เมื่อเห็นหม่าหลันทำหน้าอดรนทนรอไม่ไหว เย่เฉินก็วางกระเป๋าลงบนพื้นเตรียมเปิด
หม่าหลันที่อยู่ข้างๆทนไม่ไหวอีกต่อไป คุกเข่าลงพูดอย่างประจบสอพลอว่า “ไอหยาลูกเขย ทำไมแกต้องเสียแรงทำอะไรแบบนี้ด้วยล่ะ มาเดี๋ยวแม่ช่วย”
เย่เฉินยิ้มออกมาอย่างจนปัญญา แต่กระนั้นก็ไม่ได้เอ่ยขัดอะไร
หม่าหลันเปิดกล่องออก เมื่อเห็นถุงBossวางอยู่ข้างบนสุด ก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมาว่า “เอ๋ อันนี้มันน่าจะเป็นชุดผู้ชายหรือเปล่า?”
เย่เฉินพยักหน้า แล้วพูดว่า “สูทนี้ผมเลือกให้คุณพ่อเองครับ ตอนนี้เขาเป็นกรรมการผู้จัดการสมาคมศิลปะจีนไม่ใช่เหรอ ส่วนใหญ่ต้องมีเข้าร่วมงานเลี้ยงอะไรบ่อยๆอยู่แล้ว ยังไงก็เป็นถึงหัวหน้า ออกไปข้างนอกก็ต้องวางท่าหน่อยสิครับ”
ด้านเซียวฉางควนก็ตื่นเต้นเป็นไหนๆ “ไอหยาเย่เฉิน แกนี่สมกับเป็นลูกเขยของฉันจริงๆ! พ่ออยากซื้อสูทสักตัวเอาไว้ใส่ออกไปดื่มน้ำชามาตลอด แต่ก็ตัดสินใจซื้อไม่ลงสักที คิดไม่ถึงเลยว่าแกจะจัดการให้พ่อซะเสร็จสรรพแบบนี้! ขอบคุณแกมากจริงๆ!”
หม่าหลันเบ้ปาก หยิบถุงชุดสูทออกมาแล้วโยนทิ้งไว้ตรงเท้าของเซียวฉางควนอย่างเหยียดๆ เอ่ยพูดอย่างดูแคลนว่า “ตาแก่อย่างคุณคู่ควรกับสูทดีๆแบบนี้เหรอ? ไม่ดูสภาพตัวเองซะเลย คู่ควรเหรอ?”
เซียวฉางควนเอ่ยพูดอย่างฟึดฟัดว่า “ทำไมผมจะไม่คู่ควร? ผมเพิ่งห้าสิบต้นๆยังไม่แก่ลงพุงเสียหน่อย ไม่เหมือนคุณหรอก เริ่มอ้วนขึ้นทุกวัน!”
“คุณว่าไงนะ?!” หม่าหลินเบิกตาโพลง หลุดปากด่าทอว่า “นี่คุณกล้ามาว่าฉันอ้วนเหรอ?! ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม?”
เซียวฉางควนรีบย่นคอ กระนั้นก็ยังพูดออกมาอย่างเคืองๆว่า “ผมก็แค่ล้อเล่น…..”
หม่าหลันถลึงตาใส่เขาแรงๆ จากนั้นก็เอ่ยพูดกับเย่เฉินว่า “ลูกเขย ไปซื้อสูทBossให้เขาทำไม ตาแก่อย่างเขาใส่แค่ของปลอมก็พอแล้ว หาซื้อแค่โรเล็กซ์ของปลอมให้เขาก็ดีเท่าไหร่แล้ว ค่อยเหมาะกับตาแก่นิสัยแย่แบบนี้!”
เย่เฉินพูดยิ้มๆว่า “แม่ครับ สูทตัวนี้ราคาไม่เท่าไหร่เอง กำลังลดพอดี ของที่ผมซื้อให้แม่ยังแพงกว่าอีก”
เมื่อหม่าหลันได้ยินดังนั้น ก็ยิ้มเบิกบานขึ้นมาในทันที เอ่ยพูดอย่างกระดี๊กระด๊าว่า “จริงเหรอ? ไอหยา! ลูกเขยของฉันนี่รักฉันจริงๆ ว่าแต่แกซื้ออะไรให้แม่ล่ะ รีบเอาออกมาให้แม่ดูหน่อยเร็ว!”
เย่เฉินหยิบกล่องทิฟฟานี่แอนด์โคขึ้นมาสองกล่อง แล้วยื่นกล่องใหญ่ไปให้หม่าหลันกล่องหนึ่ง
“แม่ นี่ของขวัญของแม่ครับ”
เมื่อหม่าหลันเห็นโลโก้สินค้า มือไม้ก็พันกันอย่างตื่นเต้น “ไอหยา! นี่ทิฟฟานี่แอนด์โคนี่! นี่มัน….แบรนด์ระดับโลกเชียวนะ!”
เธอพูดพร้อมกับเปิดกล่องออกอย่างอดรนทนรอไม่ไหว
ต่อมา เมื่อเปิดกล่องเครื่องประดับออก สร้อยข้อมือสีทองฝังเพชรที่วางอยู่ข้างในก็เตะตาในทันที เธอทั้งรู้สึกตกใจและดีใจมื้อไม้พันกันไปหมด
“แม่เจ้า!ฉันรู้จักสร้อยข้อมือรุ่นนี้! ในประเทศราคายังแสนกว่าๆ ที่ญี่ปุ่นต้องไม่ใช่ถูกๆแน่นอน ใช่ไหม?”
เย่เฉินยิ้มออกมาแล้วพูดว่า “แค่แม่ชอบก็พอแล้วครับ จะถูกหรือแพงก็ไม่เป็นปัญหา”
หม่าหลันยิ้มหน้าบาน “อย่างว่าลูกเขยของฉันดีที่สุด! ดูพูดเข้าสิ ฟังแล้วแม่แทบลอยเลย!”
พูดจบ ก็หยิบสร้อยข้อมือขึ้นมาส่องไฟตรวจตราแต่ละมุมอย่างละเอียด ขณะที่ตรวจตราไป ก็อุทานออกมาว่า
“แบรนด์นี้ทำมาดีมาก! งานฝีมือประณีตสุดๆ ไม่มีตำหนิเลยสักจุด!ต้องเหมาะกับข้อมือของฉันมากแน่ๆเลย”
เซียวฉางควนที่อยู่ข้างๆแอบเบ้ปาก แต่กระนั้นก็ไม่กล้าพูดถากถางอะไรออกมา
ตอนนี้เองเย่เฉินถึงได้หยิบกล่องเล็กๆขึ้นมาอีกกล่อง แล้วยื่นไปให้ภรรยาของตน