดุดันรุนแรงจนสุริยันจันทราสั่นไหว

จักรพรรดิธรรมตู้ผิงต้านทานและหลบหนีอย่างต่อเนื่อง แต่กลับถูกโจมตีไม่อาจสู้ได้ สะบักสะบอมไม่เหลือสภาพ ตกอยู่ในสถานการณ์เป็นฝ่ายถูกกระทำ

ไม่นานร่างกายก็เต็มไปด้วยบาดแผล

ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีความสามารถ แต่ดาบไร้วิชาเผด็จการเกินไป มองข้ามหมื่นวิชาทั่วหล้า!

หากไม่ใช่เพราะเขาใช้วัชระและเจดีย์สีทองต้านทาน คงถูกปราณดาบไร้ขอบเขตนั่นฟันเป็นร้อยพันชิ้นแล้ว

“ทลาย!”

จักรพรรดิธรรมตู้ผิงเลือดอาบตัว ตาเบิกถลน ส่งเสียงคำราม เริ่มดิ้นรนสุดชีวิต

ทั้งร่างราวกับถูกเผาไหม้ อานุภาพของระดับจักรพรรดิขั้นหนึ่งถูกเร่งเร้าถึงขีดสุด ทำให้ฟ้าดินผืนนี้จมสู่ความน่าสะพรึง

กับเรื่องนี้หลินสวินไม่หวาดหวั่น กลับยิ่งสู้ยิ่งห้าวหาญ เลือดลมรอบตัวเขาพลุ่งพล่าน ต่อสู้ราวกับลุกโชน มรรคและวิชาทั้งชีวิตสำแดงออกมาถึงขีดสุด

เขาฝึกปราณมาถึงตอนนี้ ระดับจักรพรรดิคนที่สองที่ต่อสู้ด้วย ไม่ได้พึ่งพลังของวิญญาณอาวุธอย่างเย่จื่อ อู้เชวีย หรือดาบหัก พึ่งเพียงมรรควิถีแห่งตนก็กำราบอีกฝ่ายได้แล้ว!

ตูม โครม…

ยิ่งต่อสู้ยิ่งดุเดือด มองจากไกลๆ ฟ้าดินขาวโพลน ถูกกลิ่นอายทำลายล้างปกคลุม ไม่เห็นเงาร่างของพวกเขาสองคนนานแล้ว

อันที่จริงการต่อสู้เช่นนี้ ผู้แข็งแกร่งที่ต่ำกว่าระดับจักรพรรดิไม่สามารถมองเห็นด้วยซ้ำ และไม่กล้าใช้จิตรับรู้ดู ไม่เช่นนั้นจะโดนลูกหลงไปด้วย

แต่แม้จะเป็นเช่นนี้ผู้คนก็ยังตะลึงอย่างต่อเนื่อง พวกเขาเห็นอะไร เห็นมกุฎกึ่งจักรพรรดิคนหนึ่งสำแดงมรรคเย้ยฟ้า กำลังต่อสู้กับระดับจักรพรรดิคนหนึ่งอย่างดุเดือด

เพียงแค่จุดนี้ก็เพียงพอจะทำให้ทั่วหล้าสั่นสะเทือน ตื่นตะลึงหมื่นกาล!

พรวด!

ในสนามรบจักรพรรดิธรรมตู้ผิงที่ประหนึ่งสู้สุดชีวิตถูกโจมตียับเยินอีกครั้ง บาดเจ็บสาหัส ถูกดาบไร้วิชาตัดแขนขวา ปราณดาบน่าหวาดกลัวกวาดใส่ร่างของเขา เกือบผ่าเขาเป็นสองท่อน

ชั่วขณะนี้ความเดือดดาล ประหลาดใจ และยากจะเชื่อในใจจักรพรรดิธรรมตู้ผิง ล้วนถูกความตกใจที่ไม่สามารถอธิบายได้แทนที่

สามารถข้ามระดับใหญ่ ก้าวข้ามปราการสวรรค์แห่งระดับจักรพรรดิมาต่อสู้กับระดับจักรพรรดิคนหนึ่ง ก็เรียกได้ว่าเป็นความสำเร็จที่ไม่เคยมีมาก่อนในอดีตกาลแล้ว เรียกได้ว่าเป็นปาฏิหาริย์

แต่ตอนนี้หลินสวินไม่เพียงทำได้ถึงขั้นนี้ ในการปะทะซึ่งหน้า ยังกำราบระดับจักรพรรดิอย่างเขาได้อย่างสิ้นเชิง ทำให้เขาพ่ายแพ้ต่อเนื่อง!

นี่หากแพร่ออกไปใครกล้าเชื่อ

เกรงว่าแม้แต่ระดับจักรพรรดิทั่วหล้ายังต้องตกใจ!

“สหายยุทธ์ ข้าช่วยเจ้าเอง!”

ทันใดนั้นเสียงราบเรียบหนึ่งดังขึ้น เฒ่าชราผมขาวปรากฏตัวกลางอากาศ เผ้าผมหนวดเคราพลิ้วไหว กลิ่นอายระดับจักรพรรดิอันไพศาลราวกับมหาสมุทรพลุ่งพล่านทั่วตัว

“สหายยุทธ์ระวัง เจ้าหมอนี่เย้ยฟ้า ไม่สามารถวัดด้วยหลักการทั่วไปได้ หากข้าเดาไม่ผิด เขาก็คือ…”

ในขณะที่จักรพรรดิธรรมตู้ผิงโล่งอกก็อดส่งเสียงเตือนไม่ได้

ทว่าไม่รอพูดจบก็ถูกตัดบท

“ข้าเข้าใจ”

ในฝ่ามือของเฒ่าชราผมขาวปรากฏกระบี่มรรคเล่มหนึ่ง กลิ่นอายทั่วตัวทะลวงเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน โจมตีอย่างดุเดือดรุนแรง ลงมือโดยไม่ลังเล

ในใจจักรพรรดิธรรมตู้ผิงร้อนรน เขาเข้าใจอะไร เจ้าหมอนั่นคือหลินสวิน เป็นเศษเดนคีรีดวงกมลที่ฆ่าปาฉี!

