โดยจิตสำนึกหยางเฉินเองก็รู้ในสถานการณ์ ถ้าหากมือสังหารคนนี้ถูกฆ่าตาย อุปกรณ์ติดตามตัวของมือสังหาร ก็จะส่งข้อมูลกลับไปที่ศูนย์ปฏิบัติภารกิจคามิโคโสะถึงเวลานั้น ภารกิจลอบสังหารเขา ก็จะมีเกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มนี้อีก สภาพตัวเขาในเวลานี้ อย่าว่าแต่ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดเลย ให้แม้เพียงผู้แกร่งกล้าแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลาย น่ากลัวคงมาฆ่าเขาได้อย่างสบาย
“ตาย!”
มือสังหารตวาดขึ้นมาลั่น ฉับพลันนั้นก็เกิดกระแสพลังที่แข็งแกร่งมาก ระเบิดออกมาจากตัวเขา
หยางเฉินก็สัมผัสได้ถึงอันตรายที่หนักหนาอย่างมาก เขากำมีดโลหิตในมือไว้แน่น ขาขยับเล็กน้อย
“ปึง!”
เขาย่ำขาลงบนพื้นอย่างดุดัน ชั่วแวบเดียวนั้นก็หายไปจากที่เดิม ส่วนตรงจุดที่เขาอยู่ก่อนหน้านี้ พื้นยุบลงไปเห็นเป็นรอยเท้าอยู่
ในวินาทีต่อมา ทั้งสองก็เข้าประชิดกัน ฝ่ายมือสังหารได้ระเบิดพลังฝีมือแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดออกมาอย่างเต็มที่ พละกำลังทั้งหมดรวมผนึกอยู่ที่หมัดขวา มุ่งอัดเข้าใส่หยางเฉินอย่างโหดดุ
ส่วนหยางเฉินก็ระเบิดพลังออกมาทั้งหมด กระแสพลังที่ไม่อ่อนไปกว่ามือสังหาร กระจายออกมาจากตัวเขา
มีดโลหิตในมือของเขา พุ่งแทงเข้าไปตรงจุดกลางหัวใจของมือสังหารอย่างดุดัน
ถ้ามีดโลหิตในมือของเขาแทงเข้าไปถูกหัวใจของมือสังหาร ฝ่ายตรงข้ามก็จะต้องตาย
“ผัวะ!”
ช่วงสะเก็ดไฟจากตะไลเพลิงนั้นเอง มีดโลหิตในมือหยางเฉินที่แทงตรงเข้าหาหัวใจนั้น พลันเปลี่ยนจากแทงเป็นสะบัดปาด มีดโลหิตปาดเข้าที่หน้าอกฝ่ายตรงข้าม กรีดเป็นแผลเลือดเป็นทางยาว
บาดแผลที่เกิดจากมีดอาถรรพ์ รักษาหายได้ยาก มือสังหารแม้จะไม่ถึงตาย แต่ด้วยบาดแผลขนาดนี้ ชีวิตคงอยู่ได้ไม่นาน
ฝ่ายตรงข้ามที่มาก็มุ่งเอาชีวิตหยางเฉินอยู่แล้ว ถึงรู้ทั้งรู้ว่าหยางเฉินก็จะฆ่าเขาแน่นอน แต่เขาก็ไม่คิดที่จะหลบ ขณะเดียวกับที่มีดโลหิตในมือของหยางเฉินปาดเข้าที่หน้าอกในชั่วแวบเดียวกันนั้น กำปั้นของมือสังหาร ก็อัดเข้าใส่กลางอกของหยางเฉิน
หยางเฉินตัวปลิวออกไปพร้อมกับเลือดที่พุ่งออกจากปาก ยังดีว่าตอนที่มีดโลหิตของเขาปาดใส่หน้าอกของมือสังหารนั้น มีช่วงที่มือสังหารพยายามหลบออกด้วยจิตสำนึก ทำให้หมัดที่อัดใส่อย่างมุ่งเอาให้ตายนั้น พอโดนถึงหน้าอกหยางเฉิน แรงคงเหลืออยู่เพียงครึ่งเดียว
ถึงแม้จะว่าแรงที่เหลือมีเพียงครึ่งเดียว ก็ยังทำให้หยางเฉินอาการสาหัสเอาการ ความรู้สึกเหมือนอวัยวะภายในเคลื่อนย้ายที่กันไปหมด
หยางเฉินอยู่ห่างออกไปจากมือสังหารนั้นหก-เจ็ดเมตร ยืนหอบหายใจ ตาทั้งคู่จ้องเขม็งที่ฝ่ายตรงข้าม
เมื่อครู่นี้เขามีโอกาสใช้มีดโลหิตจบชีวิตฝ่ายตรงข้ามได้อยู่ แต่สุดท้าย เขาละทิ้งความตั้งใจที่จะต้องฆ่า
ด้วยโดยหลักการของศูนย์ปฏิบัติภารกิจคามิโคโสะ มีว่าต้องรอให้มือสังหารที่รับปฏิบัติภารกิจไปแล้ว เกิดปฏิบัติภารกิจล้มเหลว ภารกิจนั้นจึงจะมีการนำขึ้นมาเริ่มใหม่ในศูนย์ปฏิบัติภารกิจนี้ได้
ก็หมายถึงว่า มีแต่ต้องให้มือสังหารแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดที่มาจากประเทศซันนายนี้ ตายไปด้วยน้ำมือของหยางเฉิน ภารกิจนี้จึงจะมีการจัดส่งชุดใหม่
เวลานี้ หยางเฉินบาดเจ็บสาหัสมาก ถ้าไปเจอมือสังหารสักคนหนึ่ง ต่อให้พลังฝีมือแค่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลาย ก็ยังสามารถฆ่าเขาได้อย่างง่ายดาย
ถึงได้บอกว่า ขอเพียงภารกิจของมือสังหารยังไม่สิ้นสุด ก็จะไม่มีคนอื่นยอมมารับภารกิจลอบสังหารเขา ไม่มีใครคนอื่นยอมรับภารกิจนี้ ก็ไม่มีมือสังหารชุดใหม่เข้ามาลอบสังหารเขา
ฉะนั้นในวินาทีสุดท้าย หยางเฉินจึงได้ละทิ้งความตั้งใจฆ่าในที่สุด เพียงให้มือสังหารนี้ยังมีชีวิตอยู่ เขาก็จะเดินทางไปถึงสำนักบู๊ได้อย่างปลอดภัย
แน่นอน อย่างที่พูดอยู่ก่อนหน้านี้ เขายังสามารถควบคุมมือสังหารได้ มิฉะนั้นแล้วมือสังหารนี้มีพลังฝีมือพอที่จะถล่มฆ่าเขาได้ ไม่สู้ฆ่าเขาทิ้งตอนนั้นเลยจะดีกว่า
“แกเป็นใครกันแน่?”
มือสังหารมองหยางเฉินด้วยสีหน้าเครียด ในแววตาของเขา ไม่มีการส่อให้เห็นถึงความหวั่นกลัว มีแต่ความกังวลและหวาดระแวง
คนที่สมาคมบูโดแห่งประเทศซันต้องการฆ่า ก็ต้องเป็นศัตรูของนักบูโดประเทศซัน ถ้าปล่อยให้หยางเฉินมีชีวิตรอดไปจากภูเขามาร สำหรับนักบูโดประเทศซัน มันเป็นเรื่องฝันร้ายแน่นอน
หยางเฉินไม่ตอบคำถามนี้ พูดกลับไปเสียงเยือก ๆ ว่า “ตอนนี้ ข้าจะให้โอกาสรอดชีวิตกับแก เดินตามข้าไปดี ๆ ข้าก็จะไม่ฆ่าแก”
มือสังหารหัวเราะเย้ยกลับทันที “แกคิดว่าข้าโง่หรือไง?ถ้าข้ายังมีชีวิตอยู่ ก็จะไม่มีมือสังหารอื่นมารับช่วงภารกิจของข้า เพียงถ้าข้าทำอะไรแกไม่ได้ แกก็จะรอดชีวิตออกไปจากภูเขามารแห่งนี้”
ฝ่ายตรงข้ามก็ยังไม่รู้จุดประสงค์ของหยางเฉิน ฉะนั้นคงเข้าใจแต่ว่าหยางเฉินจะอาศัยช่องโหว่ในกฎกติกาของศูนย์ปฏิบัติภารกิจคามิโคโสะ เพื่อออกพ้นไปจากภูเขามาร
หยางเฉินก็รู้ได้เลย เวลานี้จะพูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์ ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ก็ได้แต่ใช้ไม้แข็งกันแล้ว
“ในเมื่อแกปฏิเสธ งั้นข้าก็ต้องลงมือเองแล้ว”
เสียงพูดหยางเฉินจบลง ขาขยับเล็กน้อย แวบเดียวนั้นก็มาถึงข้างหน้ามือสังหาร
มือสังหารสีหน้าเปลี่ยนไปในทันที ควงหมัดซัดออกไปในฉับพลัน
“ผับ!”
แต่ เพียงหมัดของฝ่ายตรงข้ามขยับควงซัดออกไป ก็ถูกหยางเฉินคว้าจับแขนไว้
มือสังหารตกใจกลัวสุดขีด เขายังคิดว่าหยางเฉินก็อยู่ในช่วงพละกำลังมาถึงที่สุดก่อนหมดแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่า หยางเฉินยังมีแรงเหลืออยู่อีกมากมายขนาดนี้
“ปึง!”
มือสังหารยังไม่ทันได้ตั้งตัว ก็ได้รู้สึกถึงพละกำลังที่แรงมากอัดผ่านเข้ามาทางแขนของเขา วินาทีถัดมา ตัวของเขาลอยขึ้นไปในอากาศ ตกกระแทกอย่างหนักลงกับพื้น
เสียงกระทบกันของวัสดุดังทุ้มลึก มือสังหารกระอักเลือดออกมา
หยางเฉินแค่นหัวเราะเสียงเยือก “ทีนี้ แกยังมีสิทธิ์ปฏิเสธอีกไหม?”
“กร๊อบ ๆ ๆ ……”
เสียงกระดูกหักดังต่อเนื่องออกมา แขนขาทั้งสี่ข้างของมือสังหารถูกทำลาย
ความหมดหวังแสดงเต็มใบหน้ามือสังหาร แขนขาทั้งหมดของเขาใช้การอะไรไม่ได้แล้ว ตอนนี้คิดจะตาย ยังไม่มีปัญญา
ถ้ารู้ว่าหยางเฉินยังมีกำลังเหลืออยู่มากมายขนาดนี้ เขาตัดใจฆ่าตัวตายไปก่อนแล้ว ไม่ต้องมาตกอยู่ในมือของหยางเฉิน
ขณะนี้เองโชว์เฟอร์รถUnimogก็ขับเอารถเข้ามา จอดที่ด้านหลังหยางเฉิน หัวเราะเสียงฮือฮา “คิดไม่ถึงเลย เจ้านายนี่มีพลังฝีมือสูงส่งขนาดนี้ ขนาดผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด ยังแพ้ไปด้วยฝีมือของคุณได้”
หยางเฉินมองหน้าฝ่ายตรงข้ามด้วยสายตาชืด ๆ ถามว่า “มีเชือกมั้ย?”
คนขับรถรีบผงกหัว วิ่งตุปัดตุเป๋ไปที่รถเอาเชือกมาเส้นหนึ่ง
“หนึ่งร้อยหมื่น!”
ตอนที่คนขับรถส่งเชือกให้หยางเฉิน พูดออกมายิ้ม ๆ
ได้ยินคนขับรถพูด หยางเฉินถึงกับขมวดคิ้วย่น หน้าเงินจริง ๆ เชือกเส้นเดียวคิดเอาตั้งหนึ่งล้าน ทำไมไม่ไปหาปล้นวะ?
หยางเฉินก็ไม่พูดให้พร่ำเพรื่อ รับเชือกมาแล้ว จัดการมัดตัวมือสังหารไว้
มือสังหารก็รู้ในสถานการณ์เฉพาะหน้า ไม่พูดอะไรทั้งสิ้น สีหน้าทอดอาลัยหมดหวัง
รถยนต์ก็ได้ออกเดินทาง หยางเฉินหยิบเอายาเม็ดฃ่วยฟื้นฟูพลังออกมากินไปหนึ่งเม็ด แล้วก็หลับตา เริ่มการฝึกฝน
ใกล้จะถึงสำนักบู๊ในอีกไม่ช้าแล้ว ก่อนเข้าไปถึงสำนักบู๊ เขาจะต้องรีบหาทางฟื้นพลังฝีมือ ไม่งั้นจะไปช่วยคนได้ยังไง
“เจ้านาย ท่านนี่เฉียบแหลมจริง ๆ มาตามรูปแบบนี้ ภารกิจลอบสังหารคุณของสมาคมบูโดประเทศซัน เวลานี้ก็ยังอยู่ในขั้นตอนดำเนินการ ที่ศูนย์ทำงานก็ยังไม่มีการแสดงสถานะในภารกิจนี้”
คนขับรถขับรถไปพลาง หัวเราะชอบใจไปพลาง
“ใช่แล้ว เจ้านาย อย่าลืมจ่ายค่าเชือกหนึ่งล้านด้วยนะ”
“อีกอย่าง ผมยังต้องช่วยคุณรับผู้โดยสารระหว่างทางให้คุณอีกคนหนึ่ง ก็ต้องคิดเงินนะครับ ผมคิดให้พิเศษแล้วกัน หนึ่งล้านก็พอ”
……
คนขับรถพูดไปเรื่อยเปื่อยไม่ได้หยุด หยางเฉินก็ไม่ได้ไปใส่ใจ อยู่ในสภาวะฝึกฝนตลอด
เวลาผ่านไปไม่รู้นานเท่าใด ในที่สุดก็มาใกล้ถึงสำนักบู๊แล้ว
คนขับรถจู่ ๆ ก็จอดรถ มองไปที่หยางเฉินที่ยังอยู่ในการฝึกฝนอยู่ เอ่ยปากพูดขึ้นว่า “เจ้านาย เข้าไปนี่ก็เป็นเขตของสำนักบู๊แล้ว รถคนภายนอก ห้ามเข้าเด็ดขาด คุณต้องเดินขึ้นไปเองแล้ว”