พอได้ยินนายหญิงใหญ่พูด ให้ตนเช็ดหน้าต่างทุกบานในคฤหาสน์ให้สะอาด เฉียนหงเย่นก็พลันหมดอาลัยตายอยาก
เธอทนไม่ไหวพูดโพล่งออกมาว่า “คุณแม่! คฤหาสน์ของเราใหญ่โตขนาดนี้ ห้องหับก็มีมากมาย หน้าต่างเยอะแยะเต็มไปหมด ถึงฉันเช็ดตั้งแต่ตอนนี้จนผ่านเดือนแรกไปก็ยังเช็ดไม่เสร็จหรอกค่ะ!”
นายหญิงใหญ่เซียวยิ้มเย็นกล่าวว่า “เธอยังคิดจะลากยาวไปจนถึงเดือนแรกอีก? ฉันจะบอกเธอให้นะ! ก่อนคืนวันที่สามสิบเดือนสิบสองเธอต้องเช็ดหน้าต่างทั้งหมดในบ้านให้สะอาด อาหารวันส่งท้ายปีฉันก็จะไล่เธอไปกินในลานบ้าน!”
พอเฉียนหงเย่นได้ยินเช่นนี้ ตัวเธอก็โกรธมากมากถึงมากที่สุด!
ถ้าไม่ใช่เพราะเซียวฉางเฉียน เซียวไห่หลงและเซียวเวยเวยยังอยู่ที่นี่ เธอก็แทบจะพุ่งเข้าไปเสียเลยตอนนี้ ใช้เท้าข้างหนึ่งถีบนายหญิงใหญ่ให้ล้มลงกับพื้น จากนั้นก็เหยียบไปที่ท้องของเธอ กระชากใบหน้าเหี่ยวๆ นั่นของเธอให้หนำใจ
เพียงแต่น่าเสียดาย ตนเองไม่มีโอกาสได้ลงมือโดยสิ้นเชิง
เฉียนหงเย่นจนปัญญาเหลือแสน ต่อให้ในใจมีความไม่เต็มใจเป็นหมื่นครั้ง ก็ได้แต่กล้ำกลืนมันลงไปในท้อง พูดพึมพำว่า “คุณแม่ผู้แสนดี…ฉันรู้แล้ว…ฉันจะเช็ดอย่างสุดความสามารถแน่นอน…”
นายหญิงใหญ่เซียวแค่นเสียงเย็นชา “ยังถือว่ารู้จักคิด! เดิมก็เป็นผู้หญิงทำลายขนบธรรมเนียมของบ้าน ยังจะพูดจาไม่ซื่อสัตย์อีก ต่อให้เป็นอู๋ตงไห่ก็ช่วยเธอไม่ได้!”
เผชิญหน้ากับการชี้ไม้ชี้มือสั่งของนายหญิงใหญ่เซียว ในใจเฉียนหงเย่นจึงเต็มไปด้วยความหงุดหงิด
แต่เวลานี้ เธอจะเถียงกลับสักประโยคก็ยังไม่กล้า ได้แต่พยักหน้าติดๆ กัน กล่าวขึ้นอย่างอัปยศอดสูว่า “คุณแม่พูดถูก ฉันต้องเชื่อฟังคุณแม่แน่นอน!”
เวลานี้เซียวฉางเฉียนกล่าวว่า “คุณแม่ ผมจะขึ้นไปแขวนของตกแต่งชั้นบนหน่อย”
นายหญิงใหญ่เซียวส่งเสียงอืมตอบรับ แล้วกล่าวกับเฉียนหงเย่นว่า “ตอนนี้เธอไปเช็ดหน้าต่าง เดี๋ยวนี้!”
เฉียนหงเย่นไร้หนทาง ได้แต่ทำตาม
ทางเซียวฉางเฉียนขึ้นไปชั้นบนแล้ว ก็มาหยุดตรงห้องของตัวเอง กำลังเตรียมจะติดกระดาษลวดลายสองสามแผ่นลงบนหน้าต่าง จู่ๆ ก็มองเห็นบ้านเย่เฉินที่อยู่ตรงกันข้าม จู่ๆ โคมแขวนสีแดงตรงระเบียงห้องของหม่าหลันที่เรียงกันเป็นแถวก็สว่างขึ้นมา
ที่น่ารังเกียจคือโคมแขวนสีแดงที่ส่องสว่างเหล่านี้ ถึงกับแขวนติดกับหมวกเขียวนานาชนิด แสงสีแดงขับเน้นให้หมวกเขียวเด่นชัดขึ้น ส่งสีสันอันแปลกประหลาดชนิดหนึ่งออกมา ทำให้คนเห็นแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจอย่างไม่อาจเลี่ยง
เซียวฉางเฉียนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาทันที!
ปากอดด่าออกมาชุดใหญ่ไม่ได้ “นังบ้า หม่าหลันทำเกินไปหน่อยแล้ว มันยังจะเอาโคมสีแดงจับคู่กับหมวกเขียวอีก นี่มันไม่ตรงกับคำโบราณที่ว่าแดงคู่เขียวสุนัขขี้ใส่หรอกหรือ?! ทำฉันโกรธแทบตายแล้วจริงๆ!”
พอคิดถึงว่าปีใหม่แล้วหม่าหลันก็ยังไม่ยอมให้ตนได้สงบใจ ในใจเซียวฉางเฉียนก็อึดอัดจนเป็นทุกข์ กัดฟันเดินลงไปที่ชั้นล่าง พูดกับเซียวไห่หลงที่กำลังติดกระดาษลวดลายอยู่ในโถงรับแขกว่า “ไห่หลง แกตามพ่อมา! ไปหานังหม่าหลันคิดบัญชี!”
นายหญิงใหญ่เซียวขมวดคิ้วถามว่า “ไปหาหม่าหลันเวลานี้ทำไม?”
เซียวฉางเฉียนด่าอย่างหยาบคายระคนร้อนใจ “แม่ นังหญิงโสโครกหม่าหลันรังแกกันเกินไปแล้วจริงๆ มันแขวนหมวกเขียวมากมายไว้บนระเบียง แขวนไว้นานแล้วก็แล้วไป ตอนนี้ยังจะแขวนโคมแดงไว้ข้างหมวกเขียวทุกใบอีก นี่จะปีใหม่แล้วคงอยากให้ผมหงุดหงิดใจจนตายสินะ! ผมจะไปคิดบัญชีกับเธอ!”
นายหญิงใหญ่เซียวตวาดเสียงเฉียบขาดว่า “แกหยุดให้ฉันเดี๋ยวนี้! ไปหาหม่าหลันคิดบัญชี พวกแกสองคนสู้เย่เฉินได้เหรอ? หรือพวกแกสองคนอยากไปนอนในโรงบาลวันปีใหม่แทน?”
เซียวฉางเฉียนที่ยังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเมื่อสักครู่ พลันไฟมอดทันที