แต่ตอนที่เขากำลังจะเตือนอีกครั้ง ในที่นั้นก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นกะทันหัน

พลันเห็นรอบตัวหลินสวินปรากฏเงาร่างห้าห้าร่าง ทุกร่างล้วนเหมือนหลินสวินไม่มีผิดเพี้ยน แม้ท่วงทำนองศักดิ์สิทธิ์และอานุภาพที่แผ่อยู่รอบตัวไม่เหมือนกัน แต่กลิ่นอายของแต่ละคนล้วนแข็งแกร่งเหมือนหลินสวิน!

ร่างแยกมหามรรคห้าร่าง!

นี่เป็นครั้งแรกที่หลินสวินใช้ตอนต่อสู้!

กายมรรคไม้เขียวควบคุมเจดีย์ไร้สิ้นสุด กายมรรคเพลิงแดงควบคุมธงไร้ระเบียบ กายมรรคดินเหลืองควบคุมประทับไร้ชีพ กายมรรควารีดำควบคุมขวดไร้ขอบเขต กายมรรคทองขาวควบคุมดาบหัก…

ทันใดนั้นอานุภาพรอบตัวพวกเขากับร่างต้นของหลินสวินสอดรับกัน ความรุนแรงแห่งอานุภาพที่เกิดขึ้น ปกคลุมฟ้าดินผืนนี้โดยตรง

เบ้าตาของจักรพรรดิธรรมตู้ผิงและเฒ่าชราผมขาวแทบหลุดออกมา ในใจเย็นเยียบ

หนึ่งคนยังพลิกฟ้าขนาดนั้น ตอนนี้เพิ่มมาอีกห้าคนเต็มๆ!

นี่จะสู้อย่างไรต่อ

“เจ้าเฒ่า ข้ากับเจ้าไม่มีความแค้นต่อกัน เจ้ากลับวิ่งมารนหาที่ตาย เหตุใดจึงโง่เขลาเช่นนี้”

เสียงถอนหายใจเบาๆ ดังขึ้นจากริมฝีปากของร่างต้นและร่างแยกทั้งห้าของหลินสวินในขณะเดียวกัน

จากนั้นพวกเขาก็เคลื่อนไหวพร้อมกัน

ตูม โครม!

ประกายสีเขียวเกลือกกลิ้งทั่วตัวกายมรรคไม้เขียว เรียกเจดีย์ไร้สิ้นสุดออกมา

กายมรรคเพลิงแดงเพลิงเทพหมื่นจั้งไหลพล่าน โบกธงไร้ระเบียบ

กายมรรคดินเหลืองกลายเป็นหมื่นจั้ง สูงใหญ่ราวกับภูเขา เร่งเร้าประทับไร้ชีพ

กายมรรควารีดำ…

ทันใดนั้น ฟ้าดินตรงนั้นราวกับถูกตีจนระเบิด ศาสตราจักรพรรดิคุนหลุนร่วมมือกับร่างแยกของหลินสวิน โจมตีสังหารมาราวกับกระแสน้ำ

ภาพนั้นสามารถทำให้คนสิ้นหวังจริงๆ

ทันใดนั้น เงาร่างของจักรพรรดิธรรมตู้ผิงและเฒ่าชราผมขาวถูกท่วมท้น ตกอยู่ในการเข่นฆ่าที่อันตรายไร้ขอบเขต

จากนั้นเสียงกรีดร้องอันดุเดือดรุนแรงและเสียงคำรามที่เดือดดาลและลนลานดังก้องขึ้น

“ไม่…”

“เจ้าสวะ เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าคือใคร!”

เสียงสะเทือนจักรวาล แผ่ไปในวงกว้าง

ทว่าไม่นาน แม้แต่เสียงก็หยุดชะงักไป มีเพียงแสงมรรค แสงสมบัติอันน่ากลัวที่ไหลเวียนอยู่ในฟ้าดินผืนนั้น

เงาร่างของระดับจักรพรรดิสองคน ล้วนราวกับจอกแหนที่ถูกม้วนเข้าไปในกระแสน้ำอันปั่นป่วน ถูกฉีกทึ้งอย่างรุนแรง กลายเป็นพิรุณเลือดอันไม่มีที่สิ้นสุดสลายไป!

สิบทิศสั่นไหว หมื่นลี้สั่นสะเทือน ฟ้าดินถูกกลิ่นอายทำลายล้างท่วมท้น ราวกับจะถูกตีจนระเบิดอย่างไรอย่างนั้น

คนที่ดูอยู่หนีไปไกลนานแล้ว ไม่เห็นอะไร และไม่สัมผัสอะไรทั้งนั้น มีเพียงความหวาดกลัวและตะลึงที่พลุ่งพล่านในใจยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

ในใจทุกคนล้วนปรากฏความคิดหนึ่ง…

ระดับจักรพรรดิสองคนนั้น…

คงไม่ได้ประสบเคราะห์ไปแล้วนะ

ตอนที่ฝุ่นควันสลาย ระลอกคลื่นการต่อสู้อันปั่นป่วนโกลาหลและรุนแรงถดถอยไปจากฟ้าดิน

ฟ้าดินผืนนี้แตกสลายโรยรา พังพินาศไปทั่ว!