วันรุ่งขึ้น เซียวชูหรันไปทำงานที่บริษัทตั้งแต่เช้า

เย่เฉินทานอาหารเช้าที่หม่าหลันเป็นคนทำ วันทั้งวันเอาแต่ครุ่นคิดถึงเรื่องของเย่ฉางหมิ่น

ตั้งแต่ที่ถังซื่อไห่หาตัวเขาเจอ จนถึงตอนนี้ คนของตระกูลเย่ก็ไม่เคยเข้ามายุ่งเกี่ยวกับชีวิตของเขา

สำหรับเย่เฉินแล้ว เขาชอบการที่ไม่ต้องติดต่อกับคนตระกูลเย่มากๆ

แต่ว่า การที่เย่ฉางหมิ่นทำลายความเงียบระหว่างเขาและตระกูลเย่ในครั้งนี้ นั่นก็หมายความว่า ตระกูลเย่คิดที่จะดึงเขาไปเป็นพวก ไม่ว่าจะมาจากจุดประสงค์ใด พวกเขาก็คงไม่อยากให้เย่เฉินอยู่ที่เมืองจินหลิงต่อ

ต่อให้วันนี้เขาเจอคุณอา และปฏิเสธข้อเสนอของเธอ ตระกูลเย่ก็คงไม่ยอมหยุดง่ายๆแน่

ดูเหมือนว่า หลังจากนี้ตระกูลเย่จะกลายเป็นความยุ่งยากสำหรับเขาซะแล้วสิ

เวลาห้าโมงครึ่ง เย่เฉินบอกแม่ยายอย่างหม่าหลัน ว่าคืนนี้ตัวเองมีธุระ คงไม่ได้อยู่ทานมื้อเย็นที่บ้าน

จากนั้น เขาก็ออกไปข้างนอกคนเดียว เรียกแท็กซี่ตรงไปยังโรงแรมป๋ายจินฮ่านกง

เดิมทีเฉินจื๋อข่ายอยากขับรถมารับ แต่กลับถูกเย่เฉินปฏิเสธ

ตระกูลเย่คิดมาตลอดว่าเฉินจื๋อข่ายเป็นคนของพวกเขา ถ้าหากเฉินจื๋อข่ายใส่ใจเขามากเกินไป อาจจะทำให้ตระกูลเย่รู้สึกแปลกๆเอาได้

ในตอนที่เย่เฉินมาถึงหน้าประตูทางเข้าโรงแรมป๋ายจินฮ่านกง ก็พบว่าเฉินจื๋อข่ายยืนรอยอยู่ตรงนั้นแล้ว

เมื่อเห็นเย่เฉินมาถึง เฉินจื๋อข่ายก็รีบเดินเข้ามามาหา เอ่ยพูดอย่างนอบน้อมว่า “คุณชายมาแล้วเหรอครับ”

เย่เฉินพยักหน้า เอ่ยถามเขาว่า “คุณอาฉันล่ะ? ถึงหรือยัง?”

“ถึงแล้วครับ” เฉินจื๋อข่ายปาดเหงื่อบนหน้าผาก พูดเสียงเบาว่า “คุณอาคุณบอกว่ารู้สึกอ่อนเพลีย เลยให้ผมเตรียมหมอนวดSPAไปบริการเธอที่ห้อง อีกประมาณครึ่งชั่วโมงน่าจะเสร็จครับ”

เย่เฉินยิ้มออกมานิ่งๆ “โอเค งั้นพาฉันไปที่ห้องอาหารก่อน”

เฉินจื๋อข่ายรีบพูดว่า “คุณทั้งสองต้องรับประทานมื้อเย็นที่สวนดอกไม้กลางอากาศนะครับ”

เย่เฉินขมวดคิ้วอย่างห้ามไม่ได้ เขาจำได้ว่าเขากับเซียวชูหรันจัดงานแต่งกันอีกครั้งที่นั่น

สวนดอกไม้กลางอากาศคือห้องโถงขนาดใหญ่ ไม่มีห้องอาหาร อีกอย่างยังเป็นกระจกใสรอบๆด้าน ปกติแล้วบุคคลระดับสูงของโรงแรมป๋ายจินฮ่านกงจะมารับประทานอาหารที่นี่กันทั้งนั้น ซึ่งการเลือกทานอาหารที่นี่ อาจจะมีแขกคนอื่นๆมาเห็นก็ได้

เย่เฉินจึงเอ่ยถามขึ้นมาว่า “คืนนี้มีแขกเยอะไหม? ถ้าหากมีคนมาเห็นว่าฉันทานข้าวกับเธอ แล้วมีคนจำเธอได้ ตัวตนของฉันอาจจะถูกเปิดเผยออกไป”

เฉินจื๋อข่ายยักไหล่พร้อมกับยิ้มออกมา แล้วพูดว่า “สบายใจได้เลยครับ คืนนี้ทางโรงแรมปิดพื้นที่ในส่วนของแผนกอาหารและเครื่องดื่มหมดแล้วครับ ไม่ว่าจะเป็นห้องอาหารหรือสวนดอกไม้กลางอากาศ ก็จะไม่มีแขกๆคนอื่นๆมารบกวน”

เย่เฉินเอ่ยถามอย่างประหลาดใจว่า “ปิดแค่สวนดอกไม้กลางอากาศยังไม่พออีกเหรอ? ห้องอาหารจีนและห้องอาหารตะวันตกก็ต้องปิดด้วย?”

“ใช่ครับ” เฉินจื๋อข่ายเอ่ยพูดว่า “คืนนี้แผนกอาหารและเครื่องดื่มเปิดต้อนรับแค่คุณกับคุณอาของคุณสองคนครับ”

เย่เฉินเอ่ยพูดอย่างอึดอัด “ไม่ต้องถึงขนาดนี้ก็ได้ จองแค่ห้องอาหารมีระดับแค่นี้ก็ได้แล้วไม่ใช่เหรอ?”

เฉินจื๋อข่ายกดเสียงเบา แล้วกระซิบข้างหูเย่เฉินว่า “คุณชาย คุณอาจจะยังไม่รู้จักอาของคุณดีพอ แต่ไหนแต่ไรเธอก็ทำอะไรเว่อร์วังอย่างนี้มาตลอดล่ะครับ”

เฉินจื๋อข่ายพูดขึ้นมาอีกว่า “คุณอาของคุณปกติแล้วหยิ่งยโสจะตาย อีกอย่างเธอก็ดูถูกเมืองจินหลิงมาตลอด เธอบอกว่าการที่ต้องมาทานข้าวในร้านอาหารเดียวกันกับคนพื้นที่ สำหรับเธอแล้ว มันเป็นเหมือนการไม่ให้เกียรติเธอ…”

“อะไรมันจะขนาดนั้น?” เย่เฉินเอ่ยพูดอย่างไม่ชอบใจ “สูงส่งมาจากไหน ก็ต้องกินต้องถ่ายเหมือนคนทั่วไปไม่ใช่หรือไง? ทำตัวเด่นแบบนี้ทุกที่เพื่ออะไร?”