บทที่ 1888 ในที่สุดก็ชนะแล้ว

The king of War

คิดแล้วไม่มีผิด มาเพราะเขาจริงๆด้วย สีหน้าของหยางเฉินเคร่งขรึมในทันที

โชว์เฟอร์ถึงรู้ว่า คนที่อยู่ข้างนอก มาเพื่อหาเรื่องหยางเฉิน

เขามองไปทางหยางเฉิน “แล้วเอ่ยปากพูด น้องชาย ขอโทษด้วย สำนักเทพเหินของเราไม่ยุ่งเรื่องความแค้นของนักบูโดในภูเขาวมาร ในเมื่อฝ่ายตรงข้ามนั้นมาหาคุณ คุณก็ลงไปเถอะ!”

“แต่จงวางใจเถอะ ผมจะรอคุณอยู่ตรงนี้ หากคุณสามารถจัดการกับปัญหาที่อยู่ด้านนอกได้ ผมก็จะพาคุณไปส่งที่สำนักบูโดต่อ”

ไม่ใช่ว่าโชว์เฟอร์จะเห็นแก่ตัว แต่มันเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ในภูเขาวมาร นี่คือกฎของสำนักเทพเหิน

ก็เพราะสำนักเทพเหินไม่ยุ่งเรื่องความแค้นของนักบูโดเลย ดังนั้นไม่ว่านักบูโดคนไหน ก็ไม่มีเหตุผลที่จะมาทำร้ายคนของสำนักเทพเหิน และไม่กล้าทำร้ายด้วย

หยางเฉินยกข้อมือขึ้น เหลือบมองดูเวลา แล้วเอ่ยปากพูด “รอผมห้านาที!”

พูดจบ ก็ลงไปจากรถ

โชว์เฟอร์อึ้งไปครู่หนึ่ง จึงรู้สึกตัว ทันใดนั้นเขาก็กลั้นหัวเราะไม่อยู่ “ไอ้หนุ่มนี้ขี้โม้จริงๆเลย ห้านาที คิดอยากจะจัดการกับผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าทั้งสี่คน? งั้นเขาก็ต้องเป็นผู้แข็งแกร่งแดนนภาแล้วมั้ง?”

สำหรับคำพูดของหยางเฉิน โชว์เฟอร์ไม่ใส่ใจเลยแม้แต่นิดเดียว

หยางเฉินนั้นยังหนุ่มเกินไป โชว์เฟอร์ไม่สามารถที่จะคิดภาพของเขากับผู้แข็งแกร่งชั้นยอดไว้ด้วยกันได้เลย

หลังจากลงรถ นักบูโดทั้งสี่ ก็รีบมาโอบล้อมหยางเฉินไว้ตรงกลาง

ทุกคน ต่างก็จ้องมองหยางเฉินด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยแรงสังหาร

หยางเฉินไม่ได้มีความกลัวเลยแม้แต่นิดเดียว สองตาจ้องเขม็งไปที่หัวหน้าแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลาย แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น “ในเมื่อรู้จักชื่อของฉัน ถ้าหากฉันเดาไม่ผิด พวกแกก็จะน่ามีความเกี่ยวข้องกับสมาคมบูโดประเทศซันใช่มั้ย?”

ช่วงระยะเวลานี้ คนที่มีความแค้นกับหยางเฉิน ก็มีแต่สมาคมบูโดประเทศซัน และเบื้องหลังของสมาคมบูโดประเทศซัน ก็คือสามอันดับของสายตระกูลบูโดในประเทศซัน

คนเหล่านี้รู้ความเคลื่อนไหวของตัวเขาดีขนาดนี้ ต้องมีความเกี่ยวข้องกับสมาคมบูโดประเทศซันอย่างแน่นอน

เมื่อทั้งสี่คนได้ยินคำพูดของหยางเฉิน ต่างก็มีสีหน้าที่ตกตะลึง ราวกับคิดไม่ถึงว่า หยางเฉินจะสามารถเดาที่มาที่ไปของพวกเขาได้ภายในระยะเวลาสั้นๆ

หยางเฉินที่สองมือไขว้อยู่ข้างหลัง กล่าวด้วยสีหน้าที่เยือกเย็น “นักบูโดผู้สง่างามของจิ่วโจว กลับมารับใช้คนของประเทศซัน ช่างไม่มีศักดิ์ศรีเอาเสียเลย”

สีหน้าของทั้งสี่คนร้อนผ่าวจนแดง พวกเขาเป็นนักบูโดของเมืองจิ่วโจว บัดนี้กลับมาฆ่าหยางเฉินแทนนักบูโดของประเทศซัน

“นายมันรนหาที่ตายเอง!”

ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้นคนนั้น ตะโกนพูดอย่างโกรธเคืองในทันที จากนั้นก็พุ่งตัวตรงไปทางหยางเฉิน

หยางเฉินยังคงยืนอยู่ที่เดิม โดยที่ไม่ขยับเลยไม่แต่นิดเดียว เขาในวันนี้ คือแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลางแล้ว แม้แต่ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลายเขายังสามารถฆ่าได้ แค่นักบูโดแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้น มันไม่อยู่ในสายตาของเขาเลย

โชว์เฟอร์Benz Unimog กำลังมองเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างสนุกสนาน หัวเราะพร้อมกับพูด “ไอ้หนุ่มคนนี้ คงจะตกใจจนเอ๋อไปแล้วมั้ง ถึงขนาดไม่รู้ว่า………..”

แต่เขายังไม่ทันพูดจบ ก็ต้องหยุดชะงักในทันที เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้น ทำให้เขาตกตะลึงจนคางเกือบหลุด

“ตู๊ม!”

นักฆ่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้นที่จู่โจมเข้ามายังไม่ทันได้ลงมือ ร่างกายของเขาก็เหมือนกับว่าวที่เชือกขาด กระเด็นลอยออกไปในกลางอากาศ

คนยังไม่ทันร่วงลงสู่พื้น ก็เสียชีวิตไปเสียแล้ว

ประเด็นคือ มือของหยางเฉินยังคงไขว้อยู่ข้างหลัง คนอื่นยังไม่ทันเห็นว่าเขานั้นลงมืออย่างไร เห็นเพียงแต่นักฆ่าที่กำลังจะใช้ท่าไม้ตายจู่โจมเขา กระเด็นลอยออกไปโดยตรง

โชว์เฟอร์Unimogถึงกับเบิกตากว้าง ราวกับว่าเห็นผี แล้วพูดด้วยความตกใจ “มันเป็นไปได้ไง? ไอ้หนุ่มคนนี้ ถึงกลับสามารถฆ่าผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้นได้ในเสี้ยววินาที”

นักฆ่าที่เหลืออีกสามคน ล้วนตกตะลึงอยู่กับที่ เห็นได้ชัด พวกเขานั้นไม่รู้ความสามารถในการต่อสู้ของหยางเฉินมากนัก

ดังนั้นตอนที่นักฆ่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้นจู่โจมหยางเฉิน พวกเขาไม่แม้แต่จะคิดช่วยกันลงมือ เพราะพวกเขาเห็นว่า มันไม่มีความจำเป็นเสียเลย

“สมแล้วที่หนุ่มคนนี้จะตกเป็นเป้าหมายของสมาคมบูโดประเทศซัน ไม่ธรรมดาจริงๆ”

หัวหน้านักฆ่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลาย หรี่ตามองหยางเฉินแล้วกล่าว

เขาออกคำสั่งโดยตรง “ไอ้หนุ่มคนนี้แข็งแกร่งอย่างมาก เป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลาง เราไม่ต้องเหลือคนเอาไว้แล้ว ให้ลงมือพร้อมกันพร้อมทั้งใช้ท่าไม้ตายโดยตรง!”

“ครับ!”

นักฆ่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลางอีกสองคน ต่างรับคำ

ในเวลาเดียวกัน นักฆ่าสามคน ได้ปลดปล่อยพลังบูโดบนร่างออกมาพร้อมกัน

พลังที่น่าสะพรึงกลัว หมุนไปยังรอบทิศทาง

โชว์เฟอร์รถUnimogแม้จะนั่งอยู่ในรถ ยังสัมผัสได้ถึงพลังที่จะทำให้คนหายใจไม่ออก เขาอ้าปากค้าง สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

อยู่ที่ภูเขาวมารตั้งนาน บูโดอัจฉริยะแบบไหนก็เคยเห็นมาแล้ว แต่กลับไม่เคยเห็นคนหนุ่มที่เก่งเหนือคนอย่างหยางเฉินเลย ดูแล้ว ยังไม่เต็มสามสิบเลยมั้ง?

กลับมีความสามารถที่เหนือกว่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลาง ถึงขนาดต้องให้นักฆ่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลาย และนักฆ่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลางสองคนในการร่วมมือต่อสู้

พลังที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ต่อให้เป็นนักบูโดที่เพิ่มผ่านแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด เกรงว่าก็คงจะต้านไม่ไหว?

แล้วหยางเฉิน จะต้านไหวเหรอ?

โชว์เฟอร์รถUnimogก็มีความสนใจขึ้นมาทันที ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เขามีลางสังหรณ์บางอย่าง ศึกต่อสู้ที่จะเกินขึ้น โอกาสชนะของหยางเฉินนั้นมีมากกว่า

“ลุย!”

หัวหน้านักฆ่า พุ่งตัวไปทางหยางเฉิน

นักฆ่าอีกสองคน ก็ตามติดกันไป บนร่างของทุกคน ต่างแผ่กระจายไปด้วยพลังที่น่าสะพรึงกลัว เห็นได้ชัด ต่างก็ใช้ท่าไม้ตาย เพื่อให้การต่อสู้นั้นจบโดยเร็ว

ในแววตาของหยางเฉินฉายไปด้วยแรงสังหาร เขาคำรามไปหนึ่งที ดวงตาก็ได้เปลี่ยนเป็นสีเลือดในทันที หลังจากเลือดแห่งความบ้าคลั่งตื่นตัว พลังบูโดในร่างกายของเขา ก็พุ่งสูงขั้นทันที

เพียงครู่เดียว พลังที่แผ่ออกมาจากร่างกายของเขา ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่านักฆ่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลายเลย

เขาใช้วิชาตำราเทพสงคราม พลังแห่งความคลั่งก็ได้ปะทุออกมาจากภายในร่างกายของเขาอย่างต่อเนื่อง

โชว์เฟอร์ร่างกำยำที่นั่งอยู่ในรถUnimog ตกตะลึงจนตาค้างไปนานแล้ว ตั้งแต่ที่หยางเฉินฆ่านักฆ่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้น เขาที่ตกตะลึงจนอ้าปากค้างในตอนนั้น ปากของเขาก็ไม่ได้หุบลงมาอีกเลย

วินาทีต่อ หัวหน้านักฆ่า ใช้หมัดพลังพิฆาต ชกไปที่หน้าอกของหยางเฉิน ชั่วพริบตาเดียว ในที่สุดหยางเฉินก็ขยับตัวแล้ว และได้เหวี่ยงของเขาออกไป

“ตู๊ม!”

เมื่อหมัดของทั้งสองปะทะเข้าหากัน คลื่นพลังแห่งความรุนแรง ก็ได้หมุนไปรอบทิศทาง

“โครม โครม โครม!”

พื้นดินที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของทั้งสอง ก็แตกระแหงในทันที เศษหินก็ได้ลอยขึ้นอย่างนับไม่ถ้วน

นักฆ่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลางสองคนนั้น ยังไม่ทันได้โดนตัวของหยางเฉิน ก็ถูกพลังที่แข็งแกร่งนี้ทำให้สะเทือนจนถอยหลังไปหลายก้าว

คนที่เป็นหัวหน้านักฆ่า สีหน้าก็เปลี่ยนทันที เขารับรู้ได้อย่างชัดเจน ขณะที่หมัดของทั้งสองปะทะด้วยกันนั้น พลังแห่งการทำลายล้าง ได้แทรกเข้าสู่หมัดของเขา แล้วแผ่ไปทั่วทั้งแขน และค่อยๆแผ่กระจายไปทั่วทั้งร่าง

ความเจ็บปวดเหมือนถูกเจาะหัวใจ ได้แผ่กระจายไปทั่วร่าง

“ตู๊ม!”

และในขณะนี้ หมัดอีกข้างของหยางเฉิน ก็ได้ชกออกไปอย่างหนัก เข้าที่ท้องของหัวหน้านักฆ่า พร้อมกับเสียงชกที่หนักหน่วง นักฆ่าที่มีพลังแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลายคนนี้ ร่างกายก็เหมือนกับว่าวที่เชือกขาด กระเด็นลอยออกไปกลางอากาศ

“ตู๊ม!”

ตามติดมาด้วย เสียงที่ดังสนั่น ร่างของเขาได้ตกลงมาบนฝาเครื่องยนต์ของรถUnimog เลือดพุ่งออกจากปาก และพุ่งกระจายไปที่กระจกกันลมของรถUnimogโดยตรง

สถานที่ต่อสู้เงียบสงัดไปในทันที!

นักฆ่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลางยังไม่ทันโดนแม้กระทั่งเสื้อของหยางเฉิน ได้แต่ยืนเอ๋ออยู่กับที่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความตะลึงและหวาดกลัว

แค่หมัดเดียว ก็สามารถโจมตีจนนักบูโดแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลายกระเด็นลอยไปในอากาศ นี่มันเป็นสิ่งที่นักบูโดอายุไม่ถึงสามสิบปี สามารถทำได้จริงๆเหรอ?

ต่อให้อยู่ในตระกูลบู๊โบราณ คนหนุ่มในรุ่นราวคราวเดียวกัน ก็คงไม่มีบูโดอัจฉริยะที่เก่งเหนือคนขนาดนี้มั้ง?

โชว์เฟอร์ที่นั่งอยู่บนรถUnimog ที่อ้าปากค้างมาโดยตลอด ปากยิ่งเปิดกว้างขึ้น ไอ้หนุ่มคนนี้ เป็นผู้ชนะจริงๆด้วย